ผีตามกลับบ้าน ถนน เคหะบางพลี ลาดหวาย คลองด่าน (สมุทรปราการ)

เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อ5-6 ปีก่อน ใครที่อยู่เคหะ ลาดหวาย จะรู้ว่าเส้นจากเคหะไปลาดหวายจะเปลี่ยวมาก ยิ่งเมื่อก่อนแทบไม่มีไฟ บ้านเราอยู่เคหะค่ะ..ทางจากเคหะไปลาดหวายจะผ่านหน้าแฟลตที่เป็นตึกโครงการ... พ้นลาดหวายไปก็จะเป็นคลองด่าน
วันนั้นเป็นคืนวันลอยกระทงค่ะ เรากับเพื่อนขับมอเตอร์ไซค์ไปเที่ยวตามงานต่างๆ (เราขับ) ทั้งในแฟลตและทางคลองด่านดูประกวดนางนพมาศ.. พอขากลับบ้าน มาจากคลองด่านผ่านมาทางลาดหวาย สองข้างทางก้อมึดๆค่ะ ข้างทางเป็นหญ้าสูง ยิ่งใกล้ถึงหน้าแฟลตโครงการก้อจะมีแต่หญ้ากับต้นไม้ เราเลยพูดกับเพื่อนว่า เนี้ยนะถ้ามีกระสือลอยมาทำไงว่าเนี้ย 555 ขำๆกัน พอขับมาถึงหน้าแฟลต จะมีต้นไม้ใหญ่ เพื่อนมันถามว่าเห็นมั้ย! เรานึกในใจว่าเแม้งแกล้งกูแน่เลย เราถามเพื่อนว่าเห็นอะไรว่ะอย่าตลก มันบอกเห็นผู้ชายแก่ ผมขาวๆ หนวดยาวใส่ชุดสีขายคล้ายพราหม์ณ เราเลยบอกแกล้งกูหรอ ไม่มีนะ มันบอกมี (ตอนนั้นเราชะลอรถแลเวจอดคุยข้างทางซึ่งหางจากจุดที่เพื่อนเห็นประมาณ 10 เมตร ไม่ไกลเลย) เพื่อนยืนยันว่าเห็นจริง อ่ะเราเลยไหนไปดู เพราะก็เพิ่งผ่านมาแปบเดียวกลับไปดูดิใคร....
ต่อ
เรากลับรถไป ไม่เจออะไรค่ะ ไม่เจอใครเลย เพื่อนบอกเห้ยมะกี้เค้ายืนอยู่ตรงนี้ใต้ต้นไม้ใหญและสบตาเพื่อน มองเราสองคน เราก้อไม่คิดไรนะ ไม่ได้กลัวไรมาก เพราะตอนนั้นกำลังสนุกมั้ง เรากับเพื่อนก้อขับเข้าแฟลต กะว่าจะไปลอยกระทงในแฟลตเลย ทางเข้าแฟลตจะเป็นไฟข้างถนนสีส้มๆเนาะ ค่ะ เราขับเข้าไป เสาไฟดับทีละเสาเลย ดับๆกระพรอบๆ เวลาเราผ่านนะ ประมาณ เสาไฟสองสามต้นได้ และมีเสียงคล้ายกระป๋องตกตลอดทางเรากับเพื่อนก้อมองหลังรถนะว่าเสียงไร เพราะไม่มีรถตามมา แต่ก็ไม่ได้ใส่ใจมาก สุดท้ายก้อกลับบ้านค่ะ ปลอดภัยดี แต่เมื่อถึงบ้านนี้แหละ เพื่อนอีกคนโทรมมาหาค่ะ บอกว่าไปไหนกันมาเราก้อบอกเพื่อนคนนั้นว่าไป..ตามที่เล่าข้างบน เพื่อนบอกแล้วผู้ชายที่ซ้อนหลังสุดคุณตาที่ไหน ญาติเราหรอ เราก้อตกใจค่ะ.. เพื่อนบอกว่าเห็นผู้ชายผมขาว ชุดขาวนั้งซ้อนเรามาด้วยตอนเราขับกลับบ้าน เรากับเพื่อนที่ไปด้วยกันก้อหน้าเสียเลยค่ะ รู้ล่ะว่าเจอ..แล้วล่ะ คืนนั้นเพื่อนค้างที่บ้านเราค่ะ
ห้องนอนเราชั้นสอง... ต้องบอกก่อนว่า บ้านเราเป็นบ้านสองชั้น ขึ้นบันไดไปเจอห้องน้ำ    และซ้ายมือเป็นห้องเราเลย ตอนนั้นที่บ้านมีหมา 1 ตัวนอนชั้นล่าง และเพื่อนเอาหมามาเล่นด้วยอีก 1 ตัว มันเอามาห้องในห้องเราด้วย ห้องนอนเราจะมีหน้าต่างมุ้งลวดค่ะ ซึ่งมองออกไปก็จะเจอบันได นั้นแหละ ใต้หน้าต่างเป็นทีวี ตอนนั้นน่าจะดึกมากล่ะ พ่อแม่เรานอนอีกห้องค่ะ คงหลับไปแล้ว เรากับเพื่อนก้อนอนดูทีวี แล้วอยู่ๆทีวีก้อดับ แต่เรายังไม่ตกใจนะเพราะทีวีมันเก่ามากล่ะ ก้อไปเปิดใหม่ ชิวๆ ซักพัก หมาค่ะ หมาเราที่อยู่ชั้นล่างมันหอน ปกติมันไม่เคยแม้แต่จะเห่าเลยย เป็นครั้งแรกที่เราได้ยินเสียงมันหอน แรกๆก้อเสียงหมาหอน เรากับเพื่อนก้อแค่มองหน้ากัน ซักพัก เสียงหอนเริ่มแปลกๆ กลายเป็นเหมือนเสียงร้อง อื้ออๆๆๆ ดูทรมาน เสียงผู้ชายค่ะ เพื่อนมันถามว่าไรว่ะ เราเลยบอกเพื่อนว่าก้อเสียงหมาหอนแหละ ซึ่งจริงๆเรารู้ในใจว่าไม่ใช่เสียงหมาหอน ดังอย่างนั้นอยู่ซักสองนาทีมั้ง แต่หมาเพื่อนที่นอนในห้องเราไม่หอนนะมันนอนนิ่งเลย พอเสียงเงียบ เราก้อคิกว่าเอ้อไม่มีไรแล้วล่ะ ปิดทีวีนอนล่ะ แต่เปิดไฟหัวเตียง ปิดไฟห้อง นอนค่ะ ..เราก้อนอนกันหน้าทีวีนั้นแหละคือเท้าไปทางทีวี ลืมตามาก้อจะเห็นทีวี ข้างบนเป็นหน้าต่างที่มองออกไปเห็นทางบันได เราก้อนอนๆ ซักพักหมาเพื่อนที่นอนกับเราอยู่ดีๆมันก้อลุกขึ้นพรวด! มองไปที่หน้าต่าง มองแบบจ้องเหมือนหมาจ้อง....อะไรซักอย่าง มันจ้อง ขาแข็ง เรากับเพื่อก้อมองตามมันค่ะ ทุกอย่างเงียบมาก แล้ว...ก้อเห็นค่ะ ดวงไฟลอยขึ้นมาจากชั้นล่าง  เรายังคิดในใจว่าไฟรถส่องเข้ามา ไฟมันลอยขึ้นมาค่ะ มันไม่ใช่เป็นดวงกลมๆนะ แต่เป็นแสง บอกไม่ถูก เรา เพื่อนเรา และหมา มองเป็นตาเดียวกันเลยค้าา ไฟลอยขึ้นมา สว่างหน้าห้องเราแล้ว แสงนั้นก้อไปสว่างจ้าในกระจกที่อยู่ข้างที่วีที่วางติดกับหน้าต่าง เรากับเพื่อนก้อ งงๆ ค่ะว่าเจออะไร แล้วไอ้หมาเพื่อนเนี้ยก้อหอนทันที ที่ไฟมันหายไปในกระจก เราเลยตะโกนเรียกแม่เลยจ้า เรากับเพื่อนทำไรกันไม่ถูก ไม่กล้าลุก ไม่กล้าทำไร หละบตาตะโกนเรียกพ่อแม่ พ่อแม่ก้อมาค่ะ เล่าให้เค้าฟัง..เค้าไม่เชื่อหรอกค่ะ แต่แนะนำว่าให้ทำบุญต่อเช้า คืนนั้นก้อผ่านไปได้ เปิดไฟนอน เปิดไฟทั้งบ้าน หลังจากนั้นเพื่อนไม่มานอนบ้านอีกเลย 55555 ต่อจากนี้เจะเป็นเรื่องที่เราเจอคนเดียว ในห้องของเรา มีหลายเหตุการณ์มากก...
จะเล่าเป็นบางเหตุการณ์ จนถึงเหตุการณ์ที่ทนไม่ได้..
บางคืนเราจะชอบอ่านกานตูนค่ะ เวลานอนไม่หลับ สมัยนั้นไม่มีเฟส แต่เราเปิดไฟห้องทั้งห้องไม่ได้นะ ไฟเตียงก็ไม่ได้ พ่อแม่เห็นจะมาดุว่าทำไมยังไม่นอน เราเลยใช้ไฟฉายค่ะ ส่องอ่านใต้ผ้าห่ม 555 ดื้อ.. พอถึงตอนตลกๆ มีเสียงค่ะ เสียงคนหัวเราะ ..เคยไปงานวัดว่าที่เค้ามีให้ยิ่งปืนกับ ยิ่งโดนลิง.ลิงจะร้อง ยิ่งโดนผี.ผีจะขำ เสียงขำแบบนั้นอ่ะค่ะ ฮี่ๆๆๆๆๆ เป็นเสียงคล้ายพ่อมด ขำ ฮี่ๆๆๆๆๆฮี๊ๆๆๆ เราก้อตกใจค่ะดับไฟฉายแล้วคลุมโปงหลับตาปี๋ ไม่องไม่อ่านมันแหละ หลับเลย..แต่มีอยู่คืนนึงค่ะ แม่เอาผ้าปูที่นอน ผ้าห่มไปซัก เราดันทะลึ่งอ่านกานตูนตามเดิมค้าาา แต่คืนนั้นยังไม่ดึกเปิดไฟหัวเตียงอ่าน พอถึงตอนตลก ขำค่ะ! ขำอีกแล้ววว ฮี๊ๆๆฮีๆๆๆ... แต่คืนนี้ไม่มีผ้าห่ม ได้แต่หลับตา แล้วนอนขด บอกตรงๆ เสียวขามากกกก คือเรากลัวนะแต่พอทนได้ถ้าไม่โดนตัว รึ เห็นชัดๆ หลับตาอยู่แบบนั้นซักพักข่มตาหลับ ได้ยินเสียง หน้ากระจกค่ะ ก๊อกๆแก๊กๆ เหมือนคนเคาะ แล้วในห้องอยู่ดีๆก็โคตรหนาว ผ้าห่มก้อไม่มี ทนไม่ไหวค่ะขนลุกไปหมด ตะโกนเรียกพ่อแม่อีก แล้วดันล็อคห้องไว้ พ่อแม่เข้ามาไม่ได้ เราหลับตาลุกขึ้นมาเปิดประตูให้พ่อแม่ อยู่ดีๆก็ก้าวข้างไม่ออก แม่ก้อตะโตนเรียกทุบประตู เราก้อเรียกแม่บอกแม่เข้ามาๆ แล้วมันก้อขยับได้เอง เราก้อเล่าให้แม่ฟัง พ่อแม่ก้อเฉยๆอีก
หลังจากนั้นก้อมีเรื่อยๆ บางครั้งพัดลมกดปิดเปิดเอง ไรงี้ มีอยู่ครั้งนึงเรามีโทรสัพสองเครื่องเอาขึ้นมานอนพอจะหลับก้อหาโทรสัพมาจะตั้งปลุกไรงี้ หาโทรศัพไม่เจอ ก้อเลยหาทั่วห้อง ลื้อเตียง หาทุกมุม ลงไปหาข้างล่างด้วย ก็ไม่เจอ พอขึ้นมาห้องก้อมาจัดเตียงที่ลื้อ แล้วไปเข้าห้องน้ำ กลับเข้ามาเตอแล้วค่ะ โทรศัพ วางคู่กันอยู่บนหมอนที่เราเพิ่งจัดเตียงเมื่อกี๊ 5555 ใครวาง.... เราก้อ งงๆ อันนี้งงจริง มาได้ไง ส่วนเหตการณ์ที่เเรงที่สุดที่เราไม่นอนห้องนั้นอีกเลยจนทุกวันนี้ห้องนั้นกลายเป็นห้องพระ ก็คือ เรากำลังจะนอนค่ะแล้วลุกคงขึ้นมาปิดไฟหัวเตียง จังหวะที่เราล้มตัวนอน หัวลงหมอน ปรากฎว่าเรานอนหนุนมือคนค่ะมันไม่ใช่หมอน มือแบบหงายมือจับหัวเรา แล้วมือนั้นก้อค่อยๆ ชักออกอ่ะ มือมันค่อยๆชักออก หัวเราก้อค่อยๆหันข้างค่ะ ถ้าไม่เข้าใจลองนอนทับมือเเล้วค่อยๆชักมือออกหัวจะค่อยๆหันไปอีกข้าง จากที่หัวตั้งตรงๆ ตอนนี้กลายเป็นตัวนอนตรงหัวหันข้าง เราเลยนอนหันข้างตามเลยค่ะ หันหน้าเข้ากำแพง คลุมโปง แล้วจู่ๆ ผ้าห้มก้อค่อยๆไหลไปด้านหลังเรา จนจะหมดตัวเราละ เราท่องนะโม... ก้อหยุดไหลค่ะ เราก้อดึงกลับมา เรายังไม่กล้าเรียกพ่อแม่เพราะไม่แน่ใจว่าล็อคห้องไว้มั้ย เราไม่อยากลุกไปดปิดประตูตอนนี้ เลยพยายามข่มตานอน สวดมนต์.. แต่เค้ายังไม่หยุดค่ะ เป็นเสียงไอปนขำ แล้วดึงผมเราที่มันเล็ดรอดออกไปนอกผ้าห่ม ดึงแบบเจ็บมากค่ะ กระตุกเลยอ่ะ เราเลยร้องไห้เรียกพ่อแม่เลยยย ตามคาด เราเผลอล็อคห้องต้องลุกไปเปิด นอนที่ลุกจากเตียงวิ่งไปที่ประตู ตอนวินาทีที่วิ่งๆไปก้อต้องหลี่ตามองทางนิดๆ เราเห็นค่ะ เห็นกางเกงสีขาวกับขาเพราะสายตาเรามองต่ำ ยืนอยู่ข้างกระจก เราเล่าให้พ่อแม่ฟัง ตามเดิมค่ะ ไม่เชื่อ.... หลังจากนั้นเราไม่นอนห้องนั้นอีก ห้องนั้นกลายเป็นห้องพระ และ ตอนนี้เป็นห้องเก็บของ ส่วนพระก็ตั้งหน้าห้องค่ะ พระหันหน้าเข้าหาห้อง พ่อแม่เราบอกไม่เชื่อ แต่จัดการแบบนี้...รึแอบเชื่อก็ไม่รุ้นะ 555 ปัจจุบันเราไม่เคยเจออีก....แต่ที่แน่นอน คืนนี้คงนอนข้างล่างเพราะไม่กล้าขึ้นไปแล้วล่ะ เล่าขนาดนี้ ...ใครผ่านเส้นลาดหวายก็ระวังน้าาาา ข้างทาง อาจไม่ใช่คน.....😁

อาจเอารูปมาลงให้ชมบรรยสกาศนะคะ 😊
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่