ตอนเด็กๆ เรารู้สึกว่าครอบครัวเราก็ปกติ มีกินมีใช้ เป็นหลานรักของตากับยาย อยากได้อะไรก็มีพ่อคอยซื้อให้
พอเริ่มขึ้นมัธยมก็เริ่มมีเรื่องทะเลากับที่บ้าน ด้วยความเป็นคนที่ใจร้อนและไม่ค่อยยอมใคร ดื้อ รั้น ทำให้ทะเลาะกับที่บ้านบ่อยๆ แต่นอกจากปัญหาเรื่องนี้ก็ไม่มีเรื่องอื่น
มัธยมปลาย เริ่มมีชีวิตอิสระเพราะได้ไปอยู่หอใกล้โรงเรียน เพราะว่าเลิกเรียนช้าแล้วบ้านอยู่ไกลจากโรงเรียนมาก ทำให้ค่อยๆเริ่มห่างจากที่บ้าน แต่ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร ตอนนั้นคิดสะว่าดีสะอีก สบายใจ ไม่ต้องทะเลาะกับใครอยู่คนเดียว
แต่ชีวิตก็เริ่มเปลี่ยนตอนใกล้จบม.6 ตอนที่รู้ว่าพ่อมีใครอีกคน เอาจริงๆก็เสียใจแต่ก็ไม่ได้เสียใจมากมาย เพราะก็พอรับรู้ตั้งแต่เด็กว่าพ่อกับแม่แทบไม่ได้มีความรู้สึกอะไรต่อกันแล้ว ตอนนั้นแค่กลัวว่าพ่อจะยังให้เงินอยู่รึเปล่า เพราะตลอดที่ผ่านมาพ่อก็เป็นคนจ่ายค่าเทอมแล้วก็เงินเดือนให้ตลอด
พอขึ้นมหาลัยก็ใช้ชีวิตปกติ ไม่ได้มีปัญหาเรื่องเงินอะไร จนกระทั่งตอนอยู่ปี 3 ตอนนั้นเริ่มมีปัญหาเรื่องเงินเข้ามา เงินค่าเทอมเริ่มจ่ายช้า จนวันที่ต้องไปขอเอกสารฝึกงานเลยต้องโทรหาแม่เรื่องเงินค่าเทอม ซึ่งตอนนั้นแม่ก็แทบไม่มี สุดท้ายก็ได้เงินของตามาช่วยจ่ายไว้
เหมือนชีวิตจะดีขึ้นตอนได้ฝึกงาน เพราะได้เงินเดือนจากที่ฝึกงาน แต่ความสุขมันก็อยู่ได้ไม่นานตอนที่แม่มาสารภาพว่าถูกให้ออกจากงานพร้อมกับหนี้อีก 2 ล้านกว่าที่ไม่รู้จะเอาเงินที่ไหนไปใช้ ตอนนั้นโกรธแม่มาก มีคำถามมากมายเข้ามาในหัวว่าทำไม ทำไมแม่ต้องทำแบบนั้น ทำไมต้องเป็นเรา ทำไมชีวิตต้องมาเจออะไรแบบนี้ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้
สุขภาพจิตเริ่มพังพร้อมกับความสัมพันธ์ระหว่างแม่ลูก แม่เริ่มทักมาขอยืมเงินไม่ก็ขอเงินทุกเดือน แรกๆก็ให้ หลังๆเริ่มไม่ไหว เพราะเราก็ต้องเก็บเงินแล้วก็ต้องใช้เงินเหมือนกัน เราคิดว่าเราอยากใช้ชีวิต อยากเที่ยวต่างประเทศ อยากเก็บเงินไว้ แต่มันก็พัง เพราะหนี้ของแม่ ทำให้เรามีแต่ความทุกข์แทบทุกวินาทีที่คิดถึงเรื่องหนี้ ทุกครั้งที่แม่ไลน์มาก็จะเป็นเรื่องเงินตลอด จนระแวง ว่าไลน์แม่ที่เด้งมาทุกครั้งมันจะใช่เรื่องเงินไหม
จากตอนปี 4 จนถึงวันนี้มาก็เกือบ 2 ปี ที่เป็นแบบนี้มาตลอดแทบทุกเดือน ความสัมพันธ์เรากับแม่แย่ลงทุกครั้งที่แม่ทักมาขอเงินหรือยืมเงิน ความรู้สึกแย่ๆที่เรามีกับแม่ก็เพิ่มขึ้น แต่เราก็ทำอะไรไม่ได้ พูดตรงๆเราอิจฉาคนอื่นที่มีครอบครัวซัพพอร์ต ที่ไม่ต้องดูแลส่งเสียครอบครัว เราโคตรอิจฉา
แต่วันนี้มันเกิดคำถามขึ้นกับเราว่า เราเป็นลูกที่แย่ไหม เราเป็นลูกที่อกตัญญูไหม หากเราอยากจะใช้ชีวิตของเราบ้าง หากเงินที่เราให้แม่ทุกเดือนมันแค่ 3,000 บาท เรารู้สึกเลว แต่ในหัวสมองเรามันก็ตีกันว่าถ้าเราให้มากกว่านี้ เงินเก็บเราก็จะน้อยลงและหากเราล้มขึ้นมา เราไม่สามารถขอความช่วยเหลือจากใครได้เลย
ทุกคนคิดว่าเราเป็นลูกที่แย่มากไหม
เราเป็นลูกที่แย่ไหม?
พอเริ่มขึ้นมัธยมก็เริ่มมีเรื่องทะเลากับที่บ้าน ด้วยความเป็นคนที่ใจร้อนและไม่ค่อยยอมใคร ดื้อ รั้น ทำให้ทะเลาะกับที่บ้านบ่อยๆ แต่นอกจากปัญหาเรื่องนี้ก็ไม่มีเรื่องอื่น
มัธยมปลาย เริ่มมีชีวิตอิสระเพราะได้ไปอยู่หอใกล้โรงเรียน เพราะว่าเลิกเรียนช้าแล้วบ้านอยู่ไกลจากโรงเรียนมาก ทำให้ค่อยๆเริ่มห่างจากที่บ้าน แต่ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร ตอนนั้นคิดสะว่าดีสะอีก สบายใจ ไม่ต้องทะเลาะกับใครอยู่คนเดียว
แต่ชีวิตก็เริ่มเปลี่ยนตอนใกล้จบม.6 ตอนที่รู้ว่าพ่อมีใครอีกคน เอาจริงๆก็เสียใจแต่ก็ไม่ได้เสียใจมากมาย เพราะก็พอรับรู้ตั้งแต่เด็กว่าพ่อกับแม่แทบไม่ได้มีความรู้สึกอะไรต่อกันแล้ว ตอนนั้นแค่กลัวว่าพ่อจะยังให้เงินอยู่รึเปล่า เพราะตลอดที่ผ่านมาพ่อก็เป็นคนจ่ายค่าเทอมแล้วก็เงินเดือนให้ตลอด
พอขึ้นมหาลัยก็ใช้ชีวิตปกติ ไม่ได้มีปัญหาเรื่องเงินอะไร จนกระทั่งตอนอยู่ปี 3 ตอนนั้นเริ่มมีปัญหาเรื่องเงินเข้ามา เงินค่าเทอมเริ่มจ่ายช้า จนวันที่ต้องไปขอเอกสารฝึกงานเลยต้องโทรหาแม่เรื่องเงินค่าเทอม ซึ่งตอนนั้นแม่ก็แทบไม่มี สุดท้ายก็ได้เงินของตามาช่วยจ่ายไว้
เหมือนชีวิตจะดีขึ้นตอนได้ฝึกงาน เพราะได้เงินเดือนจากที่ฝึกงาน แต่ความสุขมันก็อยู่ได้ไม่นานตอนที่แม่มาสารภาพว่าถูกให้ออกจากงานพร้อมกับหนี้อีก 2 ล้านกว่าที่ไม่รู้จะเอาเงินที่ไหนไปใช้ ตอนนั้นโกรธแม่มาก มีคำถามมากมายเข้ามาในหัวว่าทำไม ทำไมแม่ต้องทำแบบนั้น ทำไมต้องเป็นเรา ทำไมชีวิตต้องมาเจออะไรแบบนี้ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้
สุขภาพจิตเริ่มพังพร้อมกับความสัมพันธ์ระหว่างแม่ลูก แม่เริ่มทักมาขอยืมเงินไม่ก็ขอเงินทุกเดือน แรกๆก็ให้ หลังๆเริ่มไม่ไหว เพราะเราก็ต้องเก็บเงินแล้วก็ต้องใช้เงินเหมือนกัน เราคิดว่าเราอยากใช้ชีวิต อยากเที่ยวต่างประเทศ อยากเก็บเงินไว้ แต่มันก็พัง เพราะหนี้ของแม่ ทำให้เรามีแต่ความทุกข์แทบทุกวินาทีที่คิดถึงเรื่องหนี้ ทุกครั้งที่แม่ไลน์มาก็จะเป็นเรื่องเงินตลอด จนระแวง ว่าไลน์แม่ที่เด้งมาทุกครั้งมันจะใช่เรื่องเงินไหม
จากตอนปี 4 จนถึงวันนี้มาก็เกือบ 2 ปี ที่เป็นแบบนี้มาตลอดแทบทุกเดือน ความสัมพันธ์เรากับแม่แย่ลงทุกครั้งที่แม่ทักมาขอเงินหรือยืมเงิน ความรู้สึกแย่ๆที่เรามีกับแม่ก็เพิ่มขึ้น แต่เราก็ทำอะไรไม่ได้ พูดตรงๆเราอิจฉาคนอื่นที่มีครอบครัวซัพพอร์ต ที่ไม่ต้องดูแลส่งเสียครอบครัว เราโคตรอิจฉา
แต่วันนี้มันเกิดคำถามขึ้นกับเราว่า เราเป็นลูกที่แย่ไหม เราเป็นลูกที่อกตัญญูไหม หากเราอยากจะใช้ชีวิตของเราบ้าง หากเงินที่เราให้แม่ทุกเดือนมันแค่ 3,000 บาท เรารู้สึกเลว แต่ในหัวสมองเรามันก็ตีกันว่าถ้าเราให้มากกว่านี้ เงินเก็บเราก็จะน้อยลงและหากเราล้มขึ้นมา เราไม่สามารถขอความช่วยเหลือจากใครได้เลย
ทุกคนคิดว่าเราเป็นลูกที่แย่มากไหม