คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 5
สติยังไม่ทันจิตมั้งคะ
มรรคมีองค์แปด อันดับ 1 คือ ความเห็นชอบ ซึ่งคือ เห็นอริยสัจ เห็นทุกข์ เห็นเหตุที่ทำให้ทุกข์เกิด เห็นความดับทุกข์ และเห็นหนทางแห่งความดับทุกข์
เมื่อเห็นทั้งสี่อย่างแล้ว ก็มาสู่อันดับ 2 คือ ต้องการออกจากทุกข์
อันดับ 3 - 8 เป็นการกระทำเพื่อให้เข้าถึงเป้าหมาย คือ การดับทุกข์ ซึ่งก็คือ การรักษาศีล มีศีล แล้วก็ตั้งสติมีสมาธิพิจารณาไตรลักษณ์
ตามที่คุณ anneGO บรรยายมา คือ มี ศีล สมาธิ แต่ยังไม่ได้พิจารณาในสิ่งที่เกิดขึ้น เหมือนเวลาที่มีเรื่องกังวล แล้วจิตพิจารณาเอง คือไม่ใช่สติในปัจจุบัน แต่เป็นจิตใต้สำนึกที่ฝึกมาดีแล้ว พิจารณาไปเองเพื่อปล่อยวาง
ลองตั้งสติพิจารณาสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นค่ะ อย่าตกใจกับสิ่งที่เกิด แต่ตั้งสติและพิจารณาค่ะ
มรรคมีองค์แปด อันดับ 1 คือ ความเห็นชอบ ซึ่งคือ เห็นอริยสัจ เห็นทุกข์ เห็นเหตุที่ทำให้ทุกข์เกิด เห็นความดับทุกข์ และเห็นหนทางแห่งความดับทุกข์
เมื่อเห็นทั้งสี่อย่างแล้ว ก็มาสู่อันดับ 2 คือ ต้องการออกจากทุกข์
อันดับ 3 - 8 เป็นการกระทำเพื่อให้เข้าถึงเป้าหมาย คือ การดับทุกข์ ซึ่งก็คือ การรักษาศีล มีศีล แล้วก็ตั้งสติมีสมาธิพิจารณาไตรลักษณ์
ตามที่คุณ anneGO บรรยายมา คือ มี ศีล สมาธิ แต่ยังไม่ได้พิจารณาในสิ่งที่เกิดขึ้น เหมือนเวลาที่มีเรื่องกังวล แล้วจิตพิจารณาเอง คือไม่ใช่สติในปัจจุบัน แต่เป็นจิตใต้สำนึกที่ฝึกมาดีแล้ว พิจารณาไปเองเพื่อปล่อยวาง
ลองตั้งสติพิจารณาสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นค่ะ อย่าตกใจกับสิ่งที่เกิด แต่ตั้งสติและพิจารณาค่ะ
แสดงความคิดเห็น
ภาวนาแล้วตัวหายค่ะ เรียนปรึกษา(ยาวนะคะ)
1.เราถือศีลเป็นปกติ
2.เราภาวนาเป็นปกติ (มีแว่บบ้างอะไรบ้างตามสไตล์ฆารวาส ยิ่งตอนนี้หย่อนมากค่ะ)
เราเริ่มการภาวนาจากการสวดมนต์ค่ะ เริ่มวันแรกตัวสั่นถามอาจารย์ท่านบอกว่าเป็นปิติ เราก็ยังภาวนาต่อทีนี้เริ่มนั่งสมาธิด้วย
หลังจากนั้นประมาณ 5-6 เดือน เรานั่งสมาธิและถือศีลแปดด้วยทำเป็นประจำรวมทั้งนอนสมาธิด้วยค่ะ จนกระทั่งวันหนึ่ง...
เราภาวนาอยู่ทุกอารมณ์ ทุกลมหายใจ เราล้มตัวลงพักผ่อนขณะมองดูลมหายใจไปตัวก็หายไปค่ะ ตอนนั้นเราตกใจแล้วหลุดออกมา
เราก็ถามรุ่นพี่นะคะ ท่านบอกว่าคราวหน้าให้ดูย้อนตรงๆไปเลย แต่ใจเราบอกว่ามีอะไรบางอย่างที่ทำไม่ได้แน่นอน ก็ละไปแต่รักษา ศีล สวดมนต์เอาค่ะ
วันหนึ่งเราหลับเห็นแสงสว่างมากๆตั้งอยู่รอบข้างกว้างไพศาลพูดไม่ถูก เราก็มอง มันพูดยากมากแต่เหมือนเราพิจารณาแสงนั้นแล้วมันทวนย้อน(อธิบายไม่ถูกจริงๆค่ะ)ตื่นมาก็อิ่มมาก ทุกอย่างกระจ่างไปหมด เบา สบาย
หลังจากนั้นเราได้งานก็เลยละภาวนาไปเยอะ แต่ก็ยังรักษาศีลอยู่
ต่อมาก็ยังมีอีกช่วงหนึ่งเรามีเรื่องในชีวิตให้คิดไม่ตก รู้สึกเหมือนมีอะไรปั่นอยู่กลางอกแล้วดีดออก ปั่นๆแล้วดีดออก นอนก็ปั่นๆอยู่ทั้งคืนนอนไม่ได้เลย จนกระทั่งมันปิ๊ง! เหมือนตัดเรื่องนั้นขาดเห็นต้นเหตุ-การแก้ไข-การวาง (ตอนนั้นก็น้อมมาพิจารณาแหล่ะค่ะ)อะไรบางอย่างถึงจะยอมลงให้แล้วจะรู้สึกปลง ปล่อย
จนเมื่อเร็วๆนี้ที่ทำงานพาเราไปวัดค่ะเพื่อบำเพ็ญสาธารณะประโยชน์ ท้ายกระบวนการเขาก็ให้ขึ้นนั่งสมาธิเราก็นั่งข้างๆพัดลมเหล็กๆค่ะ
เราไม่ได้นั่งเอาจริงเอาจังเลยนะคะ ก็สักแต่นั่งตามลมไปแต่กลับรู้สึกว่าร่างกายใจหายทุกอย่างนิ่ง ตอนแรกได้ยินเสียงพัดลมแล้วเสียงพัดลมก็หายไป ดับนิ่งสนิท ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมากเราก็ตกใจหลุดออกมา...แบบวู้บ...ทีนี้ร่างกายเราสั่นแบบควบคุมไม่ได้เลย นั่งสะท้านจนเราไปขอให้หลวงพี่เล่าธรรมะให้ฟังถึงคลายลง
ขออนุญาตสอบถามค่ะว่าเราควรทำอย่างไรต่อไปดี ตอนนี้ตัวเราเค้าไม่เอาแล้ว...กลัว...แหยงๆ...ไม่แตะเลย รักษาศีลยังรักษาอยู่แต่พอจะนั่งเหมือนเขาร้องว่าไม่เอาๆกลัว อยากให้ทราบว่ามันทรมานจริงๆค่ะเคยปฏิบัติได้แต่ปฏิบัติไม่ได้กลัวอะไรก็ไม่รู้
เราอยากปฏิบัติต่อมากๆ...เราควรไปหาพระอาจารย์สักคนไหมคะเพื่อขอแนวทาง
รบกวนขอวามกรุณาด้วยนะคะ อาจจะยาวแล้วก็คำประหลาดๆแต่เราไม่รู้จะอธิบายยังไงดี