
สวัสดีครับ ทริปนี้เป็นทริปฉุกเฉินจริงๆ ครับ ยิ่งกว่าไฟไหม้!
พอดีมีธุระที่ลอนดอนเร่งด่วน จังหวะดีเลยรีบซื้อตั๋วเพราะอีกไม่ถึง 10 วันจะโดนตัดสิทธิ์
การเลื่อนเป็นบัตรทอง ถ้าไม่บินอีก 7,333 ไมล์ เรื่องความคุ้มค่าเราจะไม่ยอมแพ้
รีบโทรปรึกษาคุณ Panda เพื่อนผู้คร่ำหวอดในวงการเดินทางกว่าร้อยประเทศ
บอกไปว่าไม่อยากจ่ายเกิน 3 หมื่นบาท เพื่อบัตรทอง ผ่องอำไพ!
เพื่อนรีบจัดแจงจองตั๋ว KL-BKK-London ไปกลับราคางดงาม 28,xxx บาท K class ก็พอ
บวกลบคูณหารได้ 8 พันกว่าไมล์ ไม่ต้องซื้อ Q class ให้เปลือง!! Why pay more? จริงมั๊ยครับ : )
รีบส่งเลขบัตร fast track เลื่อนสถานะสายฟ้าฟาดให้เพื่อนรูดซื้อตั๋วทันที ก่อนราคาเปลี่ยน
เพื่อสะสมไมล์แถมได้ประกันการเดินทางคุ้มครองฟรีตลอดทริปครับ (ฟรีมูลค่าสามสี่ร้อยเราก็เอา)
ผมเพิ่งเริ่มทำธุรกิจเล็กๆ SME ตีไม่แตก เลยต้องรับหน้าที่ทุกอย่างตั้งแต่ผู้จัดการยันแม่บ้าน
ค่าใช้จ่ายทุกอย่างต้องคิดแล้วคิดอีกก่อนเปย์ออกไป จึงเกิดทริปลอนดอน 5 วันขึ้น
5 วันที่มานี้ต้องได้งาน ต้องได้ไมล์!!
ทริปอาจจะเร่งด่วนไปหน่อย แต่ด้วยความที่เดินทางค่อยข้างบ่อย ก็ชิวๆครับ เรื่องความคุ้มค่า
ต้องมาก่อน เริ่มการเดินทางกันเลย!
วันที่ 1 (BKK-KL) (KL-BKK)
ด้วยความที่ต้องออกจากกัวลาลัมเปอร์เท่านั้นถึงจะถูกที่สุด (ราคาต่างจากบินออกจากBKK
เป็นหมื่นเลยนะครับ) เราเลยต้องยอมบินไปเริ่มที่นั่น จริงๆ ตั๋ว Low cost ไป KL ไม่แพง
ก็ยังถือว่าคุ้มอยู่ครับ ถือว่ามาเปลี่ยนบรรยากาศทำงาน! อาจจะลำบากหน่อยแต่เพื่อความคุ้ม
หายเหนื่อยครับ! รูทนี้จะเริ่มจาก KL - BKK แล้ว stop over เพื่อต่อไฟล์เช้าไป LDN ครับ
ผมบินจากดอนเมืองไปกัวลาลัมเปอร์ จากการแลกไมล์บัตรเครดิตสีแดง เลือกเวลาก่อนเที่ยง
จะได้แวะทานอาหารกลางวันฟรีที่ The Coral Executive Lounge โดยใช้บัตร Priority Pass
ที่แถมมาให้กับบัตรเครดิตอีกใบหนึ่ง อาหารก็หรูหราไม่เบา นานๆ ทีจะได้ใช้บริการที่นี่

สองชั่วโมงก็ถึง KL เดินเล่นแปปนึง ว่าจะซื้อของฝาก แต่แอบแพง มีเพื่อนฝากซื้อน้ำหอมขวดนึง
นึกว่าจะถูกกว่า แต่กลับมาเจอ Duty Free ที่ไทยถูกกว่า เจ็บใจมาก!

รีบหยุดเดินก่อนเสียเงินไปมากกว่านี้ ไปทานข้าวมันไก่ นั่งทำงานที่ Plaza Premium Lounge ดีกว่า
ก่อนเดินทางกลับกรุงเทพ จริงๆว่าจะเข้าไปเดินเล่นในตัวเมือง KL แต่เกรงว่าจะกลับมาไม่ทันขึ้นเครื่อง
เลยเปลี่ยนเป็นนั่งทำงานในเล้าจ์ชิวๆดีกว่า

รอเครื่องราวๆห้าชั่วโมง บินสองชั่วโมงก็ถึงสุวรรณภูมิ ช่วงห้าทุ่มกว่าๆ เรียก Taxi จาก App
ใช้ Rewards แลกค่าโดยสาร กลับบ้านนอนพักหนึ่งคืน ตอนแรกตั้งใจจะจองที่พักแถวสนามบิน
แต่คำนวณแล้วกลับบ้านประหยัดกว่า ได้นอนหลับเต็มอิ่มด้วย : )
วันที่ 2 BKK-LDN
เริ่มต้นตอนเช้า บินจากกรุงเทพไปลอนดอน ไฟล์เที่ยงครึ่ง ก็นัดรถลีมูซีนบริการฟรี
จากบัตรเครดิต เวลา 08:45 มารับจากบ้านตรงเวลาเป๊ะ ถึงสนามบิน 09:30 และไม่ลืมใช้
บริการ Meet & Assist ดูแลเรื่องการ Check-in เข้าช่อง Fast track มีพนักงานเดินไปส่ง
เลาจ์ของสายการบิน

รีบเกินไปหน่อยเพราะหิว ลืมแลกเงินปอนด์เลย พอเข้าไปข้างในแล้วจำใจจ่ายเรทแพง
กว่าด้านนอก แต่เหลือบไปเห็นธนาคารแห่งหนึ่ง มีโปรแลกเงินสกุลต่างประเทศ ผ่อน 0% 3 เดือน
แถมกระเป๋าแม่บ้านน่ารักมุ้งมิ้ง ก็โอเคล่ะ ได้ Point ไม่เสียดอกเบี้ย ได้กระเป๋าเป็นของฝากให้
คุณนายแม่ไปจ่ายตลาดสวยๆ งานผ่อนเพื่อแม่ก็มา 55555
ถึงเลาจ์นั่งพัก call ประชุมงานกับที่ออฟฟิศ ทานอาหารเช้าควบกลางวันก่อนบินยาว
เกือบ 12 ชั่วโมง โชคดีหลับง่าย ทานอาหารมื้อแรกจบบนเครื่องก็หลับยาวๆ 9 ชั่วโมง
ตื่นมาอีกทีทานต่ออักมื้อแป๊ปๆ ถึงลอนดอนละ นึกว่าบินไปเชียงใหม่ ทำไมถึงเร็วจัง

Immigration รอบนี้ยาวยิ่งกว่าต่อคิวซื้อ LV Supreme เด็กๆ เพิ่งเปิดเทอมกันครับ
รอๆๆ รับกระเป๋าแล้วเดินออกมาพักที่ Plaza Premium Lounge อยู่ซ้ายมือหลังเดินออกมาแล้ว

เติมพลังแล้วเดินจาก Heathrow Airport Terminal 2 นิดเดียวก็ถึง Underground จัดการเติมเงิน
Oyster Card Zone 1-2 (weekly) และ Top up เพิ่มอีก £5 สำหรับการเดินทางจาก Zone 6 เข้า Zone 1
และไม่ลืมใช้บัตรเครดิตที่ให้เงินคืนในการใช้จ่ายสกุลตราต่างประเทศสำหรับทริปนี้
นั่ง Piccadilly Line สายตรงประมาณ 45 นาที ก็ถึง Leicester Square Station เดินอีก 5 นาที
แบกกระเป๋าขึ้นชั้นสาม บ้านคุณเจ๊ผู้ใจดี ให้พักฟรีที่ Soho 5 คืนสำหรับทริปนี้ เปิดกระเป๋าเอาขนมข้าว
ธัญพืชอบกรอบของโปรดนางตอบแทนบุญคุณครั้งนี้ ก่อนสลบยาวและตื่นมาอีกทีตี 4 เพื่อเริ่มทำงาน
วันที่ 3 London
ไหนๆแล้วนอกจากการสะสมคะแนนบัตรเพื่อแลกสิทธิประโยชน์ต่างๆ ก็ขอต่อด้วยรีวิว คาเฟ่ รอบๆ Soho
ที่พักกันหน่อยแล้วกันนะครับ เผื่อสำหรับใครที่มาเที่ยวลอนดอน
เช้าวันใหม่ ตารางวันนี้แน่น

เช้าวันนี้ ตั้งใจว่าจะไม่นัดใครเยอะ แต่....9 โมงเช้า ก็เริ่มทำงานเลย ด้วยการพาน้องๆนักเรียนและคุณพ่อ
ไปดูหอพักสำหรับช่วงขึ้นปีสอง งานด่วนมาแต่เช้า
ขอทำงานนิดนึง หอพักนักเรียนที่ลอนดอนสมัยดีดูดีกว่าแต่ก่อนจริงๆ

กลับเข้าเมืองจิบกาแฟกับขนมที่ SOHO ที่ร้าน Gail’s ร้านนี้มีขนมปังให้เลือกหลากหลายเลย

แล้วรีบพุ่งไปซื้อกระเป๋าต่อให้คุณเจ้ บ่ายแวะเอาขนมไปฝากเพื่อนๆที่รู้จักสักหน่อย
ก่อนธนาคารปิด รีบพาน้องอีกคนไปจ่ายค่าเรียนแล้วทานมื้อบ่ายต่อ ที่ร้าน Le Pain Quotidien
ร้านอาหารที่เน้นวัตถุดิบ Organic งานผักงานหญ้า สลัดต้องมา บำรุงกันหน่อย

ตอนเย็นนัด Dinner (กินอีกแล้ว?) นอกจากทำงาน คือทริปเพิ่มน้ำหนักสุดๆ กับพี่โยพาเที่ยว
และน้องๆนักเรียนอีกหนึ่งกลุ่ม (วันนี้กี่กลุ่มแล้ว? 555555)
เย็นนี้มาลองที่ร้าน Big Easy ร้านนี้จะเน้นขาย Lobster และ เมนู BBQ ต่างๆ ใครที่เบื่อ
Burger & Lobster ก็มาลองชิมร้านนี้กันดูนะครับ มีชื่อเสียงเหมือนกัน

ก่อนกลับที่พักแวะดื่ม Milkshake ที่ร้าน Ed’s หวานๆ ก่อนนอน ^^ จบวันอันแสนเร่งด่วน
มาทำงานก็ต้องประมาณนี้ครับ
[CR] ขาดอีก 7,333 ไมล์เพื่อบัตรทองผ่องอำไพ!
สวัสดีครับ ทริปนี้เป็นทริปฉุกเฉินจริงๆ ครับ ยิ่งกว่าไฟไหม้!
พอดีมีธุระที่ลอนดอนเร่งด่วน จังหวะดีเลยรีบซื้อตั๋วเพราะอีกไม่ถึง 10 วันจะโดนตัดสิทธิ์
การเลื่อนเป็นบัตรทอง ถ้าไม่บินอีก 7,333 ไมล์ เรื่องความคุ้มค่าเราจะไม่ยอมแพ้
รีบโทรปรึกษาคุณ Panda เพื่อนผู้คร่ำหวอดในวงการเดินทางกว่าร้อยประเทศ
บอกไปว่าไม่อยากจ่ายเกิน 3 หมื่นบาท เพื่อบัตรทอง ผ่องอำไพ!
เพื่อนรีบจัดแจงจองตั๋ว KL-BKK-London ไปกลับราคางดงาม 28,xxx บาท K class ก็พอ
บวกลบคูณหารได้ 8 พันกว่าไมล์ ไม่ต้องซื้อ Q class ให้เปลือง!! Why pay more? จริงมั๊ยครับ : )
รีบส่งเลขบัตร fast track เลื่อนสถานะสายฟ้าฟาดให้เพื่อนรูดซื้อตั๋วทันที ก่อนราคาเปลี่ยน
เพื่อสะสมไมล์แถมได้ประกันการเดินทางคุ้มครองฟรีตลอดทริปครับ (ฟรีมูลค่าสามสี่ร้อยเราก็เอา)
ผมเพิ่งเริ่มทำธุรกิจเล็กๆ SME ตีไม่แตก เลยต้องรับหน้าที่ทุกอย่างตั้งแต่ผู้จัดการยันแม่บ้าน
ค่าใช้จ่ายทุกอย่างต้องคิดแล้วคิดอีกก่อนเปย์ออกไป จึงเกิดทริปลอนดอน 5 วันขึ้น
5 วันที่มานี้ต้องได้งาน ต้องได้ไมล์!!
ทริปอาจจะเร่งด่วนไปหน่อย แต่ด้วยความที่เดินทางค่อยข้างบ่อย ก็ชิวๆครับ เรื่องความคุ้มค่า
ต้องมาก่อน เริ่มการเดินทางกันเลย!
วันที่ 1 (BKK-KL) (KL-BKK)
ด้วยความที่ต้องออกจากกัวลาลัมเปอร์เท่านั้นถึงจะถูกที่สุด (ราคาต่างจากบินออกจากBKK
เป็นหมื่นเลยนะครับ) เราเลยต้องยอมบินไปเริ่มที่นั่น จริงๆ ตั๋ว Low cost ไป KL ไม่แพง
ก็ยังถือว่าคุ้มอยู่ครับ ถือว่ามาเปลี่ยนบรรยากาศทำงาน! อาจจะลำบากหน่อยแต่เพื่อความคุ้ม
หายเหนื่อยครับ! รูทนี้จะเริ่มจาก KL - BKK แล้ว stop over เพื่อต่อไฟล์เช้าไป LDN ครับ
ผมบินจากดอนเมืองไปกัวลาลัมเปอร์ จากการแลกไมล์บัตรเครดิตสีแดง เลือกเวลาก่อนเที่ยง
จะได้แวะทานอาหารกลางวันฟรีที่ The Coral Executive Lounge โดยใช้บัตร Priority Pass
ที่แถมมาให้กับบัตรเครดิตอีกใบหนึ่ง อาหารก็หรูหราไม่เบา นานๆ ทีจะได้ใช้บริการที่นี่
สองชั่วโมงก็ถึง KL เดินเล่นแปปนึง ว่าจะซื้อของฝาก แต่แอบแพง มีเพื่อนฝากซื้อน้ำหอมขวดนึง
นึกว่าจะถูกกว่า แต่กลับมาเจอ Duty Free ที่ไทยถูกกว่า เจ็บใจมาก!
รีบหยุดเดินก่อนเสียเงินไปมากกว่านี้ ไปทานข้าวมันไก่ นั่งทำงานที่ Plaza Premium Lounge ดีกว่า
ก่อนเดินทางกลับกรุงเทพ จริงๆว่าจะเข้าไปเดินเล่นในตัวเมือง KL แต่เกรงว่าจะกลับมาไม่ทันขึ้นเครื่อง
เลยเปลี่ยนเป็นนั่งทำงานในเล้าจ์ชิวๆดีกว่า
รอเครื่องราวๆห้าชั่วโมง บินสองชั่วโมงก็ถึงสุวรรณภูมิ ช่วงห้าทุ่มกว่าๆ เรียก Taxi จาก App
ใช้ Rewards แลกค่าโดยสาร กลับบ้านนอนพักหนึ่งคืน ตอนแรกตั้งใจจะจองที่พักแถวสนามบิน
แต่คำนวณแล้วกลับบ้านประหยัดกว่า ได้นอนหลับเต็มอิ่มด้วย : )
วันที่ 2 BKK-LDN
เริ่มต้นตอนเช้า บินจากกรุงเทพไปลอนดอน ไฟล์เที่ยงครึ่ง ก็นัดรถลีมูซีนบริการฟรี
จากบัตรเครดิต เวลา 08:45 มารับจากบ้านตรงเวลาเป๊ะ ถึงสนามบิน 09:30 และไม่ลืมใช้
บริการ Meet & Assist ดูแลเรื่องการ Check-in เข้าช่อง Fast track มีพนักงานเดินไปส่ง
เลาจ์ของสายการบิน
รีบเกินไปหน่อยเพราะหิว ลืมแลกเงินปอนด์เลย พอเข้าไปข้างในแล้วจำใจจ่ายเรทแพง
กว่าด้านนอก แต่เหลือบไปเห็นธนาคารแห่งหนึ่ง มีโปรแลกเงินสกุลต่างประเทศ ผ่อน 0% 3 เดือน
แถมกระเป๋าแม่บ้านน่ารักมุ้งมิ้ง ก็โอเคล่ะ ได้ Point ไม่เสียดอกเบี้ย ได้กระเป๋าเป็นของฝากให้
คุณนายแม่ไปจ่ายตลาดสวยๆ งานผ่อนเพื่อแม่ก็มา 55555
ถึงเลาจ์นั่งพัก call ประชุมงานกับที่ออฟฟิศ ทานอาหารเช้าควบกลางวันก่อนบินยาว
เกือบ 12 ชั่วโมง โชคดีหลับง่าย ทานอาหารมื้อแรกจบบนเครื่องก็หลับยาวๆ 9 ชั่วโมง
ตื่นมาอีกทีทานต่ออักมื้อแป๊ปๆ ถึงลอนดอนละ นึกว่าบินไปเชียงใหม่ ทำไมถึงเร็วจัง
Immigration รอบนี้ยาวยิ่งกว่าต่อคิวซื้อ LV Supreme เด็กๆ เพิ่งเปิดเทอมกันครับ
รอๆๆ รับกระเป๋าแล้วเดินออกมาพักที่ Plaza Premium Lounge อยู่ซ้ายมือหลังเดินออกมาแล้ว
เติมพลังแล้วเดินจาก Heathrow Airport Terminal 2 นิดเดียวก็ถึง Underground จัดการเติมเงิน
Oyster Card Zone 1-2 (weekly) และ Top up เพิ่มอีก £5 สำหรับการเดินทางจาก Zone 6 เข้า Zone 1
และไม่ลืมใช้บัตรเครดิตที่ให้เงินคืนในการใช้จ่ายสกุลตราต่างประเทศสำหรับทริปนี้
นั่ง Piccadilly Line สายตรงประมาณ 45 นาที ก็ถึง Leicester Square Station เดินอีก 5 นาที
แบกกระเป๋าขึ้นชั้นสาม บ้านคุณเจ๊ผู้ใจดี ให้พักฟรีที่ Soho 5 คืนสำหรับทริปนี้ เปิดกระเป๋าเอาขนมข้าว
ธัญพืชอบกรอบของโปรดนางตอบแทนบุญคุณครั้งนี้ ก่อนสลบยาวและตื่นมาอีกทีตี 4 เพื่อเริ่มทำงาน
วันที่ 3 London
ไหนๆแล้วนอกจากการสะสมคะแนนบัตรเพื่อแลกสิทธิประโยชน์ต่างๆ ก็ขอต่อด้วยรีวิว คาเฟ่ รอบๆ Soho
ที่พักกันหน่อยแล้วกันนะครับ เผื่อสำหรับใครที่มาเที่ยวลอนดอน
เช้าวันใหม่ ตารางวันนี้แน่น
เช้าวันนี้ ตั้งใจว่าจะไม่นัดใครเยอะ แต่....9 โมงเช้า ก็เริ่มทำงานเลย ด้วยการพาน้องๆนักเรียนและคุณพ่อ
ไปดูหอพักสำหรับช่วงขึ้นปีสอง งานด่วนมาแต่เช้า
ขอทำงานนิดนึง หอพักนักเรียนที่ลอนดอนสมัยดีดูดีกว่าแต่ก่อนจริงๆ
กลับเข้าเมืองจิบกาแฟกับขนมที่ SOHO ที่ร้าน Gail’s ร้านนี้มีขนมปังให้เลือกหลากหลายเลย
แล้วรีบพุ่งไปซื้อกระเป๋าต่อให้คุณเจ้ บ่ายแวะเอาขนมไปฝากเพื่อนๆที่รู้จักสักหน่อย
ก่อนธนาคารปิด รีบพาน้องอีกคนไปจ่ายค่าเรียนแล้วทานมื้อบ่ายต่อ ที่ร้าน Le Pain Quotidien
ร้านอาหารที่เน้นวัตถุดิบ Organic งานผักงานหญ้า สลัดต้องมา บำรุงกันหน่อย
ตอนเย็นนัด Dinner (กินอีกแล้ว?) นอกจากทำงาน คือทริปเพิ่มน้ำหนักสุดๆ กับพี่โยพาเที่ยว
และน้องๆนักเรียนอีกหนึ่งกลุ่ม (วันนี้กี่กลุ่มแล้ว? 555555)
เย็นนี้มาลองที่ร้าน Big Easy ร้านนี้จะเน้นขาย Lobster และ เมนู BBQ ต่างๆ ใครที่เบื่อ
Burger & Lobster ก็มาลองชิมร้านนี้กันดูนะครับ มีชื่อเสียงเหมือนกัน
ก่อนกลับที่พักแวะดื่ม Milkshake ที่ร้าน Ed’s หวานๆ ก่อนนอน ^^ จบวันอันแสนเร่งด่วน
มาทำงานก็ต้องประมาณนี้ครับ
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น