==หรือเอกภพนี้จะถูกสร้างขึ้นโดยอำนาจพิเศษ?มารู้จักกับ Anthropic principle และ Fine-tuned Universe กันเถอะ==

คำถามที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่มนุษย์ถามได้คือเรามาจากไหน เอกภพกำเนิดมาได้อย่างไร ก่อนหน้าที่มนุษย์จะมีวิถีชีวิตแบบในปัจจุบัน มีการเรียนหนังสือ การทำงาน ความสัมพันธ์ ฟุตบอล ละครหลังข่าว ไอโฟนX  และเกมROV เมื่อก่อนมันไม่มีสิ่งเหล่านี้ ก่อนหน้าจะมีสิ่งเหล่านี้มันเป็นเรื่องของปริศนาของธรรมชาติ ที่นักวิทยาศาสตร์ นักฟิสิกส์  นักจักรวาลวิทยา พยายามศึกษาหาที่มาของสิ่งเริ่มต้นของเรื่องราวทุกอย่างนี้






แล้วนักฟิสิกส์ก็พบกับปัญหาที่มันพิศวง ชวนให้คิดจริงๆ



คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ


สิ่งนั้นเรียกว่าหลักการแอนโทรปิก (Anthropic principle)


มาดูกันที่คำนี้ก่อน Anthropic หมายถึงเกี่ยวข้องกับมนุษย์หรือช่วงเวลาที่มีมนุษย์อาศัยอยู่ เช่นคำว่า  anthropology หมายถึงวิชามานุษยวิทยา = การศึกษาเกี่ยวกับมนุษยในด้านต่างๆ


หลักการแอนโทรปิก (Anthropic principle) หลักการนี้ฟังดูก็เหมือนพูดแบบกำปั้นทุบดิน แต่มันก็ยังเป็นปัญหาที่น่าสนใจอยู่ดี หลักการแอนโทรปิก (Anthropic principle) อาจกล่าวได้ว่า เราสามารถอาศัยอยู่ในเอกภพที่เราสามารถจะมีชีวิตอยู่ได้เท่านั้น นั้นความจริงที่ว่าเราสามารถที่จะสังเกตการณ์ถึงสิ่งต่างๆนั่นหมายความว่าเราอาศัยอยู่ในเอกภพนั้นๆ



เราต้องตระหนักว่า เมื่อเราเป็นผู้สังเกตในระบบนั้นหมายความว่า เราจะเป็นผู้สังเกตได้ต้องมีการพัฒนาเป็นสิ่งมีชีวิตทรงปัญญาที่มี Consciousness หรือการตระหนักรู้ก่อนถึงจะมีการสังเกตได้






เราอาจจะอธิบาย หลักการแอนโทรปิก (Anthropic principle) ได้เป็น 3 ข้อหลักดังนี้



1.เอกภพที่เราอยู่ได้นี่ต้องมีค่าคงที่ทางฟิสิกส์ต่างๆในธรรมชาติที่แม่นยำเป๊ะๆค่าหนึ่งถึงทำให้เกิดสิ่งมีชีวิตได้ จะมากน้อยกว่านั้นไม่ได้เลย แล้วเอกภพที่เราอยู่นี้ก็มีสิ่งที่จำเป็นทุกอย่างสำหรับสิ่งมีชีวิต

2.เราสามารถสังเกตการณ์สิ่งต่างๆในเอกภพได้ เพราะกฎของฟิสิกส์มันใช้ได้ทุกที่ทั่วเอกภพ ไม่ขึ้นกับเวลาและสถานที่ ทำให้นักวิทยาศาสตร์ค่อยๆศึกษา ทดลอง เข้าใจธรรมชาติและรู้ว่ามันทำงานอย่างไรได้

3.วิวัฒนาการเป็นกระบวนการที่ปราศจากจุดมุ่งหมายปลายทางว่าจะไปสู่ทิศทางใด แต่บางครั้งก็นำไปสู่สิ่งมีชีวิตทรงปัญญา ซึ่งสามารถสังเกตสิ่งต่างๆในเอกภพที่อาศัยอยู่ได้



----------------------------------------------------



อาเทอ โชเปนฮาวเออ (Arthur Schopenhauer)นักปรัชญาที่ไอนสไตน์ชื่นชอบเป็นบุคคลแรกๆที่พูดถึงหลักการแอนโทรปิก




อาเทอ โชเปนฮาวเออ นักปรัชญาชาวเยอรมัน คนนี้ยังมีความสนใจ ศึกษาพุทธศาสนาอีกด้วย



แต่คำว่าหลักการแอนโทรปิกปรากฎครั้งแรกโดยถูกใช้โดย แบรนดอน คาร์เตอร์ในปี 1973 ในงานซิมโพเซียม Kraków (คำว่าซิมโพเซียมงานวิชาการที่รู้จักกันในปัจจุบัน จริงๆแล้วมาจากนักปรัชญาในยุคกรีก ที่หมายถึงงานที่มีอาหารสุราเต็มที่ มานั่งดื่มกินกัน แล้วมาถกอภิปรายเรืองราวปรัชญาต่างๆ) ครบรอบ 500 ปีวันเกิดของนิโคลัส คอเปอนคัส นักดาราศาสตร์ผู้มีผลงานเลื่องชื่อที่พบว่าดวงอาทิตย์ไม่ได้โคจรรอบโลก แต่โลกต่างหากที่โคจรรอบดวงอาทิตย์




ซิมโพเซียมในยุคกรีก



คาร์เตอร์ใช้คำว่า หลักการแอนโทรปิกเพื่อโต้กับความคิดเห็นเก่าของโคเปอนิคัสที่บอกว่า ตำแหน่งที่อยู่ของมนุษย์นั้นไม่ได้พิเศษกว่าที่อื่นๆในเอกภพ  คาร์เตอร์ให้ความเห็นว่า มันหลักเลี่ยงไม่ได้เลยที่ตำแหน่งที่อยู่ของดาวเราจะพิเศษกว่าที่อื่นๆในบางเรื่อง



หลักการแอนโทรปิก แบ่งออกเป็น 2 ข้อย่อยหลักดังนี้


1.หลักการแอนโทรปิกอย่างเข้ม (strong anthropic principle (SAP))

อันนี้บอกว่าเอกภพยังไงๆก็ต้องพัฒนาไป แล้วทำให้มีสิ่งมีชีวิตทรงปัญญาเกิดขึ้นมาสังเกตการณ์ถึงสิ่งต่างๆ อย่างแน่นอน เป็นกระบวนการที่ต้องเกิดขึ้น เพราะสาเหตุอะไรบางอย่างในขั้นตอนการเกิดและพัฒนาเอกภพ มันเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้


2.หลักการแอนโทรปิกอย่างอ่อน (weak anthropic principle (WAP))

อันนี้บอกว่าเอกภพสามารถเกิดขึ้นได้หลายแบบ แต่เราสุดแสนจะโชคดีดังถูกลอตเตอรีรางวัลที่ 1 ทำให้ ทุกอย่างลงตัวเหมาะเจาะ พัฒนาไปสู่สิ่งมีชีวิต และมนุษย์ในที่สุด ค่าทางฟิสิกส์สามารถเกิดขึ้นได้มากมายหลายค่า แต่เราดันมาเกิดในที่ที่ค่าทุกอย่างเหมาะสมถูกต้องเป๊ะๆ ไม่มีอะไรอื่นนอกจากความบังเอิญ เราคือผู้โชคดี(หรือโชคร้ายกันนะ) 555+


















-----------------------------



เดี๋ยวมาเขียนต่อครับ ถ้าชอบช่วยกดบวก กดถูกใจด้วยนะครับ ขอบคุณครับ
- จขกท. สุดหล่อ



แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่