เป็นประจำทุกปีช่วงปลายเดือนมีนาคมทาง deadline.com จะประกาศลำดับหนังที่ทำกำไรสูงสุดของปีที่ผ่านมา โดยใช้การประเมินจากผู้เชี่ยวชาญภายในบริษัทรวมทั้งแหล่งข้อมูลต่างๆที่มี Connection กัน โดยปีนี้แถมพกด้วยการประกาศหนังที่ขาดทุนมากที่สุดของปีรวมทั้งภาพยนตร์ที่ทำกำไรในระดับที่น่าสนใจอีกด้วย
ซึ่งลำดับ Top 10 ภาพยนตร์ที่ทำกำไรสูงสุดประจำปี 2017 จากการคาดการณ์ของ deadline เป็นดังนี้
1.Star Wars : The Last Jedi (Disney) กำไร $417.5 ล้านเหรียญ
2.Beauty and the Beast (Disney) กำไร $414.7 ล้านเหรียญ
3.Despicable Me 3 (Universal) กำไร $366.2 ล้านเหรียญ
4.Jumanji : Welcome to the Jungle (Sony) กำไร $305.7 ล้านเหรียญ
5.It (WB) กำไร $293.7 ล้านเหรียญ
6.Wonder Woman (WB) กำไร $252.9 ล้านเหรียญ
7.Spider-man : Homecoming (Sony) กำไร $200.1 ล้านเหรียญ
8.Thor : Ragnarok (Disney) กำไร $174.2 ล้านเหรียญ
9.Guardian of the Galaxy Vol.2 กำไร $154.7 ล้านเหรียญ
10.Get Out (Universal) กำไร $124.3 ล้านเหรียญ
เป็นที่น่าสนใจว่า Fast 8 ซึ่งเป็นภาพยนตร์ทำเงินสูงสุดทั่วโลกอันดับ 3 ในปี 2017 นั้นหลุดโผ Top 10 หนังทำกำไรไปอย่างน่าเสียดาย ทั้งนี้เป็นเพราะทุนสร้างที่สูงปรี๊ดกว่าเรื่องอื่นๆ ($250 ล้าน) รายได้ในบ้านที่ต่ำกว่า Top เกือบทุกเรื่อง (สูงกว่า Get Out เพียงเรื่องเดียว) และรายได้ส่วนใหญ่มาจากจีนซึ่งเป็นตลาดมีส่วนแบ่งรายได้ต่ำที่สุดในโลก โดยคาดการณ์กันว่า Fast ทำกำไรอยู่ที่ราว $80-90 ล้านเหรียญ ส่วนแชมป์ในปีนี้คือ The Last Jedi นั้นเฉือน Beauty and the Beast ไปเส้นยาแดงผ่าแปดเท่านั้น หาก Disney ไม่มีนโยบายยึดส่วนแบ่ง 60% ของ 4 สัปดาห์แรกให้ Star Wars ตำแหน่งแชมป์คงเปลี่ยนไปอยู่ในมือของเพื่อนร่วมค่ายอย่างแน่นอนที่สุด
นอกจากนี้ deadline ยังได้ประกาศผลของหนังทุนไม่สูงเรื่องอื่นๆที่สามารถทำกำไรได้อย่างน่าสนใจ คือ
Annabelle : Creation (WB) กำไร $108.7 ล้านเหรียญ
Split (Universal) กำไร $68.2 ล้านเหรียญ
Girl Trip (Universal) กำไร $66.1 ล้านเหรียญ
Wonder (Lionsgate) กำไร $55.2 ล้านเหรียญ
Baby Driver (Sony) กำไร $51.5 ล้านเหรียญ
ในขณะเดียวกันปีนี้ยังมีของแถมเป็น Top 5 ภาพยนตร์ที่ขาดทุนมากสุดในปี 2017 โดยมีลำดับดังนี้
1.King Arthur : Legend of the Sword (WB) ขาดทุน $153.2 ล้านเหรียญ
2.Monster Trucks (Paramount) ขาดทุน $123.1 ล้านเหรียญ
3.The Promise (Open Road/Survival Pictures) ขาดทุน $102.1 ล้านเหรียญ
4.The Great Wall (Universal) ขาดทุน $74.5 ล้านเหรียญ
5.Geostorm (WB) ขาดทุน $71.6 ล้านเหรียญ
โดยที่ยังมีหนังทุนสูงอีกหลายเรื่องได้รับการประเมินว่าขาดทุนในระดับ $50-60 ล้าน เช่น Justice League (WB), Blade Runner 2049 (WB), The Mummy (Universal) และ Valerian and the City of Thousand Planets (STX)
ปี 2017 ผ่านไปส่วนในปี 2018 มีการประเมินไว้เบื้องต้นแล้วว่า Black Panther จะทำกำไรราว $460 ล้านเหรียญ ดังนั้นหนังเรื่องไหนจะคว้าตำแหน่งภาพยนตร์ที่ทำกำไรมากที่สุดของปีไปได้ก็ต้องทำลายกำแพง $460 ล้านให้ได้ก่อน
Deadline สรุปผลการประเมิน Top 10 ภาพยนตร์ที่ทำกำไรสูงสุดและ Top 5 ภาพยนตร์ที่ขาดทุนมากที่สุดในปี 2017 แล้ว
ซึ่งลำดับ Top 10 ภาพยนตร์ที่ทำกำไรสูงสุดประจำปี 2017 จากการคาดการณ์ของ deadline เป็นดังนี้
1.Star Wars : The Last Jedi (Disney) กำไร $417.5 ล้านเหรียญ
2.Beauty and the Beast (Disney) กำไร $414.7 ล้านเหรียญ
3.Despicable Me 3 (Universal) กำไร $366.2 ล้านเหรียญ
4.Jumanji : Welcome to the Jungle (Sony) กำไร $305.7 ล้านเหรียญ
5.It (WB) กำไร $293.7 ล้านเหรียญ
6.Wonder Woman (WB) กำไร $252.9 ล้านเหรียญ
7.Spider-man : Homecoming (Sony) กำไร $200.1 ล้านเหรียญ
8.Thor : Ragnarok (Disney) กำไร $174.2 ล้านเหรียญ
9.Guardian of the Galaxy Vol.2 กำไร $154.7 ล้านเหรียญ
10.Get Out (Universal) กำไร $124.3 ล้านเหรียญ
เป็นที่น่าสนใจว่า Fast 8 ซึ่งเป็นภาพยนตร์ทำเงินสูงสุดทั่วโลกอันดับ 3 ในปี 2017 นั้นหลุดโผ Top 10 หนังทำกำไรไปอย่างน่าเสียดาย ทั้งนี้เป็นเพราะทุนสร้างที่สูงปรี๊ดกว่าเรื่องอื่นๆ ($250 ล้าน) รายได้ในบ้านที่ต่ำกว่า Top เกือบทุกเรื่อง (สูงกว่า Get Out เพียงเรื่องเดียว) และรายได้ส่วนใหญ่มาจากจีนซึ่งเป็นตลาดมีส่วนแบ่งรายได้ต่ำที่สุดในโลก โดยคาดการณ์กันว่า Fast ทำกำไรอยู่ที่ราว $80-90 ล้านเหรียญ ส่วนแชมป์ในปีนี้คือ The Last Jedi นั้นเฉือน Beauty and the Beast ไปเส้นยาแดงผ่าแปดเท่านั้น หาก Disney ไม่มีนโยบายยึดส่วนแบ่ง 60% ของ 4 สัปดาห์แรกให้ Star Wars ตำแหน่งแชมป์คงเปลี่ยนไปอยู่ในมือของเพื่อนร่วมค่ายอย่างแน่นอนที่สุด
นอกจากนี้ deadline ยังได้ประกาศผลของหนังทุนไม่สูงเรื่องอื่นๆที่สามารถทำกำไรได้อย่างน่าสนใจ คือ
Annabelle : Creation (WB) กำไร $108.7 ล้านเหรียญ
Split (Universal) กำไร $68.2 ล้านเหรียญ
Girl Trip (Universal) กำไร $66.1 ล้านเหรียญ
Wonder (Lionsgate) กำไร $55.2 ล้านเหรียญ
Baby Driver (Sony) กำไร $51.5 ล้านเหรียญ
ในขณะเดียวกันปีนี้ยังมีของแถมเป็น Top 5 ภาพยนตร์ที่ขาดทุนมากสุดในปี 2017 โดยมีลำดับดังนี้
1.King Arthur : Legend of the Sword (WB) ขาดทุน $153.2 ล้านเหรียญ
2.Monster Trucks (Paramount) ขาดทุน $123.1 ล้านเหรียญ
3.The Promise (Open Road/Survival Pictures) ขาดทุน $102.1 ล้านเหรียญ
4.The Great Wall (Universal) ขาดทุน $74.5 ล้านเหรียญ
5.Geostorm (WB) ขาดทุน $71.6 ล้านเหรียญ
โดยที่ยังมีหนังทุนสูงอีกหลายเรื่องได้รับการประเมินว่าขาดทุนในระดับ $50-60 ล้าน เช่น Justice League (WB), Blade Runner 2049 (WB), The Mummy (Universal) และ Valerian and the City of Thousand Planets (STX)
ปี 2017 ผ่านไปส่วนในปี 2018 มีการประเมินไว้เบื้องต้นแล้วว่า Black Panther จะทำกำไรราว $460 ล้านเหรียญ ดังนั้นหนังเรื่องไหนจะคว้าตำแหน่งภาพยนตร์ที่ทำกำไรมากที่สุดของปีไปได้ก็ต้องทำลายกำแพง $460 ล้านให้ได้ก่อน