หุ่นยนต์ หรือ Robot มีรากศัพท์มาจากคำว่า Robota ในภาษา Czech หมายถึง ทาส คนรับใช้ หรือผู้ใช้แรงงาน เริ่มใช้ครั้งแรกในปีพ.ศ. 2464
Robotics หรือ “วิทยาการหุ่นยนต์” ถูกนำมาใช้ครั้งแรกในเรื่องสั้นชื่อ Runaround ของ ไอแซค อาซิมอฟ (Isaac Asimov) นักเขียนนวนิยายวิทยาศาสตร์ชื่อดังชาวรัสเซีย ตีพิมพ์เมื่อปีพ.ศ. 2485 ซึ่งต่อมาถูกบรรจุไว้ในชุดรวมเรื่องสั้น I, Robot

โดยรวมแล้ว หุ่นยนต์ หมายถึง เครื่องจักรหรือเครื่องมือที่ออกแบบมาให้ทำงานแทนมนุษย์ ในลักษณะการทำงานแบบอัตโนมัติ (automatic machine) หรือกึ่งอัตโนมัติ (semi automatic machine) และสามารถโปรแกรมให้ทำงานอย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่างได้ ไม่ว่าจะเป็นงานหนัก งานสกปรก และงานที่น่าเบื่อ งานที่ต้องเสี่ยงอันตรายมากๆ
หุ่นยนต์อุตสาหกรรมตัวแรกของโลก ถูกสร้างโดยจอร์จ ดีวอล และ โจเซฟ เอ็นเกลเบอร์เกอร์ วิศวกรชาวอเมริกัน เมื่อปีพ.ศ. 2504 ต่อมานายโจเซฟได้รับการขนานนามว่า เป็นบิดาแห่งหุ่นยนต์อุตสาหกรรม

ในปี พ.ศ. 2513 ประเทศรัสเซียได้สร้างหุ่นยนต์สำหรับสำรวจสภาพพื้นผิวของดวงจันทร์ ชื่อ ลูโนโฮด วัน (Lunokhod 1) ซึ่งเป็นหุ่นยนต์ที่ควบคุมจากระยะไกลตัวแรกของโลก (และสามารถขับเคลื่อนได้ โดยใช้พลังงานจากแสงอาทิตย์ด้วย) มีหน้าที่สำรวจสภาพของพื้นผิวบนดวงจันทร์ หุ่นลูโนโฮด วัน ประกอบด้วยล้อจำนวน 8 ล้อ และอุปกรณ์ตรวจรู้ ได้แก่ อุปกรณ์ตรวจรู้รังสีเอกซ์ (X-ray) อุปกรณ์ตรวจรู้รังสีคอสมิก (cosmic-ray) และกล้องโทรทัศน์จำนวน 4 ตัว
ช่วงหลังการปฏิวัติอุตสาหกรรม ประเทศญี่ปุ่นได้พัฒนาหุ่นยนต์ให้มีความก้าวหน้าและมีความสำคัญมากขึ้น เพื่อใช้ในการทดแทนแรงงานมนุษย์ และช่วยเพิ่มผลผลิต ซึ่งนอกจากจะพัฒนาหุ่นยนต์ในโรงงานอุตสาหกรรมแล้ว ยังได้พัฒนาหุ่นยนต์ให้มีความรู้สึกตอบสนอง มีอารมณ์ มีความอ่อนโยน โดยในปี พ.ศ. 2542 บริษัทโซนี่ ได้พัฒนาหุ่นยนต์สุนัขชื่อ ไอโบ (Aibo) เพื่อเป็นสัตว์เลี้ยงที่เป็นเพื่อนของมนุษย์ และในปี พ.ศ. 2543 บริษัทฮอนด้า ได้พัฒนาหุ่นยนต์ชื่อ อะซิโม (ASIMO) มีลักษณะเดินได้ด้วย 2 ขา เหมือนมนุษย์ มีความสามารถทำงานต่าง ๆ เพื่อรับใช้มนุษย์ รวมทั้งเป็นเพื่อนคู่คิดของมนุษย์ได้อีกด้วย
หุ่นยนต์เลียนแบบมนุษย์ อาซิโม (ASIMO) เข้ามาในประเทศไทยเป็นครั้งแรก ในปี พ.ศ. 2545 โดยได้ถวายการแสดงความสามารถต่อหน้าพระพักตร์ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ณ พระราชวังไกลกังวล อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ และได้มีพระราชดำรัสตอบอาซิโมด้วยว่า “ขอบใจ” เหมือนตรัสกับคนจริงๆ และอาซิโมถวายพระพรด้วยคำกล่าวว่า ขอให้พระองค์ทรงพระเจริญ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ที่มา: http://www.manager.co.th/Motoring/viewnews.aspx?NewsID=9590000104546
ส่วนเมืองไทยนั้น การสร้างหุ่นยนต์ตัวแรกเกิดขึ้นจากพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในหลวงรัชกาลที่ 9 หลังจากได้ทอดพระเนตรรถยนต์ขนาดใหญ่บังคับวิทยุ ในโอกาสเสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิดงานศิลปวัฒนธรรมนักเรียน ณ โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย เมื่อปีพุทธศักราช 2497 โดยเป็นผลงานของวิทยาลัยเทคนิคกรุงเทพ ซึ่งปัจจุบันคือ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล วิทยาเขตกรุงเทพฯ
โดยได้พระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์จำนวน 20,000 บาท ให้วิทยาลัยเทคนิคกรุงเทพดำเนินงานสร้างหุ่นยนต์ตามพรราชประสงค์ คือ ให้มีขนาด รูปร่าง ลักษณะเท่าคนจริง แต่งกายแบบคุณหมอ สามารถเดิน ยกมือไหว้ ฟัง พูดโต้ตอบ และทำงานได้อีกหลายอย่าง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้หุ่นยนต์คุณหมอพระราชทาน https://www.thairobotics.com/2012/12/04/thailand-king-doctor-robot/

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ทรงเข้าพระราชหฤทัยเป็นอย่างดีว่า หุ่นยนต์คือยอดของไอที และสถานที่ที่จะปลูกฝังความรู้ได้ดีที่สุดคือสถานศึกษา จึงได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานหุ่นยนต์คุณหมอให้แก่วิทยาลัยเทคนิคกรุงเทพ เพื่อใช้ประกอบการเรียนการสอนหรือประโยชน์ทางการศึกษา ซึ่งเป็นพระบรมราโชบายในการที่จะพัฒนาองค์ความรู้แก่นักศึกษา ทำให้ได้เรียนรู้และพัฒนาเรื่องการโทรคมนาคม การติดต่อสื่อสารทางไกล เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยีอัตโนมัติ ฯลฯ
สารคดีงานของในหลวง “หุ่นยนต์คุณหมอ”
พระราชดำริในการสร้างหุ่นยนต์คุณหมอพระราชทาน ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 นับเป็นสิ่งที่มีคุณอนันต์ มีคุณค่ายิ่งในประวัติศาสตร์ของหุ่นยนต์ที่เกิดขึ้นในเมืองไทย ซึ่งทำให้เกิดผลงานวิจัยเกี่ยวกับหุ่นยนต์ในเมืองไทยตามมามากมายจนถึงปัจจุบัน เช่น หุ่นยนต์ช่วยคนพิการ หุ่นยนต์สำรวจใต้น้ำ หุ่นยนต์ดูแลผู้ป่วยในโรงพยาบาล หุ่นยนต์ดูแลผู้สูงอายุ หุ่นยนต์เสิร์ฟอาหาร
เป็นความโชคดีของพวกเราชาวไทยที่มีพระมหากษัตริย์ผู้ทรงเปี่ยมพระเมตตา คอยพระราชทานแนวคิดและวิธีปฏิบัตินานัปการ ที่ล้วนแต่สร้างประโยชน์ให้แก่ประเทศชาติและพสกนิกรไทย
ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น อันหาที่สุดมิได้
หุ่นยนต์คุณหมอพระราชทาน
Robotics หรือ “วิทยาการหุ่นยนต์” ถูกนำมาใช้ครั้งแรกในเรื่องสั้นชื่อ Runaround ของ ไอแซค อาซิมอฟ (Isaac Asimov) นักเขียนนวนิยายวิทยาศาสตร์ชื่อดังชาวรัสเซีย ตีพิมพ์เมื่อปีพ.ศ. 2485 ซึ่งต่อมาถูกบรรจุไว้ในชุดรวมเรื่องสั้น I, Robot
โดยรวมแล้ว หุ่นยนต์ หมายถึง เครื่องจักรหรือเครื่องมือที่ออกแบบมาให้ทำงานแทนมนุษย์ ในลักษณะการทำงานแบบอัตโนมัติ (automatic machine) หรือกึ่งอัตโนมัติ (semi automatic machine) และสามารถโปรแกรมให้ทำงานอย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่างได้ ไม่ว่าจะเป็นงานหนัก งานสกปรก และงานที่น่าเบื่อ งานที่ต้องเสี่ยงอันตรายมากๆ
หุ่นยนต์อุตสาหกรรมตัวแรกของโลก ถูกสร้างโดยจอร์จ ดีวอล และ โจเซฟ เอ็นเกลเบอร์เกอร์ วิศวกรชาวอเมริกัน เมื่อปีพ.ศ. 2504 ต่อมานายโจเซฟได้รับการขนานนามว่า เป็นบิดาแห่งหุ่นยนต์อุตสาหกรรม
ในปี พ.ศ. 2513 ประเทศรัสเซียได้สร้างหุ่นยนต์สำหรับสำรวจสภาพพื้นผิวของดวงจันทร์ ชื่อ ลูโนโฮด วัน (Lunokhod 1) ซึ่งเป็นหุ่นยนต์ที่ควบคุมจากระยะไกลตัวแรกของโลก (และสามารถขับเคลื่อนได้ โดยใช้พลังงานจากแสงอาทิตย์ด้วย) มีหน้าที่สำรวจสภาพของพื้นผิวบนดวงจันทร์ หุ่นลูโนโฮด วัน ประกอบด้วยล้อจำนวน 8 ล้อ และอุปกรณ์ตรวจรู้ ได้แก่ อุปกรณ์ตรวจรู้รังสีเอกซ์ (X-ray) อุปกรณ์ตรวจรู้รังสีคอสมิก (cosmic-ray) และกล้องโทรทัศน์จำนวน 4 ตัว
ช่วงหลังการปฏิวัติอุตสาหกรรม ประเทศญี่ปุ่นได้พัฒนาหุ่นยนต์ให้มีความก้าวหน้าและมีความสำคัญมากขึ้น เพื่อใช้ในการทดแทนแรงงานมนุษย์ และช่วยเพิ่มผลผลิต ซึ่งนอกจากจะพัฒนาหุ่นยนต์ในโรงงานอุตสาหกรรมแล้ว ยังได้พัฒนาหุ่นยนต์ให้มีความรู้สึกตอบสนอง มีอารมณ์ มีความอ่อนโยน โดยในปี พ.ศ. 2542 บริษัทโซนี่ ได้พัฒนาหุ่นยนต์สุนัขชื่อ ไอโบ (Aibo) เพื่อเป็นสัตว์เลี้ยงที่เป็นเพื่อนของมนุษย์ และในปี พ.ศ. 2543 บริษัทฮอนด้า ได้พัฒนาหุ่นยนต์ชื่อ อะซิโม (ASIMO) มีลักษณะเดินได้ด้วย 2 ขา เหมือนมนุษย์ มีความสามารถทำงานต่าง ๆ เพื่อรับใช้มนุษย์ รวมทั้งเป็นเพื่อนคู่คิดของมนุษย์ได้อีกด้วย
หุ่นยนต์เลียนแบบมนุษย์ อาซิโม (ASIMO) เข้ามาในประเทศไทยเป็นครั้งแรก ในปี พ.ศ. 2545 โดยได้ถวายการแสดงความสามารถต่อหน้าพระพักตร์ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ณ พระราชวังไกลกังวล อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ และได้มีพระราชดำรัสตอบอาซิโมด้วยว่า “ขอบใจ” เหมือนตรัสกับคนจริงๆ และอาซิโมถวายพระพรด้วยคำกล่าวว่า ขอให้พระองค์ทรงพระเจริญ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ส่วนเมืองไทยนั้น การสร้างหุ่นยนต์ตัวแรกเกิดขึ้นจากพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในหลวงรัชกาลที่ 9 หลังจากได้ทอดพระเนตรรถยนต์ขนาดใหญ่บังคับวิทยุ ในโอกาสเสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิดงานศิลปวัฒนธรรมนักเรียน ณ โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย เมื่อปีพุทธศักราช 2497 โดยเป็นผลงานของวิทยาลัยเทคนิคกรุงเทพ ซึ่งปัจจุบันคือ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล วิทยาเขตกรุงเทพฯ
โดยได้พระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์จำนวน 20,000 บาท ให้วิทยาลัยเทคนิคกรุงเทพดำเนินงานสร้างหุ่นยนต์ตามพรราชประสงค์ คือ ให้มีขนาด รูปร่าง ลักษณะเท่าคนจริง แต่งกายแบบคุณหมอ สามารถเดิน ยกมือไหว้ ฟัง พูดโต้ตอบ และทำงานได้อีกหลายอย่าง [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ทรงเข้าพระราชหฤทัยเป็นอย่างดีว่า หุ่นยนต์คือยอดของไอที และสถานที่ที่จะปลูกฝังความรู้ได้ดีที่สุดคือสถานศึกษา จึงได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานหุ่นยนต์คุณหมอให้แก่วิทยาลัยเทคนิคกรุงเทพ เพื่อใช้ประกอบการเรียนการสอนหรือประโยชน์ทางการศึกษา ซึ่งเป็นพระบรมราโชบายในการที่จะพัฒนาองค์ความรู้แก่นักศึกษา ทำให้ได้เรียนรู้และพัฒนาเรื่องการโทรคมนาคม การติดต่อสื่อสารทางไกล เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยีอัตโนมัติ ฯลฯ
สารคดีงานของในหลวง “หุ่นยนต์คุณหมอ”
พระราชดำริในการสร้างหุ่นยนต์คุณหมอพระราชทาน ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 นับเป็นสิ่งที่มีคุณอนันต์ มีคุณค่ายิ่งในประวัติศาสตร์ของหุ่นยนต์ที่เกิดขึ้นในเมืองไทย ซึ่งทำให้เกิดผลงานวิจัยเกี่ยวกับหุ่นยนต์ในเมืองไทยตามมามากมายจนถึงปัจจุบัน เช่น หุ่นยนต์ช่วยคนพิการ หุ่นยนต์สำรวจใต้น้ำ หุ่นยนต์ดูแลผู้ป่วยในโรงพยาบาล หุ่นยนต์ดูแลผู้สูงอายุ หุ่นยนต์เสิร์ฟอาหาร
เป็นความโชคดีของพวกเราชาวไทยที่มีพระมหากษัตริย์ผู้ทรงเปี่ยมพระเมตตา คอยพระราชทานแนวคิดและวิธีปฏิบัตินานัปการ ที่ล้วนแต่สร้างประโยชน์ให้แก่ประเทศชาติและพสกนิกรไทย
ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น อันหาที่สุดมิได้