 จะไปถึงภูเขาหิมะฮาปาได้ เราต้องเดินทางยังไงกันนะ ?(ภาพจากอินเตอร์เน็ต)
จะไปถึงภูเขาหิมะฮาปาได้ เราต้องเดินทางยังไงกันนะ ?(ภาพจากอินเตอร์เน็ต)
ความเดิมจากตอนที่แล้ว: 
https://pantip.com/topic/37029227
หลังจากที่ผมได้ข้อมูลของภูเขาหิมะฮาปามาพอสมควรแล้ว ก็ถึงเวลาที่จะไปลองของจริงกันล่ะครับ
ผมเริ่มรู้จักภูเขาฮาปาครั้งแรกก็เมื่อตอนที่ผมไปเที่ยวย่าติงเมื่อปี 2014 ระหว่างที่ผมนั่งรถกลับจากแชงกรีล่า บนถนนเส้นนั้นจะมองเห็นภูเขาฮาปาอยู่ไกล ๆ 
ในตอนนั้น ผมก็แค่เมียงมอง แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมากมาย อาจเป็นเพราะเพิ่งกลับมาจากย่าติง ที่ซึ่งมีภูเขาหิมะให้ผมมองจนเต็มอิ่มถึงสามลูกด้วยกัน เรียกว่ากำลังเอียนภูเขาหิมะเต็มทน ก็ว่าได้ --"
 ย่าติงมีภูเขาหิมะล้อมรอบถึง 3 ลูก
ย่าติงมีภูเขาหิมะล้อมรอบถึง 3 ลูก
ป.ล.ผมเคยเขียนถึงตอนไปเที่ยวย่าติงนิดหน่อยครับ ลองอ่านกันดูเล่น ๆ ได้ครับ:
https://pantip.com/topic/33010287?
พอกลับมาถึงเมืองไทย ผมก็ลืม ๆ ฮาปาไป…..
หลังจากนั้นไม่นาน ในFB ของผมก็มีfeedภาพเนินหิมะขาว ๆ สวยงามเอามาก ๆ โดยคนโพสระบุว่าเป็นภูเขาหิมะในประเทศจีน ผมเลยสอบถามไปว่า มันคือที่ไหน เขาบอกว่า เป็นภูเขาหิมะฮาปานี่เอง !
ผมจึงลองเสิรชหาข้อมูล(ภาษาจีน) ถึงได้รู้ว่า ภูเขาแห่งนี้สูง 5396 เมตร และสามารถปีนขึ้นถึงยอดได้ มีนักปีนเขาสมัครเล่นชาวจีนไปเยือนปีละหลายร้อยหลายพันคน มามากกว่ายี่สิบปีแล้ว
แล้วผมก็ลองเสิรชหาข้อมูลภูเขาหิมะฮาปาเป็นภาษาไทย เผื่อว่าจะมีคนไทยคนไหนเคยไปปูทางเอาไว้บ้าง แต่แล้ว ผมก็ได้ค้นพบว่า…..ไม่มีเลยแม้แต่นิดเดียว –” 
พอผมเสิรชคำว่า "ฮาปา" google จะรีบบอกเลยว่า "หรือคุณหมายถึง ซาปา" ไปซะงั้น เพราะว่าซาปา(แหล่งเที่ยวยอดฮิตของเวียดนาม) มีข้อมูลอยู่เต็มไปหมด
นั่นจึงอาจบอกเป็นนัย ๆ ได้ว่า คนไทยคงแทบไม่เคยไปเยือนภูเขาแห่งนี้เลย จะว่าไม่มีเลยก็คงเป็นไปไม่ได้ แต่ผมคิดว่า คงมีแค่เป็นหลักสิบคนเท่านั้น
 เสริช "ฮาปา" แต่google บอกเป็น"ซาปา" ซะงั้น
เสริช "ฮาปา" แต่google บอกเป็น"ซาปา" ซะงั้น
ผมหาข้อมูลทีเล่นทีจริงอยู่สักพักหนึ่ง ลองเสริชหาเอเยนต์ฝั่งจีนที่รับจัดทริปปีนภูเขาฮาปา แต่ก็หาช่องทางติดต่อไม่ได้เลย ผมเลยพับโครงการไปก่อน ก็ลืม ๆ ฮาปาไป
แต่มาในปีนี้(2017) ในเดือนพฤษภาคม ผมได้ติดสอยห้อยตามพรรคพวกไปเยือนABCที่เนปาล ผมประทับใจกับการเดินตามหุบเขาหิมะของเส้นทางนี้มาก สวยงามและยิ่งใหญ่อย่างเหลือเชื่อ 
แต่ยังไงABCก็ไม่ใช่การเดินไปสู่ยอดเขา.. 
ผมจึงเริ่มคิดถึงหนทางที่จะสัมผัสยอดเขาหิมะให้ได้ซักครั้งในชีวิต(แบบไม่ยากลำบากนัก เพราะผมเป็นนักเดินเขาตัวปลอมน่ะนะ –") ใจผมเลยหวนกลับมาคิดถึงฮาปาอีกครั้งหนึ่ง.. 
ผมกลับมาเสิรชหาข้อมูลฮาปาอย่างจริงจังอีกครั้ง และแล้วครั้งนี้ผมก็หาทางติดต่อกับเอเยนต์ทางจีนได้อย่างที่หวังเอาไว้ ผมจึงรวบรวมสมัครพรรคพวก(กลุ่มที่ไปABCด้วยกันนั่นแหล่ะ) และกำหนดวันเดินทางไว้ที่ปลายปีนี้ 
และเรื่องราวต่อจากนี้ ก็คือบันทึกการเดินทางไปภูเขาหิมะฮาปาของพวกเราครับ ^^
วันพุธที่ 18 ตุลาคม 2017 – เป้าหมายอยู่ที่ต้าหลี่
ผมเลือกที่จะเริ่มเดินทางในวันธรรมดา เพราะอยากจะหนีช่วงสุดสัปดาห์เอาไว้ เหตุผลก็เพราะ ต้องการหลีกเลี่ยงนักเดินเขาชาวจีน (คนจีนมีเยอะ ดังนั้น ถึงจะไม่ใช่วันหยุดยาวของคนจีน เราก็ควรหลีกเลี่ยงวันเสาร์-อาทิตย์ไว้ก่อนจะเป็นการดี)
พวกเราออกบินจากสุวรรณภูมิราว ๆ ตีสามและถึงสนามบินฉางสุ่ย(长水机场)ของคุนหมิง(昆明)ราว ๆ หกโมงเช้า เมื่อออกจากสนามบิน เราก็รีบซื้อตั๋วรถบัสต่อไปยังสถานีรถตะวันตก(西部客运站)ในทันที ค่ารถคนละ 13 หยวน(65 บาท) ใช้เวลาชม.นิด ๆ ก็ถึงสถานีรถตะวันตกซึ่งเป็นสถานีสุดท้ายพอดี
 นั่งรถบัส เส้นทาง 918B1 ลงป้ายสุดท้ายจะเป็นสถานีรถตะวันตกพอดี
นั่งรถบัส เส้นทาง 918B1 ลงป้ายสุดท้ายจะเป็นสถานีรถตะวันตกพอดี
พอพวกเรามาถึงสถานีรถตะวันตก ผมก็รีบดิ่งไปยังเคาเตอร์ซื้อตั๋วไปยังต้าหลี่(大理)
ป.ล. หลายคนอาจสงสัยว่า ทำไมไม่ไปลี่เจียง(丽江)ที่ใกล้ฮาปา(哈巴)มากกว่า มาต้าหลี่ก่อนทำไม เหตุผลคือ เวลามันไม่ค่อยจะลงตัวครับ จากคุนหมิงไปลี่เจียง ผมก็อยากจะบินต่อเลย แต่เวลาเครื่องบินมันกระชั้นชิดเกินไป ผมเลยตัดสินใจนั่งรถมาต้าหลี่ก่อนดีกว่า
ตอนผมกำลังจะไปต่อแถวซื้อตั๋วรถไปต้าหลี่ จู่ ๆ ก็มีลุงคนนึงมาถามว่า จะไปเมืองเก่าต้าหลี่(大理古城)ใช่ไหม ผมก็นึกว่า คงเป็นพวกรถผี(รถรับจ้างทั่วไป)มาหาลูกค้า แต่เขาบอกว่า ต้องซื้อตั๋วในสถานีนี่แหล่ะ ถึงจะไปรถเขาได้ รถของเขาก็อยู่ในสถานี ผมก็งง ๆ ว่านี่มันรถอะไรกันแน่
สุดท้ายก็ตกลงไปกับเขา เพราะดูเชื่อถือได้ ค่ารถก็แพงกว่าปกติหน่อยนึง เพราะรถไปถึงเมืองเก่าต้าหลี่ ไปไกลกว่ารถทั่วไปที่ส่งถึงแค่เซี่ยกวน(下关) ซึ่งเป็นแค่เมืองใหม่ของต้าหลี่ ค่ารถ 160 หยวน(800บาท)ต่อคน (มีรวมค่าประกันภัยด้วยหรือไงนี่แหล่ะ) 
พวกเรานั่งรถอยู่ราว ๆ ห้าชม.ก็มาถึงเมืองเก่าต้าหลี่ จากนั้นก็เดินไปยังโรงแรมที่เพื่อนของผมจองเอาไว้แล้ว โดยโรงแรมนี้จะไม่ได้อยู่ฝั่งเมืองเก่า แต่จะอยู่ตรงข้ามเมืองเก่า ในอีกฝั่งถนน 
 ที่พักชื่อ Old Town of Dali guanshan jiayuan boutique hotel(大理观山嘉苑精品客栈)
ที่พักชื่อ Old Town of Dali guanshan jiayuan boutique hotel(大理观山嘉苑精品客栈)
 เจ้าของโรงแรมเป็นสาวอายุแค่ 25 แต่งตัวก็ติสต์ แต่งโรงแรมก็ติสต์
เจ้าของโรงแรมเป็นสาวอายุแค่ 25 แต่งตัวก็ติสต์ แต่งโรงแรมก็ติสต์
ที่พักแห่งนี้จะอยู่แถวตีนเทือกเขาชางซาน(苍山) ซึ่งปัจจุบันมีบ้านเรือนอยู่เต็มไปหมด ตอนผมมาที่เมืองเก่าต้าหลี่เมื่อ 14 ปีก่อน แถวตีนเขายังไม่มีสิ่งก่อสร้างใด ๆ เลย เรียกว่าผิดหูผิดตาลิบลับ แต่โดยรวม ก็ยังถือเป็นเมืองที่ค่อนข้างจะสงบ(วุ่นวายน้อยกว่าลี่เจียงอยู่เยอะ)
 ถ่ายจากดาดฟ้าโรงแรมไปด้านหลังก็จะเห็นเทือกเขาชางซาน(ที่หมอกบังอยู่นั่นแหล่ะ –")
ถ่ายจากดาดฟ้าโรงแรมไปด้านหลังก็จะเห็นเทือกเขาชางซาน(ที่หมอกบังอยู่นั่นแหล่ะ –")
 สบาย ๆ ที่เมืองเก่าต้าหลี่ ก่อนไปลำบาก(หนัก)ที่ฮาปา
สบาย ๆ ที่เมืองเก่าต้าหลี่ ก่อนไปลำบาก(หนัก)ที่ฮาปา
หลังจากพวกเราเอ็นจอยกับเมืองเก่าต้าหลี่ยามค่ำคืนไปพอสมควร พวกเราก็เดินกลับมายังที่พัก พอมาถึง เราก็พบกับคนขับรถที่จะพาเราไปหมู่บ้านฮาปาที่มานั่งรออยู่นานแล้ว ผมแนะนำตัวเบื้องต้นกับเขาไปก่อน และนัดแนะเวลาที่จะออกเดินทางในวันพรุ่งนี้ จากนั้นก็แยกย้ายกันพักผ่อน
ป.ล. การที่รถมารับพวกผมถึงต้าหลี่ จริง ๆ แล้วมันอยู่นอกเหนือจากแพ๊คเกจปีนเขา(ปกติเขาจะไปรับที่ลี่เจียง) ผมเลยต้องจ่ายค่ารถเพิ่มอีกพันหยวน(ห้าพันบาท) ให้เขาครับ
วันพฤหัสที่ 19 ตุลาคม 2017 – ออกเดินทางสู่หมู่บ้านฮาปา
ในตอนเช้า ก่อนที่พวกเราจะเดินทางไปหมู่บ้านฮาปา มีเรื่องให้วุ่นวายนิดหน่อย นั่นก็คือ ผมต้องไปซื้อตั๋วรถไฟขากลับ จากลี่เจียงไปคุนหมิง ในวันที่ 23 ตุลาคม เสียก่อน
ก่อนหน้าจะมา ผมวางแผนไว้ว่าจะไปซื้อตั๋วรถไฟที่สถานีรถไฟต้าหลี่(ซึ่งอยู่แถวเมืองใหม่) แต่เพราะนั่งรถมาลงเมืองเก่าโดยตรง ก็เลยต้องเปลี่ยนแผน หาที่ซื้อตั๋วแถวเมืองเก่าแทน
สอบถามจากเจ้าของโรงแรม ได้ความว่า ในเมืองเก่าต้าหลี่มีที่ ๆ สามารถจองตั๋วรถไฟได้ คือที่ศูนย์ช่วยเหลือนักท่องเที่ยวของเมืองเก่าต้าหลี่(大理古城游客中心)โดยจะอยู่บริเวณประตูเมืองใต้ 
 ประตูเมืองใต้อยู่ห่างจากที่พักผมราว 1 กิโลได้
ประตูเมืองใต้อยู่ห่างจากที่พักผมราว 1 กิโลได้
พอดีผมไม่ได้ถ่ายรูปสถานที่ซื้อมาซะด้วย  เขาเปิดให้จองตั๋วได้ตั้งแต่ 8.30 – 19.00 (เมื่อวานเย็นผมไปไม่ทัน)
(อัพเดทข้อมูล 6-6-2018, ปัจจุบัน สถานที่ซื้อตั๋วรถไฟในเมืองเก่าต้าหลี่ยกเลิกไปแล้วนะครับ ล่าสุด ถ้าจะซื้อตั๋วรถไฟ ต้องนั่งรถเมล์ไปสถานีรถไฟต้าหลี่เพื่อซื้อตั๋วแล้ว --")
ป.ล. การซื้อตั๋วรถไฟที่จีนสำหรับคนไทยแล้ว ต้องใช้เวลากันพอสมควร เพราะพนักงานต้องพิมพ์ชื่อเรา(ชื่อคนไทยก็ยาวกันเหลือเกิน–“) แล้วกลุ่มผมมี 12 คน กว่าจะเสร็จปาไปครึ่งชม. ถ้าใครจะซื้อตั๋วหลายใบแบบผม เผื่อเวลาหน่อยก็ดีนะครับ
 ได้ตั๋วแล้วก็อุ่นใจว่า ได้กลับแน่ ๆ
ได้ตั๋วแล้วก็อุ่นใจว่า ได้กลับแน่ ๆ
เมื่อจัดการธุระเรียบร้อย รถของพวกเราก็ออกเดินทางไปยังหมู่บ้านฮาปาโดยตรงทันที ตอนแรกผมจะให้เขาขับเรียบทะเลสาบเอ๋อไห่(洱海) จะได้ชมวิวไปด้วย แต่เพราะว่าเราเสียเวลาจองตั๋วรถไฟไปมากแล้ว เลยตรงไปฮาปาเลยดีกว่า
 ที่อยู่ข้างรถคือคนขับนะครับ ชื่อเฮียหลิว
ที่อยู่ข้างรถคือคนขับนะครับ ชื่อเฮียหลิว
 รถคันนี้นั่งได้ เต็มที่ 19 คน พวกเราเลยนั่งกันสบายเลย
รถคันนี้นั่งได้ เต็มที่ 19 คน พวกเราเลยนั่งกันสบายเลย
การไปหมู่บ้านฮาปา(哈巴村)นั้น เราต้องผ่านไปทางหุบเขาเสือกระโจน(虎跳峡) เหตุผลก็เพราะว่า หมู่บ้านฮาปาเป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติเสือกระโจนนั่นเอง ดังนั้นเราจึงต้องเสียค่าเข้าอุทยานเสือกระโจนด้วยครับ แต่ไม่ต้องเป็นห่วง เพราะในแพ๊คเกจปีนภูเขาฮาปาได้รวมค่าใช้จ่ายส่วนนี้เอาไว้แล้ว 
 คนละ 65 หยวน(325 บาท) ผมต้องออกเงินไปก่อน เดี๋ยวค่อยไปหักคืนกับเอเยนต์อีกที
คนละ 65 หยวน(325 บาท) ผมต้องออกเงินไปก่อน เดี๋ยวค่อยไปหักคืนกับเอเยนต์อีกที
 ไหน ๆ ก็ผ่านมาแล้ว แวะชมหินกลางน้ำเลื่องชื่อของหุบเขาเสือกระโจนอีกซักรอบ (รอบที่สามของผมล่ะ)
ไหน ๆ ก็ผ่านมาแล้ว แวะชมหินกลางน้ำเลื่องชื่อของหุบเขาเสือกระโจนอีกซักรอบ (รอบที่สามของผมล่ะ)
 ทิวทัศน์ของหุบเขาเสือกระโจนยังงดงามเหมือนอย่างเคย
ทิวทัศน์ของหุบเขาเสือกระโจนยังงดงามเหมือนอย่างเคย
พวกเราถึงหมู่บ้านฮาปาราว ๆ ห้าโมงเย็น โดยใช้เวลานั่งรถราว 7-8 ชม. อากาศดีงาม ท้องฟ้าโปร่งใส อากาศเย็นสบายกำลังดี
 เอาของลง เข้าที่พัก
เอาของลง เข้าที่พัก
 ที่นอนสะอาดและเรียบง่าย
ที่นอนสะอาดและเรียบง่าย
 ป้ายหน้าที่พักของเรา
ป้ายหน้าที่พักของเรา
 บริเวณที่รับประทานอาหาร
บริเวณที่รับประทานอาหาร
 ภาพของเหล่าผู้พิชิตยอดเขาฮาปา
ภาพของเหล่าผู้พิชิตยอดเขาฮาปา
 ธงของทีมปีนเขาต่าง ๆ มากมาย
ธงของทีมปีนเขาต่าง ๆ มากมาย
ทางที่พักนัดเวลากินข้าวเย็นตอนหกโมงครึ่ง พวกเราจึงต้องหาอะไรฆ่าเวลา บ้างก็ไปอาบน้ำ บ้างก็เดินเล่น บ้างก็เล่นwifi(เน็ตไม่ค่อยดีครับ เล่นได้บ้างไม่ได้บ้าง)
 ขาว ๆ นั่นคือยอดเขาหิมะฮาปา มองจากทางหมู่บ้านจะไม่เห็นชัดซักเท่าไหร่
ขาว ๆ นั่นคือยอดเขาหิมะฮาปา มองจากทางหมู่บ้านจะไม่เห็นชัดซักเท่าไหร่
อาหารเย็นของพวกเรา ทางที่พักก็จัดเต็มให้เลยครับ กินกันท้องจะแตก เป็นอาหารง่าย ๆ บ้าน ๆ แต่อร่อย
 อาหารก็อยู่ในแพ็คเกจนะครับ ไม่ต้องจ่ายเพิ่ม
อาหารก็อยู่ในแพ็คเกจนะครับ ไม่ต้องจ่ายเพิ่ม
 นอกจากพวกเรา ก็มีคนจีนสองคนนี้ที่จะขึ้นเขาในวันรุ่งขึ้น
นอกจากพวกเรา ก็มีคนจีนสองคนนี้ที่จะขึ้นเขาในวันรุ่งขึ้น
หลังอิ่มหนำกันเสร็จแล้ว ทางที่พักก็นัดประชุมกับพวกเราตอนสองทุ่ม โดยมีหัวหน้าไกด์และภรรยาของเขาเป็นคนอภิปรายเกี่ยวกับการปีนเขา(ผมเป็นคนคอยแปลให้เพื่อน ๆ ฟัง)
 เฮียซื่อ(四哥) หัวหน้าไกด์ผู้มีประสบการณ์โชกโชน ขึ้นยอดเขาฮาปามาแล้วกว่าสองพันครั้ง
เฮียซื่อ(四哥) หัวหน้าไกด์ผู้มีประสบการณ์โชกโชน ขึ้นยอดเขาฮาปามาแล้วกว่าสองพันครั้ง
 ซ๊อซื่อ(四嫂) คนคอยประสานงานกับผมทุกเรื่อง ดูแลพวกเราดีมากครับ ประทับใจอาซ๊อมาก
ซ๊อซื่อ(四嫂) คนคอยประสานงานกับผมทุกเรื่อง ดูแลพวกเราดีมากครับ ประทับใจอาซ๊อมาก																																	  
							 
						
ภูเขาหิมะฮาปา ตอนที่ 2.1: บนเส้นทางสู่หมู่บ้านฮาปา
จะไปถึงภูเขาหิมะฮาปาได้ เราต้องเดินทางยังไงกันนะ ?(ภาพจากอินเตอร์เน็ต)
ความเดิมจากตอนที่แล้ว: https://pantip.com/topic/37029227
หลังจากที่ผมได้ข้อมูลของภูเขาหิมะฮาปามาพอสมควรแล้ว ก็ถึงเวลาที่จะไปลองของจริงกันล่ะครับ
ผมเริ่มรู้จักภูเขาฮาปาครั้งแรกก็เมื่อตอนที่ผมไปเที่ยวย่าติงเมื่อปี 2014 ระหว่างที่ผมนั่งรถกลับจากแชงกรีล่า บนถนนเส้นนั้นจะมองเห็นภูเขาฮาปาอยู่ไกล ๆ
ในตอนนั้น ผมก็แค่เมียงมอง แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมากมาย อาจเป็นเพราะเพิ่งกลับมาจากย่าติง ที่ซึ่งมีภูเขาหิมะให้ผมมองจนเต็มอิ่มถึงสามลูกด้วยกัน เรียกว่ากำลังเอียนภูเขาหิมะเต็มทน ก็ว่าได้ --"
ย่าติงมีภูเขาหิมะล้อมรอบถึง 3 ลูก
ป.ล.ผมเคยเขียนถึงตอนไปเที่ยวย่าติงนิดหน่อยครับ ลองอ่านกันดูเล่น ๆ ได้ครับ:
https://pantip.com/topic/33010287?
พอกลับมาถึงเมืองไทย ผมก็ลืม ๆ ฮาปาไป…..
หลังจากนั้นไม่นาน ในFB ของผมก็มีfeedภาพเนินหิมะขาว ๆ สวยงามเอามาก ๆ โดยคนโพสระบุว่าเป็นภูเขาหิมะในประเทศจีน ผมเลยสอบถามไปว่า มันคือที่ไหน เขาบอกว่า เป็นภูเขาหิมะฮาปานี่เอง !
ผมจึงลองเสิรชหาข้อมูล(ภาษาจีน) ถึงได้รู้ว่า ภูเขาแห่งนี้สูง 5396 เมตร และสามารถปีนขึ้นถึงยอดได้ มีนักปีนเขาสมัครเล่นชาวจีนไปเยือนปีละหลายร้อยหลายพันคน มามากกว่ายี่สิบปีแล้ว
แล้วผมก็ลองเสิรชหาข้อมูลภูเขาหิมะฮาปาเป็นภาษาไทย เผื่อว่าจะมีคนไทยคนไหนเคยไปปูทางเอาไว้บ้าง แต่แล้ว ผมก็ได้ค้นพบว่า…..ไม่มีเลยแม้แต่นิดเดียว –”
พอผมเสิรชคำว่า "ฮาปา" google จะรีบบอกเลยว่า "หรือคุณหมายถึง ซาปา" ไปซะงั้น เพราะว่าซาปา(แหล่งเที่ยวยอดฮิตของเวียดนาม) มีข้อมูลอยู่เต็มไปหมด
นั่นจึงอาจบอกเป็นนัย ๆ ได้ว่า คนไทยคงแทบไม่เคยไปเยือนภูเขาแห่งนี้เลย จะว่าไม่มีเลยก็คงเป็นไปไม่ได้ แต่ผมคิดว่า คงมีแค่เป็นหลักสิบคนเท่านั้น
เสริช "ฮาปา" แต่google บอกเป็น"ซาปา" ซะงั้น
ผมหาข้อมูลทีเล่นทีจริงอยู่สักพักหนึ่ง ลองเสริชหาเอเยนต์ฝั่งจีนที่รับจัดทริปปีนภูเขาฮาปา แต่ก็หาช่องทางติดต่อไม่ได้เลย ผมเลยพับโครงการไปก่อน ก็ลืม ๆ ฮาปาไป
แต่มาในปีนี้(2017) ในเดือนพฤษภาคม ผมได้ติดสอยห้อยตามพรรคพวกไปเยือนABCที่เนปาล ผมประทับใจกับการเดินตามหุบเขาหิมะของเส้นทางนี้มาก สวยงามและยิ่งใหญ่อย่างเหลือเชื่อ
แต่ยังไงABCก็ไม่ใช่การเดินไปสู่ยอดเขา..
ผมจึงเริ่มคิดถึงหนทางที่จะสัมผัสยอดเขาหิมะให้ได้ซักครั้งในชีวิต(แบบไม่ยากลำบากนัก เพราะผมเป็นนักเดินเขาตัวปลอมน่ะนะ –") ใจผมเลยหวนกลับมาคิดถึงฮาปาอีกครั้งหนึ่ง..
ผมกลับมาเสิรชหาข้อมูลฮาปาอย่างจริงจังอีกครั้ง และแล้วครั้งนี้ผมก็หาทางติดต่อกับเอเยนต์ทางจีนได้อย่างที่หวังเอาไว้ ผมจึงรวบรวมสมัครพรรคพวก(กลุ่มที่ไปABCด้วยกันนั่นแหล่ะ) และกำหนดวันเดินทางไว้ที่ปลายปีนี้
และเรื่องราวต่อจากนี้ ก็คือบันทึกการเดินทางไปภูเขาหิมะฮาปาของพวกเราครับ ^^
วันพุธที่ 18 ตุลาคม 2017 – เป้าหมายอยู่ที่ต้าหลี่
ผมเลือกที่จะเริ่มเดินทางในวันธรรมดา เพราะอยากจะหนีช่วงสุดสัปดาห์เอาไว้ เหตุผลก็เพราะ ต้องการหลีกเลี่ยงนักเดินเขาชาวจีน (คนจีนมีเยอะ ดังนั้น ถึงจะไม่ใช่วันหยุดยาวของคนจีน เราก็ควรหลีกเลี่ยงวันเสาร์-อาทิตย์ไว้ก่อนจะเป็นการดี)
พวกเราออกบินจากสุวรรณภูมิราว ๆ ตีสามและถึงสนามบินฉางสุ่ย(长水机场)ของคุนหมิง(昆明)ราว ๆ หกโมงเช้า เมื่อออกจากสนามบิน เราก็รีบซื้อตั๋วรถบัสต่อไปยังสถานีรถตะวันตก(西部客运站)ในทันที ค่ารถคนละ 13 หยวน(65 บาท) ใช้เวลาชม.นิด ๆ ก็ถึงสถานีรถตะวันตกซึ่งเป็นสถานีสุดท้ายพอดี
นั่งรถบัส เส้นทาง 918B1 ลงป้ายสุดท้ายจะเป็นสถานีรถตะวันตกพอดี
พอพวกเรามาถึงสถานีรถตะวันตก ผมก็รีบดิ่งไปยังเคาเตอร์ซื้อตั๋วไปยังต้าหลี่(大理)
ป.ล. หลายคนอาจสงสัยว่า ทำไมไม่ไปลี่เจียง(丽江)ที่ใกล้ฮาปา(哈巴)มากกว่า มาต้าหลี่ก่อนทำไม เหตุผลคือ เวลามันไม่ค่อยจะลงตัวครับ จากคุนหมิงไปลี่เจียง ผมก็อยากจะบินต่อเลย แต่เวลาเครื่องบินมันกระชั้นชิดเกินไป ผมเลยตัดสินใจนั่งรถมาต้าหลี่ก่อนดีกว่า
ตอนผมกำลังจะไปต่อแถวซื้อตั๋วรถไปต้าหลี่ จู่ ๆ ก็มีลุงคนนึงมาถามว่า จะไปเมืองเก่าต้าหลี่(大理古城)ใช่ไหม ผมก็นึกว่า คงเป็นพวกรถผี(รถรับจ้างทั่วไป)มาหาลูกค้า แต่เขาบอกว่า ต้องซื้อตั๋วในสถานีนี่แหล่ะ ถึงจะไปรถเขาได้ รถของเขาก็อยู่ในสถานี ผมก็งง ๆ ว่านี่มันรถอะไรกันแน่
สุดท้ายก็ตกลงไปกับเขา เพราะดูเชื่อถือได้ ค่ารถก็แพงกว่าปกติหน่อยนึง เพราะรถไปถึงเมืองเก่าต้าหลี่ ไปไกลกว่ารถทั่วไปที่ส่งถึงแค่เซี่ยกวน(下关) ซึ่งเป็นแค่เมืองใหม่ของต้าหลี่ ค่ารถ 160 หยวน(800บาท)ต่อคน (มีรวมค่าประกันภัยด้วยหรือไงนี่แหล่ะ)
พวกเรานั่งรถอยู่ราว ๆ ห้าชม.ก็มาถึงเมืองเก่าต้าหลี่ จากนั้นก็เดินไปยังโรงแรมที่เพื่อนของผมจองเอาไว้แล้ว โดยโรงแรมนี้จะไม่ได้อยู่ฝั่งเมืองเก่า แต่จะอยู่ตรงข้ามเมืองเก่า ในอีกฝั่งถนน
ที่พักชื่อ Old Town of Dali guanshan jiayuan boutique hotel(大理观山嘉苑精品客栈)
เจ้าของโรงแรมเป็นสาวอายุแค่ 25 แต่งตัวก็ติสต์ แต่งโรงแรมก็ติสต์
ที่พักแห่งนี้จะอยู่แถวตีนเทือกเขาชางซาน(苍山) ซึ่งปัจจุบันมีบ้านเรือนอยู่เต็มไปหมด ตอนผมมาที่เมืองเก่าต้าหลี่เมื่อ 14 ปีก่อน แถวตีนเขายังไม่มีสิ่งก่อสร้างใด ๆ เลย เรียกว่าผิดหูผิดตาลิบลับ แต่โดยรวม ก็ยังถือเป็นเมืองที่ค่อนข้างจะสงบ(วุ่นวายน้อยกว่าลี่เจียงอยู่เยอะ)
ถ่ายจากดาดฟ้าโรงแรมไปด้านหลังก็จะเห็นเทือกเขาชางซาน(ที่หมอกบังอยู่นั่นแหล่ะ –")
สบาย ๆ ที่เมืองเก่าต้าหลี่ ก่อนไปลำบาก(หนัก)ที่ฮาปา
หลังจากพวกเราเอ็นจอยกับเมืองเก่าต้าหลี่ยามค่ำคืนไปพอสมควร พวกเราก็เดินกลับมายังที่พัก พอมาถึง เราก็พบกับคนขับรถที่จะพาเราไปหมู่บ้านฮาปาที่มานั่งรออยู่นานแล้ว ผมแนะนำตัวเบื้องต้นกับเขาไปก่อน และนัดแนะเวลาที่จะออกเดินทางในวันพรุ่งนี้ จากนั้นก็แยกย้ายกันพักผ่อน
ป.ล. การที่รถมารับพวกผมถึงต้าหลี่ จริง ๆ แล้วมันอยู่นอกเหนือจากแพ๊คเกจปีนเขา(ปกติเขาจะไปรับที่ลี่เจียง) ผมเลยต้องจ่ายค่ารถเพิ่มอีกพันหยวน(ห้าพันบาท) ให้เขาครับ
วันพฤหัสที่ 19 ตุลาคม 2017 – ออกเดินทางสู่หมู่บ้านฮาปา
ในตอนเช้า ก่อนที่พวกเราจะเดินทางไปหมู่บ้านฮาปา มีเรื่องให้วุ่นวายนิดหน่อย นั่นก็คือ ผมต้องไปซื้อตั๋วรถไฟขากลับ จากลี่เจียงไปคุนหมิง ในวันที่ 23 ตุลาคม เสียก่อน
ก่อนหน้าจะมา ผมวางแผนไว้ว่าจะไปซื้อตั๋วรถไฟที่สถานีรถไฟต้าหลี่(ซึ่งอยู่แถวเมืองใหม่) แต่เพราะนั่งรถมาลงเมืองเก่าโดยตรง ก็เลยต้องเปลี่ยนแผน หาที่ซื้อตั๋วแถวเมืองเก่าแทน
สอบถามจากเจ้าของโรงแรม ได้ความว่า ในเมืองเก่าต้าหลี่มีที่ ๆ สามารถจองตั๋วรถไฟได้ คือที่ศูนย์ช่วยเหลือนักท่องเที่ยวของเมืองเก่าต้าหลี่(大理古城游客中心)โดยจะอยู่บริเวณประตูเมืองใต้
ประตูเมืองใต้อยู่ห่างจากที่พักผมราว 1 กิโลได้
พอดีผมไม่ได้ถ่ายรูปสถานที่ซื้อมาซะด้วย เขาเปิดให้จองตั๋วได้ตั้งแต่ 8.30 – 19.00 (เมื่อวานเย็นผมไปไม่ทัน)
(อัพเดทข้อมูล 6-6-2018, ปัจจุบัน สถานที่ซื้อตั๋วรถไฟในเมืองเก่าต้าหลี่ยกเลิกไปแล้วนะครับ ล่าสุด ถ้าจะซื้อตั๋วรถไฟ ต้องนั่งรถเมล์ไปสถานีรถไฟต้าหลี่เพื่อซื้อตั๋วแล้ว --")
ป.ล. การซื้อตั๋วรถไฟที่จีนสำหรับคนไทยแล้ว ต้องใช้เวลากันพอสมควร เพราะพนักงานต้องพิมพ์ชื่อเรา(ชื่อคนไทยก็ยาวกันเหลือเกิน–“) แล้วกลุ่มผมมี 12 คน กว่าจะเสร็จปาไปครึ่งชม. ถ้าใครจะซื้อตั๋วหลายใบแบบผม เผื่อเวลาหน่อยก็ดีนะครับ
ได้ตั๋วแล้วก็อุ่นใจว่า ได้กลับแน่ ๆ
เมื่อจัดการธุระเรียบร้อย รถของพวกเราก็ออกเดินทางไปยังหมู่บ้านฮาปาโดยตรงทันที ตอนแรกผมจะให้เขาขับเรียบทะเลสาบเอ๋อไห่(洱海) จะได้ชมวิวไปด้วย แต่เพราะว่าเราเสียเวลาจองตั๋วรถไฟไปมากแล้ว เลยตรงไปฮาปาเลยดีกว่า
ที่อยู่ข้างรถคือคนขับนะครับ ชื่อเฮียหลิว
รถคันนี้นั่งได้ เต็มที่ 19 คน พวกเราเลยนั่งกันสบายเลย
การไปหมู่บ้านฮาปา(哈巴村)นั้น เราต้องผ่านไปทางหุบเขาเสือกระโจน(虎跳峡) เหตุผลก็เพราะว่า หมู่บ้านฮาปาเป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติเสือกระโจนนั่นเอง ดังนั้นเราจึงต้องเสียค่าเข้าอุทยานเสือกระโจนด้วยครับ แต่ไม่ต้องเป็นห่วง เพราะในแพ๊คเกจปีนภูเขาฮาปาได้รวมค่าใช้จ่ายส่วนนี้เอาไว้แล้ว
คนละ 65 หยวน(325 บาท) ผมต้องออกเงินไปก่อน เดี๋ยวค่อยไปหักคืนกับเอเยนต์อีกที
ไหน ๆ ก็ผ่านมาแล้ว แวะชมหินกลางน้ำเลื่องชื่อของหุบเขาเสือกระโจนอีกซักรอบ (รอบที่สามของผมล่ะ)
ทิวทัศน์ของหุบเขาเสือกระโจนยังงดงามเหมือนอย่างเคย
พวกเราถึงหมู่บ้านฮาปาราว ๆ ห้าโมงเย็น โดยใช้เวลานั่งรถราว 7-8 ชม. อากาศดีงาม ท้องฟ้าโปร่งใส อากาศเย็นสบายกำลังดี
เอาของลง เข้าที่พัก
ที่นอนสะอาดและเรียบง่าย
ป้ายหน้าที่พักของเรา
บริเวณที่รับประทานอาหาร
ภาพของเหล่าผู้พิชิตยอดเขาฮาปา
ธงของทีมปีนเขาต่าง ๆ มากมาย
ทางที่พักนัดเวลากินข้าวเย็นตอนหกโมงครึ่ง พวกเราจึงต้องหาอะไรฆ่าเวลา บ้างก็ไปอาบน้ำ บ้างก็เดินเล่น บ้างก็เล่นwifi(เน็ตไม่ค่อยดีครับ เล่นได้บ้างไม่ได้บ้าง)
ขาว ๆ นั่นคือยอดเขาหิมะฮาปา มองจากทางหมู่บ้านจะไม่เห็นชัดซักเท่าไหร่
อาหารเย็นของพวกเรา ทางที่พักก็จัดเต็มให้เลยครับ กินกันท้องจะแตก เป็นอาหารง่าย ๆ บ้าน ๆ แต่อร่อย
อาหารก็อยู่ในแพ็คเกจนะครับ ไม่ต้องจ่ายเพิ่ม
นอกจากพวกเรา ก็มีคนจีนสองคนนี้ที่จะขึ้นเขาในวันรุ่งขึ้น
หลังอิ่มหนำกันเสร็จแล้ว ทางที่พักก็นัดประชุมกับพวกเราตอนสองทุ่ม โดยมีหัวหน้าไกด์และภรรยาของเขาเป็นคนอภิปรายเกี่ยวกับการปีนเขา(ผมเป็นคนคอยแปลให้เพื่อน ๆ ฟัง)
เฮียซื่อ(四哥) หัวหน้าไกด์ผู้มีประสบการณ์โชกโชน ขึ้นยอดเขาฮาปามาแล้วกว่าสองพันครั้ง
ซ๊อซื่อ(四嫂) คนคอยประสานงานกับผมทุกเรื่อง ดูแลพวกเราดีมากครับ ประทับใจอาซ๊อมาก