ผู้หญิงรักนวลสงวนตัวเดี่ยวนี้ถือว่ามีความคิดแปลกๆแล้วหรอคะ

สวัสดีค่ะ  คือเราเพิ่งเรียนจบ คบกับแฟนมาแล้วประมาณ 6-7 ปี ตั้งแต่สมัยมัธยม ตอนเรียนมัธยมเราเป็นเพื่อกลุ่มเดียวกันค่ะ ที่พักเราอยู่ใกล้ๆโรงเรียน เพื่อนๆก็ชอบมาเที่ยวที่บ้านเรา แต่ไม่ได้อยู่ด้วยกันนะคะ แค่ไปห้องไหนก็ได้คนเยอะเหมือนกัน แล้วบางครั้งก็ออกไปเที่ยวต่างจังหวัดด้วยกันยกกลุ่ม ถือว่าตอนมัธยมเราอยู่กับเขาแทบจะตลอดเวลาเลยล่ะค่ะ ยกเว้นว่า กลับห้องต่างคนต่างนอน ตอนเรียนก็ไปพร้อมกันอยู่ดี

       พอเราเข้ามหาวิทยาลัยแต่คนละมหาวิทยาลัยกัน เราก็ไปอยู่หอใน หอหญิง ซึ่งเขาก็เข้าใจนะคะ ไม่ค่อยได้ใช้เวลาด้วยกันแบบเมื่อก่อน เขาก็มีงอนบ้างอะไรบ้าง เสาร์อาทิตย์เขาก็ชอบให้ไปค้างบ้านเขา แต่ไม่ได้มีอะไรเกินเลยไปกว่ากอด แล้วก็จู๋จี๋นิดหน่อย ไม่ถึงขั้นเสียพรหมจรรย์ ตามความคิดเราคือรู้สึกผิดนิดหน่อย เพราะพ่อแม่เรามักพูดเสมอว่าเรามีค่า แล้วตัวอย่างที่เราเคยเจอคือผู้หญิงที่ให้ตัวและให้ใจไปกับผู้ชายก่อนแต่งงาน มักจะไปไม่รอด แล้วอีกอย่าง เราเคยติดว่าเราจะลองดีไหม ใครๆก็ทำก้น แค่นึกภาพก็กลัวตัวสั่นแล้วค่ะ ไม่รู้ทำไมถึงกลัวขนาดนั้น เลยอย่าดีกว่า เคยบอกเขานะคะว่า ขอเป็นหลังแต่งงาน เขาก็โอเค จบเรื่องนี้ไป พอทำงานเขาก็เซ้าซี้ให้เราไปอยู่ด้วยกัน ในที่นี้คือไปเช่าที่พักด้วยกัน ไปทำงานใกล้ๆกัน เขาสัญญาว่าจะไม่ทำอะไรเกินเลย แต่เราก็มีบ้านอยู่แล้ว แต่เขาอยากให้ไปอยู่กับเขา เพราะเราอยู่บ้านเราจะต้องเกรงใจคนที่บ้านไม่ค่อยได้คุยโทรศัพท์กับเขา แต่ความคิดเราคือ จะให้ออกไปเที่ยวไหนกลับดึกแค่ไหนก็ได้ แต่เราจะบอกพ่อแ่เรายังไงว่าไปค้างบ้านแฟน แม่เราไม่ปลื้มแน่ๆ เราบอกเข้าไปตามตรง

       แฟนเขาเลยบอกว่าเราอ่ะแปลก บ้านเราก็คิดแปลก สมัยนี้ไม่มีใรคิดแบบเราแล้ว
เพื่อนเขาที่เป็นแฟนกัน ตอนนี้ผู้หญิงออกไปอยู่บ้านผู้ชายแล้วพ่อแม่ผู้หญิงก็อนุญาต เอาจริงๆคือตามความคิดเรา เราไม่ได้หัวโบราณหรือรังเกียจความคิดแบบนี้ แต่เราแค่ยังไม่พร้อมไปใช้ชีวิตแบบนั้น เหมือนแบบเรายังใช้เงินที่พ่อแม่ให้เเพื่อไปเช่าห้องอยู่กับแฟน แทนที่จะเอาเงินนั้นเก็บ เราคิดหนักมาก เพราะเขาก็ดีกับเราทุกอย่าง ตามใจให้ใจซื้อของมาเซอร์ไพรส์ แต่จริงๆเราไม่ได้เรียกร้องจริงๆ แต่เขาบอกว่าเขาทำให้เราขนาดนี้ แค่ออกไปอยู่กับเขาทำไมแค่นี้ทำไม่ได้ เราเคยคิดว่าจะลองขอพ่อแม่เลยว่าให้ไปไหม ถ้าไม่ให้จะได้บอกกับเขาว่าแม่ไม่ให้ไปนะ แต่เราไม่อยากให้แม่ระแวงว่าเราจะแอบไป ซึ่งจริงๆเราไม่อยากไปเองมากกว่า ตอนนี้เขาก็งอนเราอยู่พอพูดเรื่องนี้ขึ้นมา เราก็ลำบากใจ เราเคยพูดว่าก็ขยันทำงานสร้างตัวแล้วรีบมาขอ เขาก็บอกว่าเรารักเขาหรือรักที่เงินกันแน่ แต่เราแค่อยากให้เขาสร้างความมั่นใจกับพ่อแม่เราว่าจะดูแลเราได้เท่านั้นเอง แต่เขาก็คิดอีกแบบ เอาจริงๆ เรายังไม่มีความคิดจะแต่งงานกับเขาเลยด้วยซ้ำ แต่ก็คบไปเขาก็ไม่ได้ทำอะไรเสียหาย ยกเว่นการงอนแรงของเขาเท่านั้นเอง

       เพื่อนๆคิดว่าเรามีความคิดแปลกไหมคะ เราควรปรับปรุงความคิดตัวเองหรือทำยังไงดี เพราะเราเปลี่ยนความคิดเขาไม่ได้แน่นอนอยู่แล้ว
แก้ไขข้อความเมื่อ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 8
มันก็เป็นข้ออ้างที่จะสรรหามาพูดของคนที่อยากจะได้ และเห็นแก่ตัวเท่านั้นครับ
...สมัยนี้
...ใครๆเค้าก็
...คุณมันแปลก
...เพื่อนเค้าทำกันทั้งนั้น

ยิ่งให้ขยันทำงานสร้างตัวแล้วมาขอ คือ รักที่เงิน ?!?
เฮ้ย..!!! เอาตรรกะแบบนี้มาจากไหน ??
อย่างนี้...เค้าก็รักกันที่เงินกันทั้งประเทศ ครึ่งค่อนโลกสิ ??!!!

งั้นมองมุมกลับ การที่เค้าจะเอาให้ได้ คือ เค้ารักคุณที่อะไร ??

ต่อให้สังคม(รอบตัวเค้า)เป็นแบบนั้น คิดแบบนั้นจริงๆ
ก็ไม่ได้แปลว่าเราจะต้องทำตามนี่ครับ
เจอคนมักง่าย ต้องมักง่ายตาม ?
เจอคนสกปรก ต้องสกปรกตาม ?

และไม่ได้แปลกด้วย ตราบเท่าที่เรายังยึดมั่นในความถูกต้อง
และเลือกแคร์คนที่รักเราจริงๆแน่แท้มากกว่า
คนที่เราได้พิสูจน์ความรักของเค้าที่มีต่อเรามาแล้วตลอดชีวิต
มากกว่าใครสักคนที่เพิ่งเข้ามาในชีวิตคุณไม่กี่ปี(เมื่อเทียบกับพ่อแม่คุณ)

สิ่งที่ควรพิจารณาตอนนี้คือ แฟนคุณ มากกว่า
ตรรกะ ความคิด และสังคมของเค้า
ยิ่งอยู่ไปยิ่งจะแย่ลงหรือเปล่า ?
หรือมีสักวันที่คุณจะต้องตามใจเค้า ??

ถ้าคุณไม่ตามใจ คุณมีอะไรเสีย ??
อย่างมากก็ผู้ชายที่เห็นแก่ตัวคนนึง คุณอาจจะเสียใจ แล้วยังไง

ถ้าคุณตามใจ
ถ้ามันลงเอยด้วยดีก็ดีไป
ถ้าไม่ใช่ล่ะ ??
คุณเสียอะไร คนรอบข้างที่แคร์คุณเสียอะไร ??

มุมมองส่วนตัวผม ไม่ได้ต่อต้านเรื่องแบบนี้
ถ้ามันจะเกิดจากความพร้อม ความสุข ความเต็มใจ สมัครใจของทั้ง 2 ฝ่าย
แต่ไม่ใช่ฝืนใจโดยอ้างโน่นนี่ สังคม สมัย คนรอบตัว โน่นนี่
เพื่อสนองความต้องการ ความอยากได้ ความเห็นแก่ตัว ของตัวเอง

โดยเฉพาะ...พวกเอาความรักมาเป็นข้ออ้าง

แค่มุมมองนึงนะครับ
ความคิดเห็นที่ 1
แฟนคุณให้คุณแค่นี้ทำมาเรียกร้อง
เขาทำไม่ได้เศษของพ่อแม่คุณด้วยซ้ำ
แถมยังไม่จริงใจ ทำเพราะหวังผลตอบแทน

สิ่งที่เราอยากให้คุณปรับปรุงคือ อย่าโกหกพ่อแม่
ถึงจะไม่มีอะไรเกินเลย มีคุณรู้อยู่คนเดียว
ถ้าพ่อแม่มารู้ทีหลัง ท่านไม่ทราบด้วยนะคะ
ความคิดเห็นที่ 5
เราอายุมากกว่าคุณค่ะ เเละเราไม่คิดจะใช้คำว่าเเฟนกับใครที่ยังไม่พร้อมที่จะรับผิดชอบกับสิ่งที่ผิดพลาดและสิ่งที่เรียกว่า ครอบครัว

พ่อเเม่เราไม่เคยปลูกฝั่ง ให้เรารักนวลสงวนตัว
แต่สอนเเค่ว่า จะทำอะไร ไม่ว่าดีหรือไม่ ผลของการกระทำมันตกอยู่ที่เรา
ตอนมีเเฟน เราไม่เคยเกินเลย มากกว่าการกอด หรือหอมเเก้ม (ไม่เคยเเม้เเต่จูบ หรือลูบคลำร่างกาย) เราเคลียร์เเละคุยตั้งเเรกที่เค้าขอเราเป็นเเฟน เราคุยเเละศึกษานิสัยมาเป็นปีถึงตกลงใช้คำว่าเเฟนคุยครั้งเดียวเเละครั้งสุดท้าย ว่าคำว่าเเฟน กับ สามี ความหมายของเราไม่เหมือนกันอย่าเเม้เเต่จะขอ หรือเซ้าซี้ ไม่ไหว รอไม่ได้ เดินจากเราไปได้ทุกเมื่อถ้ายังไม่พร้อมหรือรับไม่ได้กับข้อเสนอก็ละไว้ซึ่งคำว่าเพื่อนก่อน  เมื่อไหร่ที่คิดจะใช้คำว่าสามีและภรรยา เราขอใบตรวจเลือด และทะเบียนสมรสด้วย

ถ้าคุณแปลก เราก็คงเเปลกเหมือนคุณ หรืออาจจะเเปลกกว่า เราคงมีความรู้สึกติดลบ ตั้งเเต่ชวนเราให้ไปเช่าหออยู่ด้วยเเล้ว เพราะสำหรับเรา เรามีเเต่เสีย เค้ามีเเต่ได้ เราคงละ ไว้เเค่คำว่าเพื่อนก่อน เผื่อ เค้าเจอคนแบบที่เค้าต้องการ เเละเราเจอคนที่พร้อมจะยอมรับเหตุเเละผลของเราได้เช่นกัน

จขกท เรียนจบเเล้ว ทำงานเเล้ว มีวุฒิมากพอแล้ว ทุกๆการกระทำ มันส่งผลกับตัวเราค่ะ อาจดีขึ้น และเเย่ลง ตัดเรื่อง พ่อเเม่ ออกก่อน นึกถึงเเต่ตัวเอง
ตอบคำถามตัวของคุณเองให้ดีๆ จะทำเพื่อเค้า หรือเพื่อ ตัวเอง
ถ้าทำเพื่อเค้า เราอยากถามว่า
-ต่อไปข้างหน้าคนที่ยืนข้างๆคุณ ไม่ใช่คนนี้ คุณจะไม่รู้สึกเสียใจใช่ไหม

ถ้าทำเพื่อตัวเอง
-เค้าต้องจากไป เพราะ คุณไม่สามารถให้สิ่งที่เค้าต้องการ หรืออยากให้เป็นได้ คุณจะไม่รู้สึกเสียใจใช่ไหม
-และถ้าคนข้าง ยังคงเป็นเค้า ที่พร้อมจะพิสูจน์ให้คุณเห็น คุณจะรู้สึกยังไง
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่