บ่าย 19 ก.ย. 2015 ณ. หอพักนักกีฬาของการกีฬามณฑลเหอหนาน
นักข่าว ต้าเหอเป้า มีนัดสัมภาษณ์กับจูถิง
“ทรงผมสวยดี ไปทำที่ไหนมาหรือ?” จูถิงยิ้มตอบว่า ” ที่ปักกิ่ง ร้านที่ ซานหลี่ถุน (*ย่านบันเทิงการค้าชื่อดังในปักกิ่ง)
ช่างตัดผมที่นั่นดีมาก เพื่อนร่วมทีมหลายคนก็ใช้บริการเขา ไว้คุณไปปักกิ่งเมื่อไหร่ มีเวลาก็ลองไปใช้บริการดู ฉันจะพูดกับเขาให้
ว่าเป็นเพื่อนฉัน บริการให้ฟรี “
สัมภาษณ์จูถิงเมื่อคราวก่อน เธอบอกกับนักข่าวว่าชีวิตยามว่างไม่ได้มีสีสันอะไร ไม่ชอบดูทีวี ไม่ชอบดูหนัง แต่ชอบฟังเพลง
“คุณชอบฟังเพลงของใคร? นักข่าวถาม จูถิงย้อนถามนักข่าวว่า “ แล้วคุณล่ะฟังเพลงของใครบ้าง? เพลงแบบไหน?”
นักข่าวบอกว่าชอบฟังเพลงป๊อป จูถิงถามต่อ “ คุณเคยฟังเพลง 《什么都可以》 ของหวงเสี่ยวหมิงหรือเปล่า? “
นักข่าวบอกเคยฟัง จูถิงยิ้มเขิน ในฐานะเป็นแฟนพันธ์ุแท้หวงเสี่ยวหมิง แน่นอนว่าเพลงของเขาจูถิงย่อมต้องชื่นชอบ
จูถิงยังบอกอีกว่า ชอบฟังเพลง 《矜持》 ของหวางเฟย และก็เพลง 《心火》 ของเจาเปยน่า แต่ถึงจะเป็นคนชอบฟังเพลง
แต่ถ้าเรื่องการร้องเพลง จูถิงบอกว่าตัวเองไม่ร้องเพลง “ เสียงฉันไม่ดี ไม่กล้าร้องหรอก”
เพราะต้องฝึกซ้อมและแข่งขันตลอดทั้งปี ชีวิตส่วนตัวยามว่างจึงไม่มีอะไรมาก นอกจากฟังเพลง จูถิงอยากไปพักผ่อนในบรรยากาศ
แบบเมืองโบราณสมัยก่อน “คนเดี๋ยวนี้ใช้ชีวิตเร่งรีบ คิดแต่จะพุ่งทะยานไปข้างหน้า ฉันอยากจะหาเวลาสักไม่กี่วันก็ได้ไปใช้ชีวิตช้าๆ
สโลว์ไลฟ์ หาที่พักเล็กๆที่มีความเป็นโบราณ พักผ่อนสบายๆอยู่สักระยะหนึ่ง "
นักข่าวชายคนหนึ่งถามว่า “ จูถิง เวิลด์คัพหนนี้คุณให้คะแนนตัวเองสักเท่าไร? “
จูถิงยิ้ม ” คุณชอบที่จะถามคำถามพวกนี้? ฉันจำได้ปีที่แล้วก็มีคำถามแบบนี้ พวกคุณชอบให้คะแนนกันจัง? “
จูถิงพูดจบทุกคนที่ฟังหัวเราะครืน จูถิงตอบว่า “ ให้คิดเป็นคะแนนค่อนข้างคิดยาก เพราะต้องดูทั้งเรื่องของเทคนิคและก็เรื่องจิตใจ
ถ้าจะต้องให้คะแนนจริงๆ ก็คงให้ประมาณผ่านเกณฑ์ 60 คะแนน “
“ นั่นห่างจากคะแนนเต็มไป 30-40 คะแนน คุณว่าคะแนนที่ห่างอยู่ สาเหตุสำคัญคือตรงไหน?
จูถิงบอก ” ก็คงเป็นเรื่อง เซี่ยซานลู่ 下三路 นักข่าวชายคนเดิมถามต่อ ” แล้ว เซี่ยซานลู่ นี่ มันคืออะไร? “
จูถิงฟังแล้วก็หัวเราะ “ดูท่าคุณคงเป็นนักข่าววอลเลย์ขาจรซินะ ! แม้แต่
เซี่ยซานลู่ ก็ไม่รู้จัก
เซี่ยซานลู่ ก็คือ
บอลรับ บอลแรกและก็การต่อบอล เก็บบอล “ นักข่าวอีกคนที่อยู่ข้างๆก็พูดติดตลกว่า “ถ้างั้นมี
ช่างซานลู่ 上三 路 ด้วยรึเปล่า?
จูถิงเบิ่งตา “ ไม่มีบน (上ช่าง) มีแต่ล่าง (下เซี่ย) ไว้ถ้าฉันมีเวลาจะสอนเรื่องความรู้ทั่วไปของวอลเลย์ให้กับพวกคุณ”
( ** จขกท : เซี่ยซานลู่ เป็นคำที่เจอบ่อยในแวดวงวอลเลย์จีนไม่ว่าจะทั้งจากสื่อ โค้ช นักกีฬา .... จะพูดถึงว่านักวอลเลย์จีน
มีปัญหาเรื่องของทักษะพื้นฐาน ทีมชาติจีนแพ้มาทีไรเรื่องหนึ่งที่ถูกสื่อยกมาวิจารณ์อย่างหนักก็คือเรื่อง เซี่ยซานลู่ !
หลางผิงตอนที่เข้ามาเป็นโค้ชทีมชาติใหม่ๆ ครั้งแรกที่เปิดให้สื่อเข้าชมการฝึกซ้อมและให้สัมภาษณ์ก็พูดถึงปัญหานี้
ตอนนั้นหลางผิงบอกประมาณว่า ก็รู้อยู่ก่อนแล้วว่านักกีฬาเราทักษะอ่อน แต่เมื่อมาเจอเข้าจริงๆ ไม่คิดเลยว่าจะย่ำแย่กว่าที่คิดไว้
เรื่องทักษะพื้นฐานพวกนี้ มันควรจะฝึกฝนกันตั้งแต่ในระดับเยาวชนแล้ว ไม่ใช่ต้องมาเรียนมาฝึกกันในระดับทีมชาติอย่างนี้
เพราะฉะนั้น จึงไม่ประหลาดใจเลยว่า ทีมของหลางผิงถูกจับเคี่ยวฝึกเรื่อง เซี่ยซานลู่ จนดีขึ้นกว่าก่อนมาก)
แม้ว่าจะผ่านเวิลด์คัพไปได้ครึ่งเดือนแล้ว แต่เมื่อพูดถึงขึ้นมาจูถิงก็ยังคงประทับใจอยู่ “ เวิลด์คัพหนนี้พวกเราเจออุปสรรคมาก
โค้ชหลางลำบากมาก แต่สุดท้ายพวกเราก็สามารถคว้าแชมป์มาได้ เป็นเรื่องที่ไม่ง่ายเอามากๆๆๆ ”
หลังจากคว้าแชมป์ได้ CCTV จีนสัมภาษณ์จูถิง เธอพูดออกมาอยู่ประโยคหนึ่ง “ ตอนนี้ฉันอยากร้องไห้มาก แต่พยายามมกลั้นไว้ไม่ให้ร้องไห้ “
นักข่าวถามว่า ตอนนั้นคุณกำลังคิดอะไรอยู่? จูถิงตอบว่า “ ก่อนแข่งเวิลด์คัพไม่เคยคิดมาก่อนเรื่องจะคว้าแชมป์
นัดสุดท้ายกับญี่ปุ่น ถ้าเราชนะก็ได้แชมป์ และก็ได้ตั๋วไปโอลิมปิก แต่ถ้าไม่ชนะ ไม่ได้แชมป์ ตั๋วไปโอลิมปิกก็ไม่ได้
ตอนนั้นพวกเราทุกคนหวังจะชนะกันมาก หวังจะคว้าแชมป์ให้ได้ “
วันนี้ แฟนวอลเลย์ต่างก็พูดถึงจูถิงว่าจะกลายเป็นผู้สืบทอดตำนานต่อจากหลางผิง เป็นแม่ทัพผู้นำเป็นหัวใจสำคัญของวอลเลย์หญิงจีน
ยุคใหม่นี้ กับคำชมเชยต่างๆเหล่านี้ จูถิงกล่าวว่า การเป็นผู้นำให้กับทีมวอลเลย์หญิงจีนคือ เป้าหมายปลายทางของฉันที่จะพัฒนาไปให้ถึง
ผู้เล่นหัวเสากับบีหลัง 2 ตำแหน่งนี้ หัวเสาต้องมีความครบเครื่องอยู่สักหน่อย บอลแรก บอลรับต้องครบเครื่องมากหน่อย
ฉันเพียงแต่เปรียบเทียบกับเมื่อก่อนว่าตัวเองมีพัฒนาการที่ดีขึ้นมาหน่อย แต่การเป็นผู้เล่นหัวใจสำคัญยังอีกห่างไกล ตอนนี้ยังไม่ใช่
ยิ่งไม่ต้องไปพูดถึงเรื่องว่าจะเป็นแม่ทัพผู้นำทีม ไม่กล้าคิด ตัวเองยังต้องฝึกฝนอีกมาก “
http://newpaper.dahe.cn/dhb/html/2015-09/21/content_1313604.htm?div=-1
*** ยังมีต่อ
บทสัมภาษณ์เรื่องราวสารพันนอกสนามของจูถิง
นักข่าว ต้าเหอเป้า มีนัดสัมภาษณ์กับจูถิง
“ทรงผมสวยดี ไปทำที่ไหนมาหรือ?” จูถิงยิ้มตอบว่า ” ที่ปักกิ่ง ร้านที่ ซานหลี่ถุน (*ย่านบันเทิงการค้าชื่อดังในปักกิ่ง)
ช่างตัดผมที่นั่นดีมาก เพื่อนร่วมทีมหลายคนก็ใช้บริการเขา ไว้คุณไปปักกิ่งเมื่อไหร่ มีเวลาก็ลองไปใช้บริการดู ฉันจะพูดกับเขาให้
ว่าเป็นเพื่อนฉัน บริการให้ฟรี “
“คุณชอบฟังเพลงของใคร? นักข่าวถาม จูถิงย้อนถามนักข่าวว่า “ แล้วคุณล่ะฟังเพลงของใครบ้าง? เพลงแบบไหน?”
นักข่าวบอกว่าชอบฟังเพลงป๊อป จูถิงถามต่อ “ คุณเคยฟังเพลง 《什么都可以》 ของหวงเสี่ยวหมิงหรือเปล่า? “
นักข่าวบอกเคยฟัง จูถิงยิ้มเขิน ในฐานะเป็นแฟนพันธ์ุแท้หวงเสี่ยวหมิง แน่นอนว่าเพลงของเขาจูถิงย่อมต้องชื่นชอบ
จูถิงยังบอกอีกว่า ชอบฟังเพลง 《矜持》 ของหวางเฟย และก็เพลง 《心火》 ของเจาเปยน่า แต่ถึงจะเป็นคนชอบฟังเพลง
แต่ถ้าเรื่องการร้องเพลง จูถิงบอกว่าตัวเองไม่ร้องเพลง “ เสียงฉันไม่ดี ไม่กล้าร้องหรอก”
แบบเมืองโบราณสมัยก่อน “คนเดี๋ยวนี้ใช้ชีวิตเร่งรีบ คิดแต่จะพุ่งทะยานไปข้างหน้า ฉันอยากจะหาเวลาสักไม่กี่วันก็ได้ไปใช้ชีวิตช้าๆ
สโลว์ไลฟ์ หาที่พักเล็กๆที่มีความเป็นโบราณ พักผ่อนสบายๆอยู่สักระยะหนึ่ง "
ถ้าจะต้องให้คะแนนจริงๆ ก็คงให้ประมาณผ่านเกณฑ์ 60 คะแนน “
บอลรับ บอลแรกและก็การต่อบอล เก็บบอล “ นักข่าวอีกคนที่อยู่ข้างๆก็พูดติดตลกว่า “ถ้างั้นมี ช่างซานลู่ 上三 路 ด้วยรึเปล่า?
( ** จขกท : เซี่ยซานลู่ เป็นคำที่เจอบ่อยในแวดวงวอลเลย์จีนไม่ว่าจะทั้งจากสื่อ โค้ช นักกีฬา .... จะพูดถึงว่านักวอลเลย์จีน
มีปัญหาเรื่องของทักษะพื้นฐาน ทีมชาติจีนแพ้มาทีไรเรื่องหนึ่งที่ถูกสื่อยกมาวิจารณ์อย่างหนักก็คือเรื่อง เซี่ยซานลู่ !
หลางผิงตอนที่เข้ามาเป็นโค้ชทีมชาติใหม่ๆ ครั้งแรกที่เปิดให้สื่อเข้าชมการฝึกซ้อมและให้สัมภาษณ์ก็พูดถึงปัญหานี้
ตอนนั้นหลางผิงบอกประมาณว่า ก็รู้อยู่ก่อนแล้วว่านักกีฬาเราทักษะอ่อน แต่เมื่อมาเจอเข้าจริงๆ ไม่คิดเลยว่าจะย่ำแย่กว่าที่คิดไว้
เรื่องทักษะพื้นฐานพวกนี้ มันควรจะฝึกฝนกันตั้งแต่ในระดับเยาวชนแล้ว ไม่ใช่ต้องมาเรียนมาฝึกกันในระดับทีมชาติอย่างนี้
เพราะฉะนั้น จึงไม่ประหลาดใจเลยว่า ทีมของหลางผิงถูกจับเคี่ยวฝึกเรื่อง เซี่ยซานลู่ จนดีขึ้นกว่าก่อนมาก)
โค้ชหลางลำบากมาก แต่สุดท้ายพวกเราก็สามารถคว้าแชมป์มาได้ เป็นเรื่องที่ไม่ง่ายเอามากๆๆๆ ”
หลังจากคว้าแชมป์ได้ CCTV จีนสัมภาษณ์จูถิง เธอพูดออกมาอยู่ประโยคหนึ่ง “ ตอนนี้ฉันอยากร้องไห้มาก แต่พยายามมกลั้นไว้ไม่ให้ร้องไห้ “
นัดสุดท้ายกับญี่ปุ่น ถ้าเราชนะก็ได้แชมป์ และก็ได้ตั๋วไปโอลิมปิก แต่ถ้าไม่ชนะ ไม่ได้แชมป์ ตั๋วไปโอลิมปิกก็ไม่ได้
ตอนนั้นพวกเราทุกคนหวังจะชนะกันมาก หวังจะคว้าแชมป์ให้ได้ “
ยุคใหม่นี้ กับคำชมเชยต่างๆเหล่านี้ จูถิงกล่าวว่า การเป็นผู้นำให้กับทีมวอลเลย์หญิงจีนคือ เป้าหมายปลายทางของฉันที่จะพัฒนาไปให้ถึง
ผู้เล่นหัวเสากับบีหลัง 2 ตำแหน่งนี้ หัวเสาต้องมีความครบเครื่องอยู่สักหน่อย บอลแรก บอลรับต้องครบเครื่องมากหน่อย
ฉันเพียงแต่เปรียบเทียบกับเมื่อก่อนว่าตัวเองมีพัฒนาการที่ดีขึ้นมาหน่อย แต่การเป็นผู้เล่นหัวใจสำคัญยังอีกห่างไกล ตอนนี้ยังไม่ใช่
ยิ่งไม่ต้องไปพูดถึงเรื่องว่าจะเป็นแม่ทัพผู้นำทีม ไม่กล้าคิด ตัวเองยังต้องฝึกฝนอีกมาก “
http://newpaper.dahe.cn/dhb/html/2015-09/21/content_1313604.htm?div=-1
*** ยังมีต่อ