ญี่ปุ่นครั้งแรก^^
วันเดินทางช่วงปลายเดือนสิงหาคม 2015
เช้าวันเดินทางได้มาถึง เราตื่นแต่ตอน 6 โมงเช้า และรีบกินข้าวให้เร็วที่สุดแล้วขึ้นรถ พอถึงหน้าสนามบินเราก็รีบคุยกับแม่
N : "ถ้าถึงแล้วจะบอกนะ จะเอาอะไรก็ไลน์มาบอกนะแม่"
Mom : "อืม เดินทางปลอดภัยนะ ดูกระเป๋า ดูโทรศัพท์ดีๆ ระวังหาย เช็คตลอดด้วย"
N : "อะเคค้าบมามี้ จุ๊บแก้ม 1 ที ไปก่อนน้าาาา~~♡" แล้วเราก็เปิดประตูรถออกไป
พอเช็คอินเข้า gate เราก็เดินเตร่อยู่ดิ้วตี้ฟรีพักนึง รู้สึกว่าการเดินทางทริปนี้ของเราจะตื่นเต้นมากเป็นพิเศษ คงเป็นเพราะเราจะได้ไปเซอร์ไพรส์แฟน และจะเป็นการไปญี่ปุ่นครั้งแรกของเราด้วย (*^ ^*)
ตอนอยู่บนเครื่องสักพัก อยู่ดีๆเราก็นึกถึงอดีตค่ะ มันแวบเข้ามาในหัว มันเหมือนเหตุการณ์เดจาวูยังไงอย่างงั้น เรากำลังไปญี่ปุ่น มันเป็นเส้นทางเดียวกันกับตอนเราไปเกาหลี เรารู้สึกถึงตอนนั้นในอดีต เราก็นั่งไปเกาหลีแบบนี้ เรารู้สึกเบลอไปชั่วขณะ ก่อนที่จะดึงสติของตัวเองกลับมา แล้วพยายามปลุกตัวเองให้ตื่นจากอดีต 'อย่าไปคิด อย่าไปคิด อย่าไปคิด' เราส่ายหัวแรงๆ เพื่อเป็นการไล่ความคิดในอดีตออกไป สงสัยจะส่ายหัวแรงและนานไปหน่อยจนผู้โดยสารคุณลุงชาวญี่ปุ่น ที่นั่งข้างเราทั้งสองคนหันมามอง เราได้แต่ยิ้มแห้งๆและพยักหน้าเป็นเชิงขอโทษไปให้ ก่อนที่เราจะหยิบอ่านไกด์บุ๊คออกมาอ่าน หาอะไรทำเพื่อไม่ให้ตัวเองฟุ้งซ่าน เราพยายามหาเส้นทางรถไฟตรงอาพาร์ทเม้นท์ที่พี่เค้าอยู่ ก่อนหน้านี้ที่พี่เค้าเคยเปิด Google map ให้ดู เราก็แอบเซฟเก็บไว้ จำชื่อสถานีได้ จำรูปอาพาร์ทเม้นของเค้าได้ เลยคิดว่าไม่น่าจะยาก แต่ขออย่าให้เป็นภาษาญี่ปุ่นหมดซะก่อนล่ะ เพราะจะอ่านไม่รู้เรื่อง 555
.
✈️☁️ Kansai International Airport 18:30
ในที่สุดเครื่องก็ Landing สนามบินคันไซ ส่วนตัวเราก็ไปแบบไม่รีบไม่ร้อน พอผ่าน ตม. รอรับกระเป๋า เราก็ออกไปนั่งเล่น ต่อ wifi คุยกะพี่เค้า เนียนถามว่าเป็นยังไงบ้าง? ทำอะไรอยู่? รออยู่ครี่งชั่วโมงได้กว่าพี่เค้าจะตอบกลับมาว่า กำลังจะกินข้าวเย็น เราก็นั่งคุยกับพี่เค้าไปเรื่อยๆ แล้วแผนการเซอร์ไพรส์ไปหาเค้าก็หยุดกะทันหัน เท่าที่เราจำได้ เราเคยอ่านเกี่ยวกับการไปเยี่ยมบ้านของคนญี่ปุ่น ต้องมีการนัดล่วงหน้า และต้องมาตรงเวลา ถ้าเกิดว่าเค้าไม่ว่างไม่ได้เก็บห้องล่ะ? ถ้าเกิดเราไปหาแล้วดันหลงทางก่อนล่ะ? คนญี่ปุ่นเค้าจะเป็นพวกเนี๊ยบกว่าชาวบ้านด้วยสิ ถ้าเราไปแล้วจะเป็นการรบกวนเค้ามั้ย? มันต้องดูเสียมารยาทมากแน่ๆ ถ้าอยู่ดีๆไปจ๊ะเอ๋หน้าบ้านเค้า
ฮืมมม์ สำหรับคนญี่ปุ่นแล้ว ดูยังไงๆมันก็ไม่ดีสินะ.... เราเลยเปลี่ยนใจ เลือกที่จะบอกให้พี่เค้ารู้
N : 'เคคุง จริงๆแล้วฉันมีอะไรจะบอกน่ะ..'
K : 'อะไรหรอ?'
N : 'คือ... จริงๆแล้วฉันมาถึงโอซาก้าสักพักแล้วค่ะ'
K : 'เอ๋!!!??? จริงหรอ???'
N : 'พรุ่งนี้พอมีเวลามั้ยคะ ฉันว่าจะนั่งรถไฟเข้าเมืองไปหา'
K : 'คุณล้อเล่นรึเปล่า? แล้วคุณมาถึงเมื่อไหร่ พักที่ไหน?'
N : 'เอ่อ... ก็มาได้สัก 2 ช.ม. แล้วค่ะ นั่งกินข้าวอยู่สนามบิน ไม่ต้องห่วงนะ เดี๋ยวพรุ่งนี้ฉันจะเข้าตัวเมืองไปหา' ^^
K : 'ทำไมไม่บอกผมล่ะ ว่าคุณจะมา?'
N : 'เอ่อ... ขอโทษนะคะ ฉันแค่อยากจะมาเซอร์ไพรส์วันเกิดคุณน่ะ' ( ̄▽ ̄) ฮืออออ... แผนการเซอร์ไพรส์ พังหมดเลย (TT)
K : 'งั้นคุณรออยู่นั่นนะ เดี๋ยวผมจะไปรับ'
N : 'ไม่เป็นไรค่ะ คืนนี้ฉันว่าจะนอนที่สนามบิน' ^^
K : 'เอ๋? ผมจำได้ว่าคุณนอนที่สนามบินไม่หลับนะ รออยู่นั่นนะ เดี๋ยวผมกำลังจะออก'
N : 'ไม่เป็นไรจริงๆค่ะ'
K : 'รออยู่นั่นนะครับ'
พี่เค้าตัดบทเราไป เราพิมพ์ไปบอกอีกว่าไม่เป็นไร แต่พี่เค้าก็ไม่อ่านไม่ตอบ สงสัยกำลังขับรถอยู่ จนเวลาผ่านไปชั่วโมงกว่าๆ พี่เค้าก็มาถึงสนามบิน และไลน์บอกให้เราเดินออกมาจากอาคารและข้ามไปยังถนนอีกฝั่ง พอเราเข็นรถออกไป อยู่ๆก็มีคุณลุงชาวญี่ปุ่นเดินมาถามอะไรไม่รู้กับเรา เหมือนคล้ายๆถามทางหรืออะไร? เราเลยยืนเอ๋ออยู่พักนึงก่อนจะตอบว่า 'Sorry... I don't know' TT พอคุณลุงรู้ว่าเราเป็นคนต่างชาติก็แบบอ่อๆ ละก็รีบๆเดินไป ไว้รอหนูเก่งภาษาญี่ปุ่นก่อนจะช่วยนะคะ ฮืออออ~~ เราเดินไปเรื่อยๆ หัวใจเราเริ่มเต้นแรง พี่เค้าเคยเล่าให้ฟังว่ารถของเค้าคันสีขาว เรากำลังเดินหาไปเรื่อยๆ และมีลางเหมือนว่าจะเห็นรถแล้ว แต่ก็ยังไม่แน่ใจว่าใช่มั้ย? รถจอดอยู่ข้างทาง แต่ไม่เห็นคนขับ เราเข็นรถไปเรื่อยๆ และ... เราว่าเราเห็นเค้าแล้ว... หนุ่มร่างผอมโปร่งที่เราคุ้นตากำลังเดินเข้ามาใกล้ นี่มันนานแค่ไหนแล้วนะที่พวกเราไม่ได้เจอกัน... พี่แกก็ยิ้มหน้าบานมาแต่ไกล เราก็ได้แต่ยืนนิ่งตกอยู่ในภวังค์ ฟะ...ฟะ...แฟนจ๋าาาาาาา~~~! ไม่เจอกันตั้ง 3 เดือน คิดถึงจังเลยยยยยยยย~~!♡ ภาพในหัวความจริงคือเราอยากวิ่งเข้าไปกระโดดกอดเค้ามากนะ แต่ความเป็นจริงคิดแล้วมันอาจจะแลดูไม่งาม เลยทำได้แค่ยิ้มหวานๆส่งไปให้ (*^▽^*) วันนี้พี่เค้าไม่ค่อยแต่งตัวเท่าไหร่ คงเป็นเพราะใกล้จะนอนแล้วเลยออกมาแบบรีบๆ ลากอีแตะมาด้วย น่ารักจุง 5555 พอมาถึงหนุ่มญี่ปุ่นก็ช่วยยกกระเป๋า เราก็รีบอัดคลิปไว้เลยค่ะ มันดีใจมากๆ ดีใจจนบอกไม่ถูก พอเข้าไปในรถเรารู้สึกได้เลยว่าต่างคนต่างตื่นเต้นทั้งดีใจทั้งเขิน ไม่รู้จะพูดอะไรกันเลยจริงๆ โอย~~ (//∇//)
หนุ่มญี่ปุ่นมายกกระเป๋าช่วยค่ะ โอ๊ยยยย 5555
ส่วนพี่เค้าก็ยิ้มไม่หุบเลย ขับรถไปก็ยิ้มแก้มปริไปตลอดทาง เค้าดูมีความสุขมากเลยนะ เราก็มีความสุขมากๆเหมือนกัน แค่ได้เจอกันแค่นี้ก็คุ้มแล้ว ^^ แต่นี่เป็นครั้งแรกเลยนะเนี่ยที่ได้นั่งรถของคุณแฟน แถมตอนนี้พี่เค้าชอบเอามือเอื้อมมาลูบๆหัวเราบ่อยๆอีก เราก็ฟินสิคะ♡ ยิ่งชอบให้แฟนลูบหัวอยู่ด้วย รู้สึกเหมือนเค้าเอ็นดูเรา ตอนนี้เราหันไปมองหน้าหนุ่มญี่ปุ่นด้วยดวงตาที่เป็นประกาย พี่เค้าก็เขินอายที่เราจ้อง ทำไมพี่เค้าน่ารักจังเลยนะ ทั้งอบอุ่น ทั้งสูภาพ น้ำเสียงก็อ่อนโยน แฟนจ๋าาาา~~ น้องอยากจะบอกว่า ตอนนี้น้องกำลังตกหลุมรักพี่อีกครั้ง.... (*´꒳`*)♡
ตอนอยู่บนรถค่ะ พี่เค้ายิ้มไม่หุบเลย
พวกเรานั่งเงียบกันไปสักพัก สุดท้ายเราเลยทำลายความเงียบด้วยการเริ่มต้นคุยเรื่องระเบิดค่ะ ซึ่งตอนนั้นมีการก่อการร้ายด้วยการวางระเบิดที่ราชประสงค์ (ขอแสดงความเสียใจกับผู้เสียชีวิตด้วยนะคะ) ซึ่งข่าวนี้ก็ออกข่าวในญี่ปุ่นอยู่เหมือนกัน คุยไปคุยมาก็เริ่มออกอาการเครียด พวกเราเลยเปลี่ยนเรื่องคุย เราก็นั่งมองวิวข้างทาง พร้อมคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย นี่สินะญี่ปุ่น ในที่สุดเราก็ได้มาแล้ว พี่เค้าคงเห็นว่าเราเหม่อมองวิว เพราะอยู่ดีๆพี่เค้าก็ถามเราขึ้นมาว่า บางทีญี่ปุ่นอาจจะดูคล้ายเกาหลีหรือเปล่านะ? เราก็เหวอเลยค่ะ หืออออ??? ทำไมต้องเกิดการเปรียบเทียบตอนนี้ด้วย? ก่อนจะตอบว่าก็คล้ายนิดหน่อย ( ̄▽ ̄v) พี่เค้าบอกก็คงจะใช่เพราะเป็นประเทศที่อยู่ใกล้กันมาก
พี่เค้าก็ขับรถไปเรื่อยๆ เราเลยถามเค้าว่าจะพาเราไปไหน? เค้าบอกว่าจะพาไปพักที่บ้านของเค้าแทน ตอนนี้เค้าไม่ได้อยู่ที่อพาร์ตเมนท์แล้ว เพราะมีลูกค้าเข้ามาเช่าอยู่ เค้าจึงต้องย้ายไปอยู่ที่บ้านและมีน้องสาวมาอยู่ด้วย เราเลยตกใจ จะให้เราไปรบกวนน้องสาวเค้าหรอ? (*´Д`*) เราเลยปฏิเสธไป และขอไปพักที่โรงแรมแทน (ความจริงคือเรายังไม่พร้อมที่จะไปเจอน้องสาวของเค้าค่ะ อาย) เวลาตอนนั้นก็ดึกมากแล้ว ประมาณ 5 ทุ่มได้ เราขอให้พี่เค้าพาเราไปโรงแรมที่ราคาไม่แพงมาก พี่เค้าก็คิดอยู่พักนึง ก่อนที่จะเลี้ยวรถไปอีกทาง ขับมาเรื่อยเรื่อยจะเป็นซอยเข้าไปแล้วสองข้างทางจะเต็มไปด้วยโรงแรม พี่เค้าเลี้ยวเข้ามาจอดรถและช่วยเราขนของลง พอเดินเข้ามาในโรงแรม เรารู้สึกเอะใจนิดหน่อยว่าทำไมเค้าทำล็อบบี้ไว้แคบจัง และเค้าท์เตอร์พนักงานต้อนรับมีม่านบังไว้แบบไม่ให้เห็นหน้า? (・・?) พี่เค้าก็คุยกับพนักงานอยู่สักพัก แล้วหันมาพูดกับเราว่า มีห้องว่างอยู่ห้องเดียวนะ ก่อนที่จะพาเราเข้ามาที่ห้องพัก
พอเปิดประตูเข้าห้องไป เรามองไปรอบๆห้อง เราก็ไปถึงบางอ้อทันที ( ・∇・) ใช่แล้วค่ะเพื่อนๆ หนุ่มญี่ปุ่นลากเรามาที่ 'Love Hotel'
(OvO!) อู้ววววว ตื่นเต้น~~!
พวกเราเดินเข้ามาในห้อง เราวางกระเป๋าสะพายไว้บนโซฟา พร้อมมองไปรอบๆห้อง ห้องมีขนาดกว้างขวางพอสมควร อันที่จริงมันก็เหมือนกับห้องของโรงแรมทั่วไป เพียงแค่ว่ามีอุปกรณ์สำหรับผู้ใหญ่ไว้ครบครัน มีแต่ความรู้สึกของเราเท่านั้นที่แปลกไป นี่สินะ Love Hotel ของญี่ปุ่น เป็นครั้งแรกในชีวิตเลยที่ได้มา! แม่จ้าวววว~~ ช่างเป็นเกียรติอย่างสูง~~~ (*゚▽゚*)
อยู่ๆหนุ่มญี่ปุ่นเดินเข้ามากอดจากด้านหลัง ทำให้เราต้องสะดุ้ง (•///•) เราเลยบ่ายเบี่ยงโดยการเดินไปเปิดกระเป๋า คือเราเขินน่ะ เขินจริงๆ มันยังรู้สึกไม่คุ้นเพราะไม่เจอกันนานมาก เราหยิบผ้าเช็ดตัวและผ้าขนหนูจะไปอาบน้ำ พี่เค้าก็ถามว่าอาบด้วยได้มั้ย? เราเลยปฏิเสธไป ว่ามันดึกแล้ว อยากรีบอาบจะได้รีบนอนเร็วๆ อย่าพึ่งออกตัวแรงสิคะแฟนข๋าาาา~ ใจเย็นๆเนอะ ^^ ตอนนี้น้องกำลังเขิน เป็นไปได้คงจะบิดม้วนตัวงอไปแล้ว 55555
พอเราอาบน้ำเสร็จ ก็เห็นพี่เค้านอนเล่นเกมส์อยู่
N : "เอ่อ... ไม่ไปอาบน้ำหรอคะ?" ( ´∀`)
K : "อ่อ ผมอาบมาก่อนหน้าที่จะไปรับคุณแล้ว" ^^
N : "อ่อค่ะ งั้น...ฉันขอนอนก่อนนะคะ"
K : "นั่นสินะ นอนกันเถอะนะ" พี่เค้าพูดด้วยน้ำเสียงเจ้าเล่ห์ พร้อมปิดไฟตรงหัวเตียง
N : "Oyasumi ค่ะ" TT' (ฝันดี) เรารู้ชะตากรรมล่วงหน้าอยู่แล้ว...
K : "ไม่ Oyasumi ครับ" ( *`ω´)
พอพูดเสร็จพี่เค้าก็พลิกตัวขึ้นมามองหน้าเราแล้วเริ่มต้นจูบ... และแม้ว่าเราจะขัดขืนเล่นตัวขนาดไหน (ด้วยความหวังอันน้อยนิดว่าเค้าจะให้เราพักบ้าง) แต่พี่เค้าก็ยังพยายามที่จะไล่ต้อนเราให้จนมุมเสมอ เราจับแก้มของเค้าเบาๆทั้งสองข้าง พวกเรามองหน้ากันอยู่พักนึง ก่อนที่พี่เค้าจะก้มลงมาจูบอีกรอบ... มันนานแค่ไหนแล้วนะ ที่เราไม่ได้เจอกัน...
จูบอันนุ่มนวลของพี่เค้า♡...
พี่เค้าดึงเราเข้าไปกอดอย่างแนบแน่น...
หัวใจเรา...ที่เริ่มเต้นแรงขึ้นเรื่อยๆ...
มือที่ประสานกันของพวกเรา♡...
สัมผัสความอ่อนโยนที่เค้ามอบให้....
ฉัน... ฉันคิดถึงคุณมากมายจริงๆนะ... เคคุง...♡
♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡
ไว้มาตามต่อตอนหน้านะคะ ^^
อ่านตอนย้อนหลังได้ที่
https://pantip.com/topic/36843831
อ่านตอนถัดไปได้ที่
https://pantip.com/topic/36979764
ฝากเพจของพวกเราด้วยนะคะ
https://web.facebook.com/nekocouplestory/
✿✿แชร์ประสบการณ์ ♥ริรักกับหนุ่มญี่ปุ่น♥ เมื่อความบังเอิญทำให้เราได้มาเจอกัน✿✿ (●^o^●) ตอนที่ 19
วันเดินทางช่วงปลายเดือนสิงหาคม 2015
เช้าวันเดินทางได้มาถึง เราตื่นแต่ตอน 6 โมงเช้า และรีบกินข้าวให้เร็วที่สุดแล้วขึ้นรถ พอถึงหน้าสนามบินเราก็รีบคุยกับแม่
N : "ถ้าถึงแล้วจะบอกนะ จะเอาอะไรก็ไลน์มาบอกนะแม่"
Mom : "อืม เดินทางปลอดภัยนะ ดูกระเป๋า ดูโทรศัพท์ดีๆ ระวังหาย เช็คตลอดด้วย"
N : "อะเคค้าบมามี้ จุ๊บแก้ม 1 ที ไปก่อนน้าาาา~~♡" แล้วเราก็เปิดประตูรถออกไป
พอเช็คอินเข้า gate เราก็เดินเตร่อยู่ดิ้วตี้ฟรีพักนึง รู้สึกว่าการเดินทางทริปนี้ของเราจะตื่นเต้นมากเป็นพิเศษ คงเป็นเพราะเราจะได้ไปเซอร์ไพรส์แฟน และจะเป็นการไปญี่ปุ่นครั้งแรกของเราด้วย (*^ ^*)
ตอนอยู่บนเครื่องสักพัก อยู่ดีๆเราก็นึกถึงอดีตค่ะ มันแวบเข้ามาในหัว มันเหมือนเหตุการณ์เดจาวูยังไงอย่างงั้น เรากำลังไปญี่ปุ่น มันเป็นเส้นทางเดียวกันกับตอนเราไปเกาหลี เรารู้สึกถึงตอนนั้นในอดีต เราก็นั่งไปเกาหลีแบบนี้ เรารู้สึกเบลอไปชั่วขณะ ก่อนที่จะดึงสติของตัวเองกลับมา แล้วพยายามปลุกตัวเองให้ตื่นจากอดีต 'อย่าไปคิด อย่าไปคิด อย่าไปคิด' เราส่ายหัวแรงๆ เพื่อเป็นการไล่ความคิดในอดีตออกไป สงสัยจะส่ายหัวแรงและนานไปหน่อยจนผู้โดยสารคุณลุงชาวญี่ปุ่น ที่นั่งข้างเราทั้งสองคนหันมามอง เราได้แต่ยิ้มแห้งๆและพยักหน้าเป็นเชิงขอโทษไปให้ ก่อนที่เราจะหยิบอ่านไกด์บุ๊คออกมาอ่าน หาอะไรทำเพื่อไม่ให้ตัวเองฟุ้งซ่าน เราพยายามหาเส้นทางรถไฟตรงอาพาร์ทเม้นท์ที่พี่เค้าอยู่ ก่อนหน้านี้ที่พี่เค้าเคยเปิด Google map ให้ดู เราก็แอบเซฟเก็บไว้ จำชื่อสถานีได้ จำรูปอาพาร์ทเม้นของเค้าได้ เลยคิดว่าไม่น่าจะยาก แต่ขออย่าให้เป็นภาษาญี่ปุ่นหมดซะก่อนล่ะ เพราะจะอ่านไม่รู้เรื่อง 555
.
✈️☁️ Kansai International Airport 18:30
ในที่สุดเครื่องก็ Landing สนามบินคันไซ ส่วนตัวเราก็ไปแบบไม่รีบไม่ร้อน พอผ่าน ตม. รอรับกระเป๋า เราก็ออกไปนั่งเล่น ต่อ wifi คุยกะพี่เค้า เนียนถามว่าเป็นยังไงบ้าง? ทำอะไรอยู่? รออยู่ครี่งชั่วโมงได้กว่าพี่เค้าจะตอบกลับมาว่า กำลังจะกินข้าวเย็น เราก็นั่งคุยกับพี่เค้าไปเรื่อยๆ แล้วแผนการเซอร์ไพรส์ไปหาเค้าก็หยุดกะทันหัน เท่าที่เราจำได้ เราเคยอ่านเกี่ยวกับการไปเยี่ยมบ้านของคนญี่ปุ่น ต้องมีการนัดล่วงหน้า และต้องมาตรงเวลา ถ้าเกิดว่าเค้าไม่ว่างไม่ได้เก็บห้องล่ะ? ถ้าเกิดเราไปหาแล้วดันหลงทางก่อนล่ะ? คนญี่ปุ่นเค้าจะเป็นพวกเนี๊ยบกว่าชาวบ้านด้วยสิ ถ้าเราไปแล้วจะเป็นการรบกวนเค้ามั้ย? มันต้องดูเสียมารยาทมากแน่ๆ ถ้าอยู่ดีๆไปจ๊ะเอ๋หน้าบ้านเค้า
ฮืมมม์ สำหรับคนญี่ปุ่นแล้ว ดูยังไงๆมันก็ไม่ดีสินะ.... เราเลยเปลี่ยนใจ เลือกที่จะบอกให้พี่เค้ารู้
N : 'เคคุง จริงๆแล้วฉันมีอะไรจะบอกน่ะ..'
K : 'อะไรหรอ?'
N : 'คือ... จริงๆแล้วฉันมาถึงโอซาก้าสักพักแล้วค่ะ'
K : 'เอ๋!!!??? จริงหรอ???'
N : 'พรุ่งนี้พอมีเวลามั้ยคะ ฉันว่าจะนั่งรถไฟเข้าเมืองไปหา'
K : 'คุณล้อเล่นรึเปล่า? แล้วคุณมาถึงเมื่อไหร่ พักที่ไหน?'
N : 'เอ่อ... ก็มาได้สัก 2 ช.ม. แล้วค่ะ นั่งกินข้าวอยู่สนามบิน ไม่ต้องห่วงนะ เดี๋ยวพรุ่งนี้ฉันจะเข้าตัวเมืองไปหา' ^^
K : 'ทำไมไม่บอกผมล่ะ ว่าคุณจะมา?'
N : 'เอ่อ... ขอโทษนะคะ ฉันแค่อยากจะมาเซอร์ไพรส์วันเกิดคุณน่ะ' ( ̄▽ ̄) ฮืออออ... แผนการเซอร์ไพรส์ พังหมดเลย (TT)
K : 'งั้นคุณรออยู่นั่นนะ เดี๋ยวผมจะไปรับ'
N : 'ไม่เป็นไรค่ะ คืนนี้ฉันว่าจะนอนที่สนามบิน' ^^
K : 'เอ๋? ผมจำได้ว่าคุณนอนที่สนามบินไม่หลับนะ รออยู่นั่นนะ เดี๋ยวผมกำลังจะออก'
N : 'ไม่เป็นไรจริงๆค่ะ'
K : 'รออยู่นั่นนะครับ'
พี่เค้าตัดบทเราไป เราพิมพ์ไปบอกอีกว่าไม่เป็นไร แต่พี่เค้าก็ไม่อ่านไม่ตอบ สงสัยกำลังขับรถอยู่ จนเวลาผ่านไปชั่วโมงกว่าๆ พี่เค้าก็มาถึงสนามบิน และไลน์บอกให้เราเดินออกมาจากอาคารและข้ามไปยังถนนอีกฝั่ง พอเราเข็นรถออกไป อยู่ๆก็มีคุณลุงชาวญี่ปุ่นเดินมาถามอะไรไม่รู้กับเรา เหมือนคล้ายๆถามทางหรืออะไร? เราเลยยืนเอ๋ออยู่พักนึงก่อนจะตอบว่า 'Sorry... I don't know' TT พอคุณลุงรู้ว่าเราเป็นคนต่างชาติก็แบบอ่อๆ ละก็รีบๆเดินไป ไว้รอหนูเก่งภาษาญี่ปุ่นก่อนจะช่วยนะคะ ฮืออออ~~ เราเดินไปเรื่อยๆ หัวใจเราเริ่มเต้นแรง พี่เค้าเคยเล่าให้ฟังว่ารถของเค้าคันสีขาว เรากำลังเดินหาไปเรื่อยๆ และมีลางเหมือนว่าจะเห็นรถแล้ว แต่ก็ยังไม่แน่ใจว่าใช่มั้ย? รถจอดอยู่ข้างทาง แต่ไม่เห็นคนขับ เราเข็นรถไปเรื่อยๆ และ... เราว่าเราเห็นเค้าแล้ว... หนุ่มร่างผอมโปร่งที่เราคุ้นตากำลังเดินเข้ามาใกล้ นี่มันนานแค่ไหนแล้วนะที่พวกเราไม่ได้เจอกัน... พี่แกก็ยิ้มหน้าบานมาแต่ไกล เราก็ได้แต่ยืนนิ่งตกอยู่ในภวังค์ ฟะ...ฟะ...แฟนจ๋าาาาาาา~~~! ไม่เจอกันตั้ง 3 เดือน คิดถึงจังเลยยยยยยยย~~!♡ ภาพในหัวความจริงคือเราอยากวิ่งเข้าไปกระโดดกอดเค้ามากนะ แต่ความเป็นจริงคิดแล้วมันอาจจะแลดูไม่งาม เลยทำได้แค่ยิ้มหวานๆส่งไปให้ (*^▽^*) วันนี้พี่เค้าไม่ค่อยแต่งตัวเท่าไหร่ คงเป็นเพราะใกล้จะนอนแล้วเลยออกมาแบบรีบๆ ลากอีแตะมาด้วย น่ารักจุง 5555 พอมาถึงหนุ่มญี่ปุ่นก็ช่วยยกกระเป๋า เราก็รีบอัดคลิปไว้เลยค่ะ มันดีใจมากๆ ดีใจจนบอกไม่ถูก พอเข้าไปในรถเรารู้สึกได้เลยว่าต่างคนต่างตื่นเต้นทั้งดีใจทั้งเขิน ไม่รู้จะพูดอะไรกันเลยจริงๆ โอย~~ (//∇//)
ส่วนพี่เค้าก็ยิ้มไม่หุบเลย ขับรถไปก็ยิ้มแก้มปริไปตลอดทาง เค้าดูมีความสุขมากเลยนะ เราก็มีความสุขมากๆเหมือนกัน แค่ได้เจอกันแค่นี้ก็คุ้มแล้ว ^^ แต่นี่เป็นครั้งแรกเลยนะเนี่ยที่ได้นั่งรถของคุณแฟน แถมตอนนี้พี่เค้าชอบเอามือเอื้อมมาลูบๆหัวเราบ่อยๆอีก เราก็ฟินสิคะ♡ ยิ่งชอบให้แฟนลูบหัวอยู่ด้วย รู้สึกเหมือนเค้าเอ็นดูเรา ตอนนี้เราหันไปมองหน้าหนุ่มญี่ปุ่นด้วยดวงตาที่เป็นประกาย พี่เค้าก็เขินอายที่เราจ้อง ทำไมพี่เค้าน่ารักจังเลยนะ ทั้งอบอุ่น ทั้งสูภาพ น้ำเสียงก็อ่อนโยน แฟนจ๋าาาา~~ น้องอยากจะบอกว่า ตอนนี้น้องกำลังตกหลุมรักพี่อีกครั้ง.... (*´꒳`*)♡
พวกเรานั่งเงียบกันไปสักพัก สุดท้ายเราเลยทำลายความเงียบด้วยการเริ่มต้นคุยเรื่องระเบิดค่ะ ซึ่งตอนนั้นมีการก่อการร้ายด้วยการวางระเบิดที่ราชประสงค์ (ขอแสดงความเสียใจกับผู้เสียชีวิตด้วยนะคะ) ซึ่งข่าวนี้ก็ออกข่าวในญี่ปุ่นอยู่เหมือนกัน คุยไปคุยมาก็เริ่มออกอาการเครียด พวกเราเลยเปลี่ยนเรื่องคุย เราก็นั่งมองวิวข้างทาง พร้อมคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย นี่สินะญี่ปุ่น ในที่สุดเราก็ได้มาแล้ว พี่เค้าคงเห็นว่าเราเหม่อมองวิว เพราะอยู่ดีๆพี่เค้าก็ถามเราขึ้นมาว่า บางทีญี่ปุ่นอาจจะดูคล้ายเกาหลีหรือเปล่านะ? เราก็เหวอเลยค่ะ หืออออ??? ทำไมต้องเกิดการเปรียบเทียบตอนนี้ด้วย? ก่อนจะตอบว่าก็คล้ายนิดหน่อย ( ̄▽ ̄v) พี่เค้าบอกก็คงจะใช่เพราะเป็นประเทศที่อยู่ใกล้กันมาก
พี่เค้าก็ขับรถไปเรื่อยๆ เราเลยถามเค้าว่าจะพาเราไปไหน? เค้าบอกว่าจะพาไปพักที่บ้านของเค้าแทน ตอนนี้เค้าไม่ได้อยู่ที่อพาร์ตเมนท์แล้ว เพราะมีลูกค้าเข้ามาเช่าอยู่ เค้าจึงต้องย้ายไปอยู่ที่บ้านและมีน้องสาวมาอยู่ด้วย เราเลยตกใจ จะให้เราไปรบกวนน้องสาวเค้าหรอ? (*´Д`*) เราเลยปฏิเสธไป และขอไปพักที่โรงแรมแทน (ความจริงคือเรายังไม่พร้อมที่จะไปเจอน้องสาวของเค้าค่ะ อาย) เวลาตอนนั้นก็ดึกมากแล้ว ประมาณ 5 ทุ่มได้ เราขอให้พี่เค้าพาเราไปโรงแรมที่ราคาไม่แพงมาก พี่เค้าก็คิดอยู่พักนึง ก่อนที่จะเลี้ยวรถไปอีกทาง ขับมาเรื่อยเรื่อยจะเป็นซอยเข้าไปแล้วสองข้างทางจะเต็มไปด้วยโรงแรม พี่เค้าเลี้ยวเข้ามาจอดรถและช่วยเราขนของลง พอเดินเข้ามาในโรงแรม เรารู้สึกเอะใจนิดหน่อยว่าทำไมเค้าทำล็อบบี้ไว้แคบจัง และเค้าท์เตอร์พนักงานต้อนรับมีม่านบังไว้แบบไม่ให้เห็นหน้า? (・・?) พี่เค้าก็คุยกับพนักงานอยู่สักพัก แล้วหันมาพูดกับเราว่า มีห้องว่างอยู่ห้องเดียวนะ ก่อนที่จะพาเราเข้ามาที่ห้องพัก
พอเปิดประตูเข้าห้องไป เรามองไปรอบๆห้อง เราก็ไปถึงบางอ้อทันที ( ・∇・) ใช่แล้วค่ะเพื่อนๆ หนุ่มญี่ปุ่นลากเรามาที่ 'Love Hotel'
(OvO!) อู้ววววว ตื่นเต้น~~!
พวกเราเดินเข้ามาในห้อง เราวางกระเป๋าสะพายไว้บนโซฟา พร้อมมองไปรอบๆห้อง ห้องมีขนาดกว้างขวางพอสมควร อันที่จริงมันก็เหมือนกับห้องของโรงแรมทั่วไป เพียงแค่ว่ามีอุปกรณ์สำหรับผู้ใหญ่ไว้ครบครัน มีแต่ความรู้สึกของเราเท่านั้นที่แปลกไป นี่สินะ Love Hotel ของญี่ปุ่น เป็นครั้งแรกในชีวิตเลยที่ได้มา! แม่จ้าวววว~~ ช่างเป็นเกียรติอย่างสูง~~~ (*゚▽゚*)
อยู่ๆหนุ่มญี่ปุ่นเดินเข้ามากอดจากด้านหลัง ทำให้เราต้องสะดุ้ง (•///•) เราเลยบ่ายเบี่ยงโดยการเดินไปเปิดกระเป๋า คือเราเขินน่ะ เขินจริงๆ มันยังรู้สึกไม่คุ้นเพราะไม่เจอกันนานมาก เราหยิบผ้าเช็ดตัวและผ้าขนหนูจะไปอาบน้ำ พี่เค้าก็ถามว่าอาบด้วยได้มั้ย? เราเลยปฏิเสธไป ว่ามันดึกแล้ว อยากรีบอาบจะได้รีบนอนเร็วๆ อย่าพึ่งออกตัวแรงสิคะแฟนข๋าาาา~ ใจเย็นๆเนอะ ^^ ตอนนี้น้องกำลังเขิน เป็นไปได้คงจะบิดม้วนตัวงอไปแล้ว 55555
พอเราอาบน้ำเสร็จ ก็เห็นพี่เค้านอนเล่นเกมส์อยู่
N : "เอ่อ... ไม่ไปอาบน้ำหรอคะ?" ( ´∀`)
K : "อ่อ ผมอาบมาก่อนหน้าที่จะไปรับคุณแล้ว" ^^
N : "อ่อค่ะ งั้น...ฉันขอนอนก่อนนะคะ"
K : "นั่นสินะ นอนกันเถอะนะ" พี่เค้าพูดด้วยน้ำเสียงเจ้าเล่ห์ พร้อมปิดไฟตรงหัวเตียง
N : "Oyasumi ค่ะ" TT' (ฝันดี) เรารู้ชะตากรรมล่วงหน้าอยู่แล้ว...
K : "ไม่ Oyasumi ครับ" ( *`ω´)
พอพูดเสร็จพี่เค้าก็พลิกตัวขึ้นมามองหน้าเราแล้วเริ่มต้นจูบ... และแม้ว่าเราจะขัดขืนเล่นตัวขนาดไหน (ด้วยความหวังอันน้อยนิดว่าเค้าจะให้เราพักบ้าง) แต่พี่เค้าก็ยังพยายามที่จะไล่ต้อนเราให้จนมุมเสมอ เราจับแก้มของเค้าเบาๆทั้งสองข้าง พวกเรามองหน้ากันอยู่พักนึง ก่อนที่พี่เค้าจะก้มลงมาจูบอีกรอบ... มันนานแค่ไหนแล้วนะ ที่เราไม่ได้เจอกัน...
จูบอันนุ่มนวลของพี่เค้า♡...
พี่เค้าดึงเราเข้าไปกอดอย่างแนบแน่น...
หัวใจเรา...ที่เริ่มเต้นแรงขึ้นเรื่อยๆ...
มือที่ประสานกันของพวกเรา♡...
สัมผัสความอ่อนโยนที่เค้ามอบให้....
ฉัน... ฉันคิดถึงคุณมากมายจริงๆนะ... เคคุง...♡
♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡
ไว้มาตามต่อตอนหน้านะคะ ^^
อ่านตอนย้อนหลังได้ที่ https://pantip.com/topic/36843831
อ่านตอนถัดไปได้ที่ https://pantip.com/topic/36979764
ฝากเพจของพวกเราด้วยนะคะ https://web.facebook.com/nekocouplestory/