น้องหมาของผมเป็นโรคไตครับ เคยโพสต์สอบถามไว้ก่อนหน้านี้แล้ว ตอนนี้ยังรอดอยู่ แต่การรักษาที่ผ่านมา หมดเงินไปเยอะมาก และเจอหลายเรื่องที่ไม่น่าจะเกิด (ในมุมผม)
ตอนนี้น้องหมาค่าไต 4 กว่า และค่าของเสีย 200 กว่าๆ
1. ตรวจสุขภาพมาตลอด ล่าสุดตรวจ 6 เดือนที่แล้ว ค่าไตปกติ .. ผ่านมา 6 เดือน บอกเป็นไตวายเรื้อรัง .. จริงๆ ถ้าหมอตรวจอย่างอื่นร่วมด้วยตั้งแต่ตอนนั้น ก็น่าจะดี เช่น ตรวจฉี่ ; อาการตอน 6 เดือนก่อน มีอาการฉี่เยอะ กินน้ำเยอะ ฯลฯ ที่แทบจะเข้าข่ายโรคไตทั้งนั้น แต่หมอไปสงสัยโรคอื่น ไปโฟกัสโรคอื่น
ผมอยากให้หมอช่วยตรวจให้ครบๆ หรืออย่างน้อยก็แจ้งหน่อยก็ดีว่า ควรตรวจโน่นนี่นั่นถ้าอยากให้ชัวร์ ให้เราเป็นคนตัดสินใจเอง มีเงินก็ตรวจ ไม่มีเงินก็ไม่ตรวจ
2. หมอตาม รพ. เอกชน ที่ว่ากันว่าดี ส่วนใหญ่จบใหม่ ประสบการณ์ไม่เยอะ ทำให้ผมเจอหลายอย่างที่ข้อมูลไม่ตรงกันแบบสุดๆ เช่น
- น้องหมาตัวสั่นตอนให้น้ำเกลือ คนนึงบอกว่าหนาว คนนึงบอกว่าเป็นเพราะปวดท้อง โรคตับอ่อน (น้องหมาเป็นด้วย ซึ่งน่าจะมาจากโรคไต)
- ค่าไตจาก 3 กว่า ขึ้นไป 4 กว่า ภายใน 4 วัน หมอบอกว่า ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ให้น้ำเกลือเข้าเส้นเลือดที่ รพ. ทุกวัน แต่ไม่ได้ค้าง เพราะหมาเครียด
- หมอเปลี่ยนวิธีรักษา เป็นให้น้ำเกลือใต้ผิวหนังเช้าเย็น ค่าไตคงที่ 4 กว่า ค่าของเสียลดลงนิดหน่อย
- ถามหมอแต่ละคน ว่าควรให้กินน้ำแค่ไหน ตอบไม่เคยตรงกันสักคน
- ถามหมอแต่ละคน ว่าควรให้กินอาหารแค่ไหน ก็ตอบไม่ตรงกัน บ้างก็บอกกินปลาได้ บ้างก็บอกไม่ได้
- เจอหมอจบใหม่แถวบ้าน ถามว่า ให้น้ำเกลือเข้าเส้นกับใต้ผิวหนัง แบบไหนดีกว่ากัน หมอตอบว่า เหมือนกัน ยังไงก็ได้
- ถามหมอว่า กินปลาได้เท่าไรต่อวัน หมอบอก กินปลาไม่เป็นอันตราย กินเท่าไรก็ได้
3. วันนี้ไปอีก รพ. นึง เจอหมอท่านนึง อายุพอสมควร หมอก็บอกว่า ทำไมไม่ตรวจฉี่แต่แรก และจนถึงวันนี้ก็ยังไม่ตรวจฉี่
- ไม่เคยวัดความดันเลย ที่ รพ. เอกชนขนาดใหญ่แห่งหนึ่ง ที่ค่ารักษาแพงพอควร (สรุปความดัน 150)
- ไม่เคยวัดฟอสฟอรัสเลย
- ไม่เคยตรวจความเข้มของเลือด (เรียกถูกรึเปล่าไม่แน่ใจ) แต่สรุป เลือดเกือบจางแล้ว ได้ค่า 3.1 (ไม่ควรต่ำกว่า 3)
จริงๆ ยังมีอีกหลายๆ อย่างที่รู้สึกว่า ยิ่งคุยกับหมอ ยิ่งรู้ว่า หมอบางท่านไม่ได้รู้รอบด้าน ใส่ใจรอบด้าน
ผมไม่แน่ใจว่า คุณภาพสัตวแพทย์อยู่ตรงไหน ต้องวัดยังไง
ผมเข้าใจว่า แนวทางการรักษาแต่ละท่านอาจต่างกัน แต่อย่างน้อยหมอแต่ละท่าน ควรเข้าใจในหลักการพื้นฐานเหมือนกัน
ทำไมหมอท่านนึงรู้ว่า ควรทำอะไรตั้งแต่ทีแรก แต่หมออีกท่านไม่รู้ (แต่อันนี้ก็พูดลำบาก หมอท่านที่รู้ อาจรู้ว่าควรทำอะไร เพราะรู้แล้วว่าเป็นอะไรก็ได้)
ทั้งหมดอยากบอกคุณหมอทุกท่านว่า กรุณาหมั่นศึกษาปรับปรุงความรู้ให้อัพเดต สนใจ และตั้งใจ และเอาใจใส่ สัตว์เลี้ยงทุกตัว
ถ้าไม่มั่นใจ กรุณาแจ้งว่าไม่มั่นใจ
ถ้ามั่นใจ โดยที่รู้ว่าตนเองไม่ได้เก่ง (ผมเชื่อว่า มีหมอที่เก่งและไม่เก่ง ก็คงเหมือนกับทุกวิชาชีพ) กรุณาทำการบ้านให้เยอะ ศึกษาให้มากขึ้น เช็กให้ละเอียดขึ้น
ผมไม่อยากฟ้องหมอ ไม่คิดจะฟ้องหมอ
จริงๆ น้องหมาตัวก่อน เคยมีปัญหาแบบเดียวกันกับอีก รพ. นึง ในเมือง
น้องอาการหนัก หมอเด็กอ่านค่าเลือด บอกปกติดี ผมเอาค่ากลับมา นั่งไล่ดูทีละตัว พบว่า ผิดปกติขั้นร้ายแรง
ต้องวิ่งกลับไปเจอหมอใหญ่ หมอเค้าขอโทษใหญ่ บอกว่า หมอเด็กดูไม่รอบคอบ ??
ท้ายสุด 2 วันหลังจากนั้น น้องหมาผมตาย ช่วยไม่ทัน ...
หมดค่ารักษาไป 4 หมื่นกว่าบาท เจ็บใจทั้งน้ำตา
อยากให้หมอ ทำตัวเป็นหมอ
ตอนนี้น้องหมาค่าไต 4 กว่า และค่าของเสีย 200 กว่าๆ
1. ตรวจสุขภาพมาตลอด ล่าสุดตรวจ 6 เดือนที่แล้ว ค่าไตปกติ .. ผ่านมา 6 เดือน บอกเป็นไตวายเรื้อรัง .. จริงๆ ถ้าหมอตรวจอย่างอื่นร่วมด้วยตั้งแต่ตอนนั้น ก็น่าจะดี เช่น ตรวจฉี่ ; อาการตอน 6 เดือนก่อน มีอาการฉี่เยอะ กินน้ำเยอะ ฯลฯ ที่แทบจะเข้าข่ายโรคไตทั้งนั้น แต่หมอไปสงสัยโรคอื่น ไปโฟกัสโรคอื่น
ผมอยากให้หมอช่วยตรวจให้ครบๆ หรืออย่างน้อยก็แจ้งหน่อยก็ดีว่า ควรตรวจโน่นนี่นั่นถ้าอยากให้ชัวร์ ให้เราเป็นคนตัดสินใจเอง มีเงินก็ตรวจ ไม่มีเงินก็ไม่ตรวจ
2. หมอตาม รพ. เอกชน ที่ว่ากันว่าดี ส่วนใหญ่จบใหม่ ประสบการณ์ไม่เยอะ ทำให้ผมเจอหลายอย่างที่ข้อมูลไม่ตรงกันแบบสุดๆ เช่น
- น้องหมาตัวสั่นตอนให้น้ำเกลือ คนนึงบอกว่าหนาว คนนึงบอกว่าเป็นเพราะปวดท้อง โรคตับอ่อน (น้องหมาเป็นด้วย ซึ่งน่าจะมาจากโรคไต)
- ค่าไตจาก 3 กว่า ขึ้นไป 4 กว่า ภายใน 4 วัน หมอบอกว่า ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ให้น้ำเกลือเข้าเส้นเลือดที่ รพ. ทุกวัน แต่ไม่ได้ค้าง เพราะหมาเครียด
- หมอเปลี่ยนวิธีรักษา เป็นให้น้ำเกลือใต้ผิวหนังเช้าเย็น ค่าไตคงที่ 4 กว่า ค่าของเสียลดลงนิดหน่อย
- ถามหมอแต่ละคน ว่าควรให้กินน้ำแค่ไหน ตอบไม่เคยตรงกันสักคน
- ถามหมอแต่ละคน ว่าควรให้กินอาหารแค่ไหน ก็ตอบไม่ตรงกัน บ้างก็บอกกินปลาได้ บ้างก็บอกไม่ได้
- เจอหมอจบใหม่แถวบ้าน ถามว่า ให้น้ำเกลือเข้าเส้นกับใต้ผิวหนัง แบบไหนดีกว่ากัน หมอตอบว่า เหมือนกัน ยังไงก็ได้
- ถามหมอว่า กินปลาได้เท่าไรต่อวัน หมอบอก กินปลาไม่เป็นอันตราย กินเท่าไรก็ได้
3. วันนี้ไปอีก รพ. นึง เจอหมอท่านนึง อายุพอสมควร หมอก็บอกว่า ทำไมไม่ตรวจฉี่แต่แรก และจนถึงวันนี้ก็ยังไม่ตรวจฉี่
- ไม่เคยวัดความดันเลย ที่ รพ. เอกชนขนาดใหญ่แห่งหนึ่ง ที่ค่ารักษาแพงพอควร (สรุปความดัน 150)
- ไม่เคยวัดฟอสฟอรัสเลย
- ไม่เคยตรวจความเข้มของเลือด (เรียกถูกรึเปล่าไม่แน่ใจ) แต่สรุป เลือดเกือบจางแล้ว ได้ค่า 3.1 (ไม่ควรต่ำกว่า 3)
จริงๆ ยังมีอีกหลายๆ อย่างที่รู้สึกว่า ยิ่งคุยกับหมอ ยิ่งรู้ว่า หมอบางท่านไม่ได้รู้รอบด้าน ใส่ใจรอบด้าน
ผมไม่แน่ใจว่า คุณภาพสัตวแพทย์อยู่ตรงไหน ต้องวัดยังไง
ผมเข้าใจว่า แนวทางการรักษาแต่ละท่านอาจต่างกัน แต่อย่างน้อยหมอแต่ละท่าน ควรเข้าใจในหลักการพื้นฐานเหมือนกัน
ทำไมหมอท่านนึงรู้ว่า ควรทำอะไรตั้งแต่ทีแรก แต่หมออีกท่านไม่รู้ (แต่อันนี้ก็พูดลำบาก หมอท่านที่รู้ อาจรู้ว่าควรทำอะไร เพราะรู้แล้วว่าเป็นอะไรก็ได้)
ทั้งหมดอยากบอกคุณหมอทุกท่านว่า กรุณาหมั่นศึกษาปรับปรุงความรู้ให้อัพเดต สนใจ และตั้งใจ และเอาใจใส่ สัตว์เลี้ยงทุกตัว
ถ้าไม่มั่นใจ กรุณาแจ้งว่าไม่มั่นใจ
ถ้ามั่นใจ โดยที่รู้ว่าตนเองไม่ได้เก่ง (ผมเชื่อว่า มีหมอที่เก่งและไม่เก่ง ก็คงเหมือนกับทุกวิชาชีพ) กรุณาทำการบ้านให้เยอะ ศึกษาให้มากขึ้น เช็กให้ละเอียดขึ้น
ผมไม่อยากฟ้องหมอ ไม่คิดจะฟ้องหมอ
จริงๆ น้องหมาตัวก่อน เคยมีปัญหาแบบเดียวกันกับอีก รพ. นึง ในเมือง
น้องอาการหนัก หมอเด็กอ่านค่าเลือด บอกปกติดี ผมเอาค่ากลับมา นั่งไล่ดูทีละตัว พบว่า ผิดปกติขั้นร้ายแรง
ต้องวิ่งกลับไปเจอหมอใหญ่ หมอเค้าขอโทษใหญ่ บอกว่า หมอเด็กดูไม่รอบคอบ ??
ท้ายสุด 2 วันหลังจากนั้น น้องหมาผมตาย ช่วยไม่ทัน ...
หมดค่ารักษาไป 4 หมื่นกว่าบาท เจ็บใจทั้งน้ำตา