สวัสดีค่ะ
ดิฉันอยากจะแชร์ประสบกาณ์การทำงาน(ที่แรก) ให้กับเพื่อนๆในวัยทำงานกันค่ะ
ก่อนอื่นเลยขอเล่าเรื่องชีวิตให้ฟังก่อนนะคะ
"ดิฉันเป็นคนใต้ค่ะ เด็กบ้านๆไม่เลี้ยงวัวนะคะ แถวบ้านเรียกในหมง แต่เข้าเรียนโรงเรียนในเมือง แต่นิสัยเป็นคนจริงจัง จริงใจกับคนที่เค้าดีกับเรา ไม่ค่อยมีเหตุผล พ่อแม่ไม่ได้จบปริญญาอะไร ถึงไหนถึงกัน เป็นคนใจร้อนทำไรรีบๆไม่ค่อยระวัง รักความยุติธรรม คร่าวๆประมาณนี้"
เรื่องมีอยู่ว่า หลังจากเรียนจบมหาลัย ก็กลับมาทำงานที่ภาคใต้ เนื่องจากแฟนอยู่ที่นั้น ได้รับโอกาสเข้าทำงานเป็นลูกจ้างองค์กรแห่งนึงในหน่วยงานของรัฐ ดีใจมากๆๆๆ ถึงมากทีสุด ตั้งใจว่าจะทำงานให้เต็มที่เลย จะทุ่มเทให้กับองค์กรให้เต็มที่
>>> ช่วงแรกในการทำงาน ดิฉันได้รับโอกาสที่ดีและความเมตตาจาก ผอ ขององค์กร เค้าดีมากในมุมมองของเรา สอนเราให้อ่านหนังสือ(พวกตำราปรัญชา หรือหนังสืออื่นๆที่มีประโยชน์) บางครั้งก้อสอนให้เรามองคนที่เก่งกว่าแล้วเอามาปรับกับตัวเราดู ให้โอกาสไปอบรบเครื่องมือที่ต่างประเทศทั้งๆที่เราเพิ่งทำงานได้แค่ 7 เดือน พร้อมกับให้โอกาสเราเข้าเป็นทีมบริหารขององค์กรเพื่อให้เรียนรู้งาน และเข้าใจระบบมากขึ้น เพราะแกพูดกับเราว่าแกอยากวางรากฐานให้คนรุ่นใหม่ไว้ เพราะต่อไปคนรุ่นใหม่จะเป็นคนสำคัญที่จะทำประโยชน์ให้กับองค์กรในอนาคต และหลายๆอย่างที่ทำให้เรารู้สึกดีต่อองค์กร
ผอ มีจิตวิทยาในการพูดโน้มน้าวคนมากๆ แถมยังให้โอกาสเราตัดสินใจในหลายๆเรื่องที่เกี่ยวข้องกับงาน แกมองว่าถึงเราจะทำงานในระบบราชการก็จริง แต่เราต้องเป็นแบบข้าราชการรุ่นใหม่ ทำงานรวดเร็ว ระบบไหนที่ลดได้ให้ลด ห้ามทำงานแบบเช้าชามเย็นชาม นั้นแหละคือสิ่งที่เราประทับใจ ผอ คนนี้มาก และเป็นคนที่ให้โอกาสเราเสมอ และทำให้เราทุ่มเทแรงกายแรงใจต่อองค์กรนี้มาก แต่โอกาสนั้นหมดไป เมื่อ ผอ คนนี้เกษียณอายุราชการ ยุคทองก็ได้เข้าสู่ยุคยืด โปรโมชั่นได้หมดลลงแล้ว เรื่องราวที่มีสีสันในชีวิตเริ่มดำเนินขึ้น
ปล. เราไม่ใช่ข้าราชการน่ะ แต่ทำงานในระบบราชการเฉยๆ
ประสบการณ์ทำงาน ยุคทอง ยุคมืด
ดิฉันอยากจะแชร์ประสบกาณ์การทำงาน(ที่แรก) ให้กับเพื่อนๆในวัยทำงานกันค่ะ
ก่อนอื่นเลยขอเล่าเรื่องชีวิตให้ฟังก่อนนะคะ
"ดิฉันเป็นคนใต้ค่ะ เด็กบ้านๆไม่เลี้ยงวัวนะคะ แถวบ้านเรียกในหมง แต่เข้าเรียนโรงเรียนในเมือง แต่นิสัยเป็นคนจริงจัง จริงใจกับคนที่เค้าดีกับเรา ไม่ค่อยมีเหตุผล พ่อแม่ไม่ได้จบปริญญาอะไร ถึงไหนถึงกัน เป็นคนใจร้อนทำไรรีบๆไม่ค่อยระวัง รักความยุติธรรม คร่าวๆประมาณนี้"
เรื่องมีอยู่ว่า หลังจากเรียนจบมหาลัย ก็กลับมาทำงานที่ภาคใต้ เนื่องจากแฟนอยู่ที่นั้น ได้รับโอกาสเข้าทำงานเป็นลูกจ้างองค์กรแห่งนึงในหน่วยงานของรัฐ ดีใจมากๆๆๆ ถึงมากทีสุด ตั้งใจว่าจะทำงานให้เต็มที่เลย จะทุ่มเทให้กับองค์กรให้เต็มที่
>>> ช่วงแรกในการทำงาน ดิฉันได้รับโอกาสที่ดีและความเมตตาจาก ผอ ขององค์กร เค้าดีมากในมุมมองของเรา สอนเราให้อ่านหนังสือ(พวกตำราปรัญชา หรือหนังสืออื่นๆที่มีประโยชน์) บางครั้งก้อสอนให้เรามองคนที่เก่งกว่าแล้วเอามาปรับกับตัวเราดู ให้โอกาสไปอบรบเครื่องมือที่ต่างประเทศทั้งๆที่เราเพิ่งทำงานได้แค่ 7 เดือน พร้อมกับให้โอกาสเราเข้าเป็นทีมบริหารขององค์กรเพื่อให้เรียนรู้งาน และเข้าใจระบบมากขึ้น เพราะแกพูดกับเราว่าแกอยากวางรากฐานให้คนรุ่นใหม่ไว้ เพราะต่อไปคนรุ่นใหม่จะเป็นคนสำคัญที่จะทำประโยชน์ให้กับองค์กรในอนาคต และหลายๆอย่างที่ทำให้เรารู้สึกดีต่อองค์กร
ผอ มีจิตวิทยาในการพูดโน้มน้าวคนมากๆ แถมยังให้โอกาสเราตัดสินใจในหลายๆเรื่องที่เกี่ยวข้องกับงาน แกมองว่าถึงเราจะทำงานในระบบราชการก็จริง แต่เราต้องเป็นแบบข้าราชการรุ่นใหม่ ทำงานรวดเร็ว ระบบไหนที่ลดได้ให้ลด ห้ามทำงานแบบเช้าชามเย็นชาม นั้นแหละคือสิ่งที่เราประทับใจ ผอ คนนี้มาก และเป็นคนที่ให้โอกาสเราเสมอ และทำให้เราทุ่มเทแรงกายแรงใจต่อองค์กรนี้มาก แต่โอกาสนั้นหมดไป เมื่อ ผอ คนนี้เกษียณอายุราชการ ยุคทองก็ได้เข้าสู่ยุคยืด โปรโมชั่นได้หมดลลงแล้ว เรื่องราวที่มีสีสันในชีวิตเริ่มดำเนินขึ้น
ปล. เราไม่ใช่ข้าราชการน่ะ แต่ทำงานในระบบราชการเฉยๆ