ผมไม่แน่ใจว่าเข้าใจถูกหรือเปล่านะครับ
คือถ้ารัฐบาลออกกฎหมายปรับเพิ่มอัตราเงินสมทบจาก 750 บ. เป็น 1,000 บ. (คือที่ถูกแล้ว รัฐบาลจะไปปรับเพิ่มเงินเดือนที่ใช้เป็นฐานในการคำนวณอัตราเงินสมทบจากปัจจุบันอยู่ที่ 15,000 บ. เป็น 20,000 บ. ซึ่งจะเป็นผลให้อัตราเงินสมทบ 5% ของเงินเดือนฐานจะเพิ่มเป็น 1,000 บ./เดือน)
ถ้าดูตามกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ ระยะเวลา และอัตราการจ่ายประโยชน์ทดแทนในกรณีชราภาพ พ.ศ. ๒๕๕๐
"ข้อ ๒ การจ่ายเงินบำนาญชราภาพให้จ่ายเป็นรายเดือนในอัตราร้อยละยี่สิบของค่าจ้างเฉลี่ยหกสิบเดือนสุดท้ายที่ใช้เป็นฐานในการคำนวณเงินสมทบก่อนความเป็นผู้ประกันตนสิ้นสุดลง
ในกรณีที่ผู้ประกันตนได้จ่ายเงินสมทบเกินหนึ่งร้อยแปดสิบเดือน ให้ปรับเพิ่มอัตราเงินบำนาญชราภาพตามวรรคหนึ่งขึ้นอีกในอัตราร้อยละหนึ่งจุดห้าต่อระยะเวลาการจ่ายเงินสมทบครบทุกสิบสองเดือน
ในกรณีที่ผู้รับเงินบำนาญชราภาพถึงแก่ความตาย ให้งดการจ่ายเงินบำนาญชราภาพตั้งแต่เดือนถัดจากเดือนที่ผู้รับเงินบำนาญชราภาพถึงแก่ความตาย"
สมมุติว่า ผมทำงานเอกชนมาตั้งแต่อายุ 25 ปี และเกษียณอายุเมื่ออายุครบ 60 ปี จึงมีระยะเวลาทำงานมาแล้ว 35 ปี เงินเดือนสุดท้าย 30,000 บ./ด. ซึ่งสมมุติว่าไม่ขยับมาประมาณ 3 ปีก่อนเกษียณ
อย่างนี้ ถ้าผมเลือกรับเป็นเงินบำนาญรายเดือน ผมก็จะมีสิทธิได้รับเงินบำนาญ เดือนละ 14,500 บาทไปจนตลอดชีวิต ใช่มั้ยครับ
ซึ่งตัวเลขนี้ ผมได้มาจากการคำนวณดังต่อไปนี้ (รบกวนช่วยตรวจการคำนวณให้หน่อยครับ)
ตามวรรคแรก ของข้อ 2 ของกฎกระทรวง ผมมีสิทธิได้เบื้องต้นร้อยละ 20 ของเงินเดือนฐาน ซึ่งเงินเดือนฐาน ก็คือ 20,000 บาท (ไม่ใช่ 30,000 บาท)
และยังมีสิทธิได้เพิ่มอีกตามวรรคสอง ของข้อ 2 ก็คือได้เพิ่มอีกร้อยละ 1.5 ต่อทุกระยะเวลาทำงานครบ 12 เดือน (หรือครบ 1 ปี) ผมทำงานเอกชนมาครบ 35 ปีและจ่ายสมทบมาโดยตลอด ฉะนั้น ก็เอา 1.5 คูณด้วย 35 ปี จะได้เท่ากับ 52.5%
ก็เอา 52.5 ที่ได้เพิ่ม ไปบวกกับ 20% ซึ่งผมมีสิทธิอยู่แล้ว ก็จะได้เท่ากับ 72.5%
จากนั้น เอาเปอร์เซนต์นี้ ไปคูณกับเงินเดือนฐาน คือ 20,000 บาท ก็จะได้เท่ากับ 14,500 บ./เดือน
ซึ่งสมมุติว่าถ้าอัตราเงินสมทบยังจ่ายเท่าเดิมคือ 750 บาท โดยไม่มีการปรับเพิ่มเป็น 1,000 บาท
ผมก็จะได้เงินบำนาญหลังเกษียณ เพียงเดือนละ 10,875 บาท เท่านั้น (ได้มาจากเอาเงินเดือนฐานปัจจุบัน คือ 15,000 บ. คูณกับ 72.5%)
ไม่ทราบผมเข้าใจถูกหรือเปล่าครับผม
รบกวนช่วยตรวจการคำนวณเงินบำนาญที่จะได้จากกองทุนประกันสังคมในกรณีที่ปรับเพิ่มเงินสมทบจาก 750 บ. เป็น 1,000 บ.
คือถ้ารัฐบาลออกกฎหมายปรับเพิ่มอัตราเงินสมทบจาก 750 บ. เป็น 1,000 บ. (คือที่ถูกแล้ว รัฐบาลจะไปปรับเพิ่มเงินเดือนที่ใช้เป็นฐานในการคำนวณอัตราเงินสมทบจากปัจจุบันอยู่ที่ 15,000 บ. เป็น 20,000 บ. ซึ่งจะเป็นผลให้อัตราเงินสมทบ 5% ของเงินเดือนฐานจะเพิ่มเป็น 1,000 บ./เดือน)
ถ้าดูตามกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ ระยะเวลา และอัตราการจ่ายประโยชน์ทดแทนในกรณีชราภาพ พ.ศ. ๒๕๕๐
"ข้อ ๒ การจ่ายเงินบำนาญชราภาพให้จ่ายเป็นรายเดือนในอัตราร้อยละยี่สิบของค่าจ้างเฉลี่ยหกสิบเดือนสุดท้ายที่ใช้เป็นฐานในการคำนวณเงินสมทบก่อนความเป็นผู้ประกันตนสิ้นสุดลง
ในกรณีที่ผู้ประกันตนได้จ่ายเงินสมทบเกินหนึ่งร้อยแปดสิบเดือน ให้ปรับเพิ่มอัตราเงินบำนาญชราภาพตามวรรคหนึ่งขึ้นอีกในอัตราร้อยละหนึ่งจุดห้าต่อระยะเวลาการจ่ายเงินสมทบครบทุกสิบสองเดือน
ในกรณีที่ผู้รับเงินบำนาญชราภาพถึงแก่ความตาย ให้งดการจ่ายเงินบำนาญชราภาพตั้งแต่เดือนถัดจากเดือนที่ผู้รับเงินบำนาญชราภาพถึงแก่ความตาย"
สมมุติว่า ผมทำงานเอกชนมาตั้งแต่อายุ 25 ปี และเกษียณอายุเมื่ออายุครบ 60 ปี จึงมีระยะเวลาทำงานมาแล้ว 35 ปี เงินเดือนสุดท้าย 30,000 บ./ด. ซึ่งสมมุติว่าไม่ขยับมาประมาณ 3 ปีก่อนเกษียณ
อย่างนี้ ถ้าผมเลือกรับเป็นเงินบำนาญรายเดือน ผมก็จะมีสิทธิได้รับเงินบำนาญ เดือนละ 14,500 บาทไปจนตลอดชีวิต ใช่มั้ยครับ
ซึ่งตัวเลขนี้ ผมได้มาจากการคำนวณดังต่อไปนี้ (รบกวนช่วยตรวจการคำนวณให้หน่อยครับ)
ตามวรรคแรก ของข้อ 2 ของกฎกระทรวง ผมมีสิทธิได้เบื้องต้นร้อยละ 20 ของเงินเดือนฐาน ซึ่งเงินเดือนฐาน ก็คือ 20,000 บาท (ไม่ใช่ 30,000 บาท)
และยังมีสิทธิได้เพิ่มอีกตามวรรคสอง ของข้อ 2 ก็คือได้เพิ่มอีกร้อยละ 1.5 ต่อทุกระยะเวลาทำงานครบ 12 เดือน (หรือครบ 1 ปี) ผมทำงานเอกชนมาครบ 35 ปีและจ่ายสมทบมาโดยตลอด ฉะนั้น ก็เอา 1.5 คูณด้วย 35 ปี จะได้เท่ากับ 52.5%
ก็เอา 52.5 ที่ได้เพิ่ม ไปบวกกับ 20% ซึ่งผมมีสิทธิอยู่แล้ว ก็จะได้เท่ากับ 72.5%
จากนั้น เอาเปอร์เซนต์นี้ ไปคูณกับเงินเดือนฐาน คือ 20,000 บาท ก็จะได้เท่ากับ 14,500 บ./เดือน
ซึ่งสมมุติว่าถ้าอัตราเงินสมทบยังจ่ายเท่าเดิมคือ 750 บาท โดยไม่มีการปรับเพิ่มเป็น 1,000 บาท
ผมก็จะได้เงินบำนาญหลังเกษียณ เพียงเดือนละ 10,875 บาท เท่านั้น (ได้มาจากเอาเงินเดือนฐานปัจจุบัน คือ 15,000 บ. คูณกับ 72.5%)
ไม่ทราบผมเข้าใจถูกหรือเปล่าครับผม