[CR] ฟินแลนด์ดินแดนมหัศจรรย์ ตอน: เริ่มต้นชีวิตใหม่ ในดินแดน พระอาทิตย์เที่ยงคืน

สวัสดีค่ะ ยิ้ม

ต่อจาก ความเดิมตอนที่แล้ว >> ฟินแลนด์ดินแดนมหัศจรรย์ ตอน: ผจญภัยสู่เมืองไกล กับประสบการณ์ขึ้นเครื่องบินครั้งแรก https://pantip.com/topic/36890121

หลังจากคืนนั้นที่เราได้นอนที่โรงแรมในตัวเมือง ..รุ่งเช้า โจนัสก็ส่งข้อความมาหาเราว่าจะมารอรับเราที่หน้าโรงแรม เพื่อไปส่งที่หอพักนักศึกษาที่จองไว้ (ซึ่งหลังจากตอนกลางคืน เราก็ไม่มีโอกาสได้พบ กับกัปตันเพื่อขอบคุณหรือพูดคุยต่อหน้ากันอีกเลย ..เราเลยส่งข้อความหากัปตันทางอีเมลล์ ซึ่งกัปตัน cc email หาเราด้วย ระหว่างที่ติดต่อพูดคุยทางอีเมล กับเจ้าหน้าที่ ที่ดูแลเรา ..เราขอบคุณเค้า และบอกกับเค้าว่า เรื่องราวเมื่อคืนนี้ที่เกิดขึ้นทำให้ฉันดีใจและประทับใจกับประเทศฟินแลนด์ และคนฟินแลนด์มาก ในครั้งแรกที่มาเหยียบที่นี่ พวกคุณใจดีกับฉันมาก และครอบครัวฉันก็ฝากขอบคุณกัปตันเช่นกัน และหวังว่าฉันจะมีโอกาสได้พบกับกัปตันอีก ..โดยเราบอกเค้าว่า ถ้าทุนการศึกษาที่ทางมหาลัยจะต้องจ่ายให้ฉันทุกเดือนมาถึง ฉันจะรีบคืนเงินให้กับ กัปตัน โดยเร็วที่สุด)

และแล้วความตื่นเต้นก็เริ่มขึ้นอีกครั้ง...บนพื้นดิน ของประเทศที่อยู่ในอีกซีกโลกหนึ่ง!!!

โจนัส พาฉันไปที่หอพัก ดูจากภายนอกก็คล้ายๆ หอพัก ทั่วๆไป ในบ้านเรา มีทั้งหมด 3 ชั้น ห้องเราอยู่ชั้นที่ 3 ..ในห้องก็จะแบ่งเป็นห้องย่อยๆ ข้างใน คือมีห้องนอน 3 ห้อง ห้องน้ำรวม 1 ห้อง ห้องครัว 1 ห้อง และห้องตากผ้า อีก 1 ห้อง
อุปกรณ์เครื่องใช้ในแต่ละห้อง รวมๆแล้วก็เหมือนบ้านเรา แต่ที่จะแตกต่าง ก็เห็นจะเป็น heater ที่มีอยู่ในทุกๆ ห้องในหอเลย แม้กระทั่งห้องน้ำ .. สวดยอดดด อมยิ้ม23 หอพักนี้จะมีห้องซักผ้า และห้องตากผ้าห้องใหญ่ที่มี heater ตัวใหญ่อยู่ที่ชั้นใต้ดินด้วย!!
หลังจากเคลียสัมภาระเสร็จเรียบร้อย โจนัสก็พาเราไปมหาวิทยาลัย โดยพาเราเดินจากหอพักไปมหาลัย แล้วก็สอนให้เรารู้จักทางลัดบ้าง ทางปกติบ้าง (ทีแรกนางถามแล้ว ว่าจะไปรถบัสหรือเดิน .. ไอ้เราก็ว่าตอนนั่งรถผ่านมา มหาลัยมันก็ไม่ไกล เดินก็ได้ ถือว่าสำรวจเส้นทาง แถมค่ารถบัสแต่ละรอบ ตั้ง 3.15 ยูโร (ประมาณ 120 บาท) แพงจุง!! ...จากนั้นก็เริ่มเดิน ..ปาเข้าไป 20 นาทีจร้า กว่าจะถึงมหาลัย บันเทิงกันเลย!! ... ตอนแรกเราก็ใส่เสื้อกันหนาวไปด้วย เพราะอากาศ ตอนที่เราไป เป็นช่วงปลายเดือนสิงหา เป็นหน้าร้อนของทีนั่นก็จิง แต่มันตั้ง 16 องศา แหนะ.. คิดในใจว่า นี่มันหน้าหนาว บ้านฉานนนนน แต่คนทั่วไปที่โน้น เค้าใส่เสื้อแขนสั้น กางเกงขาสั้น เดินกัน แบบสบายใจเลย.. แรกๆ เราก็ใส่เสื้อกันหนาวอยู่แหละ แต่พอเดินหนักเข้า พลังงานความร้อนเริ่มขึ้น ข้าไม่ใส่แม่มแหละเสื้อกันหนาว ร้อน!! 5555+)
พอถึงมหาลัย (แบบหอบๆ!!) ..โจนัสก็พาไปทำบัตรนักศึกษา ไปเบิกอุปกรณ์ต่างๆ เช่น พวกผ้าปูที่นอน จาน ช้อน แก้ว ที่เป็นของใช้ส่วนตัว มาหนึ่งกล่องใหญ่ ซึ่งก่อนเอาอุปกรณ์กลับมาเก็บที่หอนั้น ก็พาเราไปกินข้าวที่โรงอาหารด้วย ..อาหารที่นี่เป็นแบบบุปเฟ่ สามารถตัก สลัด ขนมปัง นม น้ำผลไม้ ได้ตามใจชอบ ยกเว้น อาหารคาว ที่ตักได้คนละหนึ่งอย่าง ถ้าเกินคือเพิ่มตังค์ เหอๆ มื้อนึงก็ 2.36 ยูโร ได้ ถ้าเงินไทยก็ประมาณ 90 กว่าบาท อันนี้คือที่ถูกที่สุด แล้วช่ะ อมยิ้ม24.. หลังจากได้อาหารที่คิดว่าถูกใจแล้ว ก็กลับมานั่งที่โต๊ะ และกินด้วยความถอนหายใจ ก็มันไม่คุ้นกะรสชาติ อะเน๊าะ!!! จนโจนัสเห็นสภาพการกินของเราแล้ว ก็บอกเราว่า ถ้ากินไม่ได้ ก็ไม่ต้องฝึนนะ ..เราก็หันไปยิ้มเจื่อน ๆ แล้วก็ ตั้งหน้าตั้งตากินต่อ จนหมด แหะๆ
เมื่ออาหารมื้อนั้นสิ้นสุดลง ภาระกิจที่เหลือของวันนั้นท้างงงวัน กืคือการนั่งรถบัสเข้าไปในตัวเมือง city center โจนัสพาเราไปทำบัตรรถบัส ในราคาของนิสิต ซื้อซิมโทรศัพท์ พาไปดูที่ตั้งของ Kuopus ที่เป็นผู้ดูแลหอพัก ไปห้าง ไปดูร้านค้าอีกมากมาย แถมร้านขายของมือสองนี่เยอะมาก เข้าร้านนี้ ออกร้านนั้น พาไปดูสถานที่สำคัญๆ

ส่วนไฮไลท์ ที่เรา request วันนี้ก็คือ!!!!!! ขอให้ พาเราไปร้านอาหารไทย หรือร้านขายของไทยที (โดยก่อนที่เราไปนั้น เราก็ไปสืบค้น สอบถาม หาข้อมูลมาบ้างว่า ที่นี่ มีร้านอาหารไทยด้วยนะ ..คือจะได้มีความอบอุ่นใจนิดๆ ที่อย่างน้อยก็จะได้คุยกะคนไทยบ้าง อิอิ) แล้วความฝันก็เป็นจริง!! ..เมื่อโจนัส พาเราไปร้านขายของไทย ...พอเดินเข้าไปเท่านั้นแหละ โหหหหหห.. เหมือนได้กลับบ้าน ..มีแต่สินค้าไทยทั้งนั้นเลย มีขายเต็มไปหมด ตั้งแต่มาม่า อาหารแห้ง ผักสด เครื่องเทศ ขนมไทย มีกระทั่งครก แล้วก็ที่นึ่งข้าวเหนียว ..ว้าวววว อะไรมันจะสุดยอดขนาดนี้ ...แล้วก็มีพี่คนขายซื่งเป็นคนไทย และพูดภาษาไทยกับเรา ที่สุดอะจุดนั้น!! ..แบบปลื้มปริ่ม วันนั้นก็เลยเดินช๊อปของไทยมา หลายอย่าง

แต่ที่น่าตกใจที่สุด ..ขุนพระ!!! นี่คือราคาขนมสาหร่าย เถ้าแก่น้อย หรือนี่!!! 3.9 ยูโร ห่อนี่เท่าถุงละ 35 บ้านเรา (แต่จิงๆก็คือแพงทุกอย่างเลย ..ก็ค่าเงินเค้าสูงอะเน๊าะ!!) เรานี่ถึงขั้นเอาลงเฟสกันเลย ประมาณว่า ยุโรปช๊อค!!! 5555+ (ขำๆ)
พอกลับมาหอ ตอนแกะกิน นี่แทบจะตัดเป็นชิ้นเล็กๆ แล้ว "อม" ไว้ ให้นานที่สุด จะได้ค่อยๆ ละลายยยยย อย่างช้าๆ 55+ (เวอร์ไปมั้ย แหะๆ)

เมื่อช่วงเวลาของพระอาทิตย์ในตอนกลางวันหมดลง ก็ย่างเข้าสู่หน้าที่ของพระจันทร์ยามค่ำคืน....
...แต่เปล่า!!! พระอาทิตย์มันยังไม่ไป มันยังคงปักหลัก เฝ้ารอ ..รออะไร ??? ..จนปาเข้าไปสองทุ่ม จะสามทุ่มแล้ว แม่เจ้าโว้ยย !! ท้องฟ้ายังสว่างจ้า แถมมีรุ้งอีกตังหาก นี่สินะ ที่เค้าเรียก "ดินแดนพระอาทิตย์เที่ยงคืน" ...คือถ้าจุดนั้น หนังตายังไม่ลดลงมาจนเกินครึ่ง ลูกกะตายังไม่ปรือ (จากการนอนหลับๆ ตื่นๆ ที่ โรงแรม และการผจญภัย มาตลอดทั้งคืนที่ผ่านมานั้น) ก็คงจะนั่งดื่มด่ำ กับความแปลกใหม่ และความสรรค์สร้างของธรรมชาติ ในอีกซีกโลก ที่เราไม่เคยเจอ และก็จะไม่มีวันได้พบ ถ้าไม่ได้ออกเดินทางมาเห็นกับตาตัวเอง แน่นอน ..แต่จุดนั้น ไม่ไหวแล้วจิงๆ หลับสิค่ะ รออะไร!!!! 5555+

ต่อจากวันนั้น เราก็เริ่มมีเพื่อนข้างห้อง คือมีพี่คนไทย ป.เอก ที่มาแลกเปลี่ยนเหมือนกัน แต่เค้ามาเรียนคณะพยาบาล ของที่นี่ ...แต่วันๆ นี่แทบไม่ได้เจอกัน เพราะว่าพี่เค้าก็งานเยอะ ชอบเก็บตัวอยู่แต่ในห้อง ..ก็เลยไม่ค่อยได้คุยกันหรือไปไหนด้วยกันเท่าไหร่.

ชีวิตเราหลังจากนั้น ก็เริ่มวนเวียน อยู่กับการหาของกินมาตุน 555+ พอเปิดเทอม ก็เริ่มมีเรียน มีเพื่อนใหม่ๆ บ้าง (ส่วนใหญ่ก็จะเป็นเพื่อนที่มาจากการที่มี student tuter คนเดียวกันนี่แหละ เลยมาเป็นเพื่อนกัน) มีกิจกรรมบ้าง อาทิกิจกรรมต้อนรับน้องใหม่ คือเดินเข้าป่า เพื่อไปย่าง บาบีคิวกินกัน ...แอบคิดในใจว่า นี่ต้องขนาดนี้เลยหรอ คือต้องเดินทางเข้าไปในป่าลึก เป็นหลายๆ กิโล เพื่อเอา sausage หรือไส้กรอก ไปย่างๆ แล้วก็ ดื่มด่ำกับบรรยากาศ...แม่เจ้า!! ฮ่าฮ่าฮ่า

แต่ว่าพอได้เดินเข้าไป ตอนขาไปนี่เส้นทางสวยดีนะ เป็นต้นสน รู้สึกให้อารมณ์เหมือนอยู่ในหนังเรื่องแวมไพร์ กันเลย ฮ่าา


เดินผ่านลำธาร แล้วก็จะเข้าไปพบกับสถานที่ สำหรับก่อกองไฟ เพื่อย่าง บาบีคิว ...ข้างๆ ก็จะเป็นกระท่อมเล็กๆ สำหรับเก็บฝึน ..จากนั้น กิจกรรมแรกที่ได้รับมอบหมาย คือ การหา stick เป็นไม้ ก้านยาวๆ เล็กๆ แล้วเอามาหลาวให้ปลายมันแหลม เพื่อมาเสียบกับไส้กรอก แล้วยื่นไปย่างในกองไฟ ...ก็สนุกดีนะ ตอนหาไม้นี่แหละ..พอหาได้ เอาไปย่างก็หัก ต้องหาใหม่ วนเวียน ๆ กว่าจะได้กินดีๆ ก็เปลี่ยนไปหลายอัน 555+

หลังจากนั้น ความมืดก็คืบคลาน เพราะอยู่กันจนถึงตีสองได้ อากาศก็เริ่มหนาว แล้วก็หน๊าววว หนาวว จนสั่น ... สักพักทุกคนก็พากันกลับ ในบรรยากาศที่มืดดดด สนิท ดีนะที่เอาไฟฉายติดไปด้วย ส่องทางกันวิบวับๆ ยังกะอยู่ในเท็ค 55+ แต่คือทางมันมืดมากกกก เดินๆ ไปลื่น เพราะมันเป็นป่าชื้น เพื่อนเราที่เป็นชาวจีน นี่ถึงกับรองเท้าขาดไปเลย เพราะลื่น..

บางวันก็มีการสังสรรค์ โดยการทำกับข้าวกินกันเองบ้าง บางทีโจนัสก็จะนัดเด็กในสังกัดทั้งหมด (ฮ่าา ใช้คำนี้กันเลย) มารวมตัวกันแล้วพากันเดินไปดูทะเลสาบในป่า เดินชมธรรมชาติ บ้านเรือนของที่นี่ เพราะว่าฟินแลนด์เป็นประเทศที่มีทะเลสาบเยอะมากกกก แล้วก็สวยงาม (ยิ่งถ้าตอนหน้าหิมะนะ มันจะแข็งเป็นน้ำแข็งเลยหล่ะ ถึงขั้นเอารถลงไปขับได้เลย ..เด๋วจะแชร์ประสบการณ์เรื่องนี้ให้อ่าน ในตอนต่อๆไปนะคะ)

บางวันทางมหาลัยก็จะจัดกิจกรรม มีคอนเสริต แล้วเด็กๆ ก็จะแต่งตัวตามคณะที่ตนเองอยู่ เป็นสีๆ ไป แล้วมานั่งรวมกลุ่มกัน เพื่อเล่นดนตรี เล่นคอนเสริต (แต่เราไม่มีหรอกนะ ชุดแบบนี้ เพราะมันแพงมากกกก ตั้ง 180 ยูโรแหนะ แค่ค่ารถ 3.17 ยูโร ข้าก็บ่นยังกะหมีกินผึ้งแล้ว เจอค่าชุดเข้าไป ..เก็บตังค์ ไว้กินข้าวเถอะ!!!)

และแล้วสุดสัปดาห์ก็มาถึง เมื่อไม่มีอะไรทำ ก็เริ่มเข้าเมือง เพื่อเดินสำรวจหาร้านอาหารไทยให้เจอ เพราะก่อนหน้านี้ มีอาจารย์ที่มหาลัย แจ้งพิกัดบอกมา และวันก่อนก็สอบถามพี่ที่ร้านขายของไทยมาบ้าง ว่าอยู่ตรงส่วนไหน ...แล้วออกสำรวจโล้ดดด

พอรถจอดในเมืองปุ๊บ สิ่งแรกที่สะดุดตามาก คือ ตลาดนัด ว้าววว คนเพียบเลย (เพราะปกติถ้าไม่ได้ไปมหาลัย ตอนอยู่หอนี่ นึกว่าอยู่คนเดียว เงียบบบ มากกก วันๆ แถบไม่เจอคน) ที่นี่มันอยู่ใจกลางเมือง ที่คนจากหลายๆ มุม เข้ามาจับจ่ายใช้สอย มีทั้งเสื้อผ้า ของกิน ผลไม้ ...เราก็จัดไป อะไรก็ได้ ที่ถูกๆ และอยู่ท้อง เอิ๊กๆ

...เดินไปเดินมาก็ได้ แอปเปิ้ล มาหนึ่งกิโลกรัม ซึ่งเห็นมันแปลกตาดี ลูกมันเล็กมากกก แถมถูกด้วย ..พอได้มาปุ๊บ ก็เดินไปกินไป ผ่านทั้งโบสถ์ สวนสาธารณ แล้วก็มีทางลงไปถึงทะเลสาบเลยด้วย..

ไม่ ไม่ ไม่!! เราจะไม่เถลไถล วันนี้จุดประสงค์หลัก คือการตามหาร้านอาหารไทย

แหละแล้วก็เจอ ร้านอาหารไทยแว้ววว.. ฟินที่สุด ในฟินแลนด์ก็นี่แหละ ..เพราะพอเข้าไปที่ร้าน สิ่งแรกที่ได้ยินคือเพลงไทย ฟินสุด ๆ แถมพี่เจ้าของร้าน กับลุงที่เป็นเชฟอยู่ที่นั่น น่าร๊ากกกก มากกก พี่ทำกับข้าวให้กิน แล้วยังเอากับข้าวใส่ถุง ให้เรามากินที่หอด้วยยยย จำได้เลย ว่าเค้าผัดกระเพา ให้กิน อาหารพื้นๆ แต่ความอร่อยเกินบรรยาย สุดๆ อะไรจะดีแบบนี้ๆๆๆ เพราะแต่ละวันที่ผ่านมานั้น กินแต่มาม่า แล้วก็กับข้าวฝีมือตัวเอง (ที่ไม่น่าจะเป็นกับข้าวได้) มาหลายวัน วันนี้ ก็ลาบปากไปเลยอะสิ อยากจินอนซะที่นั่นเลยจิงๆ 55+

ติดตามตอนต่อไปลิ้งนี้คะ >>https://pantip.com/topic/36896678/comment1-1
ชื่อสินค้า:   ประเทศฟินแลนด์, นักเรียนไทยในต่างแดน, ผจญภัยในต่างแดน,นักเรียนแลกเปลี่ยน
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่