เชื่อว่านักลงทุนรายย่อยอย่างเราๆ ต้องเคยฟัง เคยอ่าน และเคยทำตามบทวิเคราะห์ พวกคำแนะนำซื้อขายหุ้น ของนักวิเคราะห์มืออาชีพอย่างแน่นอน แต่มีใครเคยสงสัยบ้างไหมครับว่าคำแนะนำพวกนี้มันแม่นแค่ไหน?
จากประสบการณ์ของผม นักวิเคราะห์มืออาชีพไม่ว่าจะในหรือนอกประเทศ มีความสามารถอย่างมากในการอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้นในอดีต กับปัจจุบัน เช่น ภาวะเศรษฐกิจ สิ่งที้เกิดขึ้นแล้ว และกระทบกับราคาหุ้น ทำไมหุ้นถึงขึ้น หรือลง… แต่ความสามาถในการคาดการณ์อนาคตว่าหุ้นจะไปทิศทางไหน หรือราคาเป้าหมายเป็นเท่าไร นั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่งเลย
ในปี 2012 มีการศึกษาคำแนะนำของนักวิเคราะห์หุ้นมืออาชีพ 11,000 คนจาก 41 ประเทศ พบว่าโอกาสที่หุ้นจะวิ่งไปสู่ราคาเป้าหมาย (Target Price) อยู่ที่ 18% ในระยะเวลา 3 เดือน และ 30% ในระยะเวลา 12 เดือนเท่านั้น เรียกว่าถูกไม่ถึงครึ่ง โดยผมคิดว่าสาเหตุหลักๆ สองข้อคือ
1. รายได้ส่วนใหญ่ของนักวิเคราะห์ (ฝั่ง Sell-side) และโบร้กเก้อ ผูกอยู่กับค่าคอมมิสชั่น ดังนั้นคำแนะนำที่ให้นั้น ย่อมมีความขัดแย้งระหว่าง “ความแม่นยำ” กับ “ความสามารถในการกระตุ้นยอดเทรด”
2. เราอาจมีความสามารถวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานของหุ้นได้ว่าดีหรือไม่ดี และพอจะประเมินได้ว่าราคาหุ้นตัวนั้นถูกหรือแพง แต่ว่าการจะบอกว่าในระยะสั้นๆ เช่น อีกหนึ่งปีหุ้นตัวนี้จะวิ่งไปเท่านั้นเท่านี้ เป็นเรื่องที่แทบเป็นไปไม่ได้ ต่อให้ใช้เครื่องมือทางเทคนิคมาช่วยก็ตาม
ถึงยังไงผมว่าบทวิเคราะห์ก็มีประโยชน์ของมัน นักวิเคราะห์บางคนติดตามหุ้นบางกลุ่ม จนมีความรู้ ความเข้าใจในกิจการของหุ้นเหล่านั้นเป็นอย่างดี บางคนอาจจะเข้าใจกิจการ หรืออุตสาหกรรมมากกว่าผู้บริหารบริษัทนั้นด้วยซ้ำ ผมคิดว่าข้อมูลจากรายงานของนักวิเคราะห์เหล่านี้ สามารถนำไปใช้ศึกษาต่อด้วยตัวเอง เพื่อประกอบการตัดสินใจลงทุนได้เป็นอย่างดีครับ
เพื่อนๆ สมาชิกล่ะครับ คิดว่าอย่างไรกันบ้าง
บทวิเคราะห์หุ้นเชื่อได้หรือเปล่า?
จากประสบการณ์ของผม นักวิเคราะห์มืออาชีพไม่ว่าจะในหรือนอกประเทศ มีความสามารถอย่างมากในการอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้นในอดีต กับปัจจุบัน เช่น ภาวะเศรษฐกิจ สิ่งที้เกิดขึ้นแล้ว และกระทบกับราคาหุ้น ทำไมหุ้นถึงขึ้น หรือลง… แต่ความสามาถในการคาดการณ์อนาคตว่าหุ้นจะไปทิศทางไหน หรือราคาเป้าหมายเป็นเท่าไร นั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่งเลย
ในปี 2012 มีการศึกษาคำแนะนำของนักวิเคราะห์หุ้นมืออาชีพ 11,000 คนจาก 41 ประเทศ พบว่าโอกาสที่หุ้นจะวิ่งไปสู่ราคาเป้าหมาย (Target Price) อยู่ที่ 18% ในระยะเวลา 3 เดือน และ 30% ในระยะเวลา 12 เดือนเท่านั้น เรียกว่าถูกไม่ถึงครึ่ง โดยผมคิดว่าสาเหตุหลักๆ สองข้อคือ
1. รายได้ส่วนใหญ่ของนักวิเคราะห์ (ฝั่ง Sell-side) และโบร้กเก้อ ผูกอยู่กับค่าคอมมิสชั่น ดังนั้นคำแนะนำที่ให้นั้น ย่อมมีความขัดแย้งระหว่าง “ความแม่นยำ” กับ “ความสามารถในการกระตุ้นยอดเทรด”
2. เราอาจมีความสามารถวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานของหุ้นได้ว่าดีหรือไม่ดี และพอจะประเมินได้ว่าราคาหุ้นตัวนั้นถูกหรือแพง แต่ว่าการจะบอกว่าในระยะสั้นๆ เช่น อีกหนึ่งปีหุ้นตัวนี้จะวิ่งไปเท่านั้นเท่านี้ เป็นเรื่องที่แทบเป็นไปไม่ได้ ต่อให้ใช้เครื่องมือทางเทคนิคมาช่วยก็ตาม
ถึงยังไงผมว่าบทวิเคราะห์ก็มีประโยชน์ของมัน นักวิเคราะห์บางคนติดตามหุ้นบางกลุ่ม จนมีความรู้ ความเข้าใจในกิจการของหุ้นเหล่านั้นเป็นอย่างดี บางคนอาจจะเข้าใจกิจการ หรืออุตสาหกรรมมากกว่าผู้บริหารบริษัทนั้นด้วยซ้ำ ผมคิดว่าข้อมูลจากรายงานของนักวิเคราะห์เหล่านี้ สามารถนำไปใช้ศึกษาต่อด้วยตัวเอง เพื่อประกอบการตัดสินใจลงทุนได้เป็นอย่างดีครับ
เพื่อนๆ สมาชิกล่ะครับ คิดว่าอย่างไรกันบ้าง