เมื่อตกเป็นแพะรับบาป ...

อยากจะขอเล่าเรื่องราวที่น่าเศร้าของผู้ชายคนหนึ่งที่ไม่ได้กระทำความผิด
แต่สุดท้ายเขาต้องใช้ชีวิตในเรือนจำ หมดสิ้นทั้งเสรีภาพ เงินทอง และการงาน
ซึ่งอาจจะกล่าวได้ว่า เขาคือ“แพะรับบาป”


    ฉันและเพื่อนๆ ได้มีโอกาสทำโครงงานในวิชาหนึ่ง กลุ่มของเราเลือกหัวข้อโครงงาน คือ
“พระราชบัญญัติค่าตอบแทนผู้เสียหาย
และค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา พ.ศ.2544
และที่แก้ไขเพิ่มเติม(ฉบับที่2) พ.ศ.2559”

ซึ่งพระราชบัญญัติฉบับนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อเยียวยาผู้เสียหายที่ได้รับความเสียหายจากการกระทำความผิดทางอาญา
และช่วยเหลือเยียวยาจำเลยกรณีที่ตกเป็นแพะรับบาป


    เมื่อเราเริ่มดำเนินงาน ก็ได้ทราบเรื่องราวของคุณลุงท่านหนึ่ง ชื่อว่า A (นามสมมติ)
จากเอกสารที่ได้จากหน่วยงานราชการ ซึ่งเขียนว่า คุณลุง A กระทำความผิดฐานพยายามฆ่าผู้อื่น
และความผิดฐานพกพาอาวุธปืนโดยมิชอบด้วยกฎหมาย  
ศาลชั้นต้น พิจารณาและตัดสินว่าคุณลุงA มีความผิดจริงตามคำฟ้อง ต้องถูกลงโทษตามกฎหมาย
ต่อมาศาลอุทธรณ์ยกฟ้องความผิดฐานพยายามฆ่า แต่ยังมีความผิดฐานพกพาอาวุธปืนอยู่  
และสุดท้าย ศาลฎีกายกฟ้องความผิดฐานพยายามฆ่า แต่ลงโทษความผิดฐานพกพาอาวุธปืน  ซึ่งคำพิพากษาของศาลฎีกาถือเป็นที่สุด  


    เมื่อเราได้ทราบเรื่องราวของคุณลุงAแล้ว เราต้องการเข้าไปสัมภาษณ์คุณลุงAถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น
เราจึงติดต่อประสานงานกับหน่วยงานราชการคือ ยุติธรรมจังหวัด เพื่อลงพื้นที่ไปพบปะพูดคุยกับคุณลุงA  


    พอเราไปถึงบ้านคุณลุงA ลุงAต้อนรับเราด้วยหน้าตาสดใส พอทักทายแนะนำตัวกันสักครู่หนึ่ง
เราก็เริ่มสอบถามถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น .... ลุง A เล่าว่า
    “ วันหนึ่ง ลุงไปนั่งกินเบียร์ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง สั่งเบียร์หนึ่งขวด
ในขณะที่ขวดเบียร์ก็ยังไม่ได้เปิดเลยด้วยซ้ำ
มีเสียงโวยวายจากผู้หญิงคนหนึ่งตะโกนว่า ใครเข้าห้องน้ำไม่ราดวะ
ลุง A ก็นั่งอยู่เฉยๆ ผู้หญิงคนดังกล่าวก็หันมาแล้วบอกว่า นั่นแหละ ที่ไม่ยอมราดน้ำ เป็นคนเข้าห้องน้ำ
ลุงA คิดในใจว่าอ่าวอะไรวะ นั่งอยู่ดี ๆ ยังไม่ได้ไปไหนเลย
แล้วลุงก็ลุกขึ้นมามีปากเสียงกับผู้หญิงคนนั้นว่าไม่ได้เป็นคนทำห้องน้ำเลอะ และเริ่มทวีความรุนแรงขึ้น
ลุง A ยืนยันคำเดิมว่าไม่ได้ทำ แต่ผู้หญิงคนนั้นตะโกนด้วยความท้าทายว่า เอาปะละ
ลุง A โมโหขั้นสุด มือคว้ามีด แต่ก็วางลง ยังไม่มีการทำร้ายใด ๆ
สุดท้ายมีการโทรแจ้งตำรวจว่า ลุง A พยายามใช้ปืนยิงผู้หญิงคนดังกล่าว ลุง A ถูกดำเนินคดีและเรื่องราวขึ้นสู่ชั้นศาล”


    เราได้สอบถามคุณลุงAว่า “ลุงได้ทำอะไรเขาไหม ?”
และคำพูดที่ได้กลับมา คุณลุงบอกเราว่า
“ ไม่เลย ลุงไม่ได้ทำอะไรเลย ไม่มีการทำร้าย ไม่มีปืน ไม่มีอาวุธ
มีแต่การปะทะทางอารมณ์เท่านั้น
แต่ผู้หญิงคนนั้นเป็นภรรยาน้อยของตำรวจท่านหนึ่ง ลุงก็ไม่รู้ว่ายังไงกัน ”  
(วินาทีนี้เราสงสัยมากเพราะเอกสารที่เราได้รับมาบอกว่าลุงมีปืนและพยายามฆ่าคุณผู้หญิงคนนั้น)


    เราได้ถามต่อว่า “หลังจากถูกจับ ลุงA ถูกดำเนินคดีอย่างไรบ้าง?”
ลุงตอบว่า “ เขาเอาลุงมาฝากขังที่ศาล แล้วขึ้นศาลแรกก่อน
ลุงบอกว่าลุงมีเงินทั้งเนื้อทั้งตัว 3,000 บาท
ลุงเททั้งหมดเพื่อต่อสู้ให้กับความบริสุทธิ์ของตนเองและได้ทนายคนหนึ่งมาช่วยเหลือ”


ลุงเล่าต่อว่า “ศาลแรก ตัดสินว่าลุงพยายามฆ่าเขาจริง ๆ ตัดสินให้ลุงติดคุก 10 ปี
วินาทีนั้นไม่เคยคิดถึงตัวเองเลย คิดถึงหน้าพ่อกับแม่เป็นอย่างแรกว่า ใครจะดูแลพ่อ ใครจะทำกับข้าวให้แม่
เพราะทั้ง2 คนก็แก่แล้วมีลุงเป็นคนดูแลอยู่ ในขณะที่คุณลุงAติดคุก ลุงAไม่ได้มีโอกาสดูแลท่านทั้งสอง
จนในที่สุดคุณแม่ที่ชราภาพมากของคุณลุงAล้มลงจนขาไม่อาจเดินได้อย่างปกติ
เมื่อลุงทราบข่าวรู้สึกเป็นห่วงมาก แต่ทำอย่างไรได้ในเมื่อตัวเองก็อยู่ในคุก
ซึ่งในขณะนั้นญาติของลุงได้ช่วยแนะนำลุงว่าให้ อุทธรณ์ไหม?
ซึ่งลุงเล่าให้ฟังว่า ลุงคิดแค่เพียงว่าเอาวะ แค่ขอลดโทษก็ยังดีจะได้ออกมาดูแลพ่อกับแม่ไวๆ
แต่ในที่สุดศาลอุทธรณ์ก็ยกฟ้องความผิดฐานพยายามฆ่า
แต่ลุงยังมีความผิดฐานพกพาอาวุธปืน จึงต้องติดคุกต่อ

ในขณะที่ลุงอยู่ในคุก ลุงAได้อ่านหนังสือเล่มหนึ่ง ชื่อว่า “กฎหมายชาวบ้าน ”
หนังสือเล่มนี้ทำให้ลุงได้ทราบว่า ถ้าเราไม่ได้ทำผิดเราสามารถต่อสู้
และถ้าหากศาลท่านเห็นว่าเราไม่ผิดและยกฟ้อง เราสามารถทำเรื่องขอค่าทดแทนได้

เมื่อเรื่องราวดำเนินต่อไปถึงศาลฎีกา ศาลพิพากษายกฟ้อง  ลุงออกจากคุกมา
จึงได้ดำเนินการขอรับค่าทดแทนและค่าเสียหายตามพระราชบัญญัติที่เรากล่าวไปข้างต้น”

ลุงเล่าต่อว่า
    “วันที่ลุงได้ออกมาจากเรือนจำ ลุงไม่มีเงินติดตัวเลยจึงตัดสินใจจะเดินกลับบ้านระยะทางประมาณ 60 กิโลเมตร
แต่โชคยังเข้าข้าง ลุงได้รับเงินจากผู้คุมมา 100 บาทให้ไปกินข้าวและค่ารถกลับบ้าน
    เมื่อลุงออกมาดูแลพ่อกับแม่ที่ชราภาพได้ไม่นาน พ่อกับแม่ของลุงก็จากไป
ลุงไม่มีเงินจะจัดงานศพก็ต้องขายบ้าน ขายที่ดิน ขายวัว ของตนเองทั้งหมด
    ปัจจุบันลุงปลูกกระต๊อบเล็ก ๆ อยู่ (บ้านหลังที่เราไปหาลุง) ไม่มีน้ำ ไม่มีไฟฟ้า
อดมื้อกินมื้อ หาผักแถวบ้านกินยาไส้ไปวันๆ
ตั้งแต่ลุงออกมาจากคุกก็ไม่มีใครอยากรับลุงเข้าทำงานเลย
เพราะเคยมีคดี แม้ว่าลุงจะไม่ได้ทำ แม้ว่าศาลจะยกฟ้องว่าไม่ผิด
แต่สังคมก็ตราหน้าว่าลุงเป็นคนชั่ว นาน ๆทีจะมีคนจ้างไปก่อสร้างบ้าง
ชีวิตลุงลำบากกว่าแต่ก่อนมากที่ทุกวันจะมีงานเข้ามาวันละ 300 บาทพอซื้อกับข้าวกินไปวัน ๆ ได้”


    เรื่องราวของลุงA ทำให้เราอยากช่วยเหลือคนอื่นๆที่ตกเป็นแพะรับบาปอย่างลุงA  
ให้ได้ทราบวิธีการดำเนินการขอค่าทดแทน จากรัฐ ตามพระราชบัญญัติค่าตอบแทนผู้เสียหาย
และค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา พ.ศ.2544 และที่แก้ไขเพิ่มเติม(ฉบับที่2) พ.ศ.2559
โดยเราได้ทำวีดีโอสรุปคร่าวๆ
คลิกตามลิ้งค์นี้ ได้เลยคะ https://www.youtube.com/watch?v=4rocucP-Gi4&feature=youtu.be

หรือดูรายละเอียดคร่าวๆได้ ตามรูปนี้ เลยคะ

เราต่างก็มีสิทธิ มันเป็นสิทธิของเรา เพียงแต่เราอาจไม่รู้
อย่าปล่อยให้ความไม่รู้ ทำให้เราต้องเสียสิทธิที่เราควรจะรับ ไปนะคะ ^^
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่