เทสลาสร้างระบบแบตเตอรีใหญ่ที่สุดในโลกเสร็จไปครึ่งหนึ่งแล้ว
นายอีลอน มัสก์ ผู้ร่วมก่อตั้งและผู้บริหารบริษัทเทสลาเผยว่า ขณะนี้เทสลาได้ดำเนินการสร้างระบบแบตเตอรีพลังงานลมขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งจะนำไปติดตั้งใช้งานในพื้นที่ห่างไกลและทุรกันดารของออสเตรเลีย
โดยขณะนี้มีความคืบหน้าไปถึง 50% แล้ว ทำให้คาดได้ว่าการสร้างแบตเตอรีดังกล่าวจะเสร็จสิ้นลงก่อนกำหนดเส้นตาย 100 วัน ซึ่งเริ่มนับตั้งแต่วันที่ 30 ก.ย. ที่ผ่านมาอย่างแน่นอน
โครงการสร้างระบบแบตเตอรีขนาดยักษ์ให้เสร็จภายใน 100 วันดังกล่าว เกิดจากการพนันขันต่อทางทวิตเตอร์ระหว่างนายมัสก์กับนายไมก์ แคนนอน-บรูกส์ นักธุรกิจซอฟท์แวร์ชาวออสเตรเลีย ซึ่งนายมัสก์รับคำท้าที่ว่า หากเขาไม่สามารถติดตั้งระบบแบตเตอรีนี้ให้เสร็จภายในเวลาที่กำหนด รัฐบาลออสเตรเลียจะได้ระบบแบตเตอรีดังกล่าวไปฟรี ๆ โดยเทสลาจะเป็นฝ่ายควักเนื้อคิดเป็นมูลค่าราว 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
ระบบแบตเตอรีที่ใหญ่ที่สุดในโลกนี้ เป็นแบตเตอรีลิเทียม-ไอออน ซึ่งกักเก็บไฟฟ้าได้ 100 เมกะวัตต์ (129 เมกะวัตต์ชั่วโมง) โดยชาร์จไฟจากพลังงานลม ซึ่งเทสลาได้ร่วมมือกับบริษัท Neoen ของฝรั่งเศส ในการติดตั้งกังหันลมที่ใช้งานประกอบกัน โดยจะนำไปใช้งานในรัฐออสเตรเลียใต้ซึ่งพื้นที่ห่างไกลมักประสบปัญญาไฟฟ้าดับอยู่บ่อยครั้ง เนื่องจากระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนที่มีอยู่มีกำลังไม่เพียงพอต่อความต้องการไฟฟ้าของชุมชนที่เพิ่มขึ้น
รัฐบาลออสเตรเลียได้จัดประกวดราคาโครงการสร้างระบบแบตเตอรีนี้เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา ซึ่งมีบริษัทด้านเทคโนโลยีอีก 2 แห่งเข้าร่วมแข่งขันกับเทสลาด้วย แต่ในที่สุดเทสลาเป็นฝ่ายชนะการประกวดราคาดังกล่าว โดยประกาศว่าจะทำโครงการนี้ให้รัฐบาลออสเตรเลียโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย หากไม่สามารถสร้างระบบแบตเตอรียักษ์ได้เสร็จภายในกำหนด 100 วัน นับแต่วันที่เริ่มทำสัญญาโครงการกับรัฐบาล
ส่วนการที่เทสลาติดตั้งระบบแบตเตอรีคืบหน้าไปอย่างรวดเร็ว ทั้งที่โครงการเพิ่งเริ่มตามสัญญาที่เป็นทางการได้เพียง 3 วันเท่านั้น เนื่องจากทางบริษัทได้เริ่มทำงานดังกล่าวมาก่อนหน้านี้ระยะหนึ่งแล้ว
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://www.bbc.com/thai/international-41480603?ocid=socialflow_facebook
เทสลาสร้างระบบแบตเตอรีใหญ่ที่สุดในโลกเสร็จไปครึ่งหนึ่งแล้ว
นายอีลอน มัสก์ ผู้ร่วมก่อตั้งและผู้บริหารบริษัทเทสลาเผยว่า ขณะนี้เทสลาได้ดำเนินการสร้างระบบแบตเตอรีพลังงานลมขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งจะนำไปติดตั้งใช้งานในพื้นที่ห่างไกลและทุรกันดารของออสเตรเลีย
โดยขณะนี้มีความคืบหน้าไปถึง 50% แล้ว ทำให้คาดได้ว่าการสร้างแบตเตอรีดังกล่าวจะเสร็จสิ้นลงก่อนกำหนดเส้นตาย 100 วัน ซึ่งเริ่มนับตั้งแต่วันที่ 30 ก.ย. ที่ผ่านมาอย่างแน่นอน
โครงการสร้างระบบแบตเตอรีขนาดยักษ์ให้เสร็จภายใน 100 วันดังกล่าว เกิดจากการพนันขันต่อทางทวิตเตอร์ระหว่างนายมัสก์กับนายไมก์ แคนนอน-บรูกส์ นักธุรกิจซอฟท์แวร์ชาวออสเตรเลีย ซึ่งนายมัสก์รับคำท้าที่ว่า หากเขาไม่สามารถติดตั้งระบบแบตเตอรีนี้ให้เสร็จภายในเวลาที่กำหนด รัฐบาลออสเตรเลียจะได้ระบบแบตเตอรีดังกล่าวไปฟรี ๆ โดยเทสลาจะเป็นฝ่ายควักเนื้อคิดเป็นมูลค่าราว 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
ระบบแบตเตอรีที่ใหญ่ที่สุดในโลกนี้ เป็นแบตเตอรีลิเทียม-ไอออน ซึ่งกักเก็บไฟฟ้าได้ 100 เมกะวัตต์ (129 เมกะวัตต์ชั่วโมง) โดยชาร์จไฟจากพลังงานลม ซึ่งเทสลาได้ร่วมมือกับบริษัท Neoen ของฝรั่งเศส ในการติดตั้งกังหันลมที่ใช้งานประกอบกัน โดยจะนำไปใช้งานในรัฐออสเตรเลียใต้ซึ่งพื้นที่ห่างไกลมักประสบปัญญาไฟฟ้าดับอยู่บ่อยครั้ง เนื่องจากระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนที่มีอยู่มีกำลังไม่เพียงพอต่อความต้องการไฟฟ้าของชุมชนที่เพิ่มขึ้น
รัฐบาลออสเตรเลียได้จัดประกวดราคาโครงการสร้างระบบแบตเตอรีนี้เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา ซึ่งมีบริษัทด้านเทคโนโลยีอีก 2 แห่งเข้าร่วมแข่งขันกับเทสลาด้วย แต่ในที่สุดเทสลาเป็นฝ่ายชนะการประกวดราคาดังกล่าว โดยประกาศว่าจะทำโครงการนี้ให้รัฐบาลออสเตรเลียโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย หากไม่สามารถสร้างระบบแบตเตอรียักษ์ได้เสร็จภายในกำหนด 100 วัน นับแต่วันที่เริ่มทำสัญญาโครงการกับรัฐบาล
ส่วนการที่เทสลาติดตั้งระบบแบตเตอรีคืบหน้าไปอย่างรวดเร็ว ทั้งที่โครงการเพิ่งเริ่มตามสัญญาที่เป็นทางการได้เพียง 3 วันเท่านั้น เนื่องจากทางบริษัทได้เริ่มทำงานดังกล่าวมาก่อนหน้านี้ระยะหนึ่งแล้ว
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้