#ชีวิตลูกจ้างกับความต้องการเป็นเจ้าของธุรกิจ

#ชีวิตลูกจ้างกับความต้องการเป็นเจ้าของธุรกิจ

ชีวิตลูกจ้างจัดว่ามีความมั่นคงสูง มีเงินเดือนที่แน่นอน มีสวัสดิการการันตี โบนัส ปรับเงินประจำปี เยอะแยะไปหมด!
หลายคนติดอยู่ในCycle หรือกับดักลูกจ้าง ซึ่งในใจคิดมาโดยตลอดว่าสักวันจะต้องเป็นเจ้าของธุรกิจและมีอิสรภาพแห่งชีวิต
ผมมีข้อแนะนำแบบนี้ครับ
ชีวิตคนเรามันช่างสวยงามเหลือเกิน #ชีวิตเราเกิดมาพร้อมกับคำว่าอิสรภาพอยู่แล้ว! จะไปโหยหาทำไม แค่คุณลองมองในมุมใหม่ดู คุณคิดจะทำหรือเป็นอะไรก็ได้ที่ใจต้องการ
เพียงแต่เราเอาตัวเองเข้าไปอยู่ในกับดักลูกจ้างมากไป “เราพึ่งระบบมากเกินไป”  ไม่ใช่ว่าการเป็นลูกจ้างไม่ดีนะ มันดีทุกอาชีพแหละ สำเร็จได้ทุกอาชีพ
แต่เพราะสาเหตุ:
เพราะเราถูกปลูกฝังมาตั้งแต่เด็ก ว่าลูกต้องตั้งใจเรียนนะ สอบให้ได้คะแนนสูงๆ จบออกมาจะได้มีงานดีๆทำ ไปสมัครงานที่ไหนใครก็อยากรับเข้าทำงาน!
แม้กระทั่งมหาลัยก็ยังสอนเราให้ออกไปเป็นลูกจ้างในระบบ! มันคือเรื่องจริงดูจากสถิติการจัดลำดับของมหาวิทยาลัยโลกและอัตราการจบออกมาว่าระหว่างจบมาไปเปิดธุรกิจตัวเอง หรือไปสมัครงานมากกว่ากัน แล้วหลังจาก10ปีไปแล้วมีใครได้เป็นเจ้าของธุรกิจ ยังไม่ต้องไปคิดถึงความสำเร็จนะ เอาแค่ได้เป็นเจ้าของธุรกิจ “#ระบบการศึกษาที่ดีควรสอนให้คนพึ่งพาตนเองได้ รู้จักการแบ่งปัน และสอนผู้อื่น” ไม่ขอลงประเด็นนี้มากนะครับ
เอาล่ะต่อ
ตั้งแต่บรรพบุรุษได้ป้อนข้อมูลแบบนี้มาโดยตลอด จนเป็นนิสัย เป็นค่านิยม ไปแล้ว...
“ทำไมถึงไม่คิดกลับกัน “ ลูกตั้งใจเรียนนะ จบออกมาต้องพึ่งพาตนเองได้ และเป็นเจ้าของธุรกิจตัวเอง”
ผมเชื่อว่าภาพในหัวใจมันจะพลิกไปอีกด้านหนึ่ง เราจะเกิดจินตนาการณ์ภาพที่ยิ่งใหญ่ขึ้น จนนำคุณไปสู่หนทางของเจ้าของธุรกิจ “ลองคิดเล่นๆว่าถ้าธุรกิจคือชีวิตของคุณ คุณจะไม่ยอมให้มันพัง” คุณจะทำทุกอย่างเพื่อมัน!
#เมื่อป่วยยังหาเงินมารักษาตัวเอง ต้องจ่ายเท่าไหร่ไม่เคยต่อรองราคา #ธุรกิจส่วนตัวก็ต้องการวัคซีนเพื่อเป็นภูมิคุ้มกัน
คนที่จะประสบความสำเร็จทางธุรกิจที่ยิ่งใหญ่ได้ ภาพในหัวและกิจกรรมมันต้องเกิดขึ้นยิ่งเร็วเท่าไหร่ยิ่งดี!
อย่าลืมว่าชีวิตเรามีเวลาจำกัด อย่าปล่อยเวลาให้เสียเปล่า ยิ่งทำก็ยิ่งเสร็จเร็ว!
#สิ่งที่ดีที่สุดของคนที่เริ่มต้นธุรกิจ คือ”ทำไป คิดไป” ไม่มีความสำเร็จใดที่ไม่ลงมือทำต่อให้คุณมีเงินหรือวางแผนดีขนาดไหน
#ปัจจัยการก้าวหลุดจากกับดักลูกจ้างเพื่อเป็นเจ้าของกิจการ มีหลักง่ายๆครับ
1. ตั้งเป้าแล้วเอาเลย อย่าลังเล อย่าสงสัย อย่ากลัว เราสามารถทำไปคิดไปพร้อมๆกันได้ บางทีการได้ลงมือทำจริงๆมันอาจจะทำให้คุณมองเห็นภาพและได้ความคิดดีๆที่คุณต้องการก็เป็นได้
2. ลืมไปซะว่าคุณคือใคร อย่าคิดว่าตัวฉันรู้แล้ว เก่งแล้ว เรียนจบสูง ตำแหน่งใหญ่โต เพราะสิ่งที่คุณรู้หรือเป็นมาก่อนอาจไม่ได้ตอบโจทย์ในระยะยาว “ชีวิตคนเราเริ่มต้นใหม่ได้เสมอ”
3. หาเวลาใช้ชีวิตบ้าง เพราะการทำมากๆไม่ให้เวลากับตัวเอง มันจะทำให้คุณไม่ได้พักสมอง “หยุดคิดบ้าง” ผมเรียกว่าการสิ้นคิด คุณอาจจะหากิจกรรมอย่างอื่นทำบ้าง อะไรไม่เคยทำ ก็ลองดูบ้าง คุณอาจจะได้ไอเดียเจ้งๆก็ได้นะ ฝึกให้สมองสงบ โล่ง โปร่ง สบาย “อย่างผมทำงานวันละ 9 ชม. นอน 7 ชม. ฟรีสไตล์อีก 8 ชม.”
4. ให้คิดว่างานมันคือชีวิตของเรา เราดูแลงาน เหมือนดูแลชีวิตเรา ทำตัวให้กลมเกลียวเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน
5. #กตัญญูคือการแทนคุณแก่ 1.ผู้ให้กำเนิดหรือผู้เลี้ยงดู 2.ผู้ให้โอกาสทางปัญญา 3.ผู้ให้โอกาสทำกินผู้ 4.โลก     กฎของธรรมชาติเมื่อให้ก็จะได้รับกลับคืน คนที่เอาของเขามาแล้วไม่ตอบแทนเขาบ้าง สิ่งที่ได้มามันก็จะยิ่งหมดลงๆ ลองสังเกตุดูนะครับ มันเป็นเรื่องกฎแห่งธรรมชาติ เหมือนกับเราตกปลาในบึง ตกมากๆไม่ให้เหลือซาก สักวันมันก็หมด แต่ถ้าเหลือปลาตัวเล็กๆหรือเพาะพันธุ์ปลาไว้ เราก็จะมีกินไปตลอด
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่