ป่วนใต้หล้า บทที่ 10 : อ่อนไหว

สวัสดีทุกคนครับ เอาตอนใหม่มาลงแล้ว คราวนี้เรามาดูอีกคู่กันบ้าง ระหว่างเชสเตอร์กับเทนโค บราเฮ ว่าจะต่อสู้กันอย่างไร


ตอนที่แล้ว

บทนำ + บทที่ 1 : ชาวต่างแดน
https://pantip.com/topic/36610308
บทที่ 2 : บัณฑิตชุดดำ
https://pantip.com/topic/36621396
บทที่ 3 : หัวหน้าสาขา
https://pantip.com/topic/36632176
บทที่ 4 : แปรเปลี่ยน
https://pantip.com/topic/36648133
บทที่ 5 : สำนักยุทธเอกะ
https://pantip.com/topic/36665311
บทที่ 6 : สำนักเหมันต์นิรันดร์
https://pantip.com/topic/36688404
บทที่ 7 : ผู้บุกรุก
https://pantip.com/topic/36724053
บทที่ 8 : เหน็บหนาว
https://pantip.com/topic/36751617
บทที่ 9 : เหน็บหนาว (2)
https://pantip.com/topic/36795490

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

บทที่ 10 : อ่อนไหว


    ฮาน เมรันยอมรับความพ่ายแพ้จากการประมือกับเจ้าสำนักเหมันต์นิรันดร์ เทียนซียี่ เขาพยายามใช้ปราณพยุงอาการแล้วเดินออกจากลานประลองไป

    สายตาทั้งหลายมองไปยังผู้พ่ายแพ้ ยิ่งเป็นการพ่ายแพ้ทั้งที่ตัวเองบุกรุกมาเองแบบนี้แล้ว ยิ่งทำให้ผู้คนที่ชมการต่อสู้ต่างมองเขาด้วยความรู้สึกหยามเหยียด คิดบางอย่างในใจ

    พรรคนิลดารามีฝีมือเพียงเท่านี้เองหรือ…

    แน่นอนคนเราหากไม่ใช่ตัวเอง ไม่เกี่ยวข้องกับตัวเอง ไม่โดนเอง ก็มักไม่นึกถึงว่าคนอื่นผ่านความยากลำบากมาเช่นไร ยิ่งเป็นคนที่ไม่ชอบหน้า เป็นคนที่มีอคติอยู่แล้ว ยิ่งพร้อมใจหยามเหยียด มองดูถูกง่าย ๆ อยู่แล้ว

    ฮาน เมรันหาได้สนใจสายตาที่มองมา คู่ต่อสู้ระดับเทียนซียี่ที่ถูกนับเป็นยอดฝีมือระดับเดียวกับประมุขพรรคนิลดารา หวังเฟยหู่ของตน การพ่ายแพ้ของเขาย่อมไม่เสียเปล่าอยู่แล้ว ยิ่งได้ประมือ ได้รับรู้ถึงพลังและความสามารถของดาบพิสดารเหน็บหนาวแล้ว ถือว่าคุ้มค่าสำหรับเขา

    ผู้คุมกฎแห่งพรรคนิลดาราเดินเข้าหาเชสเตอร์ที่ยืนมอง ยังไม่ทันที่หนุ่มผมทองเอ่ยถามอาการ ฮาน เมรันก็สวนบอกพร้อมทั้งรอยยิ้มว่า

    “ข้ามิเป็นไร บาดแผลแค่นี้ธรรมดาจะตายไป มิต้องเป็นห่วง”

    เชสเตอร์มองที่ลำคอ แม้ฮาน เมรันจะใช้พลังปราณปิดกั้นทางไหลของเลือด แต่สีสันของใบหน้าของฮานเริ่มขาวซีด จนตัดชัดเจนกับชุดบัณฑิตสีดำของตัวเขาแล้ว

    นี่มันอาการของคนที่ขาดเลือดแล้ว

    “ท่านฮาน ท่านไหวแน่หรือ”

    “มิต้องกังวลประการใด แต่ข้าคงต้องขอตัวไปจากที่นี่กลับไปยังพรรคนิลดาราของข้าก่อน หากภายหลังท่านต้องการจะพบเจอข้า ก็ติดตามไปตามแผนที่นี้ละกัน พรรคนิลดารายินดีต้อนรับเจ้าเสมอ” ฮาน เมรันตอบ แล้วส่งแผนที่ให้ไป

    เชสเตอร์รับแผนที่มา ใส่ไว้ข้างในเสื้อ พยักหน้ารับ พร้อมบอกว่า “หวังว่าคงได้พบกัน ซียู”

    “ซียู?” ฮาน เมรันเลิกคี้วในเชิงสงสัย “อะไร? ซียูคืออะไร”

    “เอ่อ ขออภัย ซียูมันเป็นภาษาต่างแดนของเรา หมายถึง ไว้พบกันใหม่”

    ฮาน เมรันยิ้มให้ ตอบว่า “งั้น ซียู เหมือนกันนะ”

    จากนั้นฮาน เมรันก็ก้าวเดินออกจากสำนักไป ซึ่งหลังจากออกไปก็ไม่รู้ว่าจะสามารถเดินทางกลับไปยังพรรคนิลดาราได้หรือไม่ หากมีผู้ใดแอบฉวยโอกาสลอบจู่โจมในขณะนี้ ก็มีสิทธิ์ปลิดชีวิตเขาได้ไม่ยาก

    เชสเตอร์มองบัณฑิตชุดดำก้าวเดินออกไปจนสุดสายตา แล้วเขาก็หันไปทางกลุ่มห้าผู้กล้าพเนจร จ้องไปยังชายผมสีน้ำตาลผู้ใส่ปลอกแขนเหล็ก เทนโค บราเฮ

    “ท่านเจ้าสำนักเทียน รอบนี้ถึงตาข้าหรือยัง” เชสเตอร์ร้องบอกเสียงดัง

    เทียนซียี่ที่กลับมานั่งเก้าอี้ประจำได้ยิน จึงตอบไปว่า “เชิญท่านลงลานประลองได้”

    เชสเตอร์ก้าวเดินลงไปลานประลองตามที่เจ้าสำนักเทียนบอก ซึ่งเทนโค บราเฮก็รู้ว่าถึงคราวของตน จึงลงไปยังลานประลองนี้เช่นกัน

    ทั้งสองยืนประจันหน้ากัน แล้วเทนโค บราเฮบอกว่า

    “ศิษย์น้อง ข้าไม่อยากต่อสู้กับเจ้า”

    “ข้ามิเคยมีศิษย์พี่อย่างเจ้า” เชสเตอร์ตอบ “คนเนรคุณอย่างเจ้าสมควรตายประการเดียว”

    “ข้าก็บอกเจ้าแล้วว่าข้ามิได้สังหาร จะให้ข้าอธิบายเจ้าอย่างไรถึงจะเข้าใจ”

    “เรื่องบางเรื่องต่อให้อธิบายไปเท่าไรก็ทดแทนสิ่งที่ทำไปไม่ได้หรอก คงมีแต่เจ้าต้องตายนั่นแหละถึงจะชดเชยกับชีวิตอาจารย์ที่เสียไป” เชสเตอร์บอกอย่างเคืองแค้น

     ทั้งสองจ้องหน้ากัน แล้วการต่อสู้ก็เริ่มต้นขึ้น

    เชสเตอร์ กับ เทนโค บราเฮ

    สำหรับการต่อสู้คู่นี้หลายคนก็จับตามองไม่แพ้คู่แรกที่ผ่านมา เชสเตอร์เป็นบุรุษผมทองที่มากับฮาน เมรันย่อมเป็นที่สนใจ และยิ่งได้รับรู้ว่าเป็นหนึ่งในศิษย์ของนักดาบอัจฉริยะโดดเดี่ยวมันเงสึ ผู้ชิงดาบพิสดารได้ถึงสามเล่มในกาลก่อน ยิ่งทวีความน่าสนใจมากเท่าตัว

    เช่นกันเมื่อรู้ว่าเทนโค บราเฮเป็นศิษย์ของมันเงสึ แถมเขายังเป็นหนึ่งในห้าผู้กล้าพเนจรที่สร้างชื่อในช่วงนี้ด้วย

    ทันทีที่เริ่มต้น เชสเตอร์ก็ชักดาบแปรเปลี่ยนที่ครอบครองออกมา นี่เป็นสิ่งที่แน่ใจเลยว่าเขาเอาจริงแล้ว เพราะตลอดที่ต่อสู้มาส่วนใหญ่เขาจะเก็บดาบไว้ในฝักก่อน

    เทนโค บราเฮมองดาบพิสดารที่เชสเตอร์ครอบครอง เขาย่อมรู้ว่านี่คือดาบแปรเปลี่ยน

    เพียงพริบตาดาบแปรเปลี่ยนก็พุ่งเข้าหาเทนโค บราเฮอย่างรวดเร็ว ด้วยวิชาดาบไร้เงาที่เชสเตอร์ใช้แล้ว ยากที่ผู้ใดจะหลบหลีกพ้น

    เทนโค บราเฮก็เช่นกัน รูปร่างเขาสูงใหญ่กว่ายิ่งมีความรวดเร็วน้อยกว่าเชสเตอร์ เขาก็หลบหลีกไม่ทัน

    แต่ใช่ว่าเขาจะโดนโจมตี

    เทนโคใช้ปลอกแขนเหล็กข้างขวารับการโจมตีของเชสเตอร์อย่างทันท่วงที ส่วนปลอกแขนเหล็กที่แขนซ้ายคลายตัวออกอย่างรวดเร็ว เปลี่ยนเป็นดาบเล่มบางขึ้นมาในมือข้างซ้าย ฟันโจมตีเชสเตอร์กลับ

    เชสเตอร์เอี้ยวหลบอย่างเฉียดฉิว เขานึกไม่ถึงว่าและไม่คิดว่าจะมีดาบขึ้นมาในมือของเทนโค บราเฮ

    แน่นอนว่าไม่มีผู้ใดคิดถึง เพราะดาบที่ปรากฎในมือข้างซ้ายของเทนโค บราเฮนั้นมาจากปลอกแขนเหล็กที่แปรเปลี่ยนอย่างรวดเร็วกลายเป็นดาบเล่มบางที่มีความอ่อนไหว

    “อ่อนไหว” เชสเตอร์บอก “เจ้าเก็บดาบอ่อนไหวเป็นรูปแบบปลอกแขนไว้ตลอดหรือ”

    “ใช่แล้วศิษย์น้อง ปกติดาบอ่อนไหวของอาจารย์มันเงสึจะถูกเก็บไว้ที่ฝัก แต่ด้วยความที่มันเป็นดาบพิสดาร มันมีลักษณะอ่อนไหวตามชื่อ ข้าจึงประยุกต์นำมาพันไว้เป็นปลอกแขน”

    “หนอย..” เชสเตอร์มองหน้า เขาไม่คิดว่าเทนโค บราเฮจะเข้าถึงลักษณะของดาบอ่อนไหวเช่นนี้


(มีต่อครับ)
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่