** พอดีผมเขียนไว้ในเฟส แต่อยากเอามาแชร์ อันนี้ความคิดเห็นผมนะครับ
เพื่อนๆมีความคิดเห็นอย่างไรกันบ้างครับกับ Bitcoin
บิทคอยกำลังเป็นที่โด่งดัง และสนใจกันทั่วโลก กับสกุลเงินดิจิตอลแบบใหม่ ว่าแต่ มันคืออะไร แล้วมันใช้ทำอะไรได้?
1.) เกริ่นก่อน สมัยก่อนคนเค้าใช้ทองในการแลกเปลี่ยนกัน แต่มันหนัก เวลาจะจ่าย ใครจะบ้าถือทองตลอด ขึ้นบันไดทีนี่กล้ามขามาเลย! สควอทกันทุกวัน ก็เลยผลิตกระดาษหรือเงินมาแทนมูลค่าของทอง เวลาผ่านไป 1,000 ปี เงินดันถูกแทรกแซงได้โดยรัฐบาล อเมกันปั้มเงินออกมาอัดฉีด (QE) คนญี่ปุ่นคนนึงก็เลยเซ็งเป็ด อยากจะให้เงินมีมาตรฐานเหมือนกับทองสมัยก่อน .. ทำไงดีวะ
2.) เลยสร้าง Bitcoin เพื่อเป็น "medium of exchange" คือ เป็นสิ่งที่เอาไว้ใช้จ่ายในชีวิตประจำวันได้เหมือนทองสมัยก่อนโดยที่รัฐบาลหรือใครก็ตามไม่สามารถไปแทรกแซง เช่นพิมพ์เงินขึ้นมาเอง หรือทำให้เงินสกุลเราแข็งแกร่งกว่าคนอื่น บลา บลา แล้วสกุลเงินนี้ก็ใช้ทั่วโลกไปเลย ไม่ต้องมีอัตราแลกเปลี่ยน
3.) ณ ตอนนี้ Bitcoin กำลังเป็นสิ่งที่เอาไว้ "เก็งกำไร" ไม่ใช่ "ใช้ในการแลกเปลี่ยน" (แต่อาจจะมีบ้าง แค่ยังไม่นิยม) เหมือนกับตอนแรกเลยสมัย 1,000 ปีทีแล้ว ที่ประกาศว่า "เห้ย! ต่อไปนี้ เอาทองมาใช้จ่ายนะเว้ย" อ่าว คนก็ไปขุดกันดิ เก็บไว้ใช้จ่าย แต่มันต่างกันที่ ตอนนั้นยังไม่มีอะไรที่เอาไว้ใช้จ่ายเป็นมาตรฐานอยู่แล้ว เพราะข้าว 3 เกวียนแลกวัว 1 ตัว ใช่ป่ะหละ พอคิดว่าจะใช้ทองเป็นสื่อแลกเปลี่ยนก็ กด Apply ได้เลยไง ใช้ได้เลย
4.) แล้วทำไมต้องบิทคอย ทำไมต้องอยู่บนระบบ ทำไมไม่ทำออกมาเป็นอะไรที่จับต้องได้ อันนี้คิดว่าน่าจะตามเทรนด์โลกไง cashless คือไม่ต้องมาจับกันแล้ว ก็เลยผลิตมันมาในระบบไปเลย โอนไปโอนมา สะดวกก แฮ็คก็ไม่ได้ เพราะข้อมูลมันอาศัยลักษณะ social network กระจายในคอมทั่วโลก
5.) กลับมาที่ปัจจุบัน มันยังใช้ได้ไม่ทั่วถึงไง .. เงินยังดูมีมาตรฐานมากกว่า ก็เลยเอาบิทคอยมาตีเป็นมูลค่าเงินสมัยนี้ไว้ก่อน แล้วก็ขึ้นอยู่กับว่า ใครเชื่อหรือไม่เชื่อว่าอนาคตมันจะเอาไว้ใช้จ่ายได้ เชื่อก็ซื้อไป ไม่เชื่อก็ตามใจ แต่ถ้าถึงตอนนั้นแพงไม่รู้ด้วยนะ ก็เลยเกิดเป็นการซื้อขาย หรือเทรดบิทคอยกันเกิดขึ้น
6.) มองไปอนาคต .. มันก็อาจจะเป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนได้อะนะ แต่ทุกคนต้องใช้หมดนะ แต่มาคิดดู เค้าบอกว่า มันมีทั้งหมด 21 ล้านเหรียญบิทคอย แต่ประชากรมีกว่า 7 พันล้านคนและเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ คิดว่าถ้าเอามาใช้จริงจะพอมั้ยเนี่ย บิทคอยจะต้องแตกเป็นสกุลที่เล็กลง คำถาม แล้วมันแตกได้รึเปล่าละ แล้วไอ้ที่แตกออกมา มันจะโดนแทรกแซงจากกลุ่มคนใดได้อีกมั้ย?
7.) มูลค่าของบิทคอยนี่คือมันคล้ายๆกับเฟสบุค คือ ถ้าคนยอมรับใช้มันเยอะขึ้นเรื่อยๆ มูลค่ามันจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่ถ้าไม่มีใครยอมรับละ หรือเกิดวันนึงเลิกยอมรับกันละ ... โอ๊ะโอ๋ ราคารูดลงเร็วกว่านักเต้นรูดเสาแน่ๆ
8.) เนื่องจากเคยเรียนประวัติศาสตร์ของเงินมา มันจะเกิดปัญหา "Arbitrage" อีกมั้ยอะ คืออะไรหรอ?
ก็ถ้าบิทคอยใช้โดยทั่วไปแล้วนะ แปลว่า ญี่ปุ่นก็ใช้บิทคอย ลาวก็ใช้บิทคอย โดยที่ค่าครองชีพยังไม่ทันเท่ากันเลยอะ สมมตินม 1 กล่องในญป 1 บิทคอย
นม 3 กล่องในลาว 1 บิทคอยเท่ากัน
ทำงานได้เงินในญปมา 5 บิทคอย เอาเงิน 1 บิทคอยไปซื้อนมในลาว เอามาขายในญปได้ 3 บิทคอยกลับมา
นั่นแหละ "อาบริทราจ" คือใช้ช่วงโหว่ทางด้านอัตราแลกเปลี่ยน อัตราค่าครองชีพ อัตราเงินเฟ้อ เพื่อทำเงิน มันก็ไม่เสถียรแล้ว
9.) โอเค สมมติว่าวันนึงทุกประเทศค่าครองชีพจะเท่ากัน บิทคอยจะเพียงพอกับทุกคน ไม่มีใครแทรกแซงได้ และจะใช้มันเป็นสื่อกลางการแลกเปลี่ยน ... เอ่อ มันก็ฟังดูดีนะ แต่ข้อแรกนี่ เราต้องเกิดอีกกี่ชาติ กว่าซิมบับเวจะพัฒนามาเท่าปารีส ... เอิ่มมมมม
10.) งั้นก็ซื้อเก็บไว้ยาวๆ เอาไว้รอให้มันใช้แลกเปลี่ยนได้ไง ก็ได้ ถ้ามันมีวันนั้น ถ้าเค้าจะใช้เป็นสื่อกลางก็ต้องยกเลิกการใช้เงินกันก่อน เค้าก็ต้องให้เวลาแปลงจากเงินเป็นบิทคอยละนะ
แต่ถ้าไปซื้อตอนนั้นแพงลิบ สงสัยบิทคอยละ 10 ล้านบาท! เอ่อ คิดว่าสุดท้ายมันต้องปรับจนสมดุลอะ คิดว่าประชากรมีเงินเยอะเท่าไหนกันเชียว ถ้าจะแลกกันที่บิทคอยละ 10 ล้านจริงๆ ผมว่าเกิดสงครามกลางโลกกันแน่ๆ คือสงครามกลางเมืองทุกประเทศ
คนที่เค้ามีเงินเยอะแลกได้บิทคอยน้อยก็ไม่พอใจ แล้วคนที่ไม่มีฐานะนี่เยอะกว่าเป็นพันเป็นหมื่นเท่า รับรอง ไม่มีบิทคอยกินข้าว ตายกันเกลื่อนโลกชัวร์ .. เอ๊ะ รึนี่เป็นแผนลดประชากรโลก! ตึง!
11.) งั้นเอางี้ละกัน กว่ามันจะเป็นงั้น เราก็ไม่ต้องสนว่ามันเป็นสื่อกลางดิ เราก็คิดซะว่า "เก็งกำไร" ซะตอนนี้เลย เล่นมันขำๆ ได้เงิน ... ก็ได้อะ แล้วแต่มุมมองคน
แต่อย่างที่วอเรน บัฟเฟ่ต์ กล่าวไว้ เค้าไม่ลงทุนในสินทรัพย์ที่ไม่สร้างผลผลิตด้วยตัวมันเอง เพราะมันเป็นมูลค่าสมมติที่คนสร้างขึ้นมา ทองก็เช่นกัน
... ไม่เข้าใจอะ ทองก็ดีออก แพงจะตาย
เอาง่ายๆนะ สมมติรวยจัด ซื้อทองได้ทั้งโลก เท่าไหร่ไม่รุ สมมติมีทองทั้งโลก 100 ล้านตัน อะซื้อมาได้ละ รวย ซื้อได้หมด #รวยทอง ได้มาละทำไง .... วางไว้
กับระหว่าง
เอาเงินที่ซื้อทองนั่นอะ สามารถเอาไปซื้อบริษัทโค้กได้ 10 บริษัท ซื้อแมคโดนัลด์ 7,000 สาขา ซื้อ AI หุ่นยนต์เอามาสร้างฟาร์มข้าว ข้าวโพด ฟาร์มวัว ฟาร์มหมู ฟาร์มผัก กระเพรา เลี้ยงไก่ ฯลฯ ได้อีกอย่างละ 200,000 ตารางกิโลเมตร ทำผลผลิตเอาไปขายคนอื่น มีข้าวกิน เติบโต ขยายไปเรื่อยๆ
ถามว่าระหว่างซื้อทองมาวางเฉยๆกับซื้ออะไรที่มันสร้างผลผลิตอยู่ ชอบอันไหน ตอบกันเอาเองเนอะ
นี่คือเหตุผลที่บัฟเฟ่ต์ไม่ลงทุนทอง แต่ลงทุนในบริษัท เพราะทองไม่สร้างผลผลิต เช่นเดียวกับบิทคอย และคนกำลังเก็งกำไรกันอยู่ และเป็นฟองสบู่ ของแท้ ก็เตือนๆกันไว้ ถ้าได้ดีได้เยอะแล้วก็ถอนออกมาให้คืนทุนบ้าง จะได้ไม่เสียใจถ้ามันร่วงปรู๊ด
ความเสี่ยงมีเยอะะะ
แต่ถ้าสุดท้ายแล้วหนีไม่รอด สรุปว่าผลักดันจนสามารถยกเลิกเงินได้ทั้งหมดแล้วเอาบิทคอยมาใช้ได้จริง ก็ไม่ต้องกลัวครับ ไม่ต้องคิดว่า โห ราคาตอนนั้นคงแพงเว่อร์ รู้งี้ซื้อไว้ตั้งแต่ตอนนี้ดีกว่า เพราะผมว่าทั้งโลกจะต้องมีการปรับตัวครั้งใหญ่ที่ต้องแฟร์กับทุกคน ทุกชนชั้น ทุกสกุลเงินครับ
Bitcoin ความหมายง่ายๆ กับมุมมองของผม
เพื่อนๆมีความคิดเห็นอย่างไรกันบ้างครับกับ Bitcoin
บิทคอยกำลังเป็นที่โด่งดัง และสนใจกันทั่วโลก กับสกุลเงินดิจิตอลแบบใหม่ ว่าแต่ มันคืออะไร แล้วมันใช้ทำอะไรได้?
1.) เกริ่นก่อน สมัยก่อนคนเค้าใช้ทองในการแลกเปลี่ยนกัน แต่มันหนัก เวลาจะจ่าย ใครจะบ้าถือทองตลอด ขึ้นบันไดทีนี่กล้ามขามาเลย! สควอทกันทุกวัน ก็เลยผลิตกระดาษหรือเงินมาแทนมูลค่าของทอง เวลาผ่านไป 1,000 ปี เงินดันถูกแทรกแซงได้โดยรัฐบาล อเมกันปั้มเงินออกมาอัดฉีด (QE) คนญี่ปุ่นคนนึงก็เลยเซ็งเป็ด อยากจะให้เงินมีมาตรฐานเหมือนกับทองสมัยก่อน .. ทำไงดีวะ
2.) เลยสร้าง Bitcoin เพื่อเป็น "medium of exchange" คือ เป็นสิ่งที่เอาไว้ใช้จ่ายในชีวิตประจำวันได้เหมือนทองสมัยก่อนโดยที่รัฐบาลหรือใครก็ตามไม่สามารถไปแทรกแซง เช่นพิมพ์เงินขึ้นมาเอง หรือทำให้เงินสกุลเราแข็งแกร่งกว่าคนอื่น บลา บลา แล้วสกุลเงินนี้ก็ใช้ทั่วโลกไปเลย ไม่ต้องมีอัตราแลกเปลี่ยน
3.) ณ ตอนนี้ Bitcoin กำลังเป็นสิ่งที่เอาไว้ "เก็งกำไร" ไม่ใช่ "ใช้ในการแลกเปลี่ยน" (แต่อาจจะมีบ้าง แค่ยังไม่นิยม) เหมือนกับตอนแรกเลยสมัย 1,000 ปีทีแล้ว ที่ประกาศว่า "เห้ย! ต่อไปนี้ เอาทองมาใช้จ่ายนะเว้ย" อ่าว คนก็ไปขุดกันดิ เก็บไว้ใช้จ่าย แต่มันต่างกันที่ ตอนนั้นยังไม่มีอะไรที่เอาไว้ใช้จ่ายเป็นมาตรฐานอยู่แล้ว เพราะข้าว 3 เกวียนแลกวัว 1 ตัว ใช่ป่ะหละ พอคิดว่าจะใช้ทองเป็นสื่อแลกเปลี่ยนก็ กด Apply ได้เลยไง ใช้ได้เลย
4.) แล้วทำไมต้องบิทคอย ทำไมต้องอยู่บนระบบ ทำไมไม่ทำออกมาเป็นอะไรที่จับต้องได้ อันนี้คิดว่าน่าจะตามเทรนด์โลกไง cashless คือไม่ต้องมาจับกันแล้ว ก็เลยผลิตมันมาในระบบไปเลย โอนไปโอนมา สะดวกก แฮ็คก็ไม่ได้ เพราะข้อมูลมันอาศัยลักษณะ social network กระจายในคอมทั่วโลก
5.) กลับมาที่ปัจจุบัน มันยังใช้ได้ไม่ทั่วถึงไง .. เงินยังดูมีมาตรฐานมากกว่า ก็เลยเอาบิทคอยมาตีเป็นมูลค่าเงินสมัยนี้ไว้ก่อน แล้วก็ขึ้นอยู่กับว่า ใครเชื่อหรือไม่เชื่อว่าอนาคตมันจะเอาไว้ใช้จ่ายได้ เชื่อก็ซื้อไป ไม่เชื่อก็ตามใจ แต่ถ้าถึงตอนนั้นแพงไม่รู้ด้วยนะ ก็เลยเกิดเป็นการซื้อขาย หรือเทรดบิทคอยกันเกิดขึ้น
6.) มองไปอนาคต .. มันก็อาจจะเป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนได้อะนะ แต่ทุกคนต้องใช้หมดนะ แต่มาคิดดู เค้าบอกว่า มันมีทั้งหมด 21 ล้านเหรียญบิทคอย แต่ประชากรมีกว่า 7 พันล้านคนและเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ คิดว่าถ้าเอามาใช้จริงจะพอมั้ยเนี่ย บิทคอยจะต้องแตกเป็นสกุลที่เล็กลง คำถาม แล้วมันแตกได้รึเปล่าละ แล้วไอ้ที่แตกออกมา มันจะโดนแทรกแซงจากกลุ่มคนใดได้อีกมั้ย?
7.) มูลค่าของบิทคอยนี่คือมันคล้ายๆกับเฟสบุค คือ ถ้าคนยอมรับใช้มันเยอะขึ้นเรื่อยๆ มูลค่ามันจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่ถ้าไม่มีใครยอมรับละ หรือเกิดวันนึงเลิกยอมรับกันละ ... โอ๊ะโอ๋ ราคารูดลงเร็วกว่านักเต้นรูดเสาแน่ๆ
8.) เนื่องจากเคยเรียนประวัติศาสตร์ของเงินมา มันจะเกิดปัญหา "Arbitrage" อีกมั้ยอะ คืออะไรหรอ?
ก็ถ้าบิทคอยใช้โดยทั่วไปแล้วนะ แปลว่า ญี่ปุ่นก็ใช้บิทคอย ลาวก็ใช้บิทคอย โดยที่ค่าครองชีพยังไม่ทันเท่ากันเลยอะ สมมตินม 1 กล่องในญป 1 บิทคอย
นม 3 กล่องในลาว 1 บิทคอยเท่ากัน
ทำงานได้เงินในญปมา 5 บิทคอย เอาเงิน 1 บิทคอยไปซื้อนมในลาว เอามาขายในญปได้ 3 บิทคอยกลับมา
นั่นแหละ "อาบริทราจ" คือใช้ช่วงโหว่ทางด้านอัตราแลกเปลี่ยน อัตราค่าครองชีพ อัตราเงินเฟ้อ เพื่อทำเงิน มันก็ไม่เสถียรแล้ว
9.) โอเค สมมติว่าวันนึงทุกประเทศค่าครองชีพจะเท่ากัน บิทคอยจะเพียงพอกับทุกคน ไม่มีใครแทรกแซงได้ และจะใช้มันเป็นสื่อกลางการแลกเปลี่ยน ... เอ่อ มันก็ฟังดูดีนะ แต่ข้อแรกนี่ เราต้องเกิดอีกกี่ชาติ กว่าซิมบับเวจะพัฒนามาเท่าปารีส ... เอิ่มมมมม
10.) งั้นก็ซื้อเก็บไว้ยาวๆ เอาไว้รอให้มันใช้แลกเปลี่ยนได้ไง ก็ได้ ถ้ามันมีวันนั้น ถ้าเค้าจะใช้เป็นสื่อกลางก็ต้องยกเลิกการใช้เงินกันก่อน เค้าก็ต้องให้เวลาแปลงจากเงินเป็นบิทคอยละนะ
แต่ถ้าไปซื้อตอนนั้นแพงลิบ สงสัยบิทคอยละ 10 ล้านบาท! เอ่อ คิดว่าสุดท้ายมันต้องปรับจนสมดุลอะ คิดว่าประชากรมีเงินเยอะเท่าไหนกันเชียว ถ้าจะแลกกันที่บิทคอยละ 10 ล้านจริงๆ ผมว่าเกิดสงครามกลางโลกกันแน่ๆ คือสงครามกลางเมืองทุกประเทศ
คนที่เค้ามีเงินเยอะแลกได้บิทคอยน้อยก็ไม่พอใจ แล้วคนที่ไม่มีฐานะนี่เยอะกว่าเป็นพันเป็นหมื่นเท่า รับรอง ไม่มีบิทคอยกินข้าว ตายกันเกลื่อนโลกชัวร์ .. เอ๊ะ รึนี่เป็นแผนลดประชากรโลก! ตึง!
11.) งั้นเอางี้ละกัน กว่ามันจะเป็นงั้น เราก็ไม่ต้องสนว่ามันเป็นสื่อกลางดิ เราก็คิดซะว่า "เก็งกำไร" ซะตอนนี้เลย เล่นมันขำๆ ได้เงิน ... ก็ได้อะ แล้วแต่มุมมองคน
แต่อย่างที่วอเรน บัฟเฟ่ต์ กล่าวไว้ เค้าไม่ลงทุนในสินทรัพย์ที่ไม่สร้างผลผลิตด้วยตัวมันเอง เพราะมันเป็นมูลค่าสมมติที่คนสร้างขึ้นมา ทองก็เช่นกัน
... ไม่เข้าใจอะ ทองก็ดีออก แพงจะตาย
เอาง่ายๆนะ สมมติรวยจัด ซื้อทองได้ทั้งโลก เท่าไหร่ไม่รุ สมมติมีทองทั้งโลก 100 ล้านตัน อะซื้อมาได้ละ รวย ซื้อได้หมด #รวยทอง ได้มาละทำไง .... วางไว้
กับระหว่าง
เอาเงินที่ซื้อทองนั่นอะ สามารถเอาไปซื้อบริษัทโค้กได้ 10 บริษัท ซื้อแมคโดนัลด์ 7,000 สาขา ซื้อ AI หุ่นยนต์เอามาสร้างฟาร์มข้าว ข้าวโพด ฟาร์มวัว ฟาร์มหมู ฟาร์มผัก กระเพรา เลี้ยงไก่ ฯลฯ ได้อีกอย่างละ 200,000 ตารางกิโลเมตร ทำผลผลิตเอาไปขายคนอื่น มีข้าวกิน เติบโต ขยายไปเรื่อยๆ
ถามว่าระหว่างซื้อทองมาวางเฉยๆกับซื้ออะไรที่มันสร้างผลผลิตอยู่ ชอบอันไหน ตอบกันเอาเองเนอะ
นี่คือเหตุผลที่บัฟเฟ่ต์ไม่ลงทุนทอง แต่ลงทุนในบริษัท เพราะทองไม่สร้างผลผลิต เช่นเดียวกับบิทคอย และคนกำลังเก็งกำไรกันอยู่ และเป็นฟองสบู่ ของแท้ ก็เตือนๆกันไว้ ถ้าได้ดีได้เยอะแล้วก็ถอนออกมาให้คืนทุนบ้าง จะได้ไม่เสียใจถ้ามันร่วงปรู๊ด
ความเสี่ยงมีเยอะะะ
แต่ถ้าสุดท้ายแล้วหนีไม่รอด สรุปว่าผลักดันจนสามารถยกเลิกเงินได้ทั้งหมดแล้วเอาบิทคอยมาใช้ได้จริง ก็ไม่ต้องกลัวครับ ไม่ต้องคิดว่า โห ราคาตอนนั้นคงแพงเว่อร์ รู้งี้ซื้อไว้ตั้งแต่ตอนนี้ดีกว่า เพราะผมว่าทั้งโลกจะต้องมีการปรับตัวครั้งใหญ่ที่ต้องแฟร์กับทุกคน ทุกชนชั้น ทุกสกุลเงินครับ