ปี 2014 หลายต่อหลายคนพูดชมว่าจูถิงดูสวยขึ้น
แน่นอนว่าถ้าคุณเอ่ยชมเธอต่อหน้า เธอจะมีอาการเขินอายทันที แล้วก็จะพูดออกมาอย่างใสซื่อ “ใช่ที่ไหนล่ะ”
และถ้าคุณยังยืนยันคำพูดนี้ เธอก็จะรีบหาทางหลีกหายไปจากตรงนั้น
แต่ว่าไปแล้วปี 2014 นี้ สาวน้อยวัย 19 ปีคนนี้ก็เปลี่ยนเป็นสวยขึ้นจริงๆ เป็นปีที่ชีวิตมีสีสัน เช่น เป็นครั้งแรกที่เล่นรายการชิงแชมป์โลก
เป็นครั้งแรกที่ได้เดินพรมแดง เป็นครั้งแรกที่สวมใส่ชุดราตรี เป็นครั้งแรกที่แต่งหน้า .........
มกราคม
ปีใหม่เพิ่งจะผ่านไป จูถิงได้รับเลือกเป็นหนึ่งในผู้เข้ารอบสุดท้ายนักกีฬาดาวรุ่งยอดเยี่ยมแห่งปี 2013 ของสถานีโทรทัศน์ CCTV
เธอรีบออกจากสนามแข่งเดินทางไปปักกิ่งเพื่อเข้าร่วมงานพิธีประกาศรางวัล นอกจากชุดนักกีฬาที่เธอสวมใส่อยู่ ก็ไม่มีอะไรอื่นใส่ประดับประดาตัวเธอ ฝ่ายจัดงานก็ได้เชิญพ่อแม่จูถิงมาร่วมงานด้วย แต่เนื่องด้วยเวลาที่กระชั้นไปหน่อยทำให้ไม่ได้ไป จูถิงนั่งอยู่ในงานใจระส่ำอยู่ตลอด กลัวว่าตัวเองจะได้รับรางวัล
คงเป็นก่อนปีใหม่สินะที่รู้ว่าตัวเองมีชื่อเข้ารอบนักกีฬาดาวรุ่งยอดเยี่ยม ตอนนั้นรู้สึกยังไงบ้าง?
จูถิง : อย่างแรกเมื่อรู้ข่าวก็คือ เรื่องดีๆอย่างนี้มีมาถึงฉันแล้วเหรอ? CCTV เป็นสถานียักษ์ใหญ่มาเลือกฉันแทบไม่อยากจะเชื่อ
คุณเคยพูดว่าพ่อแม่ยังไม่เคยมาปักกิ่ง โอกาสงามๆอย่างนี้ทำไมถึงไม่พาพวกท่านมาด้วย?
จูถิง : เพิ่งมารู้ว่าสามารถพาพ่อแม่ไปได้ ฉันดีใจมาก พวกท่านยังไม่เคยมาปักกิ่ง ยิ่งแม่ฉันแล้วแม้แต่เมืองเจิ้งโจว (เมืองหลวงของมณฑลเหอหนาน) ก็ยังไม่เคยไปเลย แต่ทว่าตอนนั้นฉันอยู่ระหว่างแข่งลีกจีนอยู่ ลาหยุดไม่ได้ ก็ไปถึงปักกิ่งกลางดึกก่อนวันงาน 1 วัน วันรุ่งขึ้นพอร่วมงานจบก็ต้องรีบเดินทางกลับ คิดไปคิดมาอย่าเลย รอไว้คราวหลังที่ฉันมีเวลาค่อยพาพวกท่านไปเที่ยวปักกิ่ง
ในงานมอบรางวัล ได้ยินว่าคุณได้รับเสียงปรบมือต้อนรับดีมาก แต่สุดท้ายไม่ได้รางวัล รู้สึกผิดหวังมั๊ย?
จูถิง :ไม่รู้สึกผิดหวังเลยสักนิด มีเหตุผลอยู่ 3 ข้อ หนึ่ง ผู้เข้ารอบคนอื่นโดดเด่นกว่าฉัน สอง ฉันเพิ่งมาเมื่อปีที่แล้ว ยังไม่มีผลงานอะไร สาม ชุดที่ฉันใส่คลุมปิดไปไม่ถึงรองเท้ากีฬาที่ใส่อยู่ ก่อนประกาศชื่อฉันตื่นเต้นมาก กลัวมากว่าตัวเองจะได้ ถ้าให้ขึ้นไปรับรางวัลในชุดอย่างนั้น ไม่ไหว คนอื่นคงหัวเราะแน่
เป็นครั้งแรกที่คุณสวมใส่ชุดราตรี?
จูถิง : อีมม์ ไม่เคยใส่ชุดแบบนี้มาก่อนเลย รู้สึกอึดอัดมาก และก็เป็นครั้งแรกที่แต่งหน้า ตอนแต่งหน้าเสร็จใหม่ๆฉันส่องกระจกดูตัวเองก็รู้สึกว่าดูดี แต่ตอนหลังมาดูรูปฉันในอินเตอร์เน็ต ไม่น่าดูเลยจริงๆ
ถ้าไม่ได้ไปงาน CCTV ก็คงไม่รู้สินะว่าตัวเองยังไม่มีรองเท้าหนัง?
จูถิง : ใช่ ใส่แต่รองเท้ากีฬามาตลอด เคยคิดจะซื้อรองเท้าหนังเหมือนกันแต่มันไม่มีเบอร์ที่ฉันใส่ แต่ตอนนี้มีรองเท้าหนังแล้ว เพื่อนคนหนึ่งช่วยซื้อจากต่างประเทศมาให้คู่นึง แต่ก็ยังไม่ได้ลองใส่เลย ไม่รู้ว่าจะพอดีหรือเปล่า ?
ไม่ได้รางวัล พ่อแม่พูดว่ายังไงบ้าง?
จูถิง : วันรุ่งขึ้นโทรศัพท์บอกพ่อว่าไม่ได้ พ่อบอกว่าแค่ได้ไปงาน CCTV ก็ถือว่าดีโขแล้ว โชคดีกว่าคนอื่นๆอีกหลายคน ก็ขอให้เราพยายามมุมานะต่อไป
กุมภาพันธ์
ฤดูกาลแข่งขันปี 2013-2014 พูดได้ว่าเป็นปีที่เหนื่อยมากสำหรับจูถิง เล่นให้เยาวชนทีมชาติต่อด้วยทีมชาติชุดใหญ่ ในระดับสโมสรก็ต้องรับบทหนักแบกทีมให้กับต้นสังกัดสโมสรเหอหนาน และในนัดที่ 4 ที่เจอกับสโมสรชานตง จูถิงคนเดียวทำไป 43 แต้ม สร้างสถิติขึ้นใหม่ในลีกจีนทำแต้มสูงสุดใน 1 นัด แต่เมื่อมาถึงช่วงเลกหลัง จูถิงก็มีปัญหาเรื่องพละกำลัง ตอนนั้นเธอคิดอยากจะกลับบ้านไปหาพ่อแม่ ได้กินอาหารที่แม่ทำ และนอนหลับให้เต็มที่สักหลายวัน
มีครั้งหนึ่งได้พูดคุยสวีหยุนลี่ถึงเรื่องของคุณ บอกว่าช่วงท้ายของฤดูกาลที่แล้ว สโมสรฝูเจี้ยนแข่งกับสโมสรของคุณ เห็นคุณเหนื่อยหมดแรงน่าสงสารมาก สวีหยุนลี่กับเฉินย่าชิงเห็นคุณตบลูกเสร็จก็ลงไปนอนกลิ้งกับพื้น น่าเห็นใจมาก จนคิดไม่อยากจะขึ้นบล็อก
จูถิง :ใช่ ฤดูกาลที่แล้วเล่นมาถึงช่วงท้ายฤดูกาลก็เล่นแทบไม่ไหวแล้ว ลงพื้นทีแข้งขาอ่อน หมดแรง วันๆได้แต่นึกว่าเมื่อไหร่จะถึงตรุษจีนจะได้กลับบ้านพักผ่อน
ตอนที่พละกำลังตัวเองไม่ไหวแล้ว ตอนนั้นรู้สึกยังไง?
จูถิง : เหมือนกับคนเป็นไข้ตัวร้อน ไม่มีแรง แต่ถ้าเป็นไม่มากก็เหมือนกับคนเพิ่งตื่นนอนที่ไม่มีแรง
แล้วทำยังไงถึงฝืนเล่นได้จนถึงนัดเพลย์ออฟหนีตกชั้น
จูถิง : นึกถึงวันตรุษจีน จะได้กลับบ้านนอนเลยมีแรงฮึด
กลับบ้านนอนใช้ได้ผลขนาดนั้นเชียว? เตียงที่บ้านคงนุ่มน่านอน
จูถิง : ที่บ้านพื้นเตียงเป็นไม้แล้วมีฟูกฟองน้ำวางข้างบน อยู่ที่บ้านนอนหลับสบาย ล้มตัวลงนอนไม่กี่นาทีก็หลับแล้ว นอนจนตะวันส่อง ตื่นมาแม่ก็จะถามว่าอยากจะกินอะไร? กินอาหารเช้าเสร็จแม่ก็จะถามว่ามื้อกลางวันอยากจะกินอะไร? ความรู้สึกแบบนี้มีก็แต่เฉพาะที่บ้านเท่านั้น ไม่ต้องไปคิดอะไรให้หนักหัว ผ่อนคลายสบายใจเป็นที่สุด
เล่นให้ทีมชาติมาได้ 1 ปี กลับบ้านไปคนคงรู้จักทั่วทั้งหมู่บ้านเลยใช่ไหม?
จูถิง : คนในหมู่บ้านรู้จักฉันหมด เมื่อก่อนพวกเขารู้แต่ว่าลูกสาว 3 คนบ้านจูเป็นนักกีฬา เล่นบอล แต่ไม่รู้ว่าเล่นบอลอะไร แต่ว่าพวกเขารู้จักโค้ชหลาง ที่นั่นชื่อโค้ชหลางดังมาก ตอนนี้พวกเขารู้แล้วว่าฉันอยู่กับโค้ชหลางเล่นวอลเลย์
ปีที่แล้วคุณบอกว่าเรื่องที่ทำแล้วให้รู้สึกภูมิใจที่สุดคือมีเงินให้พ่อแม่ แล้วเมื่อได้กลับบ้าน สภาพบ้านมีเปลี่ยนแปลงบ้างไหม?
จูถิง : ก็พอได้ ฉันมีเงินก็ส่งให้ทางบ้าน ให้พ่อแม่ได้มีเงินติดมือบ้าง จะได้เอาไปใช้จ่ายบ้างไม่ต้องกลัวเสียดายเงิน ฉันอายุ 20 ปีแล้ว พ่อแม่เลี้ยงดูฉันมาจนโต ตอนนี้ฉันพอมีกำลังก็ควรต้องถึงคราวตอบแทนพระคุณ
*** ยังมีต่อ
[บทความ] จูถิง : บันทึกการเดินทาง ปี 2014
และถ้าคุณยังยืนยันคำพูดนี้ เธอก็จะรีบหาทางหลีกหายไปจากตรงนั้น
เป็นครั้งแรกที่ได้เดินพรมแดง เป็นครั้งแรกที่สวมใส่ชุดราตรี เป็นครั้งแรกที่แต่งหน้า .........
เธอรีบออกจากสนามแข่งเดินทางไปปักกิ่งเพื่อเข้าร่วมงานพิธีประกาศรางวัล นอกจากชุดนักกีฬาที่เธอสวมใส่อยู่ ก็ไม่มีอะไรอื่นใส่ประดับประดาตัวเธอ ฝ่ายจัดงานก็ได้เชิญพ่อแม่จูถิงมาร่วมงานด้วย แต่เนื่องด้วยเวลาที่กระชั้นไปหน่อยทำให้ไม่ได้ไป จูถิงนั่งอยู่ในงานใจระส่ำอยู่ตลอด กลัวว่าตัวเองจะได้รับรางวัล
*** ยังมีต่อ