" วิดีโอด้านล่างนะครับ "
🏕 Free ROAM Ep.02 - เที่ยวกาญ แบบสุดขอบประเทศไทย กับสุดสัปดาห์ 2 วัน 1 คืน ⛰
----------------------------------------------------------
อ๊ะๆอย่าพึ่งทำหน้าเบื่อเมืองกาญกันอย่างนั้นครับ ตอนแรกผมไปที่นี่ก็มีแต่คนบอกว่า "เมืองกาญเที่ยวบ่อยแล้ว เบื่อ"
แต่ผมอยากจะบอกว่า หากคุณเป็นคนนึงที่อยากจะ สัมผัสอากาศเย็นสบายแบบทั้งปี วิวทะเลหมอก ดูพระอาทิตย์ขึ้น
ดูพระอาทิตย์ตกดิน บนยอดเขาสูงกว่าพันเมตร ได้เล่นน้ำตกธรรมชาติแบบใสสะอาดคนน้อย มีสถานที่ประวัติศาสตร์ให้ศึกษา
ได้เดินข้ามเขตไปถ่ายรูปในประเทศเพื่อนบ้านอย่างชิวๆ มีจุดกางเต๊นท์วิวสวยๆ ล่ะก็ต้องไม่พลาดที่นี่ครับ อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี ไปเข้าเรื่องเลยครับ
🌍🗺 รายละเอียดการเดินทาง 💼
1st Day 📌
ในวันแรกเราเริ่มออกเดินทางในเวลาตีห้าไปถึงสถานีขนส่งสายใต้ตอนตี 5 ครึ่งครับ เราเลือกวิธีเดินทางโดยการใช้แอปเรียกรถครับผม ถ้าใครอยากประหยัดผมแนะนำให้หาคนไปส่งครับจะได้ไม่ต้องเสียเวลาเรียกรถและค่ารถอย่างผม จากนั้นเราก็ตรงไปที่ชานชาลาที่ 10 เพื่อซื้อตั๋วรถตู้ในราคาคนละ 100 บาทครับผมไป 2 คนกับน้องชายก็ 200 บาทครับทีนี้ก็งีบหลับได้เลยครับสุดทางที่ สถานีขนส่งผู้โดยสารกาญขนบุรีครับผม พอถึงสถานีขนส่งผู้โดยสารเราก็เดินต่อไปยังจุดขึ้นรถตู้ไปทองผาภูมิ ซึ่งจะอยู่ริมถนนฝั่งทิศตะวันออกของสถานีขนส่งครับผมเลือกใช้ บริษัท เอเชียไทรโยคเดินรถ ครับ ผมได้ขึ้นรถตอน 8 โมงครับค่าโดยสารคนละ 115 บาทสองคนก็ 230 บาทจากนั้นใครจะหลับหรือนั่งดูวิวก็ตามสะดวกเลยครับ ใช้เวลาไม่เกิน 2 ชั่วโมงครับจากสถานีขนส่งไปถึงตลาดทองผาภูมิ เพื่อต่อรถครับ และแล้วก็มาถึงตลาดทองผาภูมิครับ จริงๆแล้วผมจะต้องไปขึ้นรถสองแถวสีเหลืองสาย ทองผาภูมิ-บ้านอีต่อง ครับซึ่งจะเดินจากจุดที่จอดรถตู้ไปประมาณ 100 เมตร แต่ในการมาครั้งนี้ผมโชคดีอย่างนึงครับ ได้เจอคุณน้าท่านนึงใจดีครับได้พาผมกับน้องชาย และเพื่อนๆนักเดินทางที่นั่งรอรถสองแถวกันอยู่ขึ้นท้ายกระบะไปที่บ้านอีต่องด้วยครับ ไม่คิดตังเลยสักบาทใจดีมากๆครับ แถมทางยังสมบุกสมบันเอามากๆครับ ผมกับน้องก็นั่งขอบกระบะ เกาะราวเหล็กไปตลอด 70 กม. ครับถึงจะเสียวๆหน่อยแต่ของฟรีและได้เที่ยวเร็วใครจะปฏิเสธได้ลงจริงไหมครับ ฮ่าๆๆ พอมาถึง หมู่บ้านอีต่องเราก็ต้องหาข้อมูลก่อนครับว่าจะเที่ยวอย่างไร นอนที่ไหน จนผมถามไปถามมาก็ได้ลงเอยกับการเช่ารถ ของคุณน้าที่พาพวกผมขึ้นมาบนนี้แบบฟรีๆนั่นแหละครับ ผมตกลงเช่ารถกับคุณน้าเขาที่ราคา 800 บาทครับ พาเที่ยวจุดสำคัญๆครับที่สำคัญในแต่ล่ะจุดเส้นทางก็ค่อนข้างสมบุกสมบันครับ ขึ้นเขาลงเขา ขรุขระ ลาดยางบ้าง คอนกรีตขรุขระๆบ้าง ลูกรังบ้าง หากใครที่ขับรถเล็กรถเก๋งไปล่ะก็แนะนำนะครับ ถ้าอยากให้รถของท่านอยู่กับท่านได้นานๆ แนะนำให้เช่าเหมือนผมครับ เห็นเส้นทางแล้วผมคงจะไม่ขับรถผมมาแน่ๆเลยผมสงสารรถครับ หรือถ้าใครใช้ออฟโรด ล่ะก็ลุยได้เลยครับสบายมาก
สถานที่เที่ยวแรก 📍 เราเริ่มกันที่ช่องมิตรภาพ ไทย-เมียนมาร์ เลยครับตอนแรกผมก็นึกว่าจะข้ามเขตไปได้ไม่ไกลมากตอนผมไปผมสามารถเดินลึกเข้าได้เรื่อยๆนะครับไม่มีใครว่าเลย พี่ๆทหารพม่าก็ใจดีครับไม่ว่าอะไรแถมยิ้มให้อย่างเป็นมิตรครับ วิวสวยครับมองไปสุดลูกหูลูกตาเป็นภูเขาสลับกันไปมาครับ มองดูแล้วสวยมากๆได้รูปสวยๆแน่นอนครับตรงนี้ แดดแรงแต่ไม่ร้อนครับมีลมเย็นๆพัดมาตลอด แต่หากท่านใดกลัวดำล่ะก็อย่าลืมทากันแดดมาด้วยนะครับ
สถานที่เที่ยวที่สอง 📍 จากนั้นเราก็ไปต่อที่เนินเสาธงครับ ตรงนี้จะเป็นจุดชมวิวครับและแนวท่อส่งก๊าซจากฝั่งพม่าครับ ส่วนตัวนะครับผมว่าวิวตรงช่องมิตรภาพจะสวยกว่าครับ มุมถ่ายรูปเยอะและกว้างกว่าซึ่งจริงๆแล้วทั้ง 2 จุดนี้จะเป็นวิวเดียวกันครับแต่มันอยู่ในคอร์ส 800 บาทด้วยเราจะไม่ยอมปฏิเสธครับ ฮ่าๆๆ
สถานที่เที่ยวที่สาม 📍 เราก็ไปต่อที่ ที่สามครับ ที่นี่ผมชอบมากครับน้ำตกจ๊อกกระดิ่น จริงๆทีนี่ไม่ได้เป็นน้ำตกที่อลังการ ยิ่งใหญ่อะไรนะครับ แต่สิ่งที่ผมชอบคือ เขาห้ามเอาอาหารเครื่องเข้าไปทานครับ และข้อดีอีกอย่างคือคนมาน้อยครับ เลยทำให้น้ำตกที่นี่สะอาดมากๆ น้ำใสเย็นสบายมากๆ แถมน้ำไม่ลึกด้วยครับเล่นได้สบายมาก แต่แค่อย่างไปจุดที่น้ำตกลงมาก็พอครับจุดนั้นจะอันตรายครับ เล่นเพลินเลยครับทีนี่เกือบลืมดูเวลาแหน่ะ
สถานที่เที่ยวที่สี่ 📍 จุดนี้ล่ะครับไฮไลท์เลยครับ เนินเขาช้างศึกซึ่งสูงจากระดับน้ำทะเลกว่าพันเมตร เราเลยตั้งใจว่าจะไปเก็บภาพวิวพระอาทิตย์ตกดินกับทะเลหมอกสวยๆ และนั่งทานข้าวบนหลังรถกระบะและชมวิวไปด้วยครับ ไปถึงนี่อากาศเย็นสบาย สดชื่นเอามากๆครับ คงเป็นการทานอาหารเย็นที่วิเศษมากๆครับ อากาศและบรรยากาศยอดเยี่ยมมากๆ ยังคิดอยู่ว่าใกล้กรุงเทพฯแค่นี้เองทำไมเราถึงไม่เคยมานะ แต่สิ่งที่ไม่คาดคิดครับในการดูพระอาทิตย์ตกดินครั้งนี้ก็เกิดขึ้นครับ เมฆครับลอยคลึ้มมาเชียว บังพระอาทิตย์ผมมิดชิดเลย แต่ถึงอย่างนั้นวิวด้านหน้าและรอบๆตัวผมตอนนั้นมันช่างสวยเอามากๆครับ ไม่เป็นไรครับเดี๋ยวแก้ตัวใหม่ตอนเช้าวันรุ่งขึ้นก็ได้ป่ะ หาที่ซุกหัวนอนก่อน
📍ตอนนี้เราต้องหาที่กางเต๊นท์แล้วครับ📍 จุดกางเต๊นท์ของที่นี่ที่เป็นที่นิยมที่สุดคือ ลานจอดฮอ ครับที่สำคัญคือฟรีครับไม่มีค่าใช้จ่ายแต่จะไม่มีห้องน้ำนะครับ ถ้าใครต้องการอาบน้ำใช้ห้องน้ำให้เดินไปในหมู่บ้านครับหรือที่หน้าหมู่บ้านครับ จะมีห้องน้ำ ซึ่งมีน้ำอุ่นไว้ให้บริการครับ ซึ่งตัวผมเลือกใช้บริการที่หน้าหมู่บ้านครับ คนละ 30 บาทน้ำอุ่นระบบแก๊สสะอาดสะอ้านดีครับ ทำธุระส่วนตัวได้อย่างสบายใจครับ มีห้องรองรับหลายห้องครับผม จากนั้นใครจะไปเดินเล่นในหมู่บ้าน ซื้อของกินข้าว ชมบรรยากาศในหมู่บ้านก็ตามสะดวกเลยครับ บอกเลยครับว่าบรรยากาศดีมากๆครับ อากาศเย็นสบายไม่ร้อนเลย ไปครับไปต่อวันที่สองเลย
2nd Day 📌
ในวันที่ 2 เราก็ตกลงกับคุณน้าท่านเดิมอีกครับ จริงๆแล้ว 800 บาทนั้นหมดคอร์สไปแล้ว แต่คุณน้าแถมให้ตอนเช้าดูพระอาทิตย์ขึ้นให้อีกครับ แต่ครั้งนี้ผมตกลงเช่ารถคุณน้าเพื่อการเดินทางขากลับด้วยครับประจวบเหมาะกับคุณเขาต้องไปทำธุระที่ตัวอำเภอเมืองกาญพอดีเลยครับ เขาเลยบอกว่าจะไปส่งเราที่สถานขนส่งเลย ซึ่งระยะทางกว่า 200 กม. ระยะเวลากว่า 3 ชั่วโมงในการเดินทางนะครับเราตกลงกันที่ราคา 1,200 บาทครับแต่พอดีมีน้องวัยรุ่นแถวๆนั้น 2 คนขอติดรถไปด้วยผมก็ใจดีครับให้ไปด้วยครับแต่น้องเขาก็ช่วยค่ารถผมมา 400 บาทครับโดยที่ผมไม่ได้เรียกร้องอะไรครับ ใจดีไหมล่ะ ป๋าสุดๆกลายเป็นว่าผมเสียค่ารถไปทั้งหมดก็คือ 1,600 บาทครับ มาเข้าเรื่องที่เที่ยวกันก่อนครับ
แก้ตัวจากเมื่อวานครับ 📍 เมื่อวานดูพระอาทิตย์ตกแล้วรู้สึกไม่เต็มที่ คุณน้าเขาเลยพามาตอนเช้ามาดูพระอาทิตย์ขึ้นกันซึ่งคุณน้าเขาก็มารับเราตอนตี 5 ครึ่งครับใช้เวลา 15-20 นาทีถึงเนินช้างศึกอีกครั้งครับ แต่ครั้งนี้ไม่เหมือนเมื่อวานครับ ฟ้าเปิดโล่ง เมฆน้อย ทะเลหมอกลอยตัวอย่างสวยงามครับ ผมไม่รู้จะบรรยายเป็นตัวหนังสืออย่างไรให้มันสวยงามจับใจนะครับ ผมเองก็ถ่ายรูป ถ่ายวิดีโอไม่ค่อยเก่งซะด้วย อยากให้ทุกท่านไปเห็นเหมือนผมครับสวยมากๆ ชอบมากๆครับทริปนี้ เดินทางง่าย ถึงเร็ว ทำให้เราได้เที่ยวเยอะหลายที่ึครับ มาที่นี่ 2 วัน 1 คืนได้ทำอะไรเยอะมากครับคุ้มค่ามากๆครับ กับการมาพักผ่อนสุดสัปดาห์ในการชาร์จแบตให้กับร่างกาย เพื่อกลับไปสู้กับงานในวันเริ่มสัปดาห์ใหม่ครับผม อ้อลืมบอกไปผมเดินทางกลับจากหมู่บ้านอีต่อง ตอน 10 โมงกว่าๆครับ และก็กลับมาถึงสถานีขนส่งตอนบ่ายสองโมงครับผม จบทริปครับสนุกสะดวก ใกล้กรุงเทพฯ 2 วัน 1 คืนได้อะไรเยอะเลยครับ
‼ สรุปค่าใช้จ่าย ‼
1. ค่ารถตู้มากาญจนบุรี จากขนส่งสายใต้คนละ 100 บาท 2 คน 200 บาท
2. ค่ารถตู้ไปทองผาภูมิ จากท่ารถตู้ฝั่งตะวันออกของสถานีขนส่ง คนละ 115 บาท 2 คน 230 บาท
3. ค่ารถจากตลาดทองผาภูมิ ไป บ้านอีต่อง จริงๆแล้วผมจะต้องจ่ายค่ารถสองแถวคนละ 70 บาทครับ แต่ผมโชคดีที่ได้ไปฟรีครับผม รถสองแถวจากที่ถามๆมาจะมีรอบแค่ 3 รอบนะครับรอบสุดท้ายประมาณบ่ายโมงครับ หากใครต้องการใช้รถสองแถวให้ศึกษาเวลาให้ดีๆนะครับ แล้วก็ขากลับหากใครไม่ต้องการเช่ารถแบบผม สองแถวจากบ้านอีต่องลงมามีรอบเดียวครับคือ 8 โมงเช้าซึ่งเช้าเกิ๊นนน
4. ค่าเช่ารถเที่ยว 800 บาท
5. ค่าเช่ารถกลับ 1200 บาทแต่มีคนช่วยหารเลยเหลือแค่ 800 บาท
6. ค่าอาบน้ำอุ่น คนละ 30 บาท 2 คน 60 บาท
7. ค่าอาหารเช้า ข้าวแกงพม่าสั่งกับข้าว 3 อย่างข้าวเปล่า 2 จาน น้ำเปล่า 1 น้ำอัดลม 1 ทั้งหมด 150 บาท
8. มื้ออื่นๆผมพกอาหารภาคสนามมาเองครับ ( MRE ) ทำให้ ณ ตรงนั้นผมตัดค่าใช้จ่ายเรื่องนี้ไปได้เยอะครับ
9. ค่าเข้าน้ำตกคนละ 40 บาท 2 คน 80 บาท
‼ สรุปทั้งหมด 2,320 บาทครับ ‼
ค่าใช้จ่ายทั้งหมดส่วนตัวผมว่าไม่แพงเลยนะครับ ยิ่งถ้าไปหลายคนแล้วหารค่ารถ หารค่ากิน ถูกลงไปอีกเยอะครับ
ทริปต่อไปเราจะพาไปไหนรอชมนะครับ
🔸ฝากติดตามแฟนเพจและกดติดตามช่องของผมด้วยนะครับ มีที่เที่ยวอัพเดทใหม่เรื่อยๆครับผม🔸
http://www.facebook.com/FreeRoamTravel
https://www.youtube.com/channel/UCLfENLpgkbI7p6GbsRYNMwQ
🔸ขอบคุณครับ🔸
[CR] สุดสัปดาห์ใครไม่รู้จะไปไหน แนะนำที่นี่เลยครับ 2 วัน 1 คืน ได้เที่ยวเยอะเลย
🏕 Free ROAM Ep.02 - เที่ยวกาญ แบบสุดขอบประเทศไทย กับสุดสัปดาห์ 2 วัน 1 คืน ⛰
----------------------------------------------------------
อ๊ะๆอย่าพึ่งทำหน้าเบื่อเมืองกาญกันอย่างนั้นครับ ตอนแรกผมไปที่นี่ก็มีแต่คนบอกว่า "เมืองกาญเที่ยวบ่อยแล้ว เบื่อ"
แต่ผมอยากจะบอกว่า หากคุณเป็นคนนึงที่อยากจะ สัมผัสอากาศเย็นสบายแบบทั้งปี วิวทะเลหมอก ดูพระอาทิตย์ขึ้น
ดูพระอาทิตย์ตกดิน บนยอดเขาสูงกว่าพันเมตร ได้เล่นน้ำตกธรรมชาติแบบใสสะอาดคนน้อย มีสถานที่ประวัติศาสตร์ให้ศึกษา
ได้เดินข้ามเขตไปถ่ายรูปในประเทศเพื่อนบ้านอย่างชิวๆ มีจุดกางเต๊นท์วิวสวยๆ ล่ะก็ต้องไม่พลาดที่นี่ครับ อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี ไปเข้าเรื่องเลยครับ
🌍🗺 รายละเอียดการเดินทาง 💼
1st Day 📌
ในวันแรกเราเริ่มออกเดินทางในเวลาตีห้าไปถึงสถานีขนส่งสายใต้ตอนตี 5 ครึ่งครับ เราเลือกวิธีเดินทางโดยการใช้แอปเรียกรถครับผม ถ้าใครอยากประหยัดผมแนะนำให้หาคนไปส่งครับจะได้ไม่ต้องเสียเวลาเรียกรถและค่ารถอย่างผม จากนั้นเราก็ตรงไปที่ชานชาลาที่ 10 เพื่อซื้อตั๋วรถตู้ในราคาคนละ 100 บาทครับผมไป 2 คนกับน้องชายก็ 200 บาทครับทีนี้ก็งีบหลับได้เลยครับสุดทางที่ สถานีขนส่งผู้โดยสารกาญขนบุรีครับผม พอถึงสถานีขนส่งผู้โดยสารเราก็เดินต่อไปยังจุดขึ้นรถตู้ไปทองผาภูมิ ซึ่งจะอยู่ริมถนนฝั่งทิศตะวันออกของสถานีขนส่งครับผมเลือกใช้ บริษัท เอเชียไทรโยคเดินรถ ครับ ผมได้ขึ้นรถตอน 8 โมงครับค่าโดยสารคนละ 115 บาทสองคนก็ 230 บาทจากนั้นใครจะหลับหรือนั่งดูวิวก็ตามสะดวกเลยครับ ใช้เวลาไม่เกิน 2 ชั่วโมงครับจากสถานีขนส่งไปถึงตลาดทองผาภูมิ เพื่อต่อรถครับ และแล้วก็มาถึงตลาดทองผาภูมิครับ จริงๆแล้วผมจะต้องไปขึ้นรถสองแถวสีเหลืองสาย ทองผาภูมิ-บ้านอีต่อง ครับซึ่งจะเดินจากจุดที่จอดรถตู้ไปประมาณ 100 เมตร แต่ในการมาครั้งนี้ผมโชคดีอย่างนึงครับ ได้เจอคุณน้าท่านนึงใจดีครับได้พาผมกับน้องชาย และเพื่อนๆนักเดินทางที่นั่งรอรถสองแถวกันอยู่ขึ้นท้ายกระบะไปที่บ้านอีต่องด้วยครับ ไม่คิดตังเลยสักบาทใจดีมากๆครับ แถมทางยังสมบุกสมบันเอามากๆครับ ผมกับน้องก็นั่งขอบกระบะ เกาะราวเหล็กไปตลอด 70 กม. ครับถึงจะเสียวๆหน่อยแต่ของฟรีและได้เที่ยวเร็วใครจะปฏิเสธได้ลงจริงไหมครับ ฮ่าๆๆ พอมาถึง หมู่บ้านอีต่องเราก็ต้องหาข้อมูลก่อนครับว่าจะเที่ยวอย่างไร นอนที่ไหน จนผมถามไปถามมาก็ได้ลงเอยกับการเช่ารถ ของคุณน้าที่พาพวกผมขึ้นมาบนนี้แบบฟรีๆนั่นแหละครับ ผมตกลงเช่ารถกับคุณน้าเขาที่ราคา 800 บาทครับ พาเที่ยวจุดสำคัญๆครับที่สำคัญในแต่ล่ะจุดเส้นทางก็ค่อนข้างสมบุกสมบันครับ ขึ้นเขาลงเขา ขรุขระ ลาดยางบ้าง คอนกรีตขรุขระๆบ้าง ลูกรังบ้าง หากใครที่ขับรถเล็กรถเก๋งไปล่ะก็แนะนำนะครับ ถ้าอยากให้รถของท่านอยู่กับท่านได้นานๆ แนะนำให้เช่าเหมือนผมครับ เห็นเส้นทางแล้วผมคงจะไม่ขับรถผมมาแน่ๆเลยผมสงสารรถครับ หรือถ้าใครใช้ออฟโรด ล่ะก็ลุยได้เลยครับสบายมาก
สถานที่เที่ยวแรก 📍 เราเริ่มกันที่ช่องมิตรภาพ ไทย-เมียนมาร์ เลยครับตอนแรกผมก็นึกว่าจะข้ามเขตไปได้ไม่ไกลมากตอนผมไปผมสามารถเดินลึกเข้าได้เรื่อยๆนะครับไม่มีใครว่าเลย พี่ๆทหารพม่าก็ใจดีครับไม่ว่าอะไรแถมยิ้มให้อย่างเป็นมิตรครับ วิวสวยครับมองไปสุดลูกหูลูกตาเป็นภูเขาสลับกันไปมาครับ มองดูแล้วสวยมากๆได้รูปสวยๆแน่นอนครับตรงนี้ แดดแรงแต่ไม่ร้อนครับมีลมเย็นๆพัดมาตลอด แต่หากท่านใดกลัวดำล่ะก็อย่าลืมทากันแดดมาด้วยนะครับ
สถานที่เที่ยวที่สอง 📍 จากนั้นเราก็ไปต่อที่เนินเสาธงครับ ตรงนี้จะเป็นจุดชมวิวครับและแนวท่อส่งก๊าซจากฝั่งพม่าครับ ส่วนตัวนะครับผมว่าวิวตรงช่องมิตรภาพจะสวยกว่าครับ มุมถ่ายรูปเยอะและกว้างกว่าซึ่งจริงๆแล้วทั้ง 2 จุดนี้จะเป็นวิวเดียวกันครับแต่มันอยู่ในคอร์ส 800 บาทด้วยเราจะไม่ยอมปฏิเสธครับ ฮ่าๆๆ
สถานที่เที่ยวที่สาม 📍 เราก็ไปต่อที่ ที่สามครับ ที่นี่ผมชอบมากครับน้ำตกจ๊อกกระดิ่น จริงๆทีนี่ไม่ได้เป็นน้ำตกที่อลังการ ยิ่งใหญ่อะไรนะครับ แต่สิ่งที่ผมชอบคือ เขาห้ามเอาอาหารเครื่องเข้าไปทานครับ และข้อดีอีกอย่างคือคนมาน้อยครับ เลยทำให้น้ำตกที่นี่สะอาดมากๆ น้ำใสเย็นสบายมากๆ แถมน้ำไม่ลึกด้วยครับเล่นได้สบายมาก แต่แค่อย่างไปจุดที่น้ำตกลงมาก็พอครับจุดนั้นจะอันตรายครับ เล่นเพลินเลยครับทีนี่เกือบลืมดูเวลาแหน่ะ
สถานที่เที่ยวที่สี่ 📍 จุดนี้ล่ะครับไฮไลท์เลยครับ เนินเขาช้างศึกซึ่งสูงจากระดับน้ำทะเลกว่าพันเมตร เราเลยตั้งใจว่าจะไปเก็บภาพวิวพระอาทิตย์ตกดินกับทะเลหมอกสวยๆ และนั่งทานข้าวบนหลังรถกระบะและชมวิวไปด้วยครับ ไปถึงนี่อากาศเย็นสบาย สดชื่นเอามากๆครับ คงเป็นการทานอาหารเย็นที่วิเศษมากๆครับ อากาศและบรรยากาศยอดเยี่ยมมากๆ ยังคิดอยู่ว่าใกล้กรุงเทพฯแค่นี้เองทำไมเราถึงไม่เคยมานะ แต่สิ่งที่ไม่คาดคิดครับในการดูพระอาทิตย์ตกดินครั้งนี้ก็เกิดขึ้นครับ เมฆครับลอยคลึ้มมาเชียว บังพระอาทิตย์ผมมิดชิดเลย แต่ถึงอย่างนั้นวิวด้านหน้าและรอบๆตัวผมตอนนั้นมันช่างสวยเอามากๆครับ ไม่เป็นไรครับเดี๋ยวแก้ตัวใหม่ตอนเช้าวันรุ่งขึ้นก็ได้ป่ะ หาที่ซุกหัวนอนก่อน
📍ตอนนี้เราต้องหาที่กางเต๊นท์แล้วครับ📍 จุดกางเต๊นท์ของที่นี่ที่เป็นที่นิยมที่สุดคือ ลานจอดฮอ ครับที่สำคัญคือฟรีครับไม่มีค่าใช้จ่ายแต่จะไม่มีห้องน้ำนะครับ ถ้าใครต้องการอาบน้ำใช้ห้องน้ำให้เดินไปในหมู่บ้านครับหรือที่หน้าหมู่บ้านครับ จะมีห้องน้ำ ซึ่งมีน้ำอุ่นไว้ให้บริการครับ ซึ่งตัวผมเลือกใช้บริการที่หน้าหมู่บ้านครับ คนละ 30 บาทน้ำอุ่นระบบแก๊สสะอาดสะอ้านดีครับ ทำธุระส่วนตัวได้อย่างสบายใจครับ มีห้องรองรับหลายห้องครับผม จากนั้นใครจะไปเดินเล่นในหมู่บ้าน ซื้อของกินข้าว ชมบรรยากาศในหมู่บ้านก็ตามสะดวกเลยครับ บอกเลยครับว่าบรรยากาศดีมากๆครับ อากาศเย็นสบายไม่ร้อนเลย ไปครับไปต่อวันที่สองเลย
2nd Day 📌
ในวันที่ 2 เราก็ตกลงกับคุณน้าท่านเดิมอีกครับ จริงๆแล้ว 800 บาทนั้นหมดคอร์สไปแล้ว แต่คุณน้าแถมให้ตอนเช้าดูพระอาทิตย์ขึ้นให้อีกครับ แต่ครั้งนี้ผมตกลงเช่ารถคุณน้าเพื่อการเดินทางขากลับด้วยครับประจวบเหมาะกับคุณเขาต้องไปทำธุระที่ตัวอำเภอเมืองกาญพอดีเลยครับ เขาเลยบอกว่าจะไปส่งเราที่สถานขนส่งเลย ซึ่งระยะทางกว่า 200 กม. ระยะเวลากว่า 3 ชั่วโมงในการเดินทางนะครับเราตกลงกันที่ราคา 1,200 บาทครับแต่พอดีมีน้องวัยรุ่นแถวๆนั้น 2 คนขอติดรถไปด้วยผมก็ใจดีครับให้ไปด้วยครับแต่น้องเขาก็ช่วยค่ารถผมมา 400 บาทครับโดยที่ผมไม่ได้เรียกร้องอะไรครับ ใจดีไหมล่ะ ป๋าสุดๆกลายเป็นว่าผมเสียค่ารถไปทั้งหมดก็คือ 1,600 บาทครับ มาเข้าเรื่องที่เที่ยวกันก่อนครับ
แก้ตัวจากเมื่อวานครับ 📍 เมื่อวานดูพระอาทิตย์ตกแล้วรู้สึกไม่เต็มที่ คุณน้าเขาเลยพามาตอนเช้ามาดูพระอาทิตย์ขึ้นกันซึ่งคุณน้าเขาก็มารับเราตอนตี 5 ครึ่งครับใช้เวลา 15-20 นาทีถึงเนินช้างศึกอีกครั้งครับ แต่ครั้งนี้ไม่เหมือนเมื่อวานครับ ฟ้าเปิดโล่ง เมฆน้อย ทะเลหมอกลอยตัวอย่างสวยงามครับ ผมไม่รู้จะบรรยายเป็นตัวหนังสืออย่างไรให้มันสวยงามจับใจนะครับ ผมเองก็ถ่ายรูป ถ่ายวิดีโอไม่ค่อยเก่งซะด้วย อยากให้ทุกท่านไปเห็นเหมือนผมครับสวยมากๆ ชอบมากๆครับทริปนี้ เดินทางง่าย ถึงเร็ว ทำให้เราได้เที่ยวเยอะหลายที่ึครับ มาที่นี่ 2 วัน 1 คืนได้ทำอะไรเยอะมากครับคุ้มค่ามากๆครับ กับการมาพักผ่อนสุดสัปดาห์ในการชาร์จแบตให้กับร่างกาย เพื่อกลับไปสู้กับงานในวันเริ่มสัปดาห์ใหม่ครับผม อ้อลืมบอกไปผมเดินทางกลับจากหมู่บ้านอีต่อง ตอน 10 โมงกว่าๆครับ และก็กลับมาถึงสถานีขนส่งตอนบ่ายสองโมงครับผม จบทริปครับสนุกสะดวก ใกล้กรุงเทพฯ 2 วัน 1 คืนได้อะไรเยอะเลยครับ
‼ สรุปค่าใช้จ่าย ‼
1. ค่ารถตู้มากาญจนบุรี จากขนส่งสายใต้คนละ 100 บาท 2 คน 200 บาท
2. ค่ารถตู้ไปทองผาภูมิ จากท่ารถตู้ฝั่งตะวันออกของสถานีขนส่ง คนละ 115 บาท 2 คน 230 บาท
3. ค่ารถจากตลาดทองผาภูมิ ไป บ้านอีต่อง จริงๆแล้วผมจะต้องจ่ายค่ารถสองแถวคนละ 70 บาทครับ แต่ผมโชคดีที่ได้ไปฟรีครับผม รถสองแถวจากที่ถามๆมาจะมีรอบแค่ 3 รอบนะครับรอบสุดท้ายประมาณบ่ายโมงครับ หากใครต้องการใช้รถสองแถวให้ศึกษาเวลาให้ดีๆนะครับ แล้วก็ขากลับหากใครไม่ต้องการเช่ารถแบบผม สองแถวจากบ้านอีต่องลงมามีรอบเดียวครับคือ 8 โมงเช้าซึ่งเช้าเกิ๊นนน
4. ค่าเช่ารถเที่ยว 800 บาท
5. ค่าเช่ารถกลับ 1200 บาทแต่มีคนช่วยหารเลยเหลือแค่ 800 บาท
6. ค่าอาบน้ำอุ่น คนละ 30 บาท 2 คน 60 บาท
7. ค่าอาหารเช้า ข้าวแกงพม่าสั่งกับข้าว 3 อย่างข้าวเปล่า 2 จาน น้ำเปล่า 1 น้ำอัดลม 1 ทั้งหมด 150 บาท
8. มื้ออื่นๆผมพกอาหารภาคสนามมาเองครับ ( MRE ) ทำให้ ณ ตรงนั้นผมตัดค่าใช้จ่ายเรื่องนี้ไปได้เยอะครับ
9. ค่าเข้าน้ำตกคนละ 40 บาท 2 คน 80 บาท
‼ สรุปทั้งหมด 2,320 บาทครับ ‼
ค่าใช้จ่ายทั้งหมดส่วนตัวผมว่าไม่แพงเลยนะครับ ยิ่งถ้าไปหลายคนแล้วหารค่ารถ หารค่ากิน ถูกลงไปอีกเยอะครับ
ทริปต่อไปเราจะพาไปไหนรอชมนะครับ
🔸ฝากติดตามแฟนเพจและกดติดตามช่องของผมด้วยนะครับ มีที่เที่ยวอัพเดทใหม่เรื่อยๆครับผม🔸
http://www.facebook.com/FreeRoamTravel
https://www.youtube.com/channel/UCLfENLpgkbI7p6GbsRYNMwQ
🔸ขอบคุณครับ🔸
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น