นิตยสาร ELLE ประจำเดือนตุลาคม 2017 ได้คัดเลือกบุคคลแห่งปีซึ่งเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงในแวดวงต่างๆ
มีทั้งดารานักแสดง พิธีกร นักกีฬา ..... และหนึ่งในนั้นก็มี จูถิง รวมอยู่ด้วย
ELLE : หนึ่งปีมานี้ ใครหรือเรื่องอะไรที่มีอิทธิพลกับคุณมากที่สุด?
จูถิง : ปีที่ผ่านมาได้คว้าแชมป์โอลิมปิกและก็ถ้วยยุโรป และในสภาพการณ์ที่แตกต่างกันนี้
โค้ชหลางก็สวมบทบาทที่ไม่เหมือนกันในสนามดูฉันเล่น ทำให้ฉันเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังขับเคลื่อน
ELLE : อะไรคือสิ่งที่เปลี่ยนแปลงมากที่สุดในตัวคุณ?
จูถิง : ฉันรู้สึกว่าตัวเองดูสวยขึ้น เพื่อนๆก็พูดอย่างนี้กันทั้งนั้น นี่คือเรื่องที่ทำให้ฉันมีความสุข
ELLE : ในยุคสมัยนี้อะไรคือสิ่งที่คุณคิดว่ามันเจ๋งมาก?
จูถิง : เทคโนโลยีเจริญก้าวหน้า การสื่อสารมีความสะดวก ทำให้ฉันกับเพื่อนๆรู้สึกได้ถึง “แม้ไกลสุดหล้าก็เหมือนได้อยู่ใกล้”
ELLE :อะไรคือสิ่งที่คุณคิดอยากเปลี่ยนแปลงมากที่สุด?
จูถิง : ถ้าให้โลกเล็กลงหน่อยได้ก็จะดี ในปีหนึ่งฉันจะได้ไม่ต้องเสียเวลาบินนานๆ
ELLE : คุณนิยาม ความสุข ว่าเป็นอย่างไร? ในสายตาของคุณ ชีวิตที่มีความสุข คืออย่างไร?
จูถิง : ชีวิตที่เงียบสงบ สุขภาพดี ได้อยู่ร่วมกันกับคนในครอบครัว นี่คือ ความสุขที่ยิ่งใหญ่ที่สุด
ELLE : คุณมีกังวลเรื่องอะไรไหม? และคุณจะทำยังไงตอนที่กังวล?
จูถิง : ตอนเล่นได้ไม่ดีฉันก็จะรู้สึกกังวลร้อนใจ ตอนนั้นฉันก็อยากจะอยู่ที่เงียบๆตามลำพัง
และถ้าเทพเจ้าจะประทานฝนให้ตกลงมาด้วยก็จะเยี่ยมยอดเลย
ELLE : ใครคือไอดอลของคุณหรือคุณคิดอยากจะเป็นใครมากที่สุด?
จูถิง : ไอดอลของฉันคือโค้ชหลาง แต่ฉันก็ไม่คิดอยากจะเป็นเหมือนอย่างเธอ เพราะว่าเธอจริงจังเกินไป
ละเอียดเกินไป รอบคอบเกินไป เก่งเกินไป เพราะฉะนั้นเธอจึงเหนื่อยมาก
ELLE : ช่วงนี้อ่านหนังสือหรือเพจอะไรบ้าง?
จูถิง : ช่วงนี้อ่านหนังสือ 《智慧与感觉:通往创造之路》 [* Wisdom and the Senses: the Way of Creativity
ของ Joan M.Erikson] มีคำวิจารณ์หนังสือบอกว่าผู้แต่งใช้หลักจิตวิทยาในการเปิดช่องสร้างประตูแห่งกฏเกณฑ์ ฉันว่ามันน่าสนใจมาก
โดยปกติก็มักจะอ่านเพจ welovevolley ที่มีลงบันทึกเรื่องราวชีวิตประจำวันของฉัน
ELLE : ช่วงนี้มีหนังเรื่องไหนน่าดูบ้าง?
จูถิง : ช่วงปีมานี้ไม่ได้ดูหนังเลย เพราะไม่มีเวลา
ELLE : ช่วงนี้นอกจากการฝึกซ้อมและลงแข่งขันแล้ว ยังมีทำอะไรอื่นอีกบ้าง? มีงานอดิเรกอะไรที่น่าสนใจพอจะแชร์ให้เราได้ฟังบ้าง?
จูถิง : ช่วงนี้กำลังเรียนขับรถ เพราะไปอยู่ต่างประเทศจำเป็นมาก และเมื่อเทียบกับตอนอยู่ทีมชาติ
ตอนอยู่ตุรกีก็จะมีเวลาว่างมากกว่าในการที่จะพัฒนางานอดิเรกต่างๆของตัวเอง อย่างเช่น ทุกวันฝึกเขียนพู่กันจีน เรียนภาษาอังกฤษ อ่านหนังสือ

จูถิงเรียนขับรถเพื่อไปสอบเอาใบขับขี่

หลังจบการแข่งขันกีฬาแห่งชาติจีนรอบคัดเลือก ก็หาเวลาว่างไปสโลว์ไลฟ์ที่หยางชั่ว (กุ้ยหลิน )
จูถิงได้รับคัดเลือกเป็นหนึ่งในบุคคลแห่งปีของนิตยสาร ELLE พร้อมบทสัมภาษณ์เล็กๆ
มีทั้งดารานักแสดง พิธีกร นักกีฬา ..... และหนึ่งในนั้นก็มี จูถิง รวมอยู่ด้วย
จูถิง : ปีที่ผ่านมาได้คว้าแชมป์โอลิมปิกและก็ถ้วยยุโรป และในสภาพการณ์ที่แตกต่างกันนี้
โค้ชหลางก็สวมบทบาทที่ไม่เหมือนกันในสนามดูฉันเล่น ทำให้ฉันเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังขับเคลื่อน
จูถิง : ฉันรู้สึกว่าตัวเองดูสวยขึ้น เพื่อนๆก็พูดอย่างนี้กันทั้งนั้น นี่คือเรื่องที่ทำให้ฉันมีความสุข
จูถิง : เทคโนโลยีเจริญก้าวหน้า การสื่อสารมีความสะดวก ทำให้ฉันกับเพื่อนๆรู้สึกได้ถึง “แม้ไกลสุดหล้าก็เหมือนได้อยู่ใกล้”
จูถิง : ถ้าให้โลกเล็กลงหน่อยได้ก็จะดี ในปีหนึ่งฉันจะได้ไม่ต้องเสียเวลาบินนานๆ
จูถิง : ชีวิตที่เงียบสงบ สุขภาพดี ได้อยู่ร่วมกันกับคนในครอบครัว นี่คือ ความสุขที่ยิ่งใหญ่ที่สุด
จูถิง : ตอนเล่นได้ไม่ดีฉันก็จะรู้สึกกังวลร้อนใจ ตอนนั้นฉันก็อยากจะอยู่ที่เงียบๆตามลำพัง
และถ้าเทพเจ้าจะประทานฝนให้ตกลงมาด้วยก็จะเยี่ยมยอดเลย
จูถิง : ไอดอลของฉันคือโค้ชหลาง แต่ฉันก็ไม่คิดอยากจะเป็นเหมือนอย่างเธอ เพราะว่าเธอจริงจังเกินไป
ละเอียดเกินไป รอบคอบเกินไป เก่งเกินไป เพราะฉะนั้นเธอจึงเหนื่อยมาก
จูถิง : ช่วงนี้อ่านหนังสือ 《智慧与感觉:通往创造之路》 [* Wisdom and the Senses: the Way of Creativity
ของ Joan M.Erikson] มีคำวิจารณ์หนังสือบอกว่าผู้แต่งใช้หลักจิตวิทยาในการเปิดช่องสร้างประตูแห่งกฏเกณฑ์ ฉันว่ามันน่าสนใจมาก
โดยปกติก็มักจะอ่านเพจ welovevolley ที่มีลงบันทึกเรื่องราวชีวิตประจำวันของฉัน
จูถิง : ช่วงปีมานี้ไม่ได้ดูหนังเลย เพราะไม่มีเวลา
จูถิง : ช่วงนี้กำลังเรียนขับรถ เพราะไปอยู่ต่างประเทศจำเป็นมาก และเมื่อเทียบกับตอนอยู่ทีมชาติ
ตอนอยู่ตุรกีก็จะมีเวลาว่างมากกว่าในการที่จะพัฒนางานอดิเรกต่างๆของตัวเอง อย่างเช่น ทุกวันฝึกเขียนพู่กันจีน เรียนภาษาอังกฤษ อ่านหนังสือ