วันนี้จขกทจะมาเล่าเรื่องเกี่ยวกับสิ่งลี้ลับสมัยตอนปี1ที่จขกทอยู่มหาลัยแล้วอยู่หอใน มหาลัยแถวรังสิต
ตอนนี้จขกทเรียนจบแล้ว พอดีก่อนมาตั้งกระทู้จขกทนั่งอยู่ในบ้าน
ได้ยินเสียงอะไรร้อง เหมือนแมว แต่ก็ไม่น่าใช่เพราะที่บ้านไม่มีแมว และฝนตกอยู๋ แล้วหมา3ตัวก็เห่าพร้อมกัน1ที
หลังจากนั้นทุกอย่างเงียบ (เราปิดทีวีเพราะว่าฝนตก) ด้วยความสงสัยเลยถามแม่ไปว่า แม่ได้ยินเสียงป่ะ
แม่ก็บอกได้ยิน แล้วมานึกขึ้นได้ว่าเขาห้ามทัก จขกทเลยลองหากระทู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ดูเพราะไม่สบายใจ
ก็มานึกได้ว่าเราเคยมีประสบการณ์แบบนี้ตอนสมัยอยู่มหาลัย
กลัวจะลืมก่อน เพราะผ่านมาจะ4ปีแล้ว เลยจะมาเล่าไว้และเก็บอ่านวันหลังด้วยค่ะ
เกริ่นมาซะยาว สมัยเมื่อจขกทอยู่ปี1 ก็อาศัยอยู่หอในตามประสาเด็กใสๆ แต่จริงๆก็ไม่ใสเพราะติดเพื่อนมากกก
เพื่อนอยู่หอนอกกันหมด เราก็ไปเเล่นห้องเพื่อตั้งแต่เลิกเรียน16.30จนดึกดื่น ใกล้เวลาเข้าหอ
ก่อนที่จะโดนจดชื่อ ถ้าจำไม่ผิด00.30 ก็จะกลับรถสองแถวเที่ยวสุดท้ายเกือบทุกวัน
วันนั้นก็เหมือนกัน จขกทกลับรถเที่ยวสุดท้าย หอที่จขกทอยู่เป็นหอในที่เกือบลึกที่สุดในบรรดาหอใน ถ้าใครรู้จักมอนี้จะรู้ว่า
หอในของมอนี้กระจายเป็นหย่อมๆ555 ตอนลงมามีจขกทกับผญอีก2คนมาด้วยกัน
แต่เรามาคนเดียวก็เลยก้มหน้าเล่นโทรศัพท์ ก็เดินตามไม่ทันผญ2คนนั้น เขาก็เดินกันไปก่อน เหลือจขกทเดินอยู่คนเดียว
พอทีนี้มันก็มีคนปั่นจักรยานสวนมา คือทางเดินมันจะแบ่งเป็นเลนจักรยานกับคนเดินที่มอของจขกท
ที่นี้จขกทได้ยินเขาเรียกชือ แต่ไม่แน่ใจว่าใครเพราะมันมืด ก็ว่าจะทักกลับ
แต่เขาปั่นจักรยานเลยไปแล้ว เราก็หันไปมอง ไม่รู้ว่าใครเลยไม่ได้ทักแล้วหันกลับมา
ระหว่างที่หันกลับก็มีลมพัดมาวูบนึง จากนั้นจขกทก็ได้ยินเสียงกระซิบที่ข้างหูเป็นภาษาอะไรไม่รู้ เหมือนสวดมนต์ใส่หูเลย
จขกทก็ตกใจแบบยืนแข็งอยู่ตรงนั้น พอตั้งสติได้ก็วิ่งขึ้นห้อง โทรหาเพื่อนที่ชอบสะสมพระเครื่อง
คือเพื่อนก็รู้แหละว่ามันแปลก แต่นางบอกไม่มีอะไรหรอกมืง นู่นนี่นั่น คุยเป็นชมจนเราหายกลัว
วันต่อมานางก็เอาลูกแก้วกับพระที่นางนับถือมาให้ แต่เราก็ไม่เป็นอะไร และเราใส่พระตลอดเวลาอยู่แล้ว
เรื่องนี้ก็ไม่มีอะไรแล้วค่ะ แค่นี้แหละ แต่เดี๋ยวจะมาเล่าเรื่องห้องที่เราอยู่ต่อค่ะ
เมื่อฉันพบเรื่องลักลับตอนก(ลั)บหอใน
ตอนนี้จขกทเรียนจบแล้ว พอดีก่อนมาตั้งกระทู้จขกทนั่งอยู่ในบ้าน
ได้ยินเสียงอะไรร้อง เหมือนแมว แต่ก็ไม่น่าใช่เพราะที่บ้านไม่มีแมว และฝนตกอยู๋ แล้วหมา3ตัวก็เห่าพร้อมกัน1ที
หลังจากนั้นทุกอย่างเงียบ (เราปิดทีวีเพราะว่าฝนตก) ด้วยความสงสัยเลยถามแม่ไปว่า แม่ได้ยินเสียงป่ะ
แม่ก็บอกได้ยิน แล้วมานึกขึ้นได้ว่าเขาห้ามทัก จขกทเลยลองหากระทู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ดูเพราะไม่สบายใจ
ก็มานึกได้ว่าเราเคยมีประสบการณ์แบบนี้ตอนสมัยอยู่มหาลัย
กลัวจะลืมก่อน เพราะผ่านมาจะ4ปีแล้ว เลยจะมาเล่าไว้และเก็บอ่านวันหลังด้วยค่ะ
เกริ่นมาซะยาว สมัยเมื่อจขกทอยู่ปี1 ก็อาศัยอยู่หอในตามประสาเด็กใสๆ แต่จริงๆก็ไม่ใสเพราะติดเพื่อนมากกก
เพื่อนอยู่หอนอกกันหมด เราก็ไปเเล่นห้องเพื่อตั้งแต่เลิกเรียน16.30จนดึกดื่น ใกล้เวลาเข้าหอ
ก่อนที่จะโดนจดชื่อ ถ้าจำไม่ผิด00.30 ก็จะกลับรถสองแถวเที่ยวสุดท้ายเกือบทุกวัน
วันนั้นก็เหมือนกัน จขกทกลับรถเที่ยวสุดท้าย หอที่จขกทอยู่เป็นหอในที่เกือบลึกที่สุดในบรรดาหอใน ถ้าใครรู้จักมอนี้จะรู้ว่า
หอในของมอนี้กระจายเป็นหย่อมๆ555 ตอนลงมามีจขกทกับผญอีก2คนมาด้วยกัน
แต่เรามาคนเดียวก็เลยก้มหน้าเล่นโทรศัพท์ ก็เดินตามไม่ทันผญ2คนนั้น เขาก็เดินกันไปก่อน เหลือจขกทเดินอยู่คนเดียว
พอทีนี้มันก็มีคนปั่นจักรยานสวนมา คือทางเดินมันจะแบ่งเป็นเลนจักรยานกับคนเดินที่มอของจขกท
ที่นี้จขกทได้ยินเขาเรียกชือ แต่ไม่แน่ใจว่าใครเพราะมันมืด ก็ว่าจะทักกลับ
แต่เขาปั่นจักรยานเลยไปแล้ว เราก็หันไปมอง ไม่รู้ว่าใครเลยไม่ได้ทักแล้วหันกลับมา
ระหว่างที่หันกลับก็มีลมพัดมาวูบนึง จากนั้นจขกทก็ได้ยินเสียงกระซิบที่ข้างหูเป็นภาษาอะไรไม่รู้ เหมือนสวดมนต์ใส่หูเลย
จขกทก็ตกใจแบบยืนแข็งอยู่ตรงนั้น พอตั้งสติได้ก็วิ่งขึ้นห้อง โทรหาเพื่อนที่ชอบสะสมพระเครื่อง
คือเพื่อนก็รู้แหละว่ามันแปลก แต่นางบอกไม่มีอะไรหรอกมืง นู่นนี่นั่น คุยเป็นชมจนเราหายกลัว
วันต่อมานางก็เอาลูกแก้วกับพระที่นางนับถือมาให้ แต่เราก็ไม่เป็นอะไร และเราใส่พระตลอดเวลาอยู่แล้ว
เรื่องนี้ก็ไม่มีอะไรแล้วค่ะ แค่นี้แหละ แต่เดี๋ยวจะมาเล่าเรื่องห้องที่เราอยู่ต่อค่ะ