ทุกคนเคยหนีออกจากบ้านไหม

เรื่องมีอยู่ว่า น้องสาวหนีออกจากบ้าน
เราเป็น ลูกคนโตในบ้าน แต่เราไม่ได้อยู่ที่บ้าน เพราะเราเรียนอยู่ อาศัยอยู่ในหอพักมหาวิทยาลัย ตอนเที่ยงคืนกว่า ของเมื่อวาน แม่ ของผมโทรมาหา ว่า น้องสาวหนีออกจากบ้าน เพราะทั้งสองคนทะเลอะกัน ผมเองก็ไม่ทราบมาก่อนว่า ผิดใจกันเรื่องอะไร แม่ผม ก็ บรรยายความที่ได้ผิดใจกัน ว่า ผิดกันเรื่องที่ หมาที่บ้าน 2 ตัว มันกัดกัน แล้ว ป้า กับแม่ ผมบอกให้  น้องสาวผมเข้าไปหยุด คือ เข้าไปจับหมาสองตัวแยก กัน คือ แม่ผมจับ ตัวหนึ่ง น้องผมจับอีกตัวหนึ่ง แต่ น้องสาวผม กับโดนหมาที่ จับ กัดเอา แต่ ไม่เข้า แต่ เป็นแผลทะลอกเพราะรอยฟัน น้องผมก็เลยโกรธ และ บอกว่า จะไม่เลียงหมาตัวนี้แล้ว น้องสาวผม บอกให้ ป้า กับ แม่ ย้ายเอาหมาตัวนี้ ไป อยู่บ้าน ป้า แต่ป้าไม่ยอมเอาไป แม่ บอกกลับ น้องสาว ว่า แค่ แผลนิดหน่อยอย่าทำมาเป็นสำออย ทำให้น้องสาวผม ไม่พอใจแล้วหนีออก จากบ้าน แล้วไปบ้านเพือน ซึ่งเพื่อนน้องสาวคนนี้ผมก็รู้จัก แต่ ไม่คอยสนิทกับผม เท่าไหร่ เป็นเพือนผู้หญิง สมัยน้องสาวเรียนมัธยม แต่ ซึ่งแม่ผมก็รู้จัก เพื่อนของน้องสาวคนนี้ แม่ผมไม่ได้ไปตามน้องสาวกลับบ้านแต่ ไปตาม มอเตอร์ไซค์ กลับ แม่ผมพูด ประมาณว่า จะไปไหนก็ไป แต่ รถกู กูผ่อนของกู จะเอาไปไหนไม่ได้ ถ้าจะไปไปได้แต่ตัว แก่ เลยมาเอาแค่ มอเตอร์ไซค์ คืน แล้วกลับบ้าน น้องสาวผมก็ติด อยู่บ้านเพือน แล้ว ก็ โทร มาหาผม ซึ่งเป็นพี่คนโต น้องสาว ก็เลยบอก เรื่องที่เกิดขึ้น ซึ่งผมก็รู้เรื่องที่เกิดขึ้น จากแม่ก่อนแล้ว น้องผมบอกผมว่า แก่ไม่มีเงินกินข้าว ตอนแกอกมามีเงินติดตัวแค่ 60 บาท แล้ว น้องสาวผม ก็ โทรไปหาพ่อผม เราสองคนเป็นพี่น้องพ่อแม่เดียวกัน แต่พ่อแม่ของเราย่ากัน ได้ 10 กว่าปีแล้ว พอไปขอเงินพ่อ พ่อผมมีเงินติดตัวไม่มากเลย ให้ แค่ 200 บาท แต่น้องสาวไม่ได้ถามขอเงินผมเลย แต่ แก แค่อยากระบายให้ฟัง ด้วยความที่ผมเป็นพี่ ผมเลย บอกให้แก่ มาเอาเงินที่ผมไปใช้ก่อน ซึ่งผมก็มีติดตัวไม่มาก ก็เลย ให้ไป 1500 บาท ผมเอาติดตัวไว้ 500 บาท น้องสาวผมเลย บอกว่า แก่จะไม่กลับเข้าบ้านแม่ แต่จะไปหางานทำ แทน ซึ่ง ทำให้ผมดีใจมาก น้องสาว ที่กลายเป็น นีท ที่เอาแต่เก็บตัวอยู่ในห้อง กลับจะหางานทำ ..................................
........................................................................................................................................................................................................พอ ผมเล่าให้เพือนข้างห้อง ที่หอพัก ฟัง ว่า แม่กับน้องสาวทะเลอะกัน เป็นอย่างที่เล่ามา เค้าบอกกลับผมว่า ผม โง่ ไปให้ท้าย น้องสาวทำไม แทน ที่ ทำให้ได้ บทเรียน ว่า การหนีออก จากบ้านไม่ใช่เรื่องดี แต่ ผมกลับ ทำเหมือนว่า เป็นเรื่องปกติ แถมยังให้เงินใช้อีก ถ้าทำแบบ นี้ น้องสาวผม ก็จะไม่รู้จักโต แล้วพอมีปํญหาก็จะ หนีอีก เพือนผมบอกว่า แทนที่จะพยายามเอาน้องกับ แม่ มาคืนดีกัน กับ ไปให้ท้ายน้อง เพือนบอกว่า คงไม่มีใคร โง่ เท่าผมอีกแล้ว .................................................................................................................................................................................................. แต่สำหรับผมแล้ว การหนีออกจากบ้าน เป็น เหมือนโรคหัด ที่ ทุกคนจะต้องผ่าน เพราะผมเองก็เคยหนีออกจากบ้าน ตอนนั้นทะเลาะกับ พ่อเลี้ยง        
(สามีใหม่ของแม่)  เดินไปตามถนนตอนกลางคืน บนทางหลวงที่รถผ่านน้อยมาก นั่งอยู่ หน้าร้านสดวกซื้อจนหิว แต่ ไม่มีเงินติดตัว เลยแม้แต่บาทเดียว ยืมโทรศัพท์พนักงานเซเว่น เพื่อโทรหาเพือนให้มารับ ถึงบ้านเพื่อน เลยขอค้างคืนด้วย แล้ว พอวันรุ่งขึ้น ยืมเงินเพือน เพือไปซื้อตั๋วรถประจำทาง เพื่อจะกลับไปหา ปู่ กับ ย่า ที่ เชียงราย  พอ กับ มาจากเชียงราย ก็ ไปอยู่ กับ น้า ที่ เชียงใหม่ ......................................................................................
ถ้าถามผมว่า ทำไม ผมถึงให้ท้าย น้องสาว ผมเองก็คงตอบกลับไปว่า ทุกคนต้องการเวลา น้องสาวผม คงจะต้องการเวลา สำหรับผม ผมไม่ได้สนใจด้วยซ้ำว่าฝ่ายใดผิด ฝ่ายใดถูก แต่ ผมดีใจ ที่น้องสาว ทะเลอะกับ แม่ เพราะน้องสาวผมเก็บตัวอยู่ในห้องเป็นปีแล้ว การได้เห็น น้องสาวจริงจัง กับ ชีวิตเหมือนคนอื่นบ้าง
........................................................................................................................................................................................................แล้วคุณละ เคย มีประสบการ์ณหนีออกจากบ้าน หรือ เปล่า ประสบการณ์ของคุณเป็นอย่างไร แล้วคุณเห็นด้วยกับ ความคิด ของผม กับ ความคิด ของ เพือนผม มากกว่ากัน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่