สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 4
13 ปีที่รู้จักกันมานี่ไม่น้อยเลยนะคะ
น่าจะเข้าใจนิสัยใจคอกันเป็นอย่างดีแล้ว
ถึงวันนี้ มีเรื่องให้เข้าใจเขามากขึ้นไปอีก ...
(ในเรื่องเขาไม่รักษาคำพูด / ในเรื่องหนี้สินของแม่เขา)
คุณเองก็ต้องชั่งน้ำหนักแล้วล่ะค่ะว่า เมื่อแต่งไปแล้วคุณจะยอมรับข้อนี้ได้ขนาดไหน ?
ทีนี้มองในแง่เขาบ้าง
ที่เขาให้เหตุผลมา เรื่องแม่ต้องการใช้เงิน เรื่องทองที่เขาอยากมีใส่
จึงลดทอนค่าสินสอดของคุณลงไป น่าจะเพราะเขาคิดว่า เรื่องอื่นสำคัญกว่าเงินจำนวนนี้รึเปล่าคะ ?
เขาเคยบ่นๆให้ฟังไหมว่ามันเยอะเกินไป เกินกำลังของเขา
เคยคุยกันไหมว่าเงินสินสอดสุดท้ายแล้ว จะคืนบ่าวสาวมาเพื่อใช้ตั้งตัวรึเปล่า
หากไม่ใช่ เราคิดว่า คุณควรจะเปิดใจคุยกับเขาที่ประเด็นนี้ตรงๆค่ะ
ไม่อย่างนั้น อาจต้องเลื่อนงานแต่งออกไปเรื่อยๆ เพราะแก้ปัญหาไม่ตรงจุด
มองภาพรวม...
ทั้งคุณและเขาต่างก็มีเหตุผล และเป็นเหตุผลที่ทำให้อีกฝ่ายอิดหนาระอาใจต่ออีกฝ่ายได้ทั้งนั้นเลย
ใกล้จะแต่งกันอยู่แล้ว ต้องเปิดใจจริงจังแล้วนะคะ
คิดยังไงก็พูดออกไป และเปิดโอกาสให้อีกฝ่ายพูดบ้าง
เราเชื่อว่ายังทันที่จะ "หาข้อตกลงร่วมกัน" ค่ะ
น่าจะเข้าใจนิสัยใจคอกันเป็นอย่างดีแล้ว
ถึงวันนี้ มีเรื่องให้เข้าใจเขามากขึ้นไปอีก ...
(ในเรื่องเขาไม่รักษาคำพูด / ในเรื่องหนี้สินของแม่เขา)
คุณเองก็ต้องชั่งน้ำหนักแล้วล่ะค่ะว่า เมื่อแต่งไปแล้วคุณจะยอมรับข้อนี้ได้ขนาดไหน ?
ทีนี้มองในแง่เขาบ้าง
ที่เขาให้เหตุผลมา เรื่องแม่ต้องการใช้เงิน เรื่องทองที่เขาอยากมีใส่
จึงลดทอนค่าสินสอดของคุณลงไป น่าจะเพราะเขาคิดว่า เรื่องอื่นสำคัญกว่าเงินจำนวนนี้รึเปล่าคะ ?
เขาเคยบ่นๆให้ฟังไหมว่ามันเยอะเกินไป เกินกำลังของเขา
เคยคุยกันไหมว่าเงินสินสอดสุดท้ายแล้ว จะคืนบ่าวสาวมาเพื่อใช้ตั้งตัวรึเปล่า
หากไม่ใช่ เราคิดว่า คุณควรจะเปิดใจคุยกับเขาที่ประเด็นนี้ตรงๆค่ะ
ไม่อย่างนั้น อาจต้องเลื่อนงานแต่งออกไปเรื่อยๆ เพราะแก้ปัญหาไม่ตรงจุด
มองภาพรวม...
ทั้งคุณและเขาต่างก็มีเหตุผล และเป็นเหตุผลที่ทำให้อีกฝ่ายอิดหนาระอาใจต่ออีกฝ่ายได้ทั้งนั้นเลย
ใกล้จะแต่งกันอยู่แล้ว ต้องเปิดใจจริงจังแล้วนะคะ
คิดยังไงก็พูดออกไป และเปิดโอกาสให้อีกฝ่ายพูดบ้าง
เราเชื่อว่ายังทันที่จะ "หาข้อตกลงร่วมกัน" ค่ะ

ความคิดเห็นที่ 11
ประเด็นนี้ไม่ใช่ปัญหาเรื่องเงินแล้วค่ะ
เป็นปัญหาเรื่องคนไม่หนักแน่น ไม่รักษาคำพูด และครอบครัวเขาที่มีแนวโน้มจะเป็นภาระแก่ว่าที่สามีในอนาคต
ตรงนี้ควรคิดให้ดีๆค่ะ การที่จะเอาความรักเป็นที่ตั้งแล้วจูงมือไปจดทะเบียนอย่างที่ความเห็นบนๆว่า มันใช้ได้เฉพาะบางกรณีที่ตกลงกันแต่แรก ว่าจะช่วยกันสร้างฐานะ แต่ไม่ใช่กรณีตกลงกันแล้วเบี้ยวนะคะ
ลองคุยกันถึงปัญหาจริงๆดูค่ะ ว่าเหตุผลของเขาเพียงพอหรือไม่ การที่อยู่ๆอยากจะมีทองใส่ติดตัวขึ้นมาทั้งที่ตกลงกันแล้ว มันแปลกมาก คือถ้าจะไม่ให้ ก็ควรตกลงแต่แรก ไม่ใช่มัดมือชกแล้วเบี้ยวหน้างานอย่างนี้นะคะ
เป็นปัญหาเรื่องคนไม่หนักแน่น ไม่รักษาคำพูด และครอบครัวเขาที่มีแนวโน้มจะเป็นภาระแก่ว่าที่สามีในอนาคต
ตรงนี้ควรคิดให้ดีๆค่ะ การที่จะเอาความรักเป็นที่ตั้งแล้วจูงมือไปจดทะเบียนอย่างที่ความเห็นบนๆว่า มันใช้ได้เฉพาะบางกรณีที่ตกลงกันแต่แรก ว่าจะช่วยกันสร้างฐานะ แต่ไม่ใช่กรณีตกลงกันแล้วเบี้ยวนะคะ
ลองคุยกันถึงปัญหาจริงๆดูค่ะ ว่าเหตุผลของเขาเพียงพอหรือไม่ การที่อยู่ๆอยากจะมีทองใส่ติดตัวขึ้นมาทั้งที่ตกลงกันแล้ว มันแปลกมาก คือถ้าจะไม่ให้ ก็ควรตกลงแต่แรก ไม่ใช่มัดมือชกแล้วเบี้ยวหน้างานอย่างนี้นะคะ
แสดงความคิดเห็น
เรากำลังจะแต่งงาน...แต่รู้สึกอยากเลิก
1.สินสอด= 600,000 (แฟนเรามีเงินเก็บ 500,000 บาท เรากับแฟนจะช่วยกันหา 100,000)
2.ทอง= 6 บาท (แฟน 4 บาท+เรา2บาท ค่าเปลี่ยนเราเป็นคนออก)
3.ห้องหอ =มาอยู่บ้านเราเพราะแม่เราอยู่บ้านคนเดียว พ่อเสีย ไปบ้านเขาบ้างช่วงวันหยุด ขอพ่อแม่แฟนซึ่งเป็นช่างทำห้องน้ำในห้องนอนให้)
4.ค่าใช้จ่ายอื่นๆในการเตรียมงาน เราสองคนมีเงินเก็บบางส่วน สามารถนำไปใช้ได้ค่ะ