เหตุเกิดเมื่อเช้าวันที่ 17 ตค 2560 ตอนตี 3 เมื่อ application alert ของบัตรเครดิต แจ้งเตือนว่ามีการทำรายการซื้อของจาก nordstrom
เป็นจำนวนเงิน 764.64 USD ผมจึงได้โทรไปที่ call center ของบัตรเครดิตใบดังกล่าวเพื่อสอบถามที่มาที่ไปและยืนยันว่าไม่ได้เป็นคนทำรายการดังกล่าว
ได้คำตอบว่ามีการสั่งซื้อสินค้าออนไลน์จากประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นจำนวนเงิน 25,000 กว่าบาท แต่ยังไม่สามารถยืนยันยอดได้
เนื่องจากต้องรอการเรียกเก็บจากทางร้านค้าออนไลน์ก่อน จึงได้ทำการอายัดบัตรเครดิตดังกล่าวไว้ก่อน และขอให้ออกบัตรใหม่
ซึ่งผมก็ได้เอาชื่อ nordstrom ไปค้นใน google ก็ได้ทราบเบอร์ call center จึงได้โทรไปเพื่อสอบถามรายละเอียดของการสั่งซื้อ
และอยากจะทราบต้นตอว่า ใครเป็นผู้สั่งแล้วสั่งให้ไปส่งที่ไหน จากการสอบถาม พนักงานของ nordstrom แจ้งว่า
ไม่มีข้อมูลของผู้สั่งซื้อและสถานที่จัดส่ง เนื่องจากการทำรายการไม่สำเร็จ เพราะทางธนาคารผู้ออกบัตรได้บล็อคการทำรายการ
แต่มีข้อมูลว่า มีการพยายามทำรายการหลายครั้ง แต่ไม่สำเร็จ มาถึงตรงนี้มันยิ่งทำให้ผมอยากรู้ว่า
ใครคือผู้ที่เอาหมายเลขบัตรเครดิตของผมไปซื้อสินค้าออนไลน์ เพื่อที่จะไปแจ้งความดำเนินคดี
ปกติบัตรเครดิตใบนี้ผมไม่ค่อยได้ใช้ แต่จากข้อสันนิษฐานเบื้องต้นส่วนตัวคิดว่า มีเหตุการณ์นึงที่เป็นที่น่าสงสัย คือ
เมื่อวันอาทิตย์ที่ 15 ตค 2560 ผมได้นำบัตรเครดิตใบดังกล่าว ไปซื้อสินค้าที่ร้านนึง ซึ่งเป็นร้านที่ขายเกี่ยวกับของใช้ในชีวิตประจำวัน
เป็นร้านสีเขียวที่มีอยู่ตามห้างสรรพสินค้าทั่วไป และตอนที่ชำระค่าสินค้าที่เคาน์เตอร์ พนักงานมีท่าทีแปลกๆ ดูเกร็งๆ
แล้วเวลารูดบัตรเครดิตก็เอาบัตรเครดิตไปรูดหลังเครื่องเเคชเชียร์ ซึ่งอยู่ในมุมที่ผมมองไม่เห็น
แล้วก็ใช้เวลาในการรูดบัตรเครดิตอยู่ประมาณนึง เลยไม่แน่ใจว่า มันจะเป็นไปได้หรือไม่ ที่พนักงานจะทำการถ่ายรูปบัตรเครดิตของผมไว้
ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง แล้วเอาไปซื้อของออนไลน์ดังกล่าว แต่ผมยังไม่มีหลักฐาน
เลยอยากจะสอบถามว่า ในกรณีแบบนี้ คือมีการเอาเลขบัตรเครดิตไปใช้ซื้อของออนไลน์ แต่ทำรายการไม่สำเร็จ
ในกรณีที่ทำรายการแล้วไม่สำเร็จ แต่บัตรเครดิตได้ pending ยอดเงินผมไว้ ผมจะสามารถไปแจ้งความเพื่อที่จะสืบถึงผู้กระทำผิด ได้หรือไม่
และในกรณีที่ผมสงสัยพนักงานร้านค้าที่เพิ่งไปซื้อของมา ผมสามารถแจ้งความเพื่อที่จะขอไปตรวจสอบกล้องวงจรปิดของทางร้าน
เพื่อเป็นการพิสูจน์ว่าพนักงานมีการแอบถ่ายรูปบัตรเครดิตไว้หรือไม่
เมื่อมีคนเอาบัตรเครดิตของเราพยายามไปซื้อของออนไลน์จากร้านค้าต่างประเทศ จะทำอย่างไรดี
เป็นจำนวนเงิน 764.64 USD ผมจึงได้โทรไปที่ call center ของบัตรเครดิตใบดังกล่าวเพื่อสอบถามที่มาที่ไปและยืนยันว่าไม่ได้เป็นคนทำรายการดังกล่าว
ได้คำตอบว่ามีการสั่งซื้อสินค้าออนไลน์จากประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นจำนวนเงิน 25,000 กว่าบาท แต่ยังไม่สามารถยืนยันยอดได้
เนื่องจากต้องรอการเรียกเก็บจากทางร้านค้าออนไลน์ก่อน จึงได้ทำการอายัดบัตรเครดิตดังกล่าวไว้ก่อน และขอให้ออกบัตรใหม่
ซึ่งผมก็ได้เอาชื่อ nordstrom ไปค้นใน google ก็ได้ทราบเบอร์ call center จึงได้โทรไปเพื่อสอบถามรายละเอียดของการสั่งซื้อ
และอยากจะทราบต้นตอว่า ใครเป็นผู้สั่งแล้วสั่งให้ไปส่งที่ไหน จากการสอบถาม พนักงานของ nordstrom แจ้งว่า
ไม่มีข้อมูลของผู้สั่งซื้อและสถานที่จัดส่ง เนื่องจากการทำรายการไม่สำเร็จ เพราะทางธนาคารผู้ออกบัตรได้บล็อคการทำรายการ
แต่มีข้อมูลว่า มีการพยายามทำรายการหลายครั้ง แต่ไม่สำเร็จ มาถึงตรงนี้มันยิ่งทำให้ผมอยากรู้ว่า
ใครคือผู้ที่เอาหมายเลขบัตรเครดิตของผมไปซื้อสินค้าออนไลน์ เพื่อที่จะไปแจ้งความดำเนินคดี
ปกติบัตรเครดิตใบนี้ผมไม่ค่อยได้ใช้ แต่จากข้อสันนิษฐานเบื้องต้นส่วนตัวคิดว่า มีเหตุการณ์นึงที่เป็นที่น่าสงสัย คือ
เมื่อวันอาทิตย์ที่ 15 ตค 2560 ผมได้นำบัตรเครดิตใบดังกล่าว ไปซื้อสินค้าที่ร้านนึง ซึ่งเป็นร้านที่ขายเกี่ยวกับของใช้ในชีวิตประจำวัน
เป็นร้านสีเขียวที่มีอยู่ตามห้างสรรพสินค้าทั่วไป และตอนที่ชำระค่าสินค้าที่เคาน์เตอร์ พนักงานมีท่าทีแปลกๆ ดูเกร็งๆ
แล้วเวลารูดบัตรเครดิตก็เอาบัตรเครดิตไปรูดหลังเครื่องเเคชเชียร์ ซึ่งอยู่ในมุมที่ผมมองไม่เห็น
แล้วก็ใช้เวลาในการรูดบัตรเครดิตอยู่ประมาณนึง เลยไม่แน่ใจว่า มันจะเป็นไปได้หรือไม่ ที่พนักงานจะทำการถ่ายรูปบัตรเครดิตของผมไว้
ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง แล้วเอาไปซื้อของออนไลน์ดังกล่าว แต่ผมยังไม่มีหลักฐาน
เลยอยากจะสอบถามว่า ในกรณีแบบนี้ คือมีการเอาเลขบัตรเครดิตไปใช้ซื้อของออนไลน์ แต่ทำรายการไม่สำเร็จ
ในกรณีที่ทำรายการแล้วไม่สำเร็จ แต่บัตรเครดิตได้ pending ยอดเงินผมไว้ ผมจะสามารถไปแจ้งความเพื่อที่จะสืบถึงผู้กระทำผิด ได้หรือไม่
และในกรณีที่ผมสงสัยพนักงานร้านค้าที่เพิ่งไปซื้อของมา ผมสามารถแจ้งความเพื่อที่จะขอไปตรวจสอบกล้องวงจรปิดของทางร้าน
เพื่อเป็นการพิสูจน์ว่าพนักงานมีการแอบถ่ายรูปบัตรเครดิตไว้หรือไม่