เรากำลังเรียนมหาลัยค่ะ ล่ะเขาเป็นรุ่นพี่ แรกๆ ก็พูดดีค่ะ (พูดเรื่องวิธีหาเงินอ่ะค่ะ พวกpassive income เราก็สนใจนะ ฟังดูดีมาก)
แต่ตอนนั้นเราไม่รู้ว่าเขาทำงานAmway จนเขาให้เราไปฟังพี่อีกคนอธิบายงาน Buzzolute ก็เลยรู้ว่า "อ๋อ Amway นี่เอง"
ส่วนตัวไม่ได้เกลียดหรือแอนตี้Amway ก็ศึกษามาเรื่อยๆ สักพักก็มีเรียกไปที่centerตอนหนึ่งทุ่มถึงสามทุ่ม (ไม่ได้ไปเพราะติดธุระ)
เขาเลยนัดเรามาวันอื่น เราก็ไป ล่ะเขาก็พาเราเดินดูผลิตภัณฑ์พร้อมโฆษณาไปด้วย
คือพี่แกบอกว่าทุกอย่างดีไปหมด แรกๆ ก็ไม่ได้อะไร แต่พอนานๆ มันก็เริ่มรำคาญ ประมาณว่า Nobody is perfect but Amway 55555
ล่ะพอเขารู้ว่าเรากำลังลดน้ำหนัก เขาเลยพูดเรื่องคอร์สกับอาหารเสริมให้ฟังด้วย
ตรงนี้แหละค่ะที่เริ่มไม่โอเค คือเรากำลังลดน้ำหนัก ก็เลยลงเรียนกีฬาที่คณะวิทย์กีฬาด้วย ทำให้รู้ว่าการออกกำลังกายสำคัญมาก เป็นไปไม่ได้ที่จะลดน้ำหนักหรือมีกล้ามโดยไม่ออกกำลังกาย
แต่เขากับพี่อีกคนที่เป็นคนดูแลเขาอีกทีก็พูดประมาณว่า การออกกำลังกายไม่สำคัญเท่าการกิน(อาหารเสริมหรือผลิตภัณฑ์ทดแทนมื้ออาหารของเขา555)
ล่ะที่ฮาเลยคือ พวกพี่แกบอกว่าคนเรามีกล้ามอยู่แล้ว แค่ไขมันบัง แบบ...เฮ้ย มันใช่อ่อ
ล่ะฮากว่าเดิมคือ ไปฟังบรรยายเรื่องดูแลรูปร่าง(ด้วยคอร์สและอาหารเสริมของเขา) ตอนสัมภาษณ์คนนู้นคนนี้ที่ประสบความสำเร็จจากคอร์สเขา คือพวกเขาก็จะบอกว่าออกกำลังกายควบคู่ไปด้วย...อ้าว งั้นแค่เราควบคุมอาหารและออกกำลังกายก็พอล่ะนี่ ทำไมต้องเสียเงินตั้งมากเพื่อกินผลิตภัณฑ์เขาด้วย
เข้าใจนะว่าคือการโฆษณา แต่บางทีมันก็เยอะไปจนน่าหงุดหงิดอ่ะ มันขัดแย้งกับที่เรียนมามาก
ทุกครั้งที่ฟังพี่ๆ เขาพูด จะรู้สึกแบบ...โอย อีกแล้วเหรอ บ้ารึเปล่า มันไม่ใช่
ตั้งแต่ไปcenter กับฟังบรรยาย รู้สึกเสียดายเวลาและค่าเดินทางมาก คือเหมือนไปฟังเขาโฆษณาอ่ะค่ะ
ล่ะที่ไม่พอใจต่อมาคือวิธีการพูด การพรีเซนต์ของพี่ๆ เขา
คือเราเรียนอยู่ ล่ะก็อยากทำอย่างอื่นก่อนที่จะมาทำเรื่องนี้ ง่ายๆ เลยคือตอนนี้ยังไม่อยากทำอ่ะค่ะ
กะว่าจะดูไปเรื่อยๆ ไม่ก็เลิกหยุดดูไปเลย เพราะนานๆ เข้ารู้สึกว่ามันไม่ใช่ทาง
เลยลองไปพูดกับพี่เขาดูว่า เรายังไม่พร้อม ตอนที่พูดไปในใจก็รู้สึกผิดนะ ประมาณว่าพี่เขาก็คอยติดต่อ(แม้จะรู้ว่าเพื่อเอาใจเรา) เราเลยคิดว่าปีหน้าค่อยทำดีไหมนะ เพราะไม่อยากทำตอนนี้แน่ๆ
แต่สิ่งที่พี่เขาพูด มันคือการย้อนถามแบบ...หาเรื่องไงไม่รู้ คือเข้าใจนะว่าที่พูดอย่างนี้เพื่อให้เราคิดได้และแบ่งเวลามาศึกษางานเขา แต่ไม่โอเคกับวิธีพูดเลยจริงๆ คือกดดันเราอยู่นั่นแหละ
เช่น เราบอกว่าเราต้องเรียน พี่เขาก็บอกว่า คนอื่นก็ต้องเรียน พี่เขาก็เรียน ไหนจะยกตัวอย่างพวกเด็กแพทย์ว่าเรียนหนักกว่าเราตั้งเยอะ ทำไมเขายังแบ่งเวลามาศึกษาได้
เราก็แบบ...เอ้า ก็นั่นมันเขา เขาอยากทำ เขาก็แบ่งไปสิ แต่เรายังไม่อยากทำตอนนี้นี่ พอบอกไปแบบนี้ก็ย้อนมาเรื่องพ่อแม่ว่าอยากให้ท่านสบายไหม ไปไกลมากกกก
สรุปคือพี่แกใช้คำพูดไม่โอมากๆ ไม่ได้มีคำหยาบ แต่เป็นคำที่แบบไม่ชวนน่าฟังมากๆ
ความคิดที่ว่าจะทำปีหน้าหายไปเลย แต่เขาก็ยังตื้อๆๆๆ อยู่นั่น เราก็พยายามพูดดีๆ บอกไปว่าไม่พร้อมก็แล้ว แต่แทนที่จะเข้าใจกลับมาพูดแบบนี้อยู่นั่นแหละ ล่ะไม่ใช่ครั้งสองครั้ง พูดหลายครั้งมากตั้งแต่เรื่องลดน้ำหนักแล้ว
ตอนนี้คือ รำคาญ มากค่ะ แต่เขาคือรุ่นพี่ ก็ไม่รู้จะพูดไงดีให้เขาเลิกกดดันเรา จะพูดแรงๆก็ไม่ได้ เลยคิดวิธีไม่ออกล่ะค่ะ ช่วยทีนะคะ
//ขอโทษที่ร่ายมายาว เราแค่อยากระบาย 555
ช่วยคิดวิธีปฏิเสธคนตื้อเข้า Amwayทีค่ะ
แต่ตอนนั้นเราไม่รู้ว่าเขาทำงานAmway จนเขาให้เราไปฟังพี่อีกคนอธิบายงาน Buzzolute ก็เลยรู้ว่า "อ๋อ Amway นี่เอง"
ส่วนตัวไม่ได้เกลียดหรือแอนตี้Amway ก็ศึกษามาเรื่อยๆ สักพักก็มีเรียกไปที่centerตอนหนึ่งทุ่มถึงสามทุ่ม (ไม่ได้ไปเพราะติดธุระ)
เขาเลยนัดเรามาวันอื่น เราก็ไป ล่ะเขาก็พาเราเดินดูผลิตภัณฑ์พร้อมโฆษณาไปด้วย
คือพี่แกบอกว่าทุกอย่างดีไปหมด แรกๆ ก็ไม่ได้อะไร แต่พอนานๆ มันก็เริ่มรำคาญ ประมาณว่า Nobody is perfect but Amway 55555
ล่ะพอเขารู้ว่าเรากำลังลดน้ำหนัก เขาเลยพูดเรื่องคอร์สกับอาหารเสริมให้ฟังด้วย
ตรงนี้แหละค่ะที่เริ่มไม่โอเค คือเรากำลังลดน้ำหนัก ก็เลยลงเรียนกีฬาที่คณะวิทย์กีฬาด้วย ทำให้รู้ว่าการออกกำลังกายสำคัญมาก เป็นไปไม่ได้ที่จะลดน้ำหนักหรือมีกล้ามโดยไม่ออกกำลังกาย
แต่เขากับพี่อีกคนที่เป็นคนดูแลเขาอีกทีก็พูดประมาณว่า การออกกำลังกายไม่สำคัญเท่าการกิน(อาหารเสริมหรือผลิตภัณฑ์ทดแทนมื้ออาหารของเขา555)
ล่ะที่ฮาเลยคือ พวกพี่แกบอกว่าคนเรามีกล้ามอยู่แล้ว แค่ไขมันบัง แบบ...เฮ้ย มันใช่อ่อ
ล่ะฮากว่าเดิมคือ ไปฟังบรรยายเรื่องดูแลรูปร่าง(ด้วยคอร์สและอาหารเสริมของเขา) ตอนสัมภาษณ์คนนู้นคนนี้ที่ประสบความสำเร็จจากคอร์สเขา คือพวกเขาก็จะบอกว่าออกกำลังกายควบคู่ไปด้วย...อ้าว งั้นแค่เราควบคุมอาหารและออกกำลังกายก็พอล่ะนี่ ทำไมต้องเสียเงินตั้งมากเพื่อกินผลิตภัณฑ์เขาด้วย
เข้าใจนะว่าคือการโฆษณา แต่บางทีมันก็เยอะไปจนน่าหงุดหงิดอ่ะ มันขัดแย้งกับที่เรียนมามาก
ทุกครั้งที่ฟังพี่ๆ เขาพูด จะรู้สึกแบบ...โอย อีกแล้วเหรอ บ้ารึเปล่า มันไม่ใช่
ตั้งแต่ไปcenter กับฟังบรรยาย รู้สึกเสียดายเวลาและค่าเดินทางมาก คือเหมือนไปฟังเขาโฆษณาอ่ะค่ะ
ล่ะที่ไม่พอใจต่อมาคือวิธีการพูด การพรีเซนต์ของพี่ๆ เขา
คือเราเรียนอยู่ ล่ะก็อยากทำอย่างอื่นก่อนที่จะมาทำเรื่องนี้ ง่ายๆ เลยคือตอนนี้ยังไม่อยากทำอ่ะค่ะ
กะว่าจะดูไปเรื่อยๆ ไม่ก็เลิกหยุดดูไปเลย เพราะนานๆ เข้ารู้สึกว่ามันไม่ใช่ทาง
เลยลองไปพูดกับพี่เขาดูว่า เรายังไม่พร้อม ตอนที่พูดไปในใจก็รู้สึกผิดนะ ประมาณว่าพี่เขาก็คอยติดต่อ(แม้จะรู้ว่าเพื่อเอาใจเรา) เราเลยคิดว่าปีหน้าค่อยทำดีไหมนะ เพราะไม่อยากทำตอนนี้แน่ๆ
แต่สิ่งที่พี่เขาพูด มันคือการย้อนถามแบบ...หาเรื่องไงไม่รู้ คือเข้าใจนะว่าที่พูดอย่างนี้เพื่อให้เราคิดได้และแบ่งเวลามาศึกษางานเขา แต่ไม่โอเคกับวิธีพูดเลยจริงๆ คือกดดันเราอยู่นั่นแหละ
เช่น เราบอกว่าเราต้องเรียน พี่เขาก็บอกว่า คนอื่นก็ต้องเรียน พี่เขาก็เรียน ไหนจะยกตัวอย่างพวกเด็กแพทย์ว่าเรียนหนักกว่าเราตั้งเยอะ ทำไมเขายังแบ่งเวลามาศึกษาได้
เราก็แบบ...เอ้า ก็นั่นมันเขา เขาอยากทำ เขาก็แบ่งไปสิ แต่เรายังไม่อยากทำตอนนี้นี่ พอบอกไปแบบนี้ก็ย้อนมาเรื่องพ่อแม่ว่าอยากให้ท่านสบายไหม ไปไกลมากกกก
สรุปคือพี่แกใช้คำพูดไม่โอมากๆ ไม่ได้มีคำหยาบ แต่เป็นคำที่แบบไม่ชวนน่าฟังมากๆ
ความคิดที่ว่าจะทำปีหน้าหายไปเลย แต่เขาก็ยังตื้อๆๆๆ อยู่นั่น เราก็พยายามพูดดีๆ บอกไปว่าไม่พร้อมก็แล้ว แต่แทนที่จะเข้าใจกลับมาพูดแบบนี้อยู่นั่นแหละ ล่ะไม่ใช่ครั้งสองครั้ง พูดหลายครั้งมากตั้งแต่เรื่องลดน้ำหนักแล้ว
ตอนนี้คือ รำคาญ มากค่ะ แต่เขาคือรุ่นพี่ ก็ไม่รู้จะพูดไงดีให้เขาเลิกกดดันเรา จะพูดแรงๆก็ไม่ได้ เลยคิดวิธีไม่ออกล่ะค่ะ ช่วยทีนะคะ
//ขอโทษที่ร่ายมายาว เราแค่อยากระบาย 555