นายเวิร์น อันสเวิร์ธ นักสำรวจชาวอังกฤษซึ่งเป็นหนึ่งในผู้มีบทบาทสำคัญต่อภารกิจค้นหาและช่วยเหลือสมาชิกทีมฟุตบอล "หมูป่า" ออกจากถ้ำหลวง กล่าวว่า 24 ชั่วโมงนับจากนี้ คือ "ช่วงเวลาสำคัญ" ด้านอีลอน มัสก์ แห่งสเปซเอ็กซ์ มีความคิดเห็นในเรื่องนี้ด้วย
สื่อต่างประเทศยังคงจับตาสถานการณ์ที่ถ้ำหลวง - ขุนน้ำนางนอน ในอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย เนื่องจากแม้ทีมค้นหานานาชาติภายใต้การนำของหน่วยซีลไทยสามารถระบุตำแหน่งและพบตัวสมาชิกทีมฟุตบอล "หมูป่า อะคาเดมี" ทั้ง 13 คน ซึ่งติดอยู่ภายในถ้ำหลวงตั้งแต่ช่วงบ่ายของวันเสาร์ที่ 23 มิ.ย. ที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่น แต่อุปสรรคสำคัญและความท้าทายยังคงมีอยู่ นั่นคือการนำสมาชิกทีมหมู่ป่าทั้ง 13 คนออกจากถ้ำอย่างปลอดภัย
นายเวิร์น อันสเวิร์ธ ผู้เชี่ยวชาญด้านการสำรวจถ้ำชาวอังกฤษ ซึ่งมีความรู้และเชี่ยวชาญด้านลักษณะทางกายภาพของถ้ำหลวง เพราะเคยสำรวจด้วยตัวเองมาแล้วหลายครั้ง และสนับสนุนภารกิจช่วยเหลือสมาชิกทีมหมูป่าทั้ง 13 คนอย่างใกล้ชิดร่วมกับรัฐบาลไทยตั้งแต่ต้น ให้สัมภาษณ์กับบีบีซี เมื่อวันพฤหัสบดี ว่าสถานการณ์ในระยะเวลา 24 ชั่วโมงนับจากนี้ "มีความสำคัญอย่างมาก" เนื่องจากระดับน้ำภายในถ้ำเพิ่มสูงขึ้นจากฝนที่ตกลงมาข้ามคืน และปัจจัยแวดล้อมภายในถ้ำโดยรวม "ยังเป็นปัญหา" โดยเฉพาะที่โถง 3 แม้อุณหภูมิของอากาศไม่ใช่อุปสรรค แต่อุณหภูมิของน้ำเป็นสิ่งสำคัญ ยิ่งไปกว่านั้นสมาชิกทีมหมูป่าส่วนใหญ่ยังว่ายน้ำได้ไม่แข็งพอ
ด้านนายแกรี มิตเชลล์ ผู้สันทัดกรณีเรื่องถ้ำชาวอังกฤษอีกคนหนึ่ง ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวเอพี ว่าอีกหนึ่งเงื่อนไขสำคัญที่ท้าทายทุกฝ่ายในการนำตัวสมาชิกทีมหมูป่าทั้ง 13 คนออกจากภายในถ้ำ คือ "ต้องมั่นใจ" ว่ามีช่องอากาศสำหรับหายใจเพียงพอตลอดเส้นทางที่ไกลถึง 4 กิโลเมตร จากบริเวณเนินนมสาวซึ่งเป็นจุดที่พบตัวทั้ง 13 คน จนถึงปากถ้ำ เนื่องจากเส้นทางดำน้ำไม่ใช่เส้นทางที่ราบเรียบ และทัศนวิสัย "เกือบเป็นศูนย์"
แม้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพิ่มการระดมสรรพกำลังในการสูบน้ำออกจากภายในถ้ำในอัตราที่มากกว่า 10,000 ลิตรต่อชั่วโมง แต่ระดับน้ำลดลงเพียงชั่วโมงละ 1 เซนติเมตรเท่านั้น ด้านข้อมูลพยากรณ์อากาศระบุว่าพายุฝนฟ้าคะนองระลอกใหม่กำลังใกล้เขามา ในขณะที่สื่อมวลชนต่างประเทศมองว่า ทางการไทยดำเนินการ 3 อย่างไปพร้อมกันแล้วดูว่าวิธีไหลจะได้ผลเร็วและดีที่สุด นั่นคือการสูบน้ำ การให้ทั้ง 13 คนดำน้ำหรือว่ายน้ำออกมาโดยมีหน่วยซีลประกบ และการค้นหาโพรงสำหรับเป็นช่องทางออกจากด้านบน
ในอีกด้านหนึ่ง ผู้ใช้งานทวิตเตอร์รายหนึ่งทวีตข้อความถามนายอีลอน มัสก์ ประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหาร ( ซีอีโอ ) ของบริษัทสเปซเอ็กซ์ เกี่ยวกับสถานการณ์ที่ถ้ำหลวง และมัสก์ตอบว่าเขาคาดว่ารัฐบาลไทยสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ แต่เขา "ยินดีช่วยเหลือหากมีหนทาง" แม้ไม่เป็นที่ชัดเจนว่าการทวีตของมัสก์หมายความว่าอย่างไร แต่การทวีตแบบนี้ของมัสก์เคย "สร้างความเปลี่ยนแปลง" มาแล้วหลายครั้ง ครั้งล่าสุดเกิดขึ้นเมื่อปีที่แล้ว โดยมัสก์เสนอแนวคิดการสร้างระบบแบตเตอรีสำรองที่มีกำลังการผลิต 129 เมกะวัตต์ต่อชั่วโมง จากพลังงานลม เพื่อบรรเทาสถานการณ์ขาดแคลนไฟฟ้าในรัฐเซาท์ออสเตรเลีย ทางตอนใต้ของออสเตรเลีย
ทวีตดังกล่าวของมัสก์คือ การสนทนาตอบโต้เชิงพนันขันต่อกับผู้บริหารบริษัทซอฟต์แวร์แห่งหนึ่งของออสเตรเลีย จากข่าวรัฐบาลแคนเบอร์ราจัดประกวดราคาโครงการนี้ ซึ่งแน่นอนว่าบริษัทเทสลาของมัสก์เป็นผู้ชนะ และเจ้าตัวกล่าวว่าออสเตรเลียจะได้ระบบแบตเตอรีนี้ซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกไปใช้งานฟรี หากเขาไม่สามารถสร้างเสร็จภายใน 100 วันหลังลงนามในสัญญา ซึ่งมัสก์และทีมงานใช้เวลากับโครงการนี้เพียง 63 วัน ด้วยงบประมาณ 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ( ราว 1,650 ล้านบาท ).
JJNY : ลุ้นกันต่อ...."เวิร์น อันสเวิร์ธ" ชี้ภารกิจช่วย 13 หมูป่า "ถึงช่วงสำคัญ"
สื่อต่างประเทศยังคงจับตาสถานการณ์ที่ถ้ำหลวง - ขุนน้ำนางนอน ในอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย เนื่องจากแม้ทีมค้นหานานาชาติภายใต้การนำของหน่วยซีลไทยสามารถระบุตำแหน่งและพบตัวสมาชิกทีมฟุตบอล "หมูป่า อะคาเดมี" ทั้ง 13 คน ซึ่งติดอยู่ภายในถ้ำหลวงตั้งแต่ช่วงบ่ายของวันเสาร์ที่ 23 มิ.ย. ที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่น แต่อุปสรรคสำคัญและความท้าทายยังคงมีอยู่ นั่นคือการนำสมาชิกทีมหมู่ป่าทั้ง 13 คนออกจากถ้ำอย่างปลอดภัย
นายเวิร์น อันสเวิร์ธ ผู้เชี่ยวชาญด้านการสำรวจถ้ำชาวอังกฤษ ซึ่งมีความรู้และเชี่ยวชาญด้านลักษณะทางกายภาพของถ้ำหลวง เพราะเคยสำรวจด้วยตัวเองมาแล้วหลายครั้ง และสนับสนุนภารกิจช่วยเหลือสมาชิกทีมหมูป่าทั้ง 13 คนอย่างใกล้ชิดร่วมกับรัฐบาลไทยตั้งแต่ต้น ให้สัมภาษณ์กับบีบีซี เมื่อวันพฤหัสบดี ว่าสถานการณ์ในระยะเวลา 24 ชั่วโมงนับจากนี้ "มีความสำคัญอย่างมาก" เนื่องจากระดับน้ำภายในถ้ำเพิ่มสูงขึ้นจากฝนที่ตกลงมาข้ามคืน และปัจจัยแวดล้อมภายในถ้ำโดยรวม "ยังเป็นปัญหา" โดยเฉพาะที่โถง 3 แม้อุณหภูมิของอากาศไม่ใช่อุปสรรค แต่อุณหภูมิของน้ำเป็นสิ่งสำคัญ ยิ่งไปกว่านั้นสมาชิกทีมหมูป่าส่วนใหญ่ยังว่ายน้ำได้ไม่แข็งพอ
ด้านนายแกรี มิตเชลล์ ผู้สันทัดกรณีเรื่องถ้ำชาวอังกฤษอีกคนหนึ่ง ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวเอพี ว่าอีกหนึ่งเงื่อนไขสำคัญที่ท้าทายทุกฝ่ายในการนำตัวสมาชิกทีมหมูป่าทั้ง 13 คนออกจากภายในถ้ำ คือ "ต้องมั่นใจ" ว่ามีช่องอากาศสำหรับหายใจเพียงพอตลอดเส้นทางที่ไกลถึง 4 กิโลเมตร จากบริเวณเนินนมสาวซึ่งเป็นจุดที่พบตัวทั้ง 13 คน จนถึงปากถ้ำ เนื่องจากเส้นทางดำน้ำไม่ใช่เส้นทางที่ราบเรียบ และทัศนวิสัย "เกือบเป็นศูนย์"
แม้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพิ่มการระดมสรรพกำลังในการสูบน้ำออกจากภายในถ้ำในอัตราที่มากกว่า 10,000 ลิตรต่อชั่วโมง แต่ระดับน้ำลดลงเพียงชั่วโมงละ 1 เซนติเมตรเท่านั้น ด้านข้อมูลพยากรณ์อากาศระบุว่าพายุฝนฟ้าคะนองระลอกใหม่กำลังใกล้เขามา ในขณะที่สื่อมวลชนต่างประเทศมองว่า ทางการไทยดำเนินการ 3 อย่างไปพร้อมกันแล้วดูว่าวิธีไหลจะได้ผลเร็วและดีที่สุด นั่นคือการสูบน้ำ การให้ทั้ง 13 คนดำน้ำหรือว่ายน้ำออกมาโดยมีหน่วยซีลประกบ และการค้นหาโพรงสำหรับเป็นช่องทางออกจากด้านบน
ในอีกด้านหนึ่ง ผู้ใช้งานทวิตเตอร์รายหนึ่งทวีตข้อความถามนายอีลอน มัสก์ ประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหาร ( ซีอีโอ ) ของบริษัทสเปซเอ็กซ์ เกี่ยวกับสถานการณ์ที่ถ้ำหลวง และมัสก์ตอบว่าเขาคาดว่ารัฐบาลไทยสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ แต่เขา "ยินดีช่วยเหลือหากมีหนทาง" แม้ไม่เป็นที่ชัดเจนว่าการทวีตของมัสก์หมายความว่าอย่างไร แต่การทวีตแบบนี้ของมัสก์เคย "สร้างความเปลี่ยนแปลง" มาแล้วหลายครั้ง ครั้งล่าสุดเกิดขึ้นเมื่อปีที่แล้ว โดยมัสก์เสนอแนวคิดการสร้างระบบแบตเตอรีสำรองที่มีกำลังการผลิต 129 เมกะวัตต์ต่อชั่วโมง จากพลังงานลม เพื่อบรรเทาสถานการณ์ขาดแคลนไฟฟ้าในรัฐเซาท์ออสเตรเลีย ทางตอนใต้ของออสเตรเลีย
ทวีตดังกล่าวของมัสก์คือ การสนทนาตอบโต้เชิงพนันขันต่อกับผู้บริหารบริษัทซอฟต์แวร์แห่งหนึ่งของออสเตรเลีย จากข่าวรัฐบาลแคนเบอร์ราจัดประกวดราคาโครงการนี้ ซึ่งแน่นอนว่าบริษัทเทสลาของมัสก์เป็นผู้ชนะ และเจ้าตัวกล่าวว่าออสเตรเลียจะได้ระบบแบตเตอรีนี้ซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกไปใช้งานฟรี หากเขาไม่สามารถสร้างเสร็จภายใน 100 วันหลังลงนามในสัญญา ซึ่งมัสก์และทีมงานใช้เวลากับโครงการนี้เพียง 63 วัน ด้วยงบประมาณ 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ( ราว 1,650 ล้านบาท ).