อยากรู้ว่ามีใครคิดแบบนี้บ้างมั้ย..เรื่องการตาย

ก่อนอื่นต้องขอออกตัวก่อนว่า ไม่ได้เป็นโรคซึมเศร้านะคะ (รึเป็นแต่ไม่รู้ตัว? ไม่เคยไปตรวจค่ะ)
เรามีความคิดแบบนี้มาตั้งแต่ยังเด็กแล้ว..คิดเสมอว่า เราเกิดมาตัวคนเดียว มีแค่พ่อและแม่ ถ้าโตขึ้น ทำตัวเป็นพลเมือง(เกือบ)ดีของสังคมได้ระยะหนึ่งแล้ว พอถึงเวลาที่เหมาะสมก็สามารถตายได้โดยที่ไม่เดือดร้อนใคร ตอนเด็กๆ เราตั้งเป้าไว้ที่ 35 ค่ะ ..เราก็ใช้ชีวิตปกติเรื่อยมา มีเพื่อน มีแฟน มีสุขมั่งทุกข์มั่ง..
จนปัจจุบัน...พ่อเสียแล้ว แม่ก็ไม่ค่อยสบาย มีคนที่คิดว่ารัก (แต่ไม่ได้คบกันนะคะ) ความคิดเรื่องตายก็ยังไม่เคยหายไป..สิ่งที่เรากำลังทำอยู่ตอนนี้ คือคิดวิธีที่จะตายแบบไม่ต้องเดือดร้อนคนอื่น แล้วก็กำลังเคลียร์ทุกอย่าง..ไม่ให้ติดค้างและเป็นภาระแก่ใคร..ทั้งเรื่องงาน ทรัพย์สินหนี้สิน ร่างกายเราก็บริจาคไปแล้ว เรารู้ว่าถึงเราตายไปโลกก็ยังหมุน..ทุกคนยังใช้ชีวิตปกติ..การอยู่หรือไปของเราไม่ได้มีผลกับชีวิตของใครเลย..
มีคนบอกเราว่า เสียดายทรัพยากรที่หล่อเลี้ยงชีวิตจนเราโตมาได้เท่านี้ แต่เราคิดว่าเราตอบแทนโลกมาในปริมาณที่ไม่น่าเกลียดถ้าจะจากไป เราอายุเกิน 35 แล้ว เป็นคนดีตามมาตรฐานที่สังคมตั้งไว้ ไม่เคยเบียดเบียนใคร บริจาคให้มูลนิธีศุภนิมิตรบ้างตามวาระและโอกาส อยากรู้ทัศนะคติของทุกคนกับวิธีการคิดแบบนี้ของเราค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่