เคล็ดลับควบคุมจิตใจนี้สามารถนำไปใช้ได้กับทุกเรื่อง แต่วันนี้ขอยกตัวอย่างเป็นเรื่องการตื่นนอนตอนเช้าเป็นประจำก่อน
เพราะเป็นปัญหาที่หลายคนรอบข้างอยากแก้ไขแต่ยังทำไม่สำเร็จ เรียกได้ว่าเมื่ออ่านจบแล้วให้เปลี่ยนนิสัยกันไปเลย มาดูกันเลยว่าเคล็ดลับอยู่ที่ตรงไหน
อ่านต้นฉบับได้จากบล้อก > https://sneepsactive.wordpress.com/2017/06/01/1/
ตอนนี้คุณคงกำลังนึกถึงสารพัดวิธีกันอยู่ใช่ไหมล่ะ ไม่ว่าจะเป็นการนอนหัวค่ำ สวดมนต์ นั่งสมาธิ งดอาหารก่อนเข้านอน มากมายหลายวิธี
ถูกต้องค่ะ ปัจจัยเหล่านี้เป็นตัวช่วยให้คุณตื่นเช้าได้ง่ายขึ้น แต่ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่เคยสัญญากับตัวเองว่า “ฉันจะตื่นเช้าทุกวัน” ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม เช่น คุณอาจจะสัญญากับตัวเองว่า “พรุ่งนี้จะตื่นตี 5 ไปวิ่ง” คุณก็ตั้งนาฬิกาปลุกไว้ แล้วก็รีบเข้านอน แต่พอถึงเวลาที่เสียงนาฬิกาปลุกดัง ก็จะมีอีกเสียงดังขึ้นด้วยว่า “ขอต่ออีกนาทีเดียว” แล้วคุณก็เอื้อมไปกดปุ่ม snooze และสุดท้ายก็ต้องพบว่าตัวเองตื่นขึ้นมาอีกทีในเวลาปกติที่ตื่นเป็นประจำ แล้ววันนั้นคุณก็จะรู้สึกผิดกับตัวเอง แต่ยัง..คุณยังไม่ย่อท้อ คุณก็เริ่มพูดกับตัวเองอีกว่า “ไม่เป็นไรพรุ่งนี้เอาใหม่” แต่แล้วก็จบลงด้วยเหตุการณ์ซ้ำๆ เหมือนกับการฉายหนังเรื่องเดิม
เรื่องนี้ไม่แปลก และคุณก็ไม่ใช่คนเดียวที่เป็น มีคนอีกมากมายบนโลกที่มีปัญหาเดียวกัน
อ๊ะ! อย่าเพิ่งดีใจไป เพราะหากปล่อยให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นซ้ำๆแล้วละก็ รู้หรือไม่ว่า คุณกำลังสั่งสม "การลดคุณค่าในตัวเอง" วันละนิดวันละหน่อยโดยไม่รู้ตัว เมื่อมันมีมากขึ้น มันจะส่งผลกับชีวิตในระยะยาว ทางใดทางหนึ่ง เช่น คุณอาจจะกลายเป็นคนขาดความเชื่อมั่นในตนเอง เป็นคนทำอะไรไม่สำเร็จ ครึ่งๆกลางๆ เป็นต้น แต่คุณสามารถเปลี่ยนพฤติกรรมได้ หากว่าคุณนำวิธีการนี้ไปใช้ นับตั้งแต่วินาทีที่อ่านเรื่องนี้จบ ขอแอบบอกว่า คนที่เขาตื่นเช้ากันตลอด หรือทำบางสิ่งได้จนเป็นนิสัยนั้น เขาก็ไม่ได้มีความสามารถอะไรเหนือไปกว่าคุณเลย เขาแค่รู้ความลับของร่างกาย และใช้มันได้อย่างถูกต้องต่างหากล่ะ
ถ้าเคยสังเกต คุณจะพบว่าร่างกายของเรานั้นง่ายต่อการ "เสพติด" หรือจะเรียกว่าปรับตัวก็ได้ ซึ่งนั่นเกิดจากการทำงานของระบบ muscle memory (ความจำของกล้ามเนื้อ) ผ่านการสั่งงานของ Cerebrel Cortex (สมองส่วนหน้า) ทำให้เซลล์กล้ามเนื้อสามารถจดจำการเคลื่อนไหว จนสามารถกลายเป็นการกระทำอย่างอัตโนมัติ โดยที่ไม่ต้องผ่านการคิด เพราะฉะนั้น ทุกๆ "ครั้งแรก" ของการทำสิ่งต่างๆ มักจะมีความไม่รู้ ไม่ชิน ไม่สะดวก ไม่สบาย ปนอยู่ด้วยเสมอ หรือเรียกว่า "ความรู้สึกไม่เป็นผู้ควบคุม" แต่เมื่อทำซ้ำๆ บ่อยขึ้น คุณจะเริ่มทำได้เองโดยง่ายดาย และคุณจะกลายเป็น "ผู้ควบคุม"
ยกตัวอย่างเช่น หากปกติคุณเป็นคนเล่นเวททุกวันมาเป็นเวลานาน แต่จู่ๆวันหนึ่งคุณเปลี่ยนไปวิ่งแทน ตอนแรกคุณจะรู้สึกอิดออด และมีแรงต่อต้านมาก (resistance) แต่เมื่อวิ่งบ่อยๆเข้า คุณจะวิ่งได้อย่างสบาย และเมื่อนานเข้าคุณจะรู้สึกว่าสามารถพาตัวเองออกไปวิ่งอย่างง่ายดายโดยไม่ต้องคิด และอีกครั้งที่จู่ๆคุณต้องกลับมาเล่นเวทหลังจากห่างหายไปนาน คุณก็จะรู้สึกอิดออด มีการต่อต่านภายใน (resistance) เมื่อต้องเปลี่ยนจากสิ่งที่คุ้นชินมาทำสิ่งใหม่ ทั้งๆที่ครั้งหนึ่งคุณเคยทำมันได้คล่อง แต่อย่างไรก็ตาม เซลล์กล้ามเนื้อได้มีการจดจำการเคลื่อนไหวไว้ของการยกเวทไว้แล้ว เมื่อกลับมายกครั้งที่สองคุณจะไม่ลำบากเท่ากับครั้งแรก และจะกลายเป็นความเคยชินในที่สุด
การตื่นนอนก็เช่นกัน การที่คุณยังไม่สามารถตื่นในเวลาใหม่ได้ ก็เพราะร่างกายคุณยัง "เสพติด" เวลาเดิมอยู่ การที่จะทำให้ร่างกาย "เสพติด" เวลาตื่นนอนใหม่ได้ คุณต้องให้มันฝึกทำซ้ำๆให้ได้ก่อน 2-3 ครั้งอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งเริ่มรู้สึกทำได้ง่ายขึ้น มาถึงตรงนี้หลายคนอาจจะเริ่มคิดแล้วว่า มันจะทำได้ยังไงก็ตอนที่ต้องตื่นนอน ความรู้สึกมันไม่เหมือนตอนก่อนนอนนี่นา เพราะฉะนั้นเคล็ดลับที่จะช่วยให้คุณทำได้สำเร็จก็คือ...
"การลงมือทำตามความตั้งใจแรก (Intention) ถึงแม้ว่าความรู้สึกและอารมณ์ขณะปัจจุบันจะไม่เข้มข้นเท่ากับที่ตั้งใจในตอนแรก"
การที่จะทำสิ่งนี้ได้คุณต้องวางแผนในใจให้เสร็จก่อนนอน ว่าตื่นแล้วจะต้องทำอะไรบ้าง เช่น จะลุกไปแปรงฟัน หยิบของที่วางไว้ แล้วเปิดประตูบ้าน แล้วเริ่มวิ่ง เป็นต้น เพราะหากคุณไม่ได้วางแผนไว้ก่อน คุณจะต้องคิดไปทำไป แล้วเมื่อคุณคิดในสภาวะอารมณ์ที่จิตใจไม่แจ่มใจอยู่นั้น ผลลัพธ์ก็จะออกมาตามอารมณ์ขณะนั้นของคุณ เอาเป็นว่า เมื่อถึงเวลาตื่น คุณจะคิดให้น้อยลง คุณจะไม่ต่อรองกับตัวเอง แค่เคลื่อนไหวร่างกายไปตามแผนการที่วางไว้ ถึงแม้ว่าอารมณ์จะไม่อำนวย แต่คุณรู้อยู่แล้วว่าถ้าทำได้ ผลลัพธ์มันจะดี เนื่องจากจิตใจมนุษย์เราสามารถเปลี่ยนได้ตามกายภาพ
"ไม่จำเป็นว่าต้องรอให้เกิดความรู้สึกแล้วค่อยทำ ให้ทำไปก่อนแล้วความรู้สึกจะตามมาเอง"
เมื่อทำครั้งแรกสำเร็จ ให้คะแนนตัวเองในใจ (อาจเพิ่มความสนุกโดยการสมมติว่าคุณได้บอลวิเศษมา เมื่อสะสมครบแล้วคุณจะอัพเลเวลไปด่านถัดไป แต่ถ้าคุณทำไมได้ บอลทั้งหมดจะหายไป ต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่ แบบนี้ก็ได้ เป็นการเพิ่มความสนุกและท้าทายให้กับตัวเอง) ครั้งที่สองสำเร็จ คุณก็ให้คะแนนกับตัวเองอีก ทำต่อเนื่องอย่าให้ขาด แล้วคุณจะค่อยๆเป็นคนที่มี "วินัย" กับเรื่องนั้นๆในที่สุด
จนกระทั่งคุณจะกลายเป็นคนที่ตื่นในเวลาที่ต้องการได้เสมอ เพราะคุณจะรู้สึกแย่กว่าหากทำไม่ได้ แต่คุณจะทำได้ดีขึ้นหากรู้จักปรับปัจจัยต่างๆให้เอื้ออำนวยด้วย เช่น การปรับเวลาพักผ่อนให้พอดี หมั่นออกกำลังกาย ดูแลเรื่องอาหาร ดื่มน้ำเพียงพอ สวดมนต์ นั่งสมาธิ ทำจิตใจให้ผ่องใส เป็นต้น วิธีการนี้สามารถนำไปใช้ได้กับทุกเรื่อง ทุกอย่างในโลกนี้คุณสามารถทำได้ แค่ตอนนี้คุณแค่ยังไม่เริ่มทำให้ร่างกายมัน "เสพติด" เท่านั้นเอง
ขอเป็นกำลังใจให้กับคนที่กำลังพยายามเปลี่ยนแปลงตัวเองค่ะ
Sneeps Active.
Blog :
https://sneepsactive.wordpress.com/2017/06/01/1/
Facebook : sneeps.active
https://www.facebook.com/sneeps.active/
Instagram : snp.active
Youtube Channel : sneeps active
เคล็ดลับควบคุมจิตใจ
อ่านต้นฉบับได้จากบล้อก > https://sneepsactive.wordpress.com/2017/06/01/1/
ตอนนี้คุณคงกำลังนึกถึงสารพัดวิธีกันอยู่ใช่ไหมล่ะ ไม่ว่าจะเป็นการนอนหัวค่ำ สวดมนต์ นั่งสมาธิ งดอาหารก่อนเข้านอน มากมายหลายวิธี
ถูกต้องค่ะ ปัจจัยเหล่านี้เป็นตัวช่วยให้คุณตื่นเช้าได้ง่ายขึ้น แต่ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่เคยสัญญากับตัวเองว่า “ฉันจะตื่นเช้าทุกวัน” ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม เช่น คุณอาจจะสัญญากับตัวเองว่า “พรุ่งนี้จะตื่นตี 5 ไปวิ่ง” คุณก็ตั้งนาฬิกาปลุกไว้ แล้วก็รีบเข้านอน แต่พอถึงเวลาที่เสียงนาฬิกาปลุกดัง ก็จะมีอีกเสียงดังขึ้นด้วยว่า “ขอต่ออีกนาทีเดียว” แล้วคุณก็เอื้อมไปกดปุ่ม snooze และสุดท้ายก็ต้องพบว่าตัวเองตื่นขึ้นมาอีกทีในเวลาปกติที่ตื่นเป็นประจำ แล้ววันนั้นคุณก็จะรู้สึกผิดกับตัวเอง แต่ยัง..คุณยังไม่ย่อท้อ คุณก็เริ่มพูดกับตัวเองอีกว่า “ไม่เป็นไรพรุ่งนี้เอาใหม่” แต่แล้วก็จบลงด้วยเหตุการณ์ซ้ำๆ เหมือนกับการฉายหนังเรื่องเดิม
เรื่องนี้ไม่แปลก และคุณก็ไม่ใช่คนเดียวที่เป็น มีคนอีกมากมายบนโลกที่มีปัญหาเดียวกัน
อ๊ะ! อย่าเพิ่งดีใจไป เพราะหากปล่อยให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นซ้ำๆแล้วละก็ รู้หรือไม่ว่า คุณกำลังสั่งสม "การลดคุณค่าในตัวเอง" วันละนิดวันละหน่อยโดยไม่รู้ตัว เมื่อมันมีมากขึ้น มันจะส่งผลกับชีวิตในระยะยาว ทางใดทางหนึ่ง เช่น คุณอาจจะกลายเป็นคนขาดความเชื่อมั่นในตนเอง เป็นคนทำอะไรไม่สำเร็จ ครึ่งๆกลางๆ เป็นต้น แต่คุณสามารถเปลี่ยนพฤติกรรมได้ หากว่าคุณนำวิธีการนี้ไปใช้ นับตั้งแต่วินาทีที่อ่านเรื่องนี้จบ ขอแอบบอกว่า คนที่เขาตื่นเช้ากันตลอด หรือทำบางสิ่งได้จนเป็นนิสัยนั้น เขาก็ไม่ได้มีความสามารถอะไรเหนือไปกว่าคุณเลย เขาแค่รู้ความลับของร่างกาย และใช้มันได้อย่างถูกต้องต่างหากล่ะ
ถ้าเคยสังเกต คุณจะพบว่าร่างกายของเรานั้นง่ายต่อการ "เสพติด" หรือจะเรียกว่าปรับตัวก็ได้ ซึ่งนั่นเกิดจากการทำงานของระบบ muscle memory (ความจำของกล้ามเนื้อ) ผ่านการสั่งงานของ Cerebrel Cortex (สมองส่วนหน้า) ทำให้เซลล์กล้ามเนื้อสามารถจดจำการเคลื่อนไหว จนสามารถกลายเป็นการกระทำอย่างอัตโนมัติ โดยที่ไม่ต้องผ่านการคิด เพราะฉะนั้น ทุกๆ "ครั้งแรก" ของการทำสิ่งต่างๆ มักจะมีความไม่รู้ ไม่ชิน ไม่สะดวก ไม่สบาย ปนอยู่ด้วยเสมอ หรือเรียกว่า "ความรู้สึกไม่เป็นผู้ควบคุม" แต่เมื่อทำซ้ำๆ บ่อยขึ้น คุณจะเริ่มทำได้เองโดยง่ายดาย และคุณจะกลายเป็น "ผู้ควบคุม"
ยกตัวอย่างเช่น หากปกติคุณเป็นคนเล่นเวททุกวันมาเป็นเวลานาน แต่จู่ๆวันหนึ่งคุณเปลี่ยนไปวิ่งแทน ตอนแรกคุณจะรู้สึกอิดออด และมีแรงต่อต้านมาก (resistance) แต่เมื่อวิ่งบ่อยๆเข้า คุณจะวิ่งได้อย่างสบาย และเมื่อนานเข้าคุณจะรู้สึกว่าสามารถพาตัวเองออกไปวิ่งอย่างง่ายดายโดยไม่ต้องคิด และอีกครั้งที่จู่ๆคุณต้องกลับมาเล่นเวทหลังจากห่างหายไปนาน คุณก็จะรู้สึกอิดออด มีการต่อต่านภายใน (resistance) เมื่อต้องเปลี่ยนจากสิ่งที่คุ้นชินมาทำสิ่งใหม่ ทั้งๆที่ครั้งหนึ่งคุณเคยทำมันได้คล่อง แต่อย่างไรก็ตาม เซลล์กล้ามเนื้อได้มีการจดจำการเคลื่อนไหวไว้ของการยกเวทไว้แล้ว เมื่อกลับมายกครั้งที่สองคุณจะไม่ลำบากเท่ากับครั้งแรก และจะกลายเป็นความเคยชินในที่สุด
การตื่นนอนก็เช่นกัน การที่คุณยังไม่สามารถตื่นในเวลาใหม่ได้ ก็เพราะร่างกายคุณยัง "เสพติด" เวลาเดิมอยู่ การที่จะทำให้ร่างกาย "เสพติด" เวลาตื่นนอนใหม่ได้ คุณต้องให้มันฝึกทำซ้ำๆให้ได้ก่อน 2-3 ครั้งอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งเริ่มรู้สึกทำได้ง่ายขึ้น มาถึงตรงนี้หลายคนอาจจะเริ่มคิดแล้วว่า มันจะทำได้ยังไงก็ตอนที่ต้องตื่นนอน ความรู้สึกมันไม่เหมือนตอนก่อนนอนนี่นา เพราะฉะนั้นเคล็ดลับที่จะช่วยให้คุณทำได้สำเร็จก็คือ...
"การลงมือทำตามความตั้งใจแรก (Intention) ถึงแม้ว่าความรู้สึกและอารมณ์ขณะปัจจุบันจะไม่เข้มข้นเท่ากับที่ตั้งใจในตอนแรก"
การที่จะทำสิ่งนี้ได้คุณต้องวางแผนในใจให้เสร็จก่อนนอน ว่าตื่นแล้วจะต้องทำอะไรบ้าง เช่น จะลุกไปแปรงฟัน หยิบของที่วางไว้ แล้วเปิดประตูบ้าน แล้วเริ่มวิ่ง เป็นต้น เพราะหากคุณไม่ได้วางแผนไว้ก่อน คุณจะต้องคิดไปทำไป แล้วเมื่อคุณคิดในสภาวะอารมณ์ที่จิตใจไม่แจ่มใจอยู่นั้น ผลลัพธ์ก็จะออกมาตามอารมณ์ขณะนั้นของคุณ เอาเป็นว่า เมื่อถึงเวลาตื่น คุณจะคิดให้น้อยลง คุณจะไม่ต่อรองกับตัวเอง แค่เคลื่อนไหวร่างกายไปตามแผนการที่วางไว้ ถึงแม้ว่าอารมณ์จะไม่อำนวย แต่คุณรู้อยู่แล้วว่าถ้าทำได้ ผลลัพธ์มันจะดี เนื่องจากจิตใจมนุษย์เราสามารถเปลี่ยนได้ตามกายภาพ
"ไม่จำเป็นว่าต้องรอให้เกิดความรู้สึกแล้วค่อยทำ ให้ทำไปก่อนแล้วความรู้สึกจะตามมาเอง"
เมื่อทำครั้งแรกสำเร็จ ให้คะแนนตัวเองในใจ (อาจเพิ่มความสนุกโดยการสมมติว่าคุณได้บอลวิเศษมา เมื่อสะสมครบแล้วคุณจะอัพเลเวลไปด่านถัดไป แต่ถ้าคุณทำไมได้ บอลทั้งหมดจะหายไป ต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่ แบบนี้ก็ได้ เป็นการเพิ่มความสนุกและท้าทายให้กับตัวเอง) ครั้งที่สองสำเร็จ คุณก็ให้คะแนนกับตัวเองอีก ทำต่อเนื่องอย่าให้ขาด แล้วคุณจะค่อยๆเป็นคนที่มี "วินัย" กับเรื่องนั้นๆในที่สุด
จนกระทั่งคุณจะกลายเป็นคนที่ตื่นในเวลาที่ต้องการได้เสมอ เพราะคุณจะรู้สึกแย่กว่าหากทำไม่ได้ แต่คุณจะทำได้ดีขึ้นหากรู้จักปรับปัจจัยต่างๆให้เอื้ออำนวยด้วย เช่น การปรับเวลาพักผ่อนให้พอดี หมั่นออกกำลังกาย ดูแลเรื่องอาหาร ดื่มน้ำเพียงพอ สวดมนต์ นั่งสมาธิ ทำจิตใจให้ผ่องใส เป็นต้น วิธีการนี้สามารถนำไปใช้ได้กับทุกเรื่อง ทุกอย่างในโลกนี้คุณสามารถทำได้ แค่ตอนนี้คุณแค่ยังไม่เริ่มทำให้ร่างกายมัน "เสพติด" เท่านั้นเอง
ขอเป็นกำลังใจให้กับคนที่กำลังพยายามเปลี่ยนแปลงตัวเองค่ะ
Sneeps Active.
Blog : https://sneepsactive.wordpress.com/2017/06/01/1/
Facebook : sneeps.active https://www.facebook.com/sneeps.active/
Instagram : snp.active
Youtube Channel : sneeps active