สวัสดีครับทุกท่าน คราวนี้ผมเปลี่ยนมาลงตอนใหม่ของป่วนใต้หล้ากันบ้างนะครับ อย่าเพิ่งสับสนระหว่างสองเรื่องนะครับ เพราะเกี่ยวกับธนูเหมือนกันเลย
ตอนที่แล้ว
บทนำ + บทที่ 1 : ชาวต่างแดน
https://pantip.com/topic/36610308
บทที่ 2 : บัณฑิตชุดดำ
https://pantip.com/topic/36621396
บทที่ 3 : หัวหน้าสาขา
https://pantip.com/topic/36632176
บทที่ 4 : แปรเปลี่ยน
https://pantip.com/topic/36648133
บทที่ 5 : สำนักยุทธเอกะ
https://pantip.com/topic/36665311
บทที่ 6 : สำนักเหมันต์นิรันดร์
https://pantip.com/topic/36688404
บทที่ 7 : ผู้บุกรุก
https://pantip.com/topic/36724053
บทที่ 8 : เหน็บหนาว
https://pantip.com/topic/36751617
บทที่ 9 : เหน็บหนาว (2)
https://pantip.com/topic/36795490
บทที่ 10 : อ่อนไหว
https://pantip.com/topic/36839725
บทที่ 11 : ท่าพิฆาต
https://pantip.com/topic/36870560
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บทที่ 12 : ธนูปริศนา
ไม่มีผู้ใดรู้สึกถึงการพุ่งมาของธนูดอกนี้
ไม่มีผู้ใดมองเห็นว่าธนูพุ่งมาจากที่ใด
ไม่มีผู้ใดรู้ว่าใครเป็นคนกระทำ
เชสเตอร์ประหลาดใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น ก้มมองธนูดอกที่เพิ่งทะลุร่างเทนโค บราเฮที่ตกลงตรงหน้า ธนูดอกนี้เป็นเพียงแค่ธนูธรรมดา ไร้รูปแบบอันเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งแม้จะพุ่งทะลุร่างเนื้อมา แต่ก็มิได้มีการเปื้อนเลือดแม้แต่น้อย
ร่างของเทนโค บราเฮนอนแน่นิ่งกับพื้น เลือดไหลออกจากบาดแผลที่โดนธนู เจิ้นจงและห้าผู้กล้าพเนจรที่เหลือรีบเข้ามาดูอาการในสนามประลองทันที
เทียนซียี่เห็นเช่นนี้รีบสั่งการศิษย์ในสำนักให้รุดไปอยู่รอบพื้นที่ลานประลองนี้ทันที ซึ่งเขามั่นใจว่าพื้นที่รอบลานประลองนี้ในระยะสองกิโลเมตรไม่มีผู้อื่นปะปนหรือแอบซ่อนแน่นอน ฉะนั้น ผู้ที่ยิงธนูเข้ามาต้องอยู่ห่างไกลอย่างต่ำสองกิโลเมตร
แต่ว่าจะมีมือธนูคนไหนที่สามารถทำเช่นนี้ได้เล่า!
ตามปกติแล้วต่อให้เป็นนักธนูมือฉมังทั่วไปอย่างมากก็ยิงธนูได้ไกลแค่ 200 – 300 เมตร ต้องถึงระดับยอดนักธนูมือชื่อถึงจะยิงได้ถึง 500 เมตร
ทว่าการยิงไกลในระยะ 2 กิโลเมตร ทั้งยังแม่นยำเช่นนี้ น่ากลัวจะเป็นเรื่องยากที่มีใครทำได้
ชายร่างเล็กสวมหมวกบัณฑิตโต้วจี้ ตรวจสอบร่างกายของเทนโค บราเฮ เมื่อเช็คชีพจรหน้าของเขาเปลี่ยนสี ใช้พู่กันเขียนข้อความลงกระดาษส่งให้เจิ้นจงดู
ชีพจรบางเบา
เจิ้นจงอ่านประโยคที่เขียนย่อมรู้ว่าหากชีพจรเบาบางนั้น โอกาสรอดเหลือน้อยเต็มที เขาบอกกับโต้วจี้ว่า
“โต้วจี้ เจ้าสามารถช่วยได้หรือไม่”
โต้วจี้แสดงสีหน้าเคร่งเครียด ส่ายหน้าช้า ๆ ใช้พู่กันเขียนประโยคตอบเจิ้นจงอีกครั้ง
ธนูตัดขั้วหัวใจ ชีพจรเต้นช้าลงเรื่อย ๆ ข้าห้ามเลือดบางส่วนแล้ว แต่ก็มิอาจรักษาได้ทันที
“ไม่นะเทนโค ท่านจะตายไม่ได้” เจิ้นจงบอกเสียงดัง เขาพยายามส่งปราณเพื่อช่วยคุ้มครองร่างกายที่อ่อนลงเรื่อย ๆ ของเทนโค บราเฮ
รู้ทั้งรู้ว่ามิอาจช่วยอะไรได้ แต่บุรุษอย่างเจิ้นจงก็ยังส่งปราณเพื่อช่วยเหลือ เช่นเดียวกันไอยราชายกำยำผิวคล้ำก็ส่งปราณให้ด้วยเช่นกัน
เชสเตอร์มองการกระทำเหล่านี้ ตอนนี้เขาคล้ายลืมความแค้นที่มีต่อเทนโค บราเฮไปช่วงขณะ กลับบังเกิดความรู้สึกอยากช่วยเหลือเทนโค
แต่ว่าเขามิอาจกระทำได้ ดังนั้น จึงเปลี่ยนไปมองเพื่อค้นหาทิศทางว่าผู้ใดเป็นผู้ที่ยิงธนูสังหารนี้
แน่นอนว่าเขาเองก็ดูไม่ออก หากดูออกก่อนมีหรือจะปล่อยให้กระทบถูกตัวเอง
ปราณของเหล่าห้าผู้กล้าพเนจรหลั่งไหลเข้าร่างของเทนโค บราเฮ การต่อสู้ตอนนี้ยุติไปแล้ว ชาวยุทธหลายคนรุดเข้าไปล้อมวงดูอาการของเทนโค บราเฮ แต่ก็แค่ดู มิมีผู้ใดกล้าเข้าไปยุ่งเกี่ยว
เรื่องบางเรื่องคนเราทำได้แค่ดู มันมิใช่มารยาทของตัวเราจะเข้าไปยุ่งเกี่ยวหรือรับรู้อะไรได้
แต่สำหรับบางคนแค่ดูไม่พอ เช่นเดียวกับเจ้าสำนักเหมันต์นิรันดร์เทียนซียี่ เขากับเทียนเสียอิงลงมาดูอาการของเทนโค บราเฮ
“อาการเช่นนี้เป็นเรื่องยากแล้วที่จะรักษา” เทียนซียี่พูดขึ้นมา หลังจากเดินเข้าไปดูร่างเทนโคร่วมกับห้าผู้กล้าพเนจร ซึ่งตอนนี้เชสเตอร์เองก็ยืนอยู่ไม่ห่างกัน
“มีตัวโอสถอันใดที่ช่วยเหลือได้หรือไม่” เจิ้นจงถามเทียนซียี่
“แม้แต่สุดยอดโอสถของสำนักอย่าง บัวหิมะ ก็มิอาจะช่วงเหลือในอาการเช่นนี้ได้ แต่ถ้าเจ้าอยากให้บุรุษท่านนี้รอดข้าก็มีวิธี”
“งั้นท่านจัดการเลย มิต้องรอช้า”
“แต่วิธีของข้า มันมิใช่วิธีการรักษาโดยทันที พวกเจ้าจะยอมหรือไม่ที่จะปล่อยให้เขาอยู่ในสภาพแน่นิ่งไปอีกหนึ่งปี”
“ท่านจะใช้วิธีการใด” เจิ้นจงถาม
“ในสำนักของข้ามีวิชาที่ชื่อว่า โลกน้ำแข็ง เป็นวิชาที่ใช้พลังไอเย็นสร้างน้ำแข็งขึ้นปกคลุมทั้งร่างกายเพื่อหยุดกระบวนการต่าง ๆ ของร่างกายไว้ แล้วจะใช้การรักษาแบบการจำศีลเป็นเวลาหนึ่งปี ต้องนอนนิ่งอยู่ในโลกน้ำแข็งอย่างเดียว” เทียนซียี่กล่าว
“คงมีแต่ใช้วิชาของท่านแล้ว รีบจัดการเถอะ ขอบคุณท่านเจ้าสำนักเทียนมากๆ สำหรับน้ำใจครั้งนี้”
“มิกล้า มิกล้า” เทียนซิยี่บอก เดินเข้าใกล้ร่างของเทนโค บราเฮ เขาปลดดาบอ่อนไหวออกจากมือของเทนโค แล้วพูดขึ้นต่อว่า “ยังดีที่พอมีชีพจรอยู่ หากหมดชีพจรแล้ววิชานี้ก็ใช้ไม่ได้เหมือนกัน”
สิ้นคำเขาก็สลัดผ้าคลุมกายทิ้ง สูดลมหายใจเข้าอย่างรุนแรง ผนึกปราณทั่วร่าง จนปรากฏปราณที่มองเห็นได้รอบตัวเป็นสีฟ้า
“หากวิชาดาบปราณเป็นการใช้ปราณสีเหลืองเพื่อสร้างความคมและความรุนแรง วิชาโลกน้ำแข็งของข้าก็คงเป็นวิชาด้านตรงกันข้ามที่ใช้ปราณสีฟ้าสร้างไอเย็นเพื่อหยุดการเคลื่อนไหวและรักษามันอย่างช้าๆ” เทียนซียี่พูดขึ้นขณะจากนั้นก็รวมปราณสีฟ้าส่งไปยังร่างเทนโค บราเฮ
วิชาโลกน้ำแข็งของเทียนซียี่ถือเป็นสุดยอดวิชาหนึ่งของสำนักเหมันต์นิรันดร์ เป็นวิชาผนึกปราณตัวเองให้อยู่ในขั้นสูงสุด แล้วควบคุมลมปราณปรับความเร่งร้อนให้เยือกเย็นลงจนถึงขีดสุด จากนั้นก็จะรวมลมปราณทั้งหมดส่งไปยังร่างของผู้ที่จะใช้วิชานั้นรักษา สร้างน้ำแข็งแห่งปราณขึ้นรอบตัวเป็นหยุดกระบวนการทำงานของร่างกาย แล้วค่อย ๆ รักษาอย่างเชื่องช้าในลักษณะแบบจำศีล
ซึ่งวิชานี้เป็นวิชาเฉพาะของสำนักเหมันต์นิรันดร์ เป็นวิชาขั้นสูงที่ฝึกฝนได้ยากยิ่ง ศิษย์ในรุ่นเดียวกันกับเทียนซียี่ก็มิมีผู้ใดสนใจวิชานี้ ส่วนใหญ่มุ่งเน้นเพียงวิชาที่ใช้ต่อสู้ หาได้สนใจวิชารักษาจำพวกนี้ ทำให้ทั้งสำนักเหมันต์นิรันดร์ตอนนี้มีเพียงเจ้าสำนักเทียนซียี่เท่านั้นที่สำเร็จวิชา
น้ำแข็งถูกสร้างจากปราณสีฟ้าปกคลุมร่างของเทนโค บราเฮหนาขึ้นเรื่อย ๆ จนร่างกายของเขาคล้ายเป็นก้อนน้ำแข็งขนาดใหญ่
เสียงหอบหายใจของเทียนซียี่ดังขึ้นเรื่อย ๆ เม็ดเหงื่อปรากฎบนใบหน้า ดูท่าวิชาโลกน้ำแข็งนี้จะสิ้นเปลืองปราณของเขาพอสมควร
“เอาล่ะ เรียบร้อย” เทียนซียี่ส่งปราณสร้างน้ำแข็งครั้งสุดท้าย ก่อนถอนมือออก
ร่างของเทนโค บราเฮตอนนี้เหมือนกับถูกฝังอยู่ในก้อนน้ำแข็ง เทียนซียี่ส่งสัญญาณให้ศิษย์ในสำนักเคลื่อนย้ายร่างของเทนโค ไปยังห้องภายในสำนักเหมันต์นิรันดร์
“มีความจำเป็นต้องเก็บร่างของเขาไว้ที่สำนักของข้า เจิ้นจงท่านยินยอมหรือไม่” เทียนซียี่เอ่ยถาม
“ช่างเป็นน้ำใจที่ใหญ่หลวงแล้วท่านเจ้าสำนักเทียน ท่านป่วยอยู่ยังยอมใช้วิชาสุดยอดอย่างนี้โดยไม่กลัวสิ้นเปลืองปราณ น้ำใจของท่านข้าต้องตอบแทนให้แน่นอน” เจิ้นจงบอก ตอนนี้เขาเริ่มรู้สึกสบายใจขึ้น
เชสเตอร์เองก็เหมือนกับตัวเองผ่อนคลายลง ถึงเขาจะอยากสังหารเทนโค บราเฮ แต่การที่เป้าหมายโดนผู้อื่นลอบสังหารแทนเช่นนี้ เขาก็ไม่ได้รู้สึกดีเช่นกัน
(มีต่อครับ)
ป่วนใต้หล้า บทที่ 12 : ธนูปริศนา
ตอนที่แล้ว
บทนำ + บทที่ 1 : ชาวต่างแดน
https://pantip.com/topic/36610308
บทที่ 2 : บัณฑิตชุดดำ
https://pantip.com/topic/36621396
บทที่ 3 : หัวหน้าสาขา
https://pantip.com/topic/36632176
บทที่ 4 : แปรเปลี่ยน
https://pantip.com/topic/36648133
บทที่ 5 : สำนักยุทธเอกะ
https://pantip.com/topic/36665311
บทที่ 6 : สำนักเหมันต์นิรันดร์
https://pantip.com/topic/36688404
บทที่ 7 : ผู้บุกรุก
https://pantip.com/topic/36724053
บทที่ 8 : เหน็บหนาว
https://pantip.com/topic/36751617
บทที่ 9 : เหน็บหนาว (2)
https://pantip.com/topic/36795490
บทที่ 10 : อ่อนไหว
https://pantip.com/topic/36839725
บทที่ 11 : ท่าพิฆาต
https://pantip.com/topic/36870560
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บทที่ 12 : ธนูปริศนา
ไม่มีผู้ใดรู้สึกถึงการพุ่งมาของธนูดอกนี้
ไม่มีผู้ใดมองเห็นว่าธนูพุ่งมาจากที่ใด
ไม่มีผู้ใดรู้ว่าใครเป็นคนกระทำ
เชสเตอร์ประหลาดใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น ก้มมองธนูดอกที่เพิ่งทะลุร่างเทนโค บราเฮที่ตกลงตรงหน้า ธนูดอกนี้เป็นเพียงแค่ธนูธรรมดา ไร้รูปแบบอันเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งแม้จะพุ่งทะลุร่างเนื้อมา แต่ก็มิได้มีการเปื้อนเลือดแม้แต่น้อย
ร่างของเทนโค บราเฮนอนแน่นิ่งกับพื้น เลือดไหลออกจากบาดแผลที่โดนธนู เจิ้นจงและห้าผู้กล้าพเนจรที่เหลือรีบเข้ามาดูอาการในสนามประลองทันที
เทียนซียี่เห็นเช่นนี้รีบสั่งการศิษย์ในสำนักให้รุดไปอยู่รอบพื้นที่ลานประลองนี้ทันที ซึ่งเขามั่นใจว่าพื้นที่รอบลานประลองนี้ในระยะสองกิโลเมตรไม่มีผู้อื่นปะปนหรือแอบซ่อนแน่นอน ฉะนั้น ผู้ที่ยิงธนูเข้ามาต้องอยู่ห่างไกลอย่างต่ำสองกิโลเมตร
แต่ว่าจะมีมือธนูคนไหนที่สามารถทำเช่นนี้ได้เล่า!
ตามปกติแล้วต่อให้เป็นนักธนูมือฉมังทั่วไปอย่างมากก็ยิงธนูได้ไกลแค่ 200 – 300 เมตร ต้องถึงระดับยอดนักธนูมือชื่อถึงจะยิงได้ถึง 500 เมตร
ทว่าการยิงไกลในระยะ 2 กิโลเมตร ทั้งยังแม่นยำเช่นนี้ น่ากลัวจะเป็นเรื่องยากที่มีใครทำได้
ชายร่างเล็กสวมหมวกบัณฑิตโต้วจี้ ตรวจสอบร่างกายของเทนโค บราเฮ เมื่อเช็คชีพจรหน้าของเขาเปลี่ยนสี ใช้พู่กันเขียนข้อความลงกระดาษส่งให้เจิ้นจงดู
ชีพจรบางเบา
เจิ้นจงอ่านประโยคที่เขียนย่อมรู้ว่าหากชีพจรเบาบางนั้น โอกาสรอดเหลือน้อยเต็มที เขาบอกกับโต้วจี้ว่า
“โต้วจี้ เจ้าสามารถช่วยได้หรือไม่”
โต้วจี้แสดงสีหน้าเคร่งเครียด ส่ายหน้าช้า ๆ ใช้พู่กันเขียนประโยคตอบเจิ้นจงอีกครั้ง
ธนูตัดขั้วหัวใจ ชีพจรเต้นช้าลงเรื่อย ๆ ข้าห้ามเลือดบางส่วนแล้ว แต่ก็มิอาจรักษาได้ทันที
“ไม่นะเทนโค ท่านจะตายไม่ได้” เจิ้นจงบอกเสียงดัง เขาพยายามส่งปราณเพื่อช่วยคุ้มครองร่างกายที่อ่อนลงเรื่อย ๆ ของเทนโค บราเฮ
รู้ทั้งรู้ว่ามิอาจช่วยอะไรได้ แต่บุรุษอย่างเจิ้นจงก็ยังส่งปราณเพื่อช่วยเหลือ เช่นเดียวกันไอยราชายกำยำผิวคล้ำก็ส่งปราณให้ด้วยเช่นกัน
เชสเตอร์มองการกระทำเหล่านี้ ตอนนี้เขาคล้ายลืมความแค้นที่มีต่อเทนโค บราเฮไปช่วงขณะ กลับบังเกิดความรู้สึกอยากช่วยเหลือเทนโค
แต่ว่าเขามิอาจกระทำได้ ดังนั้น จึงเปลี่ยนไปมองเพื่อค้นหาทิศทางว่าผู้ใดเป็นผู้ที่ยิงธนูสังหารนี้
แน่นอนว่าเขาเองก็ดูไม่ออก หากดูออกก่อนมีหรือจะปล่อยให้กระทบถูกตัวเอง
ปราณของเหล่าห้าผู้กล้าพเนจรหลั่งไหลเข้าร่างของเทนโค บราเฮ การต่อสู้ตอนนี้ยุติไปแล้ว ชาวยุทธหลายคนรุดเข้าไปล้อมวงดูอาการของเทนโค บราเฮ แต่ก็แค่ดู มิมีผู้ใดกล้าเข้าไปยุ่งเกี่ยว
เรื่องบางเรื่องคนเราทำได้แค่ดู มันมิใช่มารยาทของตัวเราจะเข้าไปยุ่งเกี่ยวหรือรับรู้อะไรได้
แต่สำหรับบางคนแค่ดูไม่พอ เช่นเดียวกับเจ้าสำนักเหมันต์นิรันดร์เทียนซียี่ เขากับเทียนเสียอิงลงมาดูอาการของเทนโค บราเฮ
“อาการเช่นนี้เป็นเรื่องยากแล้วที่จะรักษา” เทียนซียี่พูดขึ้นมา หลังจากเดินเข้าไปดูร่างเทนโคร่วมกับห้าผู้กล้าพเนจร ซึ่งตอนนี้เชสเตอร์เองก็ยืนอยู่ไม่ห่างกัน
“มีตัวโอสถอันใดที่ช่วยเหลือได้หรือไม่” เจิ้นจงถามเทียนซียี่
“แม้แต่สุดยอดโอสถของสำนักอย่าง บัวหิมะ ก็มิอาจะช่วงเหลือในอาการเช่นนี้ได้ แต่ถ้าเจ้าอยากให้บุรุษท่านนี้รอดข้าก็มีวิธี”
“งั้นท่านจัดการเลย มิต้องรอช้า”
“แต่วิธีของข้า มันมิใช่วิธีการรักษาโดยทันที พวกเจ้าจะยอมหรือไม่ที่จะปล่อยให้เขาอยู่ในสภาพแน่นิ่งไปอีกหนึ่งปี”
“ท่านจะใช้วิธีการใด” เจิ้นจงถาม
“ในสำนักของข้ามีวิชาที่ชื่อว่า โลกน้ำแข็ง เป็นวิชาที่ใช้พลังไอเย็นสร้างน้ำแข็งขึ้นปกคลุมทั้งร่างกายเพื่อหยุดกระบวนการต่าง ๆ ของร่างกายไว้ แล้วจะใช้การรักษาแบบการจำศีลเป็นเวลาหนึ่งปี ต้องนอนนิ่งอยู่ในโลกน้ำแข็งอย่างเดียว” เทียนซียี่กล่าว
“คงมีแต่ใช้วิชาของท่านแล้ว รีบจัดการเถอะ ขอบคุณท่านเจ้าสำนักเทียนมากๆ สำหรับน้ำใจครั้งนี้”
“มิกล้า มิกล้า” เทียนซิยี่บอก เดินเข้าใกล้ร่างของเทนโค บราเฮ เขาปลดดาบอ่อนไหวออกจากมือของเทนโค แล้วพูดขึ้นต่อว่า “ยังดีที่พอมีชีพจรอยู่ หากหมดชีพจรแล้ววิชานี้ก็ใช้ไม่ได้เหมือนกัน”
สิ้นคำเขาก็สลัดผ้าคลุมกายทิ้ง สูดลมหายใจเข้าอย่างรุนแรง ผนึกปราณทั่วร่าง จนปรากฏปราณที่มองเห็นได้รอบตัวเป็นสีฟ้า
“หากวิชาดาบปราณเป็นการใช้ปราณสีเหลืองเพื่อสร้างความคมและความรุนแรง วิชาโลกน้ำแข็งของข้าก็คงเป็นวิชาด้านตรงกันข้ามที่ใช้ปราณสีฟ้าสร้างไอเย็นเพื่อหยุดการเคลื่อนไหวและรักษามันอย่างช้าๆ” เทียนซียี่พูดขึ้นขณะจากนั้นก็รวมปราณสีฟ้าส่งไปยังร่างเทนโค บราเฮ
วิชาโลกน้ำแข็งของเทียนซียี่ถือเป็นสุดยอดวิชาหนึ่งของสำนักเหมันต์นิรันดร์ เป็นวิชาผนึกปราณตัวเองให้อยู่ในขั้นสูงสุด แล้วควบคุมลมปราณปรับความเร่งร้อนให้เยือกเย็นลงจนถึงขีดสุด จากนั้นก็จะรวมลมปราณทั้งหมดส่งไปยังร่างของผู้ที่จะใช้วิชานั้นรักษา สร้างน้ำแข็งแห่งปราณขึ้นรอบตัวเป็นหยุดกระบวนการทำงานของร่างกาย แล้วค่อย ๆ รักษาอย่างเชื่องช้าในลักษณะแบบจำศีล
ซึ่งวิชานี้เป็นวิชาเฉพาะของสำนักเหมันต์นิรันดร์ เป็นวิชาขั้นสูงที่ฝึกฝนได้ยากยิ่ง ศิษย์ในรุ่นเดียวกันกับเทียนซียี่ก็มิมีผู้ใดสนใจวิชานี้ ส่วนใหญ่มุ่งเน้นเพียงวิชาที่ใช้ต่อสู้ หาได้สนใจวิชารักษาจำพวกนี้ ทำให้ทั้งสำนักเหมันต์นิรันดร์ตอนนี้มีเพียงเจ้าสำนักเทียนซียี่เท่านั้นที่สำเร็จวิชา
น้ำแข็งถูกสร้างจากปราณสีฟ้าปกคลุมร่างของเทนโค บราเฮหนาขึ้นเรื่อย ๆ จนร่างกายของเขาคล้ายเป็นก้อนน้ำแข็งขนาดใหญ่
เสียงหอบหายใจของเทียนซียี่ดังขึ้นเรื่อย ๆ เม็ดเหงื่อปรากฎบนใบหน้า ดูท่าวิชาโลกน้ำแข็งนี้จะสิ้นเปลืองปราณของเขาพอสมควร
“เอาล่ะ เรียบร้อย” เทียนซียี่ส่งปราณสร้างน้ำแข็งครั้งสุดท้าย ก่อนถอนมือออก
ร่างของเทนโค บราเฮตอนนี้เหมือนกับถูกฝังอยู่ในก้อนน้ำแข็ง เทียนซียี่ส่งสัญญาณให้ศิษย์ในสำนักเคลื่อนย้ายร่างของเทนโค ไปยังห้องภายในสำนักเหมันต์นิรันดร์
“มีความจำเป็นต้องเก็บร่างของเขาไว้ที่สำนักของข้า เจิ้นจงท่านยินยอมหรือไม่” เทียนซียี่เอ่ยถาม
“ช่างเป็นน้ำใจที่ใหญ่หลวงแล้วท่านเจ้าสำนักเทียน ท่านป่วยอยู่ยังยอมใช้วิชาสุดยอดอย่างนี้โดยไม่กลัวสิ้นเปลืองปราณ น้ำใจของท่านข้าต้องตอบแทนให้แน่นอน” เจิ้นจงบอก ตอนนี้เขาเริ่มรู้สึกสบายใจขึ้น
เชสเตอร์เองก็เหมือนกับตัวเองผ่อนคลายลง ถึงเขาจะอยากสังหารเทนโค บราเฮ แต่การที่เป้าหมายโดนผู้อื่นลอบสังหารแทนเช่นนี้ เขาก็ไม่ได้รู้สึกดีเช่นกัน
(มีต่อครับ)