คอลัมน์ ชกไม่มีมุม : แซนด์วิชร้อยศพ
https://www.khaosod.co.th/newspaper-column/blunt-opinion/news_503775
ทำให้นึกถึงตัวอย่างสมมุติอีกเรื่องหนึ่งครับ นั่นคือเรื่อง "นักกฎหมายผู้ยิ่งใหญ่"
มีตักศิลาด้านกฎหมายทนายความสำนักหนึ่ง
โฆษณาว่า ใครที่จบกฎหมายเป็นทนายความจากสำนักนี้ ไม่มีทางว่าความแพ้คดี
ให้เรียนฟรี ว่าความคดีแรกชนะแล้วค่อยจ่ายค่าเรียน
หากว่าความคดีแรกแพ้ ไม่ต้องจ่ายค่าเรียนสักบาท เพื่อบอกว่า สำนักกฎหมายนี้ดีจริง มีเงื่อนไขรับประกัน
นักศึกษาคนหนึ่ง ร่ำเรียนจนจบทนายความ พร้อมประกาศว่า ไม่มีทางจะยอมจ่ายเงินค่าเรียนให้
พร้อมกับทำเรื่องฟ้องต่อศาล และขอว่าความเองเป็นคดีแรกว่า สำนักกฎหมายแห่งนี้มีข้อบกพร่องมากมาย
ไม่ควรได้เงินค่าเรียนจากนักศึกษาแม้สักบาทเดียว
เป็นเรื่องสิครับ
ถ้านักศึกษาแพ้คดี ก็ไม่ต้องจ่ายค่าเรียน เพราะเป็นเงื่อนไขของสำนักกฎหมายเอง
ถ้านักศึกษาชนะคดี ก็ไม่ต้องจ่ายเพราะชนะฟ้อง
ตักศิลาด้านกฎหมายได้แต่มึนตึ๊บ
ยุคนี้ สังคมไทยเป็นสังคม "นิติวิธี" ที่หอมหวานซะเหลือเกินครับ
แต่จะหอมหวานสำหรับใครนั้น ไม่รู้
เช่น คืนแล้ว ไม่มีเจตนา ไม่ฟ้อง หรือ เมาหลังขับ ไม่มีข้อหาเมาแล้วขับชนตำรวจตาย ฯลฯ
โดยหลักการ นิติวิธี ก็คือการเดินสู่ความยุติธรรมด้วยการใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือ
แต่สำหรับบางที่ กลับกลายเป็นเรื่อง "ชั้นเชิง" ด้านกฎหมายไปซะ
จนถึงกับร้องว่าเป็นเรื่องอภินิคูณอภินิหารทางกดหมงกฎหมายอะไรไปนั่นแหละครับ
และตอนนี้ กำลังมีคดีลูกชายนักการเมืองคนหนึ่ง เกี่ยวกับเรื่องกู้ธนาคารกรุงไทยนั่นแหละครับ
สนุกดี
ครับ อ่านคอลัมน์ชกไม่มีมุม "แซนด์วิชร้อยศพ" แล้วก็หัวเราะก๊าก นี่แหละครับ สังคมยุค "นิติวิธี" อันหอมหวาน
https://www.khaosod.co.th/newspaper-column/blunt-opinion/news_503775
ทำให้นึกถึงตัวอย่างสมมุติอีกเรื่องหนึ่งครับ นั่นคือเรื่อง "นักกฎหมายผู้ยิ่งใหญ่"
มีตักศิลาด้านกฎหมายทนายความสำนักหนึ่ง
โฆษณาว่า ใครที่จบกฎหมายเป็นทนายความจากสำนักนี้ ไม่มีทางว่าความแพ้คดี
ให้เรียนฟรี ว่าความคดีแรกชนะแล้วค่อยจ่ายค่าเรียน
หากว่าความคดีแรกแพ้ ไม่ต้องจ่ายค่าเรียนสักบาท เพื่อบอกว่า สำนักกฎหมายนี้ดีจริง มีเงื่อนไขรับประกัน
นักศึกษาคนหนึ่ง ร่ำเรียนจนจบทนายความ พร้อมประกาศว่า ไม่มีทางจะยอมจ่ายเงินค่าเรียนให้
พร้อมกับทำเรื่องฟ้องต่อศาล และขอว่าความเองเป็นคดีแรกว่า สำนักกฎหมายแห่งนี้มีข้อบกพร่องมากมาย
ไม่ควรได้เงินค่าเรียนจากนักศึกษาแม้สักบาทเดียว
เป็นเรื่องสิครับ
ถ้านักศึกษาแพ้คดี ก็ไม่ต้องจ่ายค่าเรียน เพราะเป็นเงื่อนไขของสำนักกฎหมายเอง
ถ้านักศึกษาชนะคดี ก็ไม่ต้องจ่ายเพราะชนะฟ้อง
ตักศิลาด้านกฎหมายได้แต่มึนตึ๊บ
ยุคนี้ สังคมไทยเป็นสังคม "นิติวิธี" ที่หอมหวานซะเหลือเกินครับ
แต่จะหอมหวานสำหรับใครนั้น ไม่รู้
เช่น คืนแล้ว ไม่มีเจตนา ไม่ฟ้อง หรือ เมาหลังขับ ไม่มีข้อหาเมาแล้วขับชนตำรวจตาย ฯลฯ
โดยหลักการ นิติวิธี ก็คือการเดินสู่ความยุติธรรมด้วยการใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือ
แต่สำหรับบางที่ กลับกลายเป็นเรื่อง "ชั้นเชิง" ด้านกฎหมายไปซะ
จนถึงกับร้องว่าเป็นเรื่องอภินิคูณอภินิหารทางกดหมงกฎหมายอะไรไปนั่นแหละครับ
และตอนนี้ กำลังมีคดีลูกชายนักการเมืองคนหนึ่ง เกี่ยวกับเรื่องกู้ธนาคารกรุงไทยนั่นแหละครับ
สนุกดี