สวัสดีค่ะ วันนี้เราจะมารีวิวสถานที่เที่ยวที่อยู่ใกล้ๆกรุงเทพ มีเวลาแค่ เสาร์-อาทิตย์ก็เที่ยวได้
นั่นก็คือ บางแสน จ.ชลบุรี นั่นเอง ไปค่ะ เริ่มกันเลยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
ออกเดินทางเช้าวันเสาร์ ประมาณ 9 โมง ทริปนี้เราขับรถส่วนตัวไปนะคะ ไปทางมอเตอร์เวย์ค่ะ
ขับไปเรื่อยๆ บนถนนทางหลวงหมายเลข 7 (ตามป้ายที่เขียนว่าชลบุรีไปค่ะ) เสียค่าผ่านทาง ทั้งหมด 2 ด่าน คือด่านทับช้าง 30 บาท และด่านพานทองอีก 60 บาท
ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชั่วโมง ก็ถึงบางแสนแล้วค่ะ
ที่แรกที่เราจะไปกันก็คือ แกรนด์แคนยอน ชลบุรี หรือ แกรนด์แคนยอนคีรี นั่นเอง
สถานที่ตั้ง ตั้งอยู่ ซอยคีรีนคร 8/1 ข้ามทางรถไฟแล้วเลี้ยวขวา จะเจอกับที่ฝากรถ
รถยนต์ 20 บาท มอเตอร์ไซต์ 10 บาท
ฝากแล้วก็เดินตามทางเข้าไปเลยจ้า
ช่วงเวลาที่เราไปถึง คือประมาณ 11.30 น. แดดเปรี้ยงมากจ้า
แต่ก็มีคนทยอยมากันเรื่อยๆ นะคะ ทั้งนักท่องเที่ยวทั่วไป ทั้งมาถ่ายรูปรับปริญญา มากันจัดเต็มมากๆค่ะ
ถึงแล้วค่ะ จะมีรั้วเหล็กแดงกั้นไว้ จากนั้นจะเป็นเหวลึกลงไปมากกว่า 200 เมตร เชียวนะ !!! ระมัดระวังกันด้วยนะทุกคน อย่ามัวแต่ถ่ายรูปกันเพลิน ด้วยความปรารถนาดีจากใจ <3
บริเวณรอบๆ ก็มีมุมถ่ายรูปเยอะมากๆ ค่ะ
ทั้งรางรถไฟ (ระวังรถไฟกันด้วยนะคะ) ทั้งกองหินขาว ลั่นชัตเตอร์กันรัวๆ ค่ะ
หลังจากที่ถ่ายรูปกันจนหนำใจ และผิวไหม้เกรียมกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว T_________________T
เราก็ขับรถไปต่อกันที่ศูนย์ศึกษาธรรมชาติและอนุรักษ์ป่าชายเลน (เราขับตาม Google Map ไปนะคะ)
(ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
http://www.saensukcity.com/%E0%B8%9B%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%99%E0%B8%8A%E0%B8%A5%E0%B8%9A%E0%B8%B8%E0%B8%A3%E0%B8%B5.html)
ที่นี่เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศ เที่ยวชมความสวยงามของป่าไม้ชายเลน ทางเดินสะพานไม้ที่โอบล้อมไปด้วยต้นโกงกางที่มีความยาวกว่า 2 กิโลเมตร ซึ่งยาวที่สุดในประเทศไทย
เปิดบริการทุกวัน ไม่เว้นวันหยุดราชการ ตั้งแต่เวลา 08.30-18.30 น.ที่สำคัญเข้าฟรีค่ะ !!!
เราว่าที่นี่จะคล้ายๆ กับ ทุ่งโปร่งทอง ที่จ.ระยอง แต่ไม่ต้องไปไกลถึงระยองค่ะ มันดีตรงนี้
เรามาเจอคุณลุงคนหนึ่ง เค้ากำลังหว่านลูกแสมอยู่ค่ะ เลยเข้าไปพูดคุย และช่วยแกหว่านลูกแสมด้วย
ตลอดเส้นทางเราจะพบกับความหลากหลายของระบบนิเวศของป่าชายเลนเลยค่ะ
ปลาตีนที่นี่ตัวใหญ่มากๆ
นกนางนวลก็มี
ค้างคาวก็มา
*แต่ระหว่างทางเดินสะพานไม้ มีบางจุดที่ไม้ผุพังนะคะ ควรเดิมเที่ยวชมด้วยความระมัดระวัง
เราใช้เวลาอยู่ที่นี่เกือบๆ 2 ชั่วโมงเลยค่ะ
จากนั้นเราก็ขับไปเขาสามมุขกัน
บนนี้ลิงเยอะมากจริงๆ ค่ะ แต่ละตัวแสบๆ ทั้งนั้น 55555555
มาเขาสามมุขก็ต้องแวะไหว้ศาลเจ้าแม่สามมุขสิคะ ไม่งั้นเดี๊ยวจะหาว่ามาไม่ถึงนะ
เขาไปก็ซื้อดอกไม้ธูปเทียนบูชา แล้วจะมีคนคอยบอกตลอดค่ะ ว่าต้องไหว้อันไหนก่อนหลัง
บนนี้มีจุดให้ไหว้หลายจุดมากๆค่ะ เราแนะนำว่าไม่ต้องจุดธูปทีเดียวทั้งหมดนะคะ ค่อยๆจุดทีละ 3 ดอก แต่ละจุดก็พอค่ะ
หลังจากไหว้พระขอพรกันแล้ว เราก็ไปเช็คอินเข้าที่พักกันค่ะ
ทริปนี้เราพักกันที่ Sea Sand Trees เป็นโรงแรมเล็กๆ อยู่ถนนเรียบหาดวอนนภา
ค่าห้องแบบ Seaview รวมอาหารเช้าอยู่ที่ 1500 บาทเองแกรรรร พนักงานจะถามเราว่าจะรับอาหารเช้ากี่โมง ตั้งแต่ 8.00-10.00 น. เราก็แจ้งไปค่ะ (จะมีค่ามัดจำกุญแจอีก 500 บาท ซึ่งจะได้คืนตอนเช็คเอ้าท์ค่ะ)
จ่ายตังเรียบร้อยพนักงานก็จะมาเราไปที่ห้อง ก่อนจะขึ้นห้องจะต้องเปลี่ยนรองเท้าก่อนนะคะ จะมีตู้ล็อคเกอร์ให้เก็บรองเท้าเปลี่ยนค่ะ จากนั้นก็ขึ้นห้องกันเลยยย เราได้ห้องชั้น 3 ที่นี่ไม่มีลิฟต์นะคะ ใครจะพาผู้สูงอายุมาพักก็อาจจะต้องเตรียมใจนิดนึง
แท้แด นี่คือวิวห้องพักเราค่ะ
มันดีงามใช่ไหมล่ะแก ,, แต่ชายหาดหน้าที่พักไม่สามารถลงเล่นน้ำได้นะคะ เป็นที่ที่ชาวประมงไว้จอดเรือ และออกหาปลากันค่ะ
จากนั้นเราก็พักผ่อนกันตามอัธยาศัย อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้ากันไป
พอแดดร่มลมตก ใกล้เวลาพระอาทิตย์ตก เราก็ไปสะพานปลากันค่ะอยู่ใกล้ๆที่พักเราเลย เดินไปนิดเดียวก็ถึง
ใกล้ๆ สะพานปลาจะมีสวนสาธารณะค่ะ เด็กๆมาเล่น rollerblade กันเต็มเลย
ถ่ายรูปกันจนเหนื่อยเริ่มหิวแล้วค่ะ เราไปหาของกินกันที่ถนนคนเดิน ซึ่งจะมีทุกวันเสาร์นะคะ (ไม่มีรูปนะคะ หิวจนตาลายค่ะ)
จบสำหรับทริปวันแรกค่ะ ฝันดี ราตรีสวัสดิ์ zZZ
เช้าวันอาทิตย์ที่แสนสดใส หลังจากพักผ่อนกันเต็มที่แล้ว
ประมาณ 8.00 น. เราก็ตื่นมาอาบน้ำแต่งตัว เตรียมลงไปทานอาหารเช้าที่นัดไว้ตอน 9.00 น.
แต่ประมาณ 8.45 น.ก็มีคนมาเคาะประตูห้องเราค่ะ พอเปิดออกก็เป็นพี่พนักงานเอาอาหารเช้ามาเสริฟค่ะ
เสริฟถึงห้องพักกันเลยทีเดียว แต่เราบอกว่าขอลงไปทานข้างล่างค่ะ
อิ่มท้องแล้วก็ทำการเช็คเอ้าท์ คืนมัดจำกุญแจกันเรียบร้อย
เราก็ออกเดินทางไปอ่างเก็บน้ำบางพระกันค่ะ
ที่นี่มีมุมถ่ายรูปเยอะมากกกกกกก เลือกเอาตามใจชอบเลยค่ะ
เห็นคนเอาจักรยานมาปั่นกันชิลๆเยอะเลย แต่เราว่าถ้าไปช่วงเช้าๆ หรือเย็นๆ ไปเลยคงจะฟินน่าดู
ภารกิจสุดท้ายก่อนกลับกรุงเทพฯ นั่นก็คือแวะซื้อของฝากที่ตลาดหนองมนค่ะ
เราไปถึงก็ได้เวลาอาหารกลางวันพอดี เลยจัดเย็นตาโฟ ร้าน เย็นตาโฟกั้งแม่เจริญหนองมน
เราสั่งเย็นตาโฟกั้งหม้อไฟ ถ้วยนี้ราคา 250 บาทค่ะ (รูปในเมนูแอบดูใหญ่กว่าความเป็นจริงที่ได้ค่ะ --*)
จากนั้นก็ซื้อของฝากและมุ่งตรงกลับสู่กรุงเทพมหานครกันคร้า....
เป็นอันจบทริปบางแสน 2 วัน 1 คืน ของเรา
แล้วเจอกันใหม่ ณ บางแสน
[CR] บางแสน ไม่มีแฟนก็ไปได้
นั่นก็คือ บางแสน จ.ชลบุรี นั่นเอง ไปค่ะ เริ่มกันเลยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
ออกเดินทางเช้าวันเสาร์ ประมาณ 9 โมง ทริปนี้เราขับรถส่วนตัวไปนะคะ ไปทางมอเตอร์เวย์ค่ะ
ขับไปเรื่อยๆ บนถนนทางหลวงหมายเลข 7 (ตามป้ายที่เขียนว่าชลบุรีไปค่ะ) เสียค่าผ่านทาง ทั้งหมด 2 ด่าน คือด่านทับช้าง 30 บาท และด่านพานทองอีก 60 บาท
ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชั่วโมง ก็ถึงบางแสนแล้วค่ะ
ที่แรกที่เราจะไปกันก็คือ แกรนด์แคนยอน ชลบุรี หรือ แกรนด์แคนยอนคีรี นั่นเอง
สถานที่ตั้ง ตั้งอยู่ ซอยคีรีนคร 8/1 ข้ามทางรถไฟแล้วเลี้ยวขวา จะเจอกับที่ฝากรถ
รถยนต์ 20 บาท มอเตอร์ไซต์ 10 บาท
ฝากแล้วก็เดินตามทางเข้าไปเลยจ้า
ช่วงเวลาที่เราไปถึง คือประมาณ 11.30 น. แดดเปรี้ยงมากจ้า
แต่ก็มีคนทยอยมากันเรื่อยๆ นะคะ ทั้งนักท่องเที่ยวทั่วไป ทั้งมาถ่ายรูปรับปริญญา มากันจัดเต็มมากๆค่ะ
ถึงแล้วค่ะ จะมีรั้วเหล็กแดงกั้นไว้ จากนั้นจะเป็นเหวลึกลงไปมากกว่า 200 เมตร เชียวนะ !!! ระมัดระวังกันด้วยนะทุกคน อย่ามัวแต่ถ่ายรูปกันเพลิน ด้วยความปรารถนาดีจากใจ <3
บริเวณรอบๆ ก็มีมุมถ่ายรูปเยอะมากๆ ค่ะ
ทั้งรางรถไฟ (ระวังรถไฟกันด้วยนะคะ) ทั้งกองหินขาว ลั่นชัตเตอร์กันรัวๆ ค่ะ
หลังจากที่ถ่ายรูปกันจนหนำใจ และผิวไหม้เกรียมกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว T_________________T
เราก็ขับรถไปต่อกันที่ศูนย์ศึกษาธรรมชาติและอนุรักษ์ป่าชายเลน (เราขับตาม Google Map ไปนะคะ)
(ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่http://www.saensukcity.com/%E0%B8%9B%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%99%E0%B8%8A%E0%B8%A5%E0%B8%9A%E0%B8%B8%E0%B8%A3%E0%B8%B5.html)
ที่นี่เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศ เที่ยวชมความสวยงามของป่าไม้ชายเลน ทางเดินสะพานไม้ที่โอบล้อมไปด้วยต้นโกงกางที่มีความยาวกว่า 2 กิโลเมตร ซึ่งยาวที่สุดในประเทศไทย
เปิดบริการทุกวัน ไม่เว้นวันหยุดราชการ ตั้งแต่เวลา 08.30-18.30 น.ที่สำคัญเข้าฟรีค่ะ !!!
เราว่าที่นี่จะคล้ายๆ กับ ทุ่งโปร่งทอง ที่จ.ระยอง แต่ไม่ต้องไปไกลถึงระยองค่ะ มันดีตรงนี้
เรามาเจอคุณลุงคนหนึ่ง เค้ากำลังหว่านลูกแสมอยู่ค่ะ เลยเข้าไปพูดคุย และช่วยแกหว่านลูกแสมด้วย
ตลอดเส้นทางเราจะพบกับความหลากหลายของระบบนิเวศของป่าชายเลนเลยค่ะ
ปลาตีนที่นี่ตัวใหญ่มากๆ
นกนางนวลก็มี
ค้างคาวก็มา
*แต่ระหว่างทางเดินสะพานไม้ มีบางจุดที่ไม้ผุพังนะคะ ควรเดิมเที่ยวชมด้วยความระมัดระวัง
เราใช้เวลาอยู่ที่นี่เกือบๆ 2 ชั่วโมงเลยค่ะ
จากนั้นเราก็ขับไปเขาสามมุขกัน
บนนี้ลิงเยอะมากจริงๆ ค่ะ แต่ละตัวแสบๆ ทั้งนั้น 55555555
มาเขาสามมุขก็ต้องแวะไหว้ศาลเจ้าแม่สามมุขสิคะ ไม่งั้นเดี๊ยวจะหาว่ามาไม่ถึงนะ
เขาไปก็ซื้อดอกไม้ธูปเทียนบูชา แล้วจะมีคนคอยบอกตลอดค่ะ ว่าต้องไหว้อันไหนก่อนหลัง
บนนี้มีจุดให้ไหว้หลายจุดมากๆค่ะ เราแนะนำว่าไม่ต้องจุดธูปทีเดียวทั้งหมดนะคะ ค่อยๆจุดทีละ 3 ดอก แต่ละจุดก็พอค่ะ
หลังจากไหว้พระขอพรกันแล้ว เราก็ไปเช็คอินเข้าที่พักกันค่ะ
ทริปนี้เราพักกันที่ Sea Sand Trees เป็นโรงแรมเล็กๆ อยู่ถนนเรียบหาดวอนนภา
ค่าห้องแบบ Seaview รวมอาหารเช้าอยู่ที่ 1500 บาทเองแกรรรร พนักงานจะถามเราว่าจะรับอาหารเช้ากี่โมง ตั้งแต่ 8.00-10.00 น. เราก็แจ้งไปค่ะ (จะมีค่ามัดจำกุญแจอีก 500 บาท ซึ่งจะได้คืนตอนเช็คเอ้าท์ค่ะ)
จ่ายตังเรียบร้อยพนักงานก็จะมาเราไปที่ห้อง ก่อนจะขึ้นห้องจะต้องเปลี่ยนรองเท้าก่อนนะคะ จะมีตู้ล็อคเกอร์ให้เก็บรองเท้าเปลี่ยนค่ะ จากนั้นก็ขึ้นห้องกันเลยยย เราได้ห้องชั้น 3 ที่นี่ไม่มีลิฟต์นะคะ ใครจะพาผู้สูงอายุมาพักก็อาจจะต้องเตรียมใจนิดนึง
แท้แด นี่คือวิวห้องพักเราค่ะ
มันดีงามใช่ไหมล่ะแก ,, แต่ชายหาดหน้าที่พักไม่สามารถลงเล่นน้ำได้นะคะ เป็นที่ที่ชาวประมงไว้จอดเรือ และออกหาปลากันค่ะ
จากนั้นเราก็พักผ่อนกันตามอัธยาศัย อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้ากันไป
พอแดดร่มลมตก ใกล้เวลาพระอาทิตย์ตก เราก็ไปสะพานปลากันค่ะอยู่ใกล้ๆที่พักเราเลย เดินไปนิดเดียวก็ถึง
ใกล้ๆ สะพานปลาจะมีสวนสาธารณะค่ะ เด็กๆมาเล่น rollerblade กันเต็มเลย
ถ่ายรูปกันจนเหนื่อยเริ่มหิวแล้วค่ะ เราไปหาของกินกันที่ถนนคนเดิน ซึ่งจะมีทุกวันเสาร์นะคะ (ไม่มีรูปนะคะ หิวจนตาลายค่ะ)
จบสำหรับทริปวันแรกค่ะ ฝันดี ราตรีสวัสดิ์ zZZ
เช้าวันอาทิตย์ที่แสนสดใส หลังจากพักผ่อนกันเต็มที่แล้ว
ประมาณ 8.00 น. เราก็ตื่นมาอาบน้ำแต่งตัว เตรียมลงไปทานอาหารเช้าที่นัดไว้ตอน 9.00 น.
แต่ประมาณ 8.45 น.ก็มีคนมาเคาะประตูห้องเราค่ะ พอเปิดออกก็เป็นพี่พนักงานเอาอาหารเช้ามาเสริฟค่ะ
เสริฟถึงห้องพักกันเลยทีเดียว แต่เราบอกว่าขอลงไปทานข้างล่างค่ะ
อิ่มท้องแล้วก็ทำการเช็คเอ้าท์ คืนมัดจำกุญแจกันเรียบร้อย
เราก็ออกเดินทางไปอ่างเก็บน้ำบางพระกันค่ะ
ที่นี่มีมุมถ่ายรูปเยอะมากกกกกกก เลือกเอาตามใจชอบเลยค่ะ
เห็นคนเอาจักรยานมาปั่นกันชิลๆเยอะเลย แต่เราว่าถ้าไปช่วงเช้าๆ หรือเย็นๆ ไปเลยคงจะฟินน่าดู
ภารกิจสุดท้ายก่อนกลับกรุงเทพฯ นั่นก็คือแวะซื้อของฝากที่ตลาดหนองมนค่ะ
เราไปถึงก็ได้เวลาอาหารกลางวันพอดี เลยจัดเย็นตาโฟ ร้าน เย็นตาโฟกั้งแม่เจริญหนองมน
เราสั่งเย็นตาโฟกั้งหม้อไฟ ถ้วยนี้ราคา 250 บาทค่ะ (รูปในเมนูแอบดูใหญ่กว่าความเป็นจริงที่ได้ค่ะ --*)
จากนั้นก็ซื้อของฝากและมุ่งตรงกลับสู่กรุงเทพมหานครกันคร้า....
เป็นอันจบทริปบางแสน 2 วัน 1 คืน ของเรา
แล้วเจอกันใหม่ ณ บางแสน