สวัสดีเพื่อนๆทุกคนครับ วันนี้ MC จะพาเพื่อนๆมารู้จักกับอัศวินและผู้รักชาติชาวสก็อต ผู้นำการต่อต้านการครอบครองสกอตแลนด์โดยอังกฤษระหว่างสงครามอิสรภาพของสกอตแลนด์ เซอร์ วิลเลียม วอลเลซได้รับการยกย่องเป็นวีรบุรุษในประวัติศาสตร์ของสก็อตแลนด์
เซอร์ วิลเลียม วอลเลซ ( William Wallace)
เซอร์ วิลเลียม วอลเลซ มีชีวิตอยู่ในระหว่างรัชสมัยพ่อขุนศรีอินทราทิตย์และพระยาเลอไท แห่งสมัยสุโขทัย
เซอร์ วิลเลียม วอลเลซ เป็นแรงดลใจในงานกวีนิพนธ์ชื่อ "The Acts and Deeds of Sir William Wallace, Knight of Elderslie" โดยนักดนตรีเร่รอนในคริสต์ศตวรรษที่ 15 ชื่อ "แฮรี่ผู้ตาบอด" (Blind Harry) ซึ่งภาพยนตร์ฮอลลีวูดเรื่อง Braveheart พ.ศ. 2538 นำมาทำบทภาพยนตร์
บิดาของวอลเลซถูกฆ่าตายพร้อมพี่ชายโดยทหารอังกฤษ เป็นเหตุให้วอลเลซต้องต่อสู้และฆ่าทหารอังกฤษไป 5 คน และจากการถูกข่มเหงจากผู้ว่าราชการเมืองดันดีและฆ่าบุตรชายของผู้ว่าราชการฯ แม้จะเป็นเรื่องที่แฮรีฯ สร้างขึ้น แต่ได้พิสูจน์ว่าเชื่อถือได้โดยเฉพาะเหตุการณ์ที่ดันดี

เรื่องราวของเซอร์ วิลเลียม วอลเลซที่ค่อนข้างใกล้เคียงความจริงได้ถูกสร้างเป็นภาพยนตร์ชื่อ "Braveheart" นำแสดงและกำกับโดย เมล กิบสัน เมื่อ พ.ศ. 2538 ซึ่งได้รับรางวัลอะแคเดมีมากถึง 5 รางวัล (แม้จะอิงประวัติศาสตร์อย่างมากแล้ว แต่ภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ยังมีข้อวิจารณ์ที่ผิดพลาดทางประวัติศาสตร์ แต่เรากำลังเสพในสิ่งนำเสนอที่เป็นประโยชน์อยู่มิใช่หรือ และไม่เคยมีภาพยนต์เรื่องไหนที่ถ่ายทอดเรื่องราวได้ตรงกับประวัติศาสตร์ 100%)
Braveheart คนหัวใจเหล็ก
วิลเลียม วอลเลซ ไม่เคยคิดจะเป็นผู้นำการรบเพื่อเอกราชของแผ่นดินเกิดของเขา แต่ชะตาชีวิตเป็นเรื่องประหลาด...
เวลานั้นแผ่นดินเกิดของเขา - สกอตแลนด์ ถูกรุกรานและปกครองโดยกษัตริย์เอ็ดเวิร์ด หรือฉายา ลองแชงก์ส ผู้โหดเหี้ยม ลองแชงก์สลวงชาวสกอตกลุ่มต่างๆ มาร่วมประชุมเพื่อกำหนดอนาคตของพวกเขา แล้วสังหารทั้งหมด พ่อกับพี่ชายของวิลเลียมอยู่ในกลุ่มผู้ถูกฆ่า เขากลายเป็นเด็กกำพร้าในชั่วข้ามคืน ลุงพาเขาไปอยู่นอกอาณาจักรอังกฤษ ที่นั่นเขาเรียนหนังสือ วิชาการต่างๆ ภาษา และการยุทธ์
ราวยี่สิบปีต่อมา วิลเลียม วอลเลซ หวนกลับแผ่นดินเกิดอีกครั้ง เขาตกหลุมรักกับเพื่อนวัยเด็กนาม เมอร์รอน ทั้งสองแต่งงานกันลับๆ เพราะเป็นกฎของอังกฤษในเวลานั้นให้ขุนนางอังกฤษที่มาตั้งรกรากในสกอตแลนด์ได้รับสิทธิพิเศษที่เรียกว่า Primae Noctis หลับนอนกับเจ้าสาวทุกคนในเขตนั้นในคืนแรกของพิธีวิวาห์ จุดประสงค์ของลองแชงก์สคือ ทำให้สายเลือดสกอตเจือจางลงจนสลายไป!

วันหนึ่งทหารอังกฤษคนหนึ่งพยายามจะข่มขืนเมอร์รอน นางต่อสู้ วิลเลียมช่วยนางและทำร้ายทหารคนนั้น ทั้งที่รู้ว่าเป็นการรบกับทหารอังกฤษทั้งกอง ทั้งสองคิดจะหนี แต่ไม่สำเร็จ เมอร์รอนถูกประหารโดยเชือดคอตาย โทษฐานที่บังอาจแตะต้องทหารอังกฤษ ด้วยหัวใจที่เปี่ยมแค้น วิลเลียมและพวกบุกโจมตีป้อมของทหารอังกฤษ สังหารทุกคนในนั้น และเชือดคอขุนนางอังกฤษแบบตาต่อตา เป็นจุดเริ่มต้นของการต่อสู้กับกองทัพอังกฤษที่กินเวลานานหลายปี
และนี่คือภาพยนตร์เรื่อง Braveheart (1995) อิงประวัติชีวิตของ วิลเลียม วอลเลซ นักรบกู้ชาติสกอตแลนด์ในศตวรรษที่ 13
หลังจากที่เขาทำลายป้อมทหารนั้นแล้ว ชาวสกอตกลุ่มต่างๆ ก็มาเข้าร่วมวงไพบูลย์กับ วิลเลียม วอลเลซ เป้าหมายคือร่วมกันต่อสู้ขับไล่กองทัพอังกฤษออกไป เมื่อนั้นเองที่วิลเลียมรู้ว่า เขามีหน้าที่ที่สำคัญกว่าเรื่องส่วนตัว เขาต้องกู้ชาติสกอตแลนด์ให้เป็นอิสระจากอังกฤษ
หลายกลุ่มไม่เชื่อว่างานนี้จะสำเร็จ แต่เขานึกถึงคำของพ่อก่อนที่จะจากไปตายว่า
“หัวใจเจ้าเป็นอิสระ จงมีความกล้าหาญที่จะตามมันไป”
และหัวใจของเขาก็ตามความฝันแห่งอิสรภาพนั้น
การรบกับอังกฤษเป็นเรื่องยาก เพราะกำลังแตกต่างกันมาก แต่พวกเขาได้รับชัยชนะครั้งแล้วครั้งเล่า ทว่าวิลเลียมรู้ดีว่า จะรบชนะอังกฤษ จำต้องขอความช่วยเหลือจาก รอเบิร์ต เดอะ บรูซ ผู้มีสิทธิครองบัลลังก์สกอตแลนด์ หากชาวสกอตสามารถแยกตัวเป็นอิสระจากอังกฤษสำเร็จ
ในการรบกับกองทัพอังกฤษที่ฟัลเคิร์ก วิลเลียม วอลเลซ ถูกเพื่อนชาวสกอตรวมทั้ง รอเบิร์ต เดอะ บรูซ ทรยศ เขาบาดเจ็บและหนีไปได้หวุดหวิด และพบด้วยความขมขื่นว่าการต่อกรกับศัตรูยากเย็นน้อยกว่าการรวมคนชาติเดียวกันเข้าด้วยกันเสียอีก คนแต่ละกลุ่มเห็นแก่ประโยชน์ตัวตนมาก่อน ความแตกสามัคคีและผลประโยชน์ส่วนตัวทำให้ชาติล้มตั้งแต่ยังไม่ตั้งขึ้น
วิลเลียมตามฆ่าคนทรยศทีละคน
แต่ในที่สุดเขาก็ถูกพวกเดียวกันลวงไปจับส่งให้พวกอังกฤษ เขาถูกคุมขังในหอคอยแห่งลอนดอน ตามมาด้วยคำสั่งประหารชีวิต
แต่นักรบเพื่ออิสรภาพไม่กลัวตาย เขากล่าวว่า “ทุกคนตาย แต่ไม่ทุกคนมีชีวิตอยู่จริงๆ”
การประหาร วิลเลียม วอลเลซ กระทำในที่สาธารณะเพื่อมิให้เป็นเยี่ยงอย่างแก่คนที่คิดก่อกบฏ ก่อนการประหาร เขาถูกทรมานโดยการแขวนคอและผ่าท้อง ผู้คุมการประหารขอให้เขาเอ่ยคำขอความเมตตา เพื่อจะได้ยุติการทรมานและประหารโดยเร็ว
“แค่เอ่ยคำว่า ‘กรุณาเถอะ’ ความเจ็บปวดทั้งหลายของเจ้าก็จะมลายไป”

แต่เขาปฏิเสธ ถึงจุดหนึ่งเมื่อความเจ็บปวดจากการทรมานถึงขีดสุด วิลเลียม วอลเลซ ก็เอ่ยคำคำหนึ่งออกมา มันไม่ใช่คำว่า ‘กรุณาเถอะ’ คำที่เขาเปล่งเสียงตะโกนออกมาคือ “อิสรภาพ” ผู้คุมจึงรู้ว่าไม่มีประโยชน์ที่จะทรมานคนหัวใจเหล็กผู้นี้อีกต่อไป คมขวานถูกฟาดลงมา
จวบจนขณะลมหายใจสุดท้ายของชีวิต หัวใจของเขาปราศจากความกลัว มิใช่เพราะเขาเป็นยอดมนุษย์ แต่เพราะเขารู้ว่าเขากำลังทำเรื่องเพื่อส่วนรวมของแผ่นดินเกิดของเขา...
คนโบราณกล่าวว่า “คนกล้าตายครั้งเดียว คนขลาดตายหลายครั้ง”
ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเป็นคนกล้า โดยเฉพาะในยุค ‘ตัวใครตัวมัน’ แบบนี้ ความกล้าไม่ใช่ความบ้าบิ่น แม้ว่าบางครั้งดูเหมือนแยกออกจากกันได้ยาก ความกล้าคือการทำสิ่งที่ถูกต้อง แม้ว่ามันจะสวนทางกับประโยชน์ส่วนตน
บรรพบุรุษชาวไทยรบเพื่อให้แผ่นดินของเราดำรงอยู่ - แผ่นดินเกิดของเราทุกคน บางที ยามที่เรารู้สึกเกลียดชังกันและกัน อยากเข่นฆ่าทำลายฝ่ายที่คิดเห็นไม่ตรงกับเรา เราอาจลองนึกภาพความยากลำบากของการแสวงหาอิสรภาพให้แผ่นดินเกิดในสมัยนั้น
รอยปริร้าวของสังคมไทยในรอบหลายปีนี้ อาจเกิดจากความไม่รู้ ความโลภ ความริษยา ความอาฆาต อาจเกิดจากคนกลุ่มน้อย มันเป็นสงครามกลางเมืองระหว่างคนชาติเดียวกัน โดยใช้ความต้องการของตัวเองหรือกลุ่มตนเป็นตัวตั้ง ความเกลียดชังแบบนี้แหละที่ทำลายได้แม้แต่อาณาจักรที่ยิ่งใหญ่มานักต่อนักแล้ว
ยามนี้ เราต้องการความกล้าหาญของคนในชาติ ไม่ใช่เพื่อต่อสู้กับคนอื่น ก๊วนอื่น สีอื่น แต่ต่อสู้กับใจของเราเอง กล้ามองภาพกว้าง กล้าเห็นเรื่องส่วนรวมมาก่อนเรื่องส่วนตัว นี่จึงจะเป็นการปรองดองที่มีรากฐานมั่นคงกว่าลมปากของผู้เสียผลประโยชน์ นี่คือการสร้างแผ่นดินแห่งความดีงามสำหรับลูกหลานของเรา
เก้าปีถัดมา ทัพสกอตแลนด์ก็ประจันหน้ากับอังกฤษ ณ ทุ่ง แบนนอคเบิร์น กองทัพสกอตเปล่งนาม “วอลเลซ” กึกก้องทั่วทุ่ง ขณะโผนเข้าโรมรันทัพอังกฤษ
สกอตแลนด์เป็นอิสระจากอังกฤษในที่สุด
เกร็ดเพิ่มเติม
- เมื่อ พ.ศ. 2545 เซอร์ วิลเลียม วอลเลซได้รับการจัดอันดับที่ 48 ในบรรดาชาวบริติชที่ยิ่งใหญ่ที่สุด
- พ.ศ. 2506 เซอร์ วิลเลียม วอลเลซ ได้รับการโหวตเป็นลำดับที่ 10 ของชาวสก็อตที่โด่งดังของโลกโดยผู้อ่านหนังสือพิมพ์ เดอะกลาสโกว์เฮอราลด์
- ลูกหลานผู้สืบเชื้อสายจากเซอร์ วิลเลียม วอลเลซที่เป็นที่รู้จักได้แก่นายพลเรือจัตวา โอลิเวอร์ ฮาซาร์ด เพอร์รี และนายพลเรือจัตวา แมททิว กัลเบรต เพอร์รี วีรบุรุษกองทัพเรือของสหรัฐฯ ผู้ใช้เรือรบปิดอ่าวบังคับให้ญี่ปุ่นเปิดประเทศเมื่อ พ.ศ. 2396
ขอบพระคุณ คุณวินทร์ เลียววาริณ
http://www.winbookclub.com , ภาพและข้อมูลบางส่วนจากวิกิพิเดีย , ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต
ห้องเพลงคนรากหญ้าเปิดขึ้นมามีวัตถุประสงค์ เพื่อ
1. มีพื้นที่ให้เพื่อนๆ ได้มาพบปะ พูดคุยระหว่างกัน ในภาวะที่ต้องระมัดระวังการโพสการเมืองอย่างเคร่งครัด
2. เป็นพื้นที่ พักผ่อน ลดความเครียดทางการเมือง ให้เพื่อนๆ มีกิจกรรมสนุกๆ ร่วมกัน
3. สร้างมิตรภาพและความปรองดอง ซึ่งเราหวังให้สังคมไทยเป็นเช่นนี้ แม้นคิดต่างกัน แต่เมื่อคุยกันแล้วก็เป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม
กระทู้ห้องเพลงเป็นกระทู้เปิด มิได้ปิดกั้นผู้หนึ่งผู้ใด "ขอให้มาดี เราคือเพื่อนกัน" ซึ่งก็เหมือนกับกระทู้ทั่วไป ที่เราไม่จำเป็นต้องทราบว่า User ท่านไหนเป็นใครมาจากไหน ...ดังนั้น หากมีบุคคลใดที่มีการโพสสิ่งผิดกฎหมายและศีลธรรมอันดีของสังคมนั้น หรือสิ่งรบกวนใดๆ ในบอร์ด เป็นเรื่องส่วนบุคคล ทางห้องเพลงจึงขอแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งสิ้น....
Scottish Battle Music - William Wallace
ห้องเพลง *คนรากหญ้า* พักยกการเมือง มุมนี้ไม่มีสี ไม่มีกลุ่ม.มีแต่เสียง 28/9/2017 "วิลเลียม วอลเลซ อัศวินแห่งเอลเดอส์ลี่"
เซอร์ วิลเลียม วอลเลซ ( William Wallace)
เซอร์ วิลเลียม วอลเลซ มีชีวิตอยู่ในระหว่างรัชสมัยพ่อขุนศรีอินทราทิตย์และพระยาเลอไท แห่งสมัยสุโขทัย
เซอร์ วิลเลียม วอลเลซ เป็นแรงดลใจในงานกวีนิพนธ์ชื่อ "The Acts and Deeds of Sir William Wallace, Knight of Elderslie" โดยนักดนตรีเร่รอนในคริสต์ศตวรรษที่ 15 ชื่อ "แฮรี่ผู้ตาบอด" (Blind Harry) ซึ่งภาพยนตร์ฮอลลีวูดเรื่อง Braveheart พ.ศ. 2538 นำมาทำบทภาพยนตร์
บิดาของวอลเลซถูกฆ่าตายพร้อมพี่ชายโดยทหารอังกฤษ เป็นเหตุให้วอลเลซต้องต่อสู้และฆ่าทหารอังกฤษไป 5 คน และจากการถูกข่มเหงจากผู้ว่าราชการเมืองดันดีและฆ่าบุตรชายของผู้ว่าราชการฯ แม้จะเป็นเรื่องที่แฮรีฯ สร้างขึ้น แต่ได้พิสูจน์ว่าเชื่อถือได้โดยเฉพาะเหตุการณ์ที่ดันดี
เรื่องราวของเซอร์ วิลเลียม วอลเลซที่ค่อนข้างใกล้เคียงความจริงได้ถูกสร้างเป็นภาพยนตร์ชื่อ "Braveheart" นำแสดงและกำกับโดย เมล กิบสัน เมื่อ พ.ศ. 2538 ซึ่งได้รับรางวัลอะแคเดมีมากถึง 5 รางวัล (แม้จะอิงประวัติศาสตร์อย่างมากแล้ว แต่ภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ยังมีข้อวิจารณ์ที่ผิดพลาดทางประวัติศาสตร์ แต่เรากำลังเสพในสิ่งนำเสนอที่เป็นประโยชน์อยู่มิใช่หรือ และไม่เคยมีภาพยนต์เรื่องไหนที่ถ่ายทอดเรื่องราวได้ตรงกับประวัติศาสตร์ 100%)
Braveheart คนหัวใจเหล็ก
วิลเลียม วอลเลซ ไม่เคยคิดจะเป็นผู้นำการรบเพื่อเอกราชของแผ่นดินเกิดของเขา แต่ชะตาชีวิตเป็นเรื่องประหลาด...
เวลานั้นแผ่นดินเกิดของเขา - สกอตแลนด์ ถูกรุกรานและปกครองโดยกษัตริย์เอ็ดเวิร์ด หรือฉายา ลองแชงก์ส ผู้โหดเหี้ยม ลองแชงก์สลวงชาวสกอตกลุ่มต่างๆ มาร่วมประชุมเพื่อกำหนดอนาคตของพวกเขา แล้วสังหารทั้งหมด พ่อกับพี่ชายของวิลเลียมอยู่ในกลุ่มผู้ถูกฆ่า เขากลายเป็นเด็กกำพร้าในชั่วข้ามคืน ลุงพาเขาไปอยู่นอกอาณาจักรอังกฤษ ที่นั่นเขาเรียนหนังสือ วิชาการต่างๆ ภาษา และการยุทธ์
ราวยี่สิบปีต่อมา วิลเลียม วอลเลซ หวนกลับแผ่นดินเกิดอีกครั้ง เขาตกหลุมรักกับเพื่อนวัยเด็กนาม เมอร์รอน ทั้งสองแต่งงานกันลับๆ เพราะเป็นกฎของอังกฤษในเวลานั้นให้ขุนนางอังกฤษที่มาตั้งรกรากในสกอตแลนด์ได้รับสิทธิพิเศษที่เรียกว่า Primae Noctis หลับนอนกับเจ้าสาวทุกคนในเขตนั้นในคืนแรกของพิธีวิวาห์ จุดประสงค์ของลองแชงก์สคือ ทำให้สายเลือดสกอตเจือจางลงจนสลายไป!
วันหนึ่งทหารอังกฤษคนหนึ่งพยายามจะข่มขืนเมอร์รอน นางต่อสู้ วิลเลียมช่วยนางและทำร้ายทหารคนนั้น ทั้งที่รู้ว่าเป็นการรบกับทหารอังกฤษทั้งกอง ทั้งสองคิดจะหนี แต่ไม่สำเร็จ เมอร์รอนถูกประหารโดยเชือดคอตาย โทษฐานที่บังอาจแตะต้องทหารอังกฤษ ด้วยหัวใจที่เปี่ยมแค้น วิลเลียมและพวกบุกโจมตีป้อมของทหารอังกฤษ สังหารทุกคนในนั้น และเชือดคอขุนนางอังกฤษแบบตาต่อตา เป็นจุดเริ่มต้นของการต่อสู้กับกองทัพอังกฤษที่กินเวลานานหลายปี
และนี่คือภาพยนตร์เรื่อง Braveheart (1995) อิงประวัติชีวิตของ วิลเลียม วอลเลซ นักรบกู้ชาติสกอตแลนด์ในศตวรรษที่ 13
หลังจากที่เขาทำลายป้อมทหารนั้นแล้ว ชาวสกอตกลุ่มต่างๆ ก็มาเข้าร่วมวงไพบูลย์กับ วิลเลียม วอลเลซ เป้าหมายคือร่วมกันต่อสู้ขับไล่กองทัพอังกฤษออกไป เมื่อนั้นเองที่วิลเลียมรู้ว่า เขามีหน้าที่ที่สำคัญกว่าเรื่องส่วนตัว เขาต้องกู้ชาติสกอตแลนด์ให้เป็นอิสระจากอังกฤษ
หลายกลุ่มไม่เชื่อว่างานนี้จะสำเร็จ แต่เขานึกถึงคำของพ่อก่อนที่จะจากไปตายว่า “หัวใจเจ้าเป็นอิสระ จงมีความกล้าหาญที่จะตามมันไป”
และหัวใจของเขาก็ตามความฝันแห่งอิสรภาพนั้น
การรบกับอังกฤษเป็นเรื่องยาก เพราะกำลังแตกต่างกันมาก แต่พวกเขาได้รับชัยชนะครั้งแล้วครั้งเล่า ทว่าวิลเลียมรู้ดีว่า จะรบชนะอังกฤษ จำต้องขอความช่วยเหลือจาก รอเบิร์ต เดอะ บรูซ ผู้มีสิทธิครองบัลลังก์สกอตแลนด์ หากชาวสกอตสามารถแยกตัวเป็นอิสระจากอังกฤษสำเร็จ
ในการรบกับกองทัพอังกฤษที่ฟัลเคิร์ก วิลเลียม วอลเลซ ถูกเพื่อนชาวสกอตรวมทั้ง รอเบิร์ต เดอะ บรูซ ทรยศ เขาบาดเจ็บและหนีไปได้หวุดหวิด และพบด้วยความขมขื่นว่าการต่อกรกับศัตรูยากเย็นน้อยกว่าการรวมคนชาติเดียวกันเข้าด้วยกันเสียอีก คนแต่ละกลุ่มเห็นแก่ประโยชน์ตัวตนมาก่อน ความแตกสามัคคีและผลประโยชน์ส่วนตัวทำให้ชาติล้มตั้งแต่ยังไม่ตั้งขึ้น
วิลเลียมตามฆ่าคนทรยศทีละคน แต่ในที่สุดเขาก็ถูกพวกเดียวกันลวงไปจับส่งให้พวกอังกฤษ เขาถูกคุมขังในหอคอยแห่งลอนดอน ตามมาด้วยคำสั่งประหารชีวิต
แต่นักรบเพื่ออิสรภาพไม่กลัวตาย เขากล่าวว่า “ทุกคนตาย แต่ไม่ทุกคนมีชีวิตอยู่จริงๆ”
การประหาร วิลเลียม วอลเลซ กระทำในที่สาธารณะเพื่อมิให้เป็นเยี่ยงอย่างแก่คนที่คิดก่อกบฏ ก่อนการประหาร เขาถูกทรมานโดยการแขวนคอและผ่าท้อง ผู้คุมการประหารขอให้เขาเอ่ยคำขอความเมตตา เพื่อจะได้ยุติการทรมานและประหารโดยเร็ว
“แค่เอ่ยคำว่า ‘กรุณาเถอะ’ ความเจ็บปวดทั้งหลายของเจ้าก็จะมลายไป”
แต่เขาปฏิเสธ ถึงจุดหนึ่งเมื่อความเจ็บปวดจากการทรมานถึงขีดสุด วิลเลียม วอลเลซ ก็เอ่ยคำคำหนึ่งออกมา มันไม่ใช่คำว่า ‘กรุณาเถอะ’ คำที่เขาเปล่งเสียงตะโกนออกมาคือ “อิสรภาพ” ผู้คุมจึงรู้ว่าไม่มีประโยชน์ที่จะทรมานคนหัวใจเหล็กผู้นี้อีกต่อไป คมขวานถูกฟาดลงมา
จวบจนขณะลมหายใจสุดท้ายของชีวิต หัวใจของเขาปราศจากความกลัว มิใช่เพราะเขาเป็นยอดมนุษย์ แต่เพราะเขารู้ว่าเขากำลังทำเรื่องเพื่อส่วนรวมของแผ่นดินเกิดของเขา...
คนโบราณกล่าวว่า “คนกล้าตายครั้งเดียว คนขลาดตายหลายครั้ง”
ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเป็นคนกล้า โดยเฉพาะในยุค ‘ตัวใครตัวมัน’ แบบนี้ ความกล้าไม่ใช่ความบ้าบิ่น แม้ว่าบางครั้งดูเหมือนแยกออกจากกันได้ยาก ความกล้าคือการทำสิ่งที่ถูกต้อง แม้ว่ามันจะสวนทางกับประโยชน์ส่วนตน
บรรพบุรุษชาวไทยรบเพื่อให้แผ่นดินของเราดำรงอยู่ - แผ่นดินเกิดของเราทุกคน บางที ยามที่เรารู้สึกเกลียดชังกันและกัน อยากเข่นฆ่าทำลายฝ่ายที่คิดเห็นไม่ตรงกับเรา เราอาจลองนึกภาพความยากลำบากของการแสวงหาอิสรภาพให้แผ่นดินเกิดในสมัยนั้น
รอยปริร้าวของสังคมไทยในรอบหลายปีนี้ อาจเกิดจากความไม่รู้ ความโลภ ความริษยา ความอาฆาต อาจเกิดจากคนกลุ่มน้อย มันเป็นสงครามกลางเมืองระหว่างคนชาติเดียวกัน โดยใช้ความต้องการของตัวเองหรือกลุ่มตนเป็นตัวตั้ง ความเกลียดชังแบบนี้แหละที่ทำลายได้แม้แต่อาณาจักรที่ยิ่งใหญ่มานักต่อนักแล้ว
ยามนี้ เราต้องการความกล้าหาญของคนในชาติ ไม่ใช่เพื่อต่อสู้กับคนอื่น ก๊วนอื่น สีอื่น แต่ต่อสู้กับใจของเราเอง กล้ามองภาพกว้าง กล้าเห็นเรื่องส่วนรวมมาก่อนเรื่องส่วนตัว นี่จึงจะเป็นการปรองดองที่มีรากฐานมั่นคงกว่าลมปากของผู้เสียผลประโยชน์ นี่คือการสร้างแผ่นดินแห่งความดีงามสำหรับลูกหลานของเรา
เก้าปีถัดมา ทัพสกอตแลนด์ก็ประจันหน้ากับอังกฤษ ณ ทุ่ง แบนนอคเบิร์น กองทัพสกอตเปล่งนาม “วอลเลซ” กึกก้องทั่วทุ่ง ขณะโผนเข้าโรมรันทัพอังกฤษ
สกอตแลนด์เป็นอิสระจากอังกฤษในที่สุด
เกร็ดเพิ่มเติม
- เมื่อ พ.ศ. 2545 เซอร์ วิลเลียม วอลเลซได้รับการจัดอันดับที่ 48 ในบรรดาชาวบริติชที่ยิ่งใหญ่ที่สุด
- พ.ศ. 2506 เซอร์ วิลเลียม วอลเลซ ได้รับการโหวตเป็นลำดับที่ 10 ของชาวสก็อตที่โด่งดังของโลกโดยผู้อ่านหนังสือพิมพ์ เดอะกลาสโกว์เฮอราลด์
- ลูกหลานผู้สืบเชื้อสายจากเซอร์ วิลเลียม วอลเลซที่เป็นที่รู้จักได้แก่นายพลเรือจัตวา โอลิเวอร์ ฮาซาร์ด เพอร์รี และนายพลเรือจัตวา แมททิว กัลเบรต เพอร์รี วีรบุรุษกองทัพเรือของสหรัฐฯ ผู้ใช้เรือรบปิดอ่าวบังคับให้ญี่ปุ่นเปิดประเทศเมื่อ พ.ศ. 2396
ขอบพระคุณ คุณวินทร์ เลียววาริณ http://www.winbookclub.com , ภาพและข้อมูลบางส่วนจากวิกิพิเดีย , ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต
ห้องเพลงคนรากหญ้าเปิดขึ้นมามีวัตถุประสงค์ เพื่อ
1. มีพื้นที่ให้เพื่อนๆ ได้มาพบปะ พูดคุยระหว่างกัน ในภาวะที่ต้องระมัดระวังการโพสการเมืองอย่างเคร่งครัด
2. เป็นพื้นที่ พักผ่อน ลดความเครียดทางการเมือง ให้เพื่อนๆ มีกิจกรรมสนุกๆ ร่วมกัน
3. สร้างมิตรภาพและความปรองดอง ซึ่งเราหวังให้สังคมไทยเป็นเช่นนี้ แม้นคิดต่างกัน แต่เมื่อคุยกันแล้วก็เป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม
กระทู้ห้องเพลงเป็นกระทู้เปิด มิได้ปิดกั้นผู้หนึ่งผู้ใด "ขอให้มาดี เราคือเพื่อนกัน" ซึ่งก็เหมือนกับกระทู้ทั่วไป ที่เราไม่จำเป็นต้องทราบว่า User ท่านไหนเป็นใครมาจากไหน ...ดังนั้น หากมีบุคคลใดที่มีการโพสสิ่งผิดกฎหมายและศีลธรรมอันดีของสังคมนั้น หรือสิ่งรบกวนใดๆ ในบอร์ด เป็นเรื่องส่วนบุคคล ทางห้องเพลงจึงขอแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งสิ้น....
Scottish Battle Music - William Wallace