คุณเคยรู้สึกเหนื่อย รู้สึกหมดหวัง รู้สึกท้อแท้ กับการสมัครงานสัมภาษณ์งานซ้ำๆไหมครับ ลองมาฟังเรื่องของผมกัน

สวัสดีครับทุกๆท่านก่อนอื่นต้องขอแนะนำตัว ผมชื่อมอสครับ เพิ่งจบการศึกษาเมื่อช่วงปลายปีปีที่แล้ว ปี2559 ด้วยจบมาใหม่ๆใครๆก็อยากมีงานทำเป็นธรรมดา ผมขอแจ้งก่อนผมสมัครงานไว้เยอะมากๆรวมๆแล้วเกือบ100ที่โดยไม่ได้ต้องการเงินเดือนเยอะมาก แค่ต้องการมีเงินเดือนเพียงพอต่อการใช้ชีวิตของเรา ผมจบเอกโฆษณามาครับด้วยความที่จบมาใหม่ๆเลยปลิวไบสมัครไปทุกที่ทุกบริษัท ทั้งส่งเอกสาร ฝากResume  ทั้งระบบออนไลน์ ทั้งงานตรงสายบ้าง ไม่ตรงสายบ้าง เอาทุกอย่างเพราะเราเองไม่เกี่ยงงานน้อยงานหนัก และก็มีบริษัทหนึ่งโทรนัดสัมภาษณ์เป็นบริษัทจัดงาน Event Organization ผมเตรียมเอกสารทุกอย่าง และเตรียมการพูด การวางตัว แทบทุกอย่าง ผมก็เข้าสัมภาษณ์ ตามปกติทุกอย่าง จนถึงวันที่คัดเลือกผมก็ไม่ผ่าน ซึ่งตอนนั้นเราก็ยังมีหวังที่อื่นอีกมากมายเพราะเรายังมีฝากไว้หลายๆที่ ผมก็สมัคร และสัมภาษณ์ช่วงนั้นไม่ต้องทำมาหากินอะไรเลย สมัครงาน สัมภาษณ์ อยู่เป็นสิบๆที่ จากสิบเป็นร้อย จนเกือบถอดใจเลยลองไปสมัคร ราชการที่แรก ในตำแหน่ง P.R.O. นักประชาสัมพันธ์  ก็ไม่ผ่านเข้ารอบสัมภาษณ์ และมีช่วงหนึ่งที่ กระทรวงศึกษาธิการ ให้โอกาสปริญญาตรีทุกสาขาเข้ารับราชการครูได้ ผมเลยเอาหลักสูตรไปเทียบแต่ก็ไม่ผ่านเนื่องด้วยหลักสูตร ผมเลยไปสมัครที่อื่นไว้ หลายๆที่ จนมาถึงช่วงสอบ กพ.เมื่อต้นปีเตรียมตัวอ่านหนังสือหนักมาก ติวข้อสอบหาข้อสอยเก่ามาอ่านรวมถึงเทคนิคต่างๆ จนถึงวันสอบก็ชวดเพราะป่วยหนักจนเข้าโรงพยาบาล แต่ก็ยังไม่ยอมแพ้ ก็ไปสมัครสอบหลายๆที่แต่ส่วนใหญ่คุณสมบัติทางสาขาวิชาไม่ตรง เริ่มถอดใจเริ่มมีความเหนื่อย จนร้องไห้ ท้อแท้ ล้าไปหมด เพื่อนๆที่เรียนมาด้วยกันเค้าได้งานกันหมดทั้งสาขายกเว้นเราคนเดียว เราก็ไม่รู้จะทำยังไง ส่วนใหญ่ที่ไม่ผ่านด้วยคุณสมบัติ เพราะเราไม่มีประสบการณ์ ทำให้เราท้อมาก เคยคิดสั้นเอาจริงเราคงยังไม่ถึงฆาตเรากินยาคลายเครียดเข้ากระปุกนึงแล้วก็หลับไปแล้วก็ตื่นขึ้นมาและก็ออก ไปหาสมัคร งานใหม่เหมือนเดิม ทำแบบนี้อยู่หลายเราก็ยังไม่ได้งาน จนความเครียดเริ่มเข้ามาจดทะเบียนสมรสกับเรา ถึงขั้นป่วยด้วยอาการเครียดขั้นรุนแรงจนหมดสติลำบากที่บ้านอีกแล้วจนต้องพากันหามส่งโรงพยาบาล เข้าพักฟื้นอยู่เป็นเดือนด้วยสภาวะเครียดจนถึงทุกวันนี้ หลายๆคนอาจจะเจอปัญหาแบบเดียวกับผมอาจจะแก้ปัญหาได้ดีกว่าแต่ผมบางทีเจอหนักๆเข้าก็หันไปพึ่ง ยาคลายเครียด ยานอนหลับ เพื่อที่จะให้ตนเองไม่เครียด ผมก็ตะเวนหางาน สมัครงายทิ้งไว้อีกเช่นเคยแต่คราวนี้โชคไม่เข้าข้างผมเลยสักครั้งเดียว สมัครไว้เป็นสิบที่แต่ก็สงบนิ่งมาก ผมเริ่มมีอาการเครียดหนักขึ้นกว่าเดิม เริ่มกินยาระงับประสาทเพื่อลดความเครียดของตนเอง จนมาถึงสิ่งที่ตัวเองไม่คาดคิดครั้งนี้เข้าโรงพยาบาลด้วยอาการเดิม แต่คราวนี้ลากสังขารตัวเองไปหาหมอ จนรู้ว่าตัวเองมีสภาวะเครียด และติดเชื้อในกระแสเลือด ตอนที่รู้ คิดว่าคงไม่มีอะไรเลวร้ายกว่านี้อีกแล้วในชีวิต มันกลับทำให้ผมคิดมากกว่าเดิมเป็นเท่าตัวจนครั้งนี้ คิดสั้น พอกลับจากโรงพยาบาลด้วยความเครียดสะสมเดินไปหยิบเชือกขึ้นบ้านไปหวังจะแขวนคอตายซะจะได้ไม่เครียดพอกำลังแขวนคอลงในเชือก พ่อกับแม่เดินขึ้นมาเห็นทันก่อนที่เราจะดันตัวเองออกจากเก้าอี้ เรามารู้สึกตัวอีกเห็นพ่อกับแม่นั่งอยู่ข้างตัวเรา พร้อมกับพูดว่า "ไม่เป็นไรนะ " เท่านั้นแหละทำให้ผมรู้สึกตัวและย้อนกลับมาคิด และขอโทษพ่อกับแม่ จนตั้งแต่วันนั้น ผมก็ไม่เคยยอมแพ้อีกเลย จนปัจจุบันจะยังไม่ได้งานก็ตาม ผมก็พยายามไปช่วยพ่อกับแม่ทำงาน
จนมีเงินใช้จ่ายในตัวเองบ้างกำลังใจจากครอบครัวนับว่าสำคัญเสมอจนทำให้ผมสู้ต่อไป ใครมีแบบนี้มาแชร์กันนะ แนะนำได้ ติชมได้ครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่