Do or Die ปีที่ทั้งรุ่งและร่วงของ Warner Bros. และอนาคตอันมืดมนของผู้กำกับจากสาย Producer

หลังจากที่ Geostorm ทำรายได้สุดสัปดาห์เปิดตัวในบ้านได้เพียง $13.7 ล้านและทำเงินรวมทั่วโลกเมื่อเข้าสู้สัปดาห์ที่สองได้แค่ $65 ล้านเท่านั้น ทำให้อนาคตของหนังเจ้าปัญหาเรื่องนี้ดับลงทันที เพราะทุนสร้างที่สูงลิบ (หลายแหล่งประเมินไว้ที่ $120-140 ล้านเหรียญ) แม้ WB จะพยายามตัดงบประชาสัมพันธ์สุดชิวิตแค่ไหนแต่จุดคุ้มทุนของ Geostorm ยังคงอยู่ที่ราวๆ $360 ล้านซึ่งความหวังสุดท้ายคือการเปิดตัวในตลาดจีนสุดสัปดาห์นี้ แต่สื่อหลายสำนักคาดว่าแม้ Geostorm จะทำรายได้ในจีนถึงหลัก $60-80 ล้านได้จริงๆแต่หนังเรื่องนี้ก็ยังคงขาดทุนราว $100 ล้านเหรียญอยู่ดี

เป็นผลให้ปี 2017 เป็นที่ค่าย WB ได้ทั้งเฮดังๆและซึมเศร้าสุดๆกับหนังที่กะจะออกมากวาดรายได้จากกระเป๋าผู้ชมในรอบปีนี้ไปพร้อมๆกัน โดยกลุ่มที่ประสบความสำเร็จอย่างงดงามเริ่มตั้งแต่
Wonder Woman ที่ทำรายได้ทั่วโลก $821 ล้าน จากทุนสร้าง $150 ล้าน พร้อมสร้างสถิติมากมายหลายอย่าง
Dunkirk ทำรายได้ $523 ล้าน นับว่าสูงมากๆสำหรับหนังสงคราม WWII ที่มีทุนสร้าง $100 ล้าน
Annabelle : Creation ทำรายได้ $303 ล้าน จากทุนสร้างเพียง $15 ล้าน พร้อมเปิดจักรวาล Conjuring ให้ขยายออกไปอีก
It ทำรายได้ถึงปัจจุบัน $653 ล้าน จากทุนสร้าง $35 ล้าน พร้อมภาคต่อ Chapter 2 ที่จะตามมาในเดือนกันยายนปี 2019

กลุ่มที่ประสบความสำเร็จปานกลางค่อนไปทางดีได้แก่
Kong : Skull Island ทำเงิน $566 ล้าน จากทุน $185 ล้าน ได้กำไรนิดหน่อยเพราะจุดคุ้มทุนประเมินไว้ที่ $500 ล้าน แต่ที่สำคัญคือช่วยต่อยอด Monsterverse ได้
The LEGO Batman Movie ทำเงิน $312 ล้านจากทุน $80 ล้าน นี่ก็ได้กำไรมาบ้างเพราะจุดคุ้มทุนอยู่ที่ราว $250 ล้าน และยังช่วยต่อยอดโลก LEGO Movie ต่อไป

เรื่องที่ยังลูกผีลูกคนคือ The LEGO Ninjago Movie เพราะยังทำรายได้ไปได้เพียง $100 ล้านแต่ไม่ทราบทุนสร้าง หลายสื่อคาดว่าน่าจะต่ำกว่า LEGO Batman พอสมควรเพราะปกติ Ninjago เป็นการ์ตูนทีวีอยู่แล้ว

พ้นจากเรื่องดีๆ WB กลับมี 3 เรื่องที่ชวนให้ปวดประสาทและอยากลืมไปในปีเดียวกัน นั่นก็คือหนังที่มีทุนสร้างแพงระยับแต่กลับคว่ำไม่เป็นท่าในตาราง Box Office
เริ่มที่เจ็บตัวน้อยหน่อย Blade Runner 2049 ที่มีทุนสร้างถึง $180 ล้าน แต่ทำเงินในบ้านจนถึงปัจจุบันไปได้เพียง $74 ล้านเท่านั้น ทำให้ WB-Alcon อาจต้องขาดทุนในระดับ $60-70 ล้านเป็นอย่างน้อย แต่ก็ยังโชคดีที่เรื่องนี้หารทุนสร้างกับ SONY คนละครึ่ง
เรื่องที่สอง Geostorm ที่กล่าวไปตอนแรกว่าอาจต้องขาดทุนในระดับ $100 ล้านเหรียญ
ปิดท้ายด้วยมหากาพย์ความเจ๊งในปีนี้ที่ยังวนวียนอยู่กับ WB นั่นก็คือ King Arthur ที่ทำเงินทั่วโลกได้เพียง $148 ล้านจากทุนสร้าง $175 ล้าน ทำให้หนังของ Guy Ritchie เรื่องนี้ขาดทุนยับเยินมากกว่า $150 ล้านเหรียญขึ้นไป

เมื่อดูจำนนเงินที่ขาดทุนไปแล้ว WB ก็ยังอาจใจชื้นได้บ้างที่ปีนี้มีกำไรจากหนังที่ประสบความสำเร็จมาถัวๆกันไป และ WB ก็คงหวังว่า Justice League ที่จะมาส่งท้ายปลายปีช่วงวันขอบคุณพระเจ้าจะประสบความสำเร็จและทำกำไรให้บริษัทอย่างเป็นกอบเป็นกำส่งท้าย 2017 ปีที่แสนแปลกประหลาดของ WB นี้

ส่วนอีกเรื่องนึงคืออนาคตของผู้กำกับที่ข้ามห้วยมาจากสาย Producer หวังเอาดีทางด้านกำกับหนังให้เปรี้ยงปร้างกับเค้าสักครั้ง แต่กลับทำหนังระดับ Blockbuster คว่ำไม่เป็นท่าไปตามๆกัน
เริ่มจาก Alex Kurtzman มือเขียนบทและ Producer โต้โผใหญ่ของ Dark Universe ที่หวังเปิดจักรวาลนี้ให้สวยหรูด้วยการลงมากำกับ The Mummy ด้วยตนเองพร้อมดึง Tom Cruise มาเป็นดาราแม่เหล็ก แต่ผลปรากฎว่า The Mummy กลับกลายเป็นหนังที่แทบจะปิดจักรวาล Dark Universe แทน ด้วยทุนสร้างที่แท้จริงคาดกันว่าอยู่ที่ราว $160-180 ล้านเหรียญ (ไม่รวม P&A) หนังกลับทำเงินทั่วโลกได้เพียง $409 ล้านเหรียญ ซึ่งภายหลัง Universal ออกมายอมรับว่าต้องขาดทุนถึง $85-90 ล้าน พร้อมข่าว Kurtzman อาจต้องกระเด็นจากโปรเจ็ค Dark Universe ที่เค้าปลุกปั้นมา และข่าว Bride of Frankenstein จะมีเนื้อเรื่องค่อนข้างเอกเทศไม่อิงจักรวาล Dark Universe ตามมาในภายหลังอีก
อีกเรื่องหนึ่งก็คือ Geostorm หนังเจ้าปัญหาของ Dean Devlin มือ Produce จากหนังภัยพิบัติหลายๆเรื่องที่อยากชิมลางกำกับหนังดูบ้าง ปรากฎว่ากลายเป็นบทเรียนราคาแพงเพราะหนังมีปัญหาต้องเลื่อนกำหนดฉายมาหลายปีเนื่องจาก WB ไม่พอใจหนังของ Devlin เป็นอย่างมากถึงกับออกปากว่า Unwatchable หลังได้ชมรอบทดลองฉายให้ผู้บริหารดู หลังจากนั้น WB ได้จ้างทีมของ Jerry Bruckheimer เข้ามารื้อหนังใหม่ทั้งแก้บทและถ่ายซ่อม จนทุนสร้างพุ่งไปแตะ $120-140 ล้าน และคาดว่า Geostorm จะขาดทุนราว $100 ล้านเหรียญมากกว่า The Mummy เสียอีก

เห็นอย่างนี้แล้วทำให้เป็นห่วง X-Men : Dark Phoenix ของผู้กำกับ Simon Kinberg ขนาดหนักเพราะขานั้นก็จะเปิดตัวกำกับหนังเรื่องแรกเช่นเดียวกันหลังจาก Produce และเขียนบทมาหลายเรื่อง ซึ่งเรื่องนี้ Kinberg เหมาเรียบทั้งกำกับ เขียนบท อำนวยการสร้าง แต่เมื่อดูจากรายชื่อที่เฮียเขียนบทเรื่องล่าสุดมาแล้ว เชื่อว่าแฟนๆ X-Men อาจมีหนาวเพราะมีทั้ง X-Men : Apocalypse, Fantastic Four, Abraham Lincoln : Vampire Hunter แต่ยังไงๆก็เอาใจช่วยให้เฮีย Kinberg ทำลายอาถรรพ์ผู้กำกับจากสาย Producer ไปให้ได้ก็แล้วกัน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่