คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 11
1.มันจำเป็นหรอครับอย่างเช่นดวงจันทร์บริวาร "เอนเซลาดัส" ของดาวเสาร์ อาจมีสิ่งชีวิตเพียงเพราะมีน้ำ
ที่เป็นสิ่งที่ก่อกำเนิดสิ่งมีชีวิต ถ้าเกิดในทางกลับกันการที่จะเกิดสิ่งมีชิวิตของนอกโลกของเรา ไม่จำเป็นต้องมี
ต้นกำเนิดเหมือนเราแนวคิดนี้พอเป็นไปได้ไหมครับ
ได้ครับ แต่ การคิดแบบวิทยาศาสตร์นั้นจะต้องคิด วิเคราะห์ ในหนทางที่เป็นไปได้มากที่สุด
องค์ความรู้ของเราก็มีเพียงการศึกษาร่างกายของสิ่งชีวิตตั้งแต่ มนุษย์ ไปจนถึง แบคทีเรีย
ซึ่งได้พบว่ามีข้อจำกัดในการเอื้อชีวิตหลายอย่าง คือ อุณหภูมิ ความกดดัน พิษจากเคมี
ดังนั้น การตั้งสมมุติฐานว่าดาวศุกร์ที่มีอุณหภูมิพื้นผิว 500 องศา อาจมีสิ่งมีชีวิต
และมุ่งหน้าไปสำรวจที่นั่น มันก็ไม่สมเหตุสมผล และมีความเป็นไปได้น้อยมากครับ
แต่ถามว่า เป็นไปได้ใหม ? เป็นไปได้อยู่แล้วครับ เพียงแต่วิทยาศาสตร์ปัจจุบัน
ให้ความเป็นไปได้ นั้น ต่ำมาก ๆ
2.ถ้ายกอีกตัวอย่างนึงดาวใกล้ๆเราเช่นดาวศุกร์ เป็นที่เข้าใจว่าดาวแห่งนี้มีอุณหภูมิสูงที่สุด ถ้าสมมติว่ามีสิ่งมีชีวิตกำเนิดที่นี้
พวกเขาเหล่านี้ชาวดาวศุกร์ก็สามารถอยู่ได้แบบในที่อุณหภูมิสูงถึง500องศา+ใช่ไหมครับ
หากสมมุติให้มีจริง เราก็ (จำเป็น) ต้องบอกว่ามนุษย์ดาวศุกร์ แมวดาวศุกร์ หมาดาวศุกร์
สามารถเดินเล่นบนพื้นผิวดาวได้ในอุณหภูมินั้น นั่นเอง แต่หากสมมุติให้สมเหตุผลมากขึ้น
ก็อาจบอกว่ามีเมืองใต้ดินอยู่ หรือ มีเมืองลอยฟ้าอยู่น่ะครับ
ขอสุดท้ายละฮับสงสัยกับการตั้งชื่อดาวต่างๆในจักรวาลม้ากก ทาง NASA เขาใช้อะไรเป็นตัวตั้งครับเช่น
ระบบ TRAPPIST 1 ,ระบบ LHS 1140b ตามนี้ครับ ขอบคุณครับ
โห .... เรื่องนี้ยาว ๆ ไปเลยครับ การตั้งชื่อดาวฤกษ์ นั้น แบ่งออกตามยุคสมัยดังนี้
1. Proper name ชื่อนี้คือ ชื่อดาวที่ตั้งตาม อราบิกโบราณ (The Ancient Arabic Names)
ทั้งหมดเป็นดาวที่สว่างมากแบบชัดเจน จึงได้มีการตั้งชื่อตั้งแต่โบราณมาแล้ว เช่น
Betelgeuse Aldebaran Sirius Deneb
2. The Bayer System ชื่อในระบบนี้เป็นชื่อที่เสนอโดยนักดาราศาสตร์ German Johann Bayer
โดยใช้ชื่อแรกตามตัวอักษรกรีกโบราณ ตามด้วยชื่อจักรราศีที่ดาวนั้นอยู่ เช่น
- Alpha Centauri ดาว Alpha แห่งกลุ่มดาวคนครึ่งม้า
- Gamma Cygni ดาว Gamma แห่งกลุ่มดาวหงษ์
- Kappa Amdromeda ดาว Kappa แห่งกลุ่มดาวแอนดรอมิดา
3. The Flamsteed System ชื่อดาวในระบบนี้ก็คล้าย ๆ กับระบบข้อ 2. ครับ คือใช้ตัวเลขอารบิค
ตามด้วยจักราศีที่ดาวดวงนั้นอยู่ เช่น 51 Pegasi (ดาวลำดับที่ 51 แห่งกลุ่มดาวม้าบิน)
61 Cygni (ดาวลำดับที่ 61 แห่งกลุ่มดาวหงษ์)
4. Modern catalogues อันนี้คือที่ใช้กันในปัจจุบันครับ cataloques นี้กำหนดชื่อด้วย Computer
โดยการใช้ ชื่อขององค์กรที่ตรวจพบ กล้องโทรทรรศน์ ดาวเทียม ที่ตรวจพบดาวดวงนั้น
และต่อด้วยรหัสอีกจำนวนหนึ่งครับ อย่างดาวฤกษ์ TRAPPIST-1 ที่เคยฮือฮากันไป ก็ตั้งชื่อตาม
หอสังเกตุการณ์ดาราศาสตร์ของเบลเยี่ยม ที่ชื่อว่า Transiting Planets and Planetesimals Small Telescope (TRAPPIST)
ซึ่งที่นี่ได้ตรวจพบดาวดวงนี จึงได้ตั้งชื่อว่า TRAPPIST-1 ซึ่งดาว TRAPPIST-1 นี้ ดั้งเดิมยังมีอีกชื่อหนึ่ง คือ
2MASS J23062928-0502285 ด้วย (เป็นชื่อที่ตั้งด้วย Computer ของ Modern catalogues นี้เองครับ)
5. ตั้งชื่อตามบุคคลสำคัญ หรือ เป็นเกียรติแก่นักดาราศาสตร์ผู้ค้นพบ การตั้งชื่อดาวแบบนี้
จะมีจำนวนไม่มากนักครับ โดยตั้งชื่อในโอกาสพิเศษบางประการ เช่น Barnard's Star
ก็ตั้งชื่อตามนักดาราศาสตร์อเมริกันผู้ซึ่งศึกษาข้อมูลสำคัยหลายอย่างของดาวดวงนี้
หรือ Kapteyn Star ซึ่งตั้งชื่อตามนักดาราศาสตร์ชาว Dutch Jacobus Kapteyn
นอกนั้น ยังมี Cataloque ดาวฤกษ์อีกจำนวนเป็นสิบ ๆ cataloque ที่เราอาจคุ้นตาครับ เช่น ....
HD cataloque ของนักดาราศาสตร์ Henry Draper
SAO cataloque ของ Smithsonian Astrophysical Observatory
BD cataloqe ของ Bonn Observatory (German)
Gaia Catalogue ของยานสำรวจดาวฤกษ์ GAIA
Gliese Catalogue ของนักดาราศาสตร์ German Wilhelm Gliese (ใช้กับดาวฤกษ์ที่มีระยะห่างไม่เกิน 80 ปีแสง)
HIP cataloque ของดาวเทียมสำรวจดาวฤกษ์ Hipparcos (โครงการขององค์กรอวกาศยุโรป : ESA)
LHS , LTF , LTT cataloque ของนักดาราศาสตร์ Willem Jacob Luyten
ดาวฤกษ์ต่าง ๆ ที่เราได้ยินชื่อเรียกแบบหนึ่ง ก็อาจปรากฏใน Cataloque อีกอันหนึ่งก็ได้ครับ เช่น ....
ดาว 55 Cancri ก็มีชื่อใน cataloque อื่นว่า HR 3522
ดาวเหนือ Polaris ก็คือดาว Alpha Ursae Minoris (ในแบบของ Bayer System)
ดาวยักษ์แดง Betelgeuse ก็คือดาว Alpha Orionis (เป็นดาวเด่นที่สุด จึงได้ชื่อ Alpha ในกลุ่มดาวนายพราน)
ว่าง ๆ .... ลอง Google ดูชื่อดาวที่เราคุ้นเคย โดยหาดูใน Wikipedia สิครับ
จะพบว่าดาวต่าง ๆ อาจมีทั้งชื่อแบบ Proper name และอยู่ใน cataloque
ต่าง ๆ พร้อมกันอีก 3 - 5 cataloque ก็เป็นได้
ที่เป็นสิ่งที่ก่อกำเนิดสิ่งมีชีวิต ถ้าเกิดในทางกลับกันการที่จะเกิดสิ่งมีชิวิตของนอกโลกของเรา ไม่จำเป็นต้องมี
ต้นกำเนิดเหมือนเราแนวคิดนี้พอเป็นไปได้ไหมครับ
ได้ครับ แต่ การคิดแบบวิทยาศาสตร์นั้นจะต้องคิด วิเคราะห์ ในหนทางที่เป็นไปได้มากที่สุด
องค์ความรู้ของเราก็มีเพียงการศึกษาร่างกายของสิ่งชีวิตตั้งแต่ มนุษย์ ไปจนถึง แบคทีเรีย
ซึ่งได้พบว่ามีข้อจำกัดในการเอื้อชีวิตหลายอย่าง คือ อุณหภูมิ ความกดดัน พิษจากเคมี
ดังนั้น การตั้งสมมุติฐานว่าดาวศุกร์ที่มีอุณหภูมิพื้นผิว 500 องศา อาจมีสิ่งมีชีวิต
และมุ่งหน้าไปสำรวจที่นั่น มันก็ไม่สมเหตุสมผล และมีความเป็นไปได้น้อยมากครับ
แต่ถามว่า เป็นไปได้ใหม ? เป็นไปได้อยู่แล้วครับ เพียงแต่วิทยาศาสตร์ปัจจุบัน
ให้ความเป็นไปได้ นั้น ต่ำมาก ๆ
2.ถ้ายกอีกตัวอย่างนึงดาวใกล้ๆเราเช่นดาวศุกร์ เป็นที่เข้าใจว่าดาวแห่งนี้มีอุณหภูมิสูงที่สุด ถ้าสมมติว่ามีสิ่งมีชีวิตกำเนิดที่นี้
พวกเขาเหล่านี้ชาวดาวศุกร์ก็สามารถอยู่ได้แบบในที่อุณหภูมิสูงถึง500องศา+ใช่ไหมครับ
หากสมมุติให้มีจริง เราก็ (จำเป็น) ต้องบอกว่ามนุษย์ดาวศุกร์ แมวดาวศุกร์ หมาดาวศุกร์
สามารถเดินเล่นบนพื้นผิวดาวได้ในอุณหภูมินั้น นั่นเอง แต่หากสมมุติให้สมเหตุผลมากขึ้น
ก็อาจบอกว่ามีเมืองใต้ดินอยู่ หรือ มีเมืองลอยฟ้าอยู่น่ะครับ
ขอสุดท้ายละฮับสงสัยกับการตั้งชื่อดาวต่างๆในจักรวาลม้ากก ทาง NASA เขาใช้อะไรเป็นตัวตั้งครับเช่น
ระบบ TRAPPIST 1 ,ระบบ LHS 1140b ตามนี้ครับ ขอบคุณครับ
โห .... เรื่องนี้ยาว ๆ ไปเลยครับ การตั้งชื่อดาวฤกษ์ นั้น แบ่งออกตามยุคสมัยดังนี้
1. Proper name ชื่อนี้คือ ชื่อดาวที่ตั้งตาม อราบิกโบราณ (The Ancient Arabic Names)
ทั้งหมดเป็นดาวที่สว่างมากแบบชัดเจน จึงได้มีการตั้งชื่อตั้งแต่โบราณมาแล้ว เช่น
Betelgeuse Aldebaran Sirius Deneb
2. The Bayer System ชื่อในระบบนี้เป็นชื่อที่เสนอโดยนักดาราศาสตร์ German Johann Bayer
โดยใช้ชื่อแรกตามตัวอักษรกรีกโบราณ ตามด้วยชื่อจักรราศีที่ดาวนั้นอยู่ เช่น
- Alpha Centauri ดาว Alpha แห่งกลุ่มดาวคนครึ่งม้า
- Gamma Cygni ดาว Gamma แห่งกลุ่มดาวหงษ์
- Kappa Amdromeda ดาว Kappa แห่งกลุ่มดาวแอนดรอมิดา
3. The Flamsteed System ชื่อดาวในระบบนี้ก็คล้าย ๆ กับระบบข้อ 2. ครับ คือใช้ตัวเลขอารบิค
ตามด้วยจักราศีที่ดาวดวงนั้นอยู่ เช่น 51 Pegasi (ดาวลำดับที่ 51 แห่งกลุ่มดาวม้าบิน)
61 Cygni (ดาวลำดับที่ 61 แห่งกลุ่มดาวหงษ์)
4. Modern catalogues อันนี้คือที่ใช้กันในปัจจุบันครับ cataloques นี้กำหนดชื่อด้วย Computer
โดยการใช้ ชื่อขององค์กรที่ตรวจพบ กล้องโทรทรรศน์ ดาวเทียม ที่ตรวจพบดาวดวงนั้น
และต่อด้วยรหัสอีกจำนวนหนึ่งครับ อย่างดาวฤกษ์ TRAPPIST-1 ที่เคยฮือฮากันไป ก็ตั้งชื่อตาม
หอสังเกตุการณ์ดาราศาสตร์ของเบลเยี่ยม ที่ชื่อว่า Transiting Planets and Planetesimals Small Telescope (TRAPPIST)
ซึ่งที่นี่ได้ตรวจพบดาวดวงนี จึงได้ตั้งชื่อว่า TRAPPIST-1 ซึ่งดาว TRAPPIST-1 นี้ ดั้งเดิมยังมีอีกชื่อหนึ่ง คือ
2MASS J23062928-0502285 ด้วย (เป็นชื่อที่ตั้งด้วย Computer ของ Modern catalogues นี้เองครับ)
5. ตั้งชื่อตามบุคคลสำคัญ หรือ เป็นเกียรติแก่นักดาราศาสตร์ผู้ค้นพบ การตั้งชื่อดาวแบบนี้
จะมีจำนวนไม่มากนักครับ โดยตั้งชื่อในโอกาสพิเศษบางประการ เช่น Barnard's Star
ก็ตั้งชื่อตามนักดาราศาสตร์อเมริกันผู้ซึ่งศึกษาข้อมูลสำคัยหลายอย่างของดาวดวงนี้
หรือ Kapteyn Star ซึ่งตั้งชื่อตามนักดาราศาสตร์ชาว Dutch Jacobus Kapteyn
นอกนั้น ยังมี Cataloque ดาวฤกษ์อีกจำนวนเป็นสิบ ๆ cataloque ที่เราอาจคุ้นตาครับ เช่น ....
HD cataloque ของนักดาราศาสตร์ Henry Draper
SAO cataloque ของ Smithsonian Astrophysical Observatory
BD cataloqe ของ Bonn Observatory (German)
Gaia Catalogue ของยานสำรวจดาวฤกษ์ GAIA
Gliese Catalogue ของนักดาราศาสตร์ German Wilhelm Gliese (ใช้กับดาวฤกษ์ที่มีระยะห่างไม่เกิน 80 ปีแสง)
HIP cataloque ของดาวเทียมสำรวจดาวฤกษ์ Hipparcos (โครงการขององค์กรอวกาศยุโรป : ESA)
LHS , LTF , LTT cataloque ของนักดาราศาสตร์ Willem Jacob Luyten
ดาวฤกษ์ต่าง ๆ ที่เราได้ยินชื่อเรียกแบบหนึ่ง ก็อาจปรากฏใน Cataloque อีกอันหนึ่งก็ได้ครับ เช่น ....
ดาว 55 Cancri ก็มีชื่อใน cataloque อื่นว่า HR 3522
ดาวเหนือ Polaris ก็คือดาว Alpha Ursae Minoris (ในแบบของ Bayer System)
ดาวยักษ์แดง Betelgeuse ก็คือดาว Alpha Orionis (เป็นดาวเด่นที่สุด จึงได้ชื่อ Alpha ในกลุ่มดาวนายพราน)
ว่าง ๆ .... ลอง Google ดูชื่อดาวที่เราคุ้นเคย โดยหาดูใน Wikipedia สิครับ
จะพบว่าดาวต่าง ๆ อาจมีทั้งชื่อแบบ Proper name และอยู่ใน cataloque
ต่าง ๆ พร้อมกันอีก 3 - 5 cataloque ก็เป็นได้
แสดงความคิดเห็น
แปลกไหมครับทำไมมนุษย์ถึงต้องอยู่โลกทั้งๆที่มีหลายดาวเคราะห์ในระบบสุริยะ
เลยเกิดคำถามว่า..
1.มันจำเป็นหรอครับอย่างเช่นดวงจันทร์บริวาร "เอนเซลาดัส" ของดาวเสาร์ อาจมีสิ่งชีวิตเพียงเพราะมีน้ำที่เป็นสิ่งที่ก่อกำเนิดสิ่งมีชีวิตถ้าเกิดในทางกลับกันการที่จะเกิดสิ่งมีชิวิตของนอกโลกของเราไม่จำเป็นต้องมีต้นกำเนิดเหมือนเราแนวคิดนี้พอเป็นไปได้ไหมครับ
2.ถ้ายกอีกตัวอย่างนึงดาวใกล้ๆเราเช่นดาวศุกร์เป็นที่เข้าใจว่าดาวแห่งนี้มีอุณหภูมิสูงที่สุดถ้าสมมติว่ามีสิ่งมีชีวิตกำเนิดที่นี้พวกเขาเหล่านี้ชาวดาวศุกร์ก็สามารถอยู่ได้แบบในที่อุณหภูมิสูงถึง500องศา+ใช่ไหมครับ
ขอสุดท้ายละฮับสงสัยกับการตั้งชื่อดาวต่างๆในจักรวาลม้ากก ทาง NASA เขาใช้อะไรเป็นตัวตั้งครับเช่น ระบบ TRAPPIST 1 ,ระบบ LHS 1140b ตามนี้ครับ ขอบคุณครับ