คบกับเเฟน ต่างชาติ มา ร่วม 2 ปีค่ะ ความรัก ทุกอย่าง การงาน เขาดีหมดเลย เป็นผู้ถือหุ้นบริษิท รายได้ 200k ขึ้น
เเต่ติดตรงที่เขาเป็นคนใช้เงินเก่ง มาก อยุ่ไทยมานามากเเต่ไม่มีเงินเก็บสักบาท เงินเดือนก็สุง สิ้นเดือนคือ มาม่า จิงๆค่ะ เเต่ต้นเดือนนี่ วันนึ่งเข้าร้านอาหารทุกมือ ทริป 20 เปอเซน ของบิลอาหาร ไปฟูดเเลน ซื้อของมา เช่น ขนมปัง ถ้าข้าม วัน เขาก็ไม่กิน ทิ้งเลย ตัดเรื่องพวกนี้ไปค่ะ ประเด็นคือ
วันนึง จู่ๆ ครอบครัวเราเริ่มถามเราว่า ผช มีเงินเก็บบ้างไหม เพราะเขาเห็นเรากะเเฟนใช้เงิน กิน เที่ยว หรู เเต่เขาก็ถามเชิง เมื่อไหร่จะเเต่ง เพราะเราเคยไปเยี่ยมครอบครัวฝ่ายชาย เเละเขาเองก็ เคยมาเยี่ยมครอบครัว ญาติ เราหมดเเล้ว เราพยายามหลบหลีกคำถามเหล่านี้จากเเม่ เพราะเรารุ้ว่าเเฟนเรา ไม่มีเงินเก็บ ไม่มีเงินมาขอเเน่ เราเริ่มเครียด จากการกดดันทางครอบครัวเรา ที่ถามเราบ่อยๆ เราเลย เเยปๆ กะเเฟน ว่า เรามาเริ่มเก็บเงินกันไหม เเรกๆเขาก็ไม่ยอม อารมเเบบ มีเท่าไหร่ก็ใช้หมด เเต่เราเริ่มซีเรียส เขาเลยยอม เเต่เราก็ไม่ได้บอกสาเหตุเรื่องที่ครอบครัวเรากดดันเรานะ เราไม่อยากบอก เรื่องเเบบนี้ง่ายๆเลย มันควรจะลื่นไหลไปเอง
หลังจากนั้นไม่นานก็มีเรื่องที่ทำไห้เเฟนต้องย้ายบ้านจากที่เช่าอยุ่ เพราะหมดสัญญา เราเลยช่วยกันหาบ้านตามเวปไซร์ เราก็หาเเต่ราคาที่ไม่ห่างจากบ้านหลังเก่ามากนัก เราเลยเสนอเขา ราคาที่คิดว่าเขาจะโอเคคือประมาณ 25k-28k เราบอกเราไม่อยากได้เกิน สามหมื่น เพราะ ถ้าเช่าสามหมื่น รวมค่าน้ำไฟ ค่าเเม่บ้าน ก็ตก เดือนละ 50k (ซึ่งมันเยอะเกินไป อีกอย่างเราคุยกันไว้ว่าเราจะเก็บเงินเดือนละสี่หมื่นทุกๆเดือน ) พอเราไห้เขาดูเหมือนเขาจะโอเคเเต่ไม่เลยค่ะ เขา บอกว่ามันเล็กไป นุ้นนี่จิปาถะ คือ เรารุ้ว่าเขาอยากได้บ้านหลังใหญ่ ตกเเต่งดี ไหม่ สะอาด เขาก็ดูเเต่ราคา 30k up จนเเละเเล้ว เขาก็ได้ ในราคา 35k เขาโชว์บ้านผ่านมือถือมาหาเราดู เขาหวังไห้เราชอบ โดยส่วนตัวเรา เราก็ชอบนะ มันสวยดี เเต่ลึกๆ เราอธิบายไม่ถูก เราไม่ได้ภูมิใจกะบ้านเช่า เราจะภูมิมาก ถ้าบ้านนั้นคือ บ้านที่เขาซื้อเอง เเละเขาพูดอยู่หนึ่ง ประโยคที่ทำให้เรา ติดใจคือ เขา "ยอมจ่ายเเพง เพื่อความสบาย ดีกว่าประหยัดเงิน เเต่ ได้ของที่ไม่ถูกใจ "
อันนี้เราเห็นด้วยมากๆ เลย เเต่มันใช้กับไม่ใด้ทุกสิ่งของทั่วไปหรือป่าว ที่ตั้งกระทู้นี้ขึ้นมา เพราะไม่รุ้จะปรึกษาใครค่ะ เพราะไม่รุ้ว่าสิ่งที่ตัวเองคิด คนอื่นจะคิดเหมือนตัวเองไหม เราไม่ได้มาถามว่าควรไปต่อหรือไม่ควร เเต่เราอยาก รุ้มุมมอง ของเเต่ละคนเป็นยังไงกันบ้างค่ะ
คบกับเเฟนต่างชาติเเต่เขาไม่มีเงินเก็บเลย
เเต่ติดตรงที่เขาเป็นคนใช้เงินเก่ง มาก อยุ่ไทยมานามากเเต่ไม่มีเงินเก็บสักบาท เงินเดือนก็สุง สิ้นเดือนคือ มาม่า จิงๆค่ะ เเต่ต้นเดือนนี่ วันนึ่งเข้าร้านอาหารทุกมือ ทริป 20 เปอเซน ของบิลอาหาร ไปฟูดเเลน ซื้อของมา เช่น ขนมปัง ถ้าข้าม วัน เขาก็ไม่กิน ทิ้งเลย ตัดเรื่องพวกนี้ไปค่ะ ประเด็นคือ
วันนึง จู่ๆ ครอบครัวเราเริ่มถามเราว่า ผช มีเงินเก็บบ้างไหม เพราะเขาเห็นเรากะเเฟนใช้เงิน กิน เที่ยว หรู เเต่เขาก็ถามเชิง เมื่อไหร่จะเเต่ง เพราะเราเคยไปเยี่ยมครอบครัวฝ่ายชาย เเละเขาเองก็ เคยมาเยี่ยมครอบครัว ญาติ เราหมดเเล้ว เราพยายามหลบหลีกคำถามเหล่านี้จากเเม่ เพราะเรารุ้ว่าเเฟนเรา ไม่มีเงินเก็บ ไม่มีเงินมาขอเเน่ เราเริ่มเครียด จากการกดดันทางครอบครัวเรา ที่ถามเราบ่อยๆ เราเลย เเยปๆ กะเเฟน ว่า เรามาเริ่มเก็บเงินกันไหม เเรกๆเขาก็ไม่ยอม อารมเเบบ มีเท่าไหร่ก็ใช้หมด เเต่เราเริ่มซีเรียส เขาเลยยอม เเต่เราก็ไม่ได้บอกสาเหตุเรื่องที่ครอบครัวเรากดดันเรานะ เราไม่อยากบอก เรื่องเเบบนี้ง่ายๆเลย มันควรจะลื่นไหลไปเอง
หลังจากนั้นไม่นานก็มีเรื่องที่ทำไห้เเฟนต้องย้ายบ้านจากที่เช่าอยุ่ เพราะหมดสัญญา เราเลยช่วยกันหาบ้านตามเวปไซร์ เราก็หาเเต่ราคาที่ไม่ห่างจากบ้านหลังเก่ามากนัก เราเลยเสนอเขา ราคาที่คิดว่าเขาจะโอเคคือประมาณ 25k-28k เราบอกเราไม่อยากได้เกิน สามหมื่น เพราะ ถ้าเช่าสามหมื่น รวมค่าน้ำไฟ ค่าเเม่บ้าน ก็ตก เดือนละ 50k (ซึ่งมันเยอะเกินไป อีกอย่างเราคุยกันไว้ว่าเราจะเก็บเงินเดือนละสี่หมื่นทุกๆเดือน ) พอเราไห้เขาดูเหมือนเขาจะโอเคเเต่ไม่เลยค่ะ เขา บอกว่ามันเล็กไป นุ้นนี่จิปาถะ คือ เรารุ้ว่าเขาอยากได้บ้านหลังใหญ่ ตกเเต่งดี ไหม่ สะอาด เขาก็ดูเเต่ราคา 30k up จนเเละเเล้ว เขาก็ได้ ในราคา 35k เขาโชว์บ้านผ่านมือถือมาหาเราดู เขาหวังไห้เราชอบ โดยส่วนตัวเรา เราก็ชอบนะ มันสวยดี เเต่ลึกๆ เราอธิบายไม่ถูก เราไม่ได้ภูมิใจกะบ้านเช่า เราจะภูมิมาก ถ้าบ้านนั้นคือ บ้านที่เขาซื้อเอง เเละเขาพูดอยู่หนึ่ง ประโยคที่ทำให้เรา ติดใจคือ เขา "ยอมจ่ายเเพง เพื่อความสบาย ดีกว่าประหยัดเงิน เเต่ ได้ของที่ไม่ถูกใจ "
อันนี้เราเห็นด้วยมากๆ เลย เเต่มันใช้กับไม่ใด้ทุกสิ่งของทั่วไปหรือป่าว ที่ตั้งกระทู้นี้ขึ้นมา เพราะไม่รุ้จะปรึกษาใครค่ะ เพราะไม่รุ้ว่าสิ่งที่ตัวเองคิด คนอื่นจะคิดเหมือนตัวเองไหม เราไม่ได้มาถามว่าควรไปต่อหรือไม่ควร เเต่เราอยาก รุ้มุมมอง ของเเต่ละคนเป็นยังไงกันบ้างค่ะ