คุณเคยคิดไหมว่าวันหนึ่งคุณจะเสียอะไรบางอย่างไปแบบไม่ได้ตั้งใจ เป็นจุดที่พลิกชีวิต
เช้าวันหนึ่งคุณอาจจะไปทำงานปกติ แต่ไปไม่ถึง
เช้าวันหนึ่งคุณออกจากที่ทำงานมาอย่าง่วงนอน เพื่อจะกลับไปนอนกับครอบครัวที่บ้าน แต่กลับไม่ถึง
เย็นวันหนึ่งคุณนัดครอบครัวเพื่อจะไปกินข้าวหลังคุณเลิกงาน แต่ก็ไม่ได้ไป
ในเช้าวันหนึ่งของผมหลังจากเลิกงานตามปกติ ส่งกะให้เพื่อนที่จะมาทำแทนในกะเช้าเรียบร้อย ก็ขับมอไซคู่ใจกลับบ้านตามปกติเพื่อกลับไปเล่นกับสุนัขไซ หอมภรรยา และลงนอนในเตียงที่คุ้นเคยเหมือนปกติที่วันที่เข้ากะดึก แต่เช้าวันนั้นไม่เป็นอย่างที่คิด ขณะขี่มอไซในเลนปกติ มีรถสวนเลนขึ้นมาเพื่อแซงผมก็หลบตามปกติ ซึางคุณคิดไหมปกติของผมที่ว่า คือผมหลบลงเหยียบเส้นขาวเลยนะครับหักอีกนิดก็ลงป่า คันที่ 1 ผ่านไป คันที่ 2 ตามมาขณะที่ผมก็อยู่ไหล่ทางที่ใกล้ๆเส้นขาว คันที่ 3 ตามมาซึ่งผมไม่เห็นว่าทีคันที่ 3 ซึ่งเป็นกับะยอดฮิตเรนเจอร์ ได้เฉี่ยวกับผมซึ่งได้เบี่ยงรถออกหลบ ผมโล่งใจที่รถไม่ล้ม ถึงแม้ว่าแฮนจะส่ายไปมาๆอย่างรุนแรง ทันใดนั้นผมรู้สึกได้ว่าเจ็บๆชาๆที่เท้า ผมหันขวาก้มมองลงไผในใจคิดเพียงว่าแผลข่วนเล็กๆน้อยๆ แต่ที่เห็นมันไม่ใช่!!! ผมหันไปเจอกระดูกหน้าแข้ง เนื้อหนังที่ลุ่ยๆ และกางเกงที่ขาด ผมสติแตกไปช่วงระยะเวลานึงตะโกนเหมือนคนบ้าจนเจ็บคอ ผมประคองรถจอดใช้เท้าซ้ายเหยียบไปที่พื้นและโทรหาภรรยาเป็นคนแรก ภรรยากำลังท้องแก่ใกล้คลอด เมื่อภรรยารับสายสิ่งที่ผมพูดขึ้น "A ตอนนี้B รถชนขาขาด เค้าขาขาด B จะต้องพิการ เค้าขาขาด (ด้วยน้ำเสียงที่สติแตก)" ในขณะเดียวกันผมชูมือขวาขึ้นและเรียกรถอีกเลนที่สวนไป มา ให้ช่วย แต่ก็ยังไม่มีใครจอด ผ่านไป 3-4 คัน จนคันที่ 5 ท่านนั้นขับกะบะคล้ายๆทาทา สีขาวรีบลงจากรถมาพร้อมกดโทรศัพท์แนบหู รีบมองซ้าย ขวา วิ่งเข้ามาหาผม ผมดีใจมาก ทันใดนั้นคันที่ได้เฉี่ยวผมได้ยูเทิร์นกลับมา ผมก็ดีใจเช่นกันที่เค้าไม่หนี ผมพูดว่า"พี่ไม่ต้องมาดูผม ไปหาขาให้ผม แล้วรีบเอาไปแช่น้ำแข็ง" หลังจากนั้นดับเครื่องยนตร์ และตั้งขาตั้งแต่ไม่สามารถตั้งได้เมื่อเอียงรถไปทางขวาเพื่อเอาเท้าซ้ายเตะขาตั้ง รถล้มทันทีเพราะไม่มีเท้าขวายันผมเสียเลือด ผมมึนหัว ไม่อยากพูดอะไร เหมือนไม่มีแรง คนที่ผ่านไปมาจอดนำเชือกมามัดห้ามเลือด พ่อ แม่ และภรรยามา ญาติมา สิ่งที่รอ กู้ภัยก็มา นำสำลี ผ้าต่างๆมาห้ามเลือด และนำผมขึ้นเปล แต่ไม่สามารถพาผมไปโรงพยาบาลได้เนื่องจากที่เกิดเหตุอยู่อีกเขตหนึ่งจึงรอกู้ภัยอีกเขตหนึ่ง ในขณะรอคนที่ผมไล่ไปหาขากลับมาบอกว่าหาไม่เจอ ผมจึงบอกไปว่า "ไปหาใหม่อยู่ในป่านั้นหละ" สุดท้ายผู้ที่จอดรถช่วยหาเจอ นำไปใส่ถุงแช่น้ำแข็ง ในหัวผมเริ่มคิดถึงค่ารักษา ผมตะโกนบอกพ่อ "ติดต่อประกันด้วย เบอร์อยู่ที่ชิลหน้ารถ" ผมพูดดังเหือกใหญ่ก่อนกู้ภัยในเขตมา แต่ยังไม่ไปเพราะจะให้ไปโรงพยาบาลใกล้ที่สุด ซึ่ง รพ รัฐ ผมเคยประสบณ์เหตุแล้วไปมาแล้วปีก่อนซึ่งดินเต็มแผลแต่กลับเย็บให้คุณคิดดูถ้าครั้งนี้ไปอีกหละ ผมตะโกนอีกทีไป รพเอกชน ไป รพ เอกชน ผมใส่ชุดทำงานทุกคนรู้ว่าบริษัทมีประกันให้แน่นอน สุดท้ายก็ไม่เป็นดั่งที่ผมตะโกน ยกผมขึ้นรถ ไม่ถึง 5 นาที ถึง รพ รัฐ สิ่งแรก เมื่อไปถึงให้น้ำเกลือ วัดความดั พยาบาลพูดขึ้นว่. า อ่าวทำงานที่นี่ทำไมไม่ไป รพเอกชนหละ ห้ามเลือดก็ห้ามมาแล้ว กู้ภัยท่านนึงแจ้งว่า ทางศูนย์ให้มาที่ใกล้ก่อน ซึ่งทำอย่างใจเย็น ถามน้ำหนัก ส่วนสูง จะให้เซ็นชื่อ ผมบอกไม่ไหว ผมนอนรอแล้วรอเล่า หมอวัยรุ่นมาถามอะำรสักอย่างด้วยน้ำเสียงที่ผมฟังแล้วไม่เป็นมิตรสักเท่าไร ผมก็ตอบไป จำไม่ได้ว่าถามอะไร นำตัวผมไปเอ็กเรย์ และเข็นมาที่เดิม หลังจากนั้นแม่ผมก็ให้ไปติดต่อ รพ เอกชน ว่าจะรับไหม ทาง รพ รัฐติดต่อให้ และแจ้งแม่ผมว่า ทางนั้นรับตัวนะ แต่ไม่มีรถมารับ รพ รัฐไปส่งซึ่งมีรถตู้คันเดียว จากนั้นยกผมเปลี่ยนเตียงขึ้นรถตู้ไป คันขับ ขับอย่างใจเย็นกลัวผมเจ็บ แต่ไปยังไม่ถึง รพ ผมเลือดพุ่งออกมา รถเปิดไซเรน ออกไม ขอทางไปอย่างเร่งรีบ ถึงที่หมาย ผมเห็นรถ รพ เอกชน จอดอยู่ 3 คัน เข็นผมลงจากรถมา ผมเห็น ญาติ หัวหน้างาน พี่ๆที่ร่วมงานมารอ เข็นผมผ่านไปเลือดหยุดตามทางที่เข็น ผมหยุดที่ห้องฉุกเฉิน พร้อมสายวัดตามต่างๆตามตัว ผมโชคดีมีหมอมือ 1 ด้านนี้ที่เคยทำเคสแบบนี้เป็นสิบๆ แม่นำขามาให้หมอดู หมอพูดเลยว่า ไม่สามารถต่อได้ ซึ่งผมทำใจไว้แล้ว ผมได้แต่ร้องไห้ พยักหน้า ที่ผมร้องไห้ไม่ใช่เพราะผมเสียขา แต่ผมร้องไห้เพราะผมทำความรุ้สึกพ่อ แม่ เสียอย่างรุนแรง ไม่นานก็ห้ามเลือดและเข็นไปห้องเอ็กเรย์อีกรอบ เมื่อเสร็จเรียบร้อยมีหมอท่านนึงมา ถามว่า จะดมยา หรือ บล็อตหลัง ผมเลือกดมยา ด้วยเหตุผลที่ผมบอกหมอว่า ผมอยากตื่นมาแล้วอยู่ในห้องพักฟื้นเลย .
ขอพักผ่อนก่อนนะครับ เช้ามาเล่าใหม่ ใครมีกลุ่ม BB ในไลน์คงเห็นแล้ว
เห็นแล้วก็ขอให้แค่นั้นนะครับ ไม่ค้องส่ง หรืออะไรแค่อย่างใด เพราะเหตุ ไม่ใช่เพราะ BB
แต่มันคืออุบัติเฟตุหนึ่งบนท้องถนน ไม่เค้า ก็เรา
ในวันที่ผมเสียข้อเท้า
เช้าวันหนึ่งคุณอาจจะไปทำงานปกติ แต่ไปไม่ถึง
เช้าวันหนึ่งคุณออกจากที่ทำงานมาอย่าง่วงนอน เพื่อจะกลับไปนอนกับครอบครัวที่บ้าน แต่กลับไม่ถึง
เย็นวันหนึ่งคุณนัดครอบครัวเพื่อจะไปกินข้าวหลังคุณเลิกงาน แต่ก็ไม่ได้ไป
ในเช้าวันหนึ่งของผมหลังจากเลิกงานตามปกติ ส่งกะให้เพื่อนที่จะมาทำแทนในกะเช้าเรียบร้อย ก็ขับมอไซคู่ใจกลับบ้านตามปกติเพื่อกลับไปเล่นกับสุนัขไซ หอมภรรยา และลงนอนในเตียงที่คุ้นเคยเหมือนปกติที่วันที่เข้ากะดึก แต่เช้าวันนั้นไม่เป็นอย่างที่คิด ขณะขี่มอไซในเลนปกติ มีรถสวนเลนขึ้นมาเพื่อแซงผมก็หลบตามปกติ ซึางคุณคิดไหมปกติของผมที่ว่า คือผมหลบลงเหยียบเส้นขาวเลยนะครับหักอีกนิดก็ลงป่า คันที่ 1 ผ่านไป คันที่ 2 ตามมาขณะที่ผมก็อยู่ไหล่ทางที่ใกล้ๆเส้นขาว คันที่ 3 ตามมาซึ่งผมไม่เห็นว่าทีคันที่ 3 ซึ่งเป็นกับะยอดฮิตเรนเจอร์ ได้เฉี่ยวกับผมซึ่งได้เบี่ยงรถออกหลบ ผมโล่งใจที่รถไม่ล้ม ถึงแม้ว่าแฮนจะส่ายไปมาๆอย่างรุนแรง ทันใดนั้นผมรู้สึกได้ว่าเจ็บๆชาๆที่เท้า ผมหันขวาก้มมองลงไผในใจคิดเพียงว่าแผลข่วนเล็กๆน้อยๆ แต่ที่เห็นมันไม่ใช่!!! ผมหันไปเจอกระดูกหน้าแข้ง เนื้อหนังที่ลุ่ยๆ และกางเกงที่ขาด ผมสติแตกไปช่วงระยะเวลานึงตะโกนเหมือนคนบ้าจนเจ็บคอ ผมประคองรถจอดใช้เท้าซ้ายเหยียบไปที่พื้นและโทรหาภรรยาเป็นคนแรก ภรรยากำลังท้องแก่ใกล้คลอด เมื่อภรรยารับสายสิ่งที่ผมพูดขึ้น "A ตอนนี้B รถชนขาขาด เค้าขาขาด B จะต้องพิการ เค้าขาขาด (ด้วยน้ำเสียงที่สติแตก)" ในขณะเดียวกันผมชูมือขวาขึ้นและเรียกรถอีกเลนที่สวนไป มา ให้ช่วย แต่ก็ยังไม่มีใครจอด ผ่านไป 3-4 คัน จนคันที่ 5 ท่านนั้นขับกะบะคล้ายๆทาทา สีขาวรีบลงจากรถมาพร้อมกดโทรศัพท์แนบหู รีบมองซ้าย ขวา วิ่งเข้ามาหาผม ผมดีใจมาก ทันใดนั้นคันที่ได้เฉี่ยวผมได้ยูเทิร์นกลับมา ผมก็ดีใจเช่นกันที่เค้าไม่หนี ผมพูดว่า"พี่ไม่ต้องมาดูผม ไปหาขาให้ผม แล้วรีบเอาไปแช่น้ำแข็ง" หลังจากนั้นดับเครื่องยนตร์ และตั้งขาตั้งแต่ไม่สามารถตั้งได้เมื่อเอียงรถไปทางขวาเพื่อเอาเท้าซ้ายเตะขาตั้ง รถล้มทันทีเพราะไม่มีเท้าขวายันผมเสียเลือด ผมมึนหัว ไม่อยากพูดอะไร เหมือนไม่มีแรง คนที่ผ่านไปมาจอดนำเชือกมามัดห้ามเลือด พ่อ แม่ และภรรยามา ญาติมา สิ่งที่รอ กู้ภัยก็มา นำสำลี ผ้าต่างๆมาห้ามเลือด และนำผมขึ้นเปล แต่ไม่สามารถพาผมไปโรงพยาบาลได้เนื่องจากที่เกิดเหตุอยู่อีกเขตหนึ่งจึงรอกู้ภัยอีกเขตหนึ่ง ในขณะรอคนที่ผมไล่ไปหาขากลับมาบอกว่าหาไม่เจอ ผมจึงบอกไปว่า "ไปหาใหม่อยู่ในป่านั้นหละ" สุดท้ายผู้ที่จอดรถช่วยหาเจอ นำไปใส่ถุงแช่น้ำแข็ง ในหัวผมเริ่มคิดถึงค่ารักษา ผมตะโกนบอกพ่อ "ติดต่อประกันด้วย เบอร์อยู่ที่ชิลหน้ารถ" ผมพูดดังเหือกใหญ่ก่อนกู้ภัยในเขตมา แต่ยังไม่ไปเพราะจะให้ไปโรงพยาบาลใกล้ที่สุด ซึ่ง รพ รัฐ ผมเคยประสบณ์เหตุแล้วไปมาแล้วปีก่อนซึ่งดินเต็มแผลแต่กลับเย็บให้คุณคิดดูถ้าครั้งนี้ไปอีกหละ ผมตะโกนอีกทีไป รพเอกชน ไป รพ เอกชน ผมใส่ชุดทำงานทุกคนรู้ว่าบริษัทมีประกันให้แน่นอน สุดท้ายก็ไม่เป็นดั่งที่ผมตะโกน ยกผมขึ้นรถ ไม่ถึง 5 นาที ถึง รพ รัฐ สิ่งแรก เมื่อไปถึงให้น้ำเกลือ วัดความดั พยาบาลพูดขึ้นว่. า อ่าวทำงานที่นี่ทำไมไม่ไป รพเอกชนหละ ห้ามเลือดก็ห้ามมาแล้ว กู้ภัยท่านนึงแจ้งว่า ทางศูนย์ให้มาที่ใกล้ก่อน ซึ่งทำอย่างใจเย็น ถามน้ำหนัก ส่วนสูง จะให้เซ็นชื่อ ผมบอกไม่ไหว ผมนอนรอแล้วรอเล่า หมอวัยรุ่นมาถามอะำรสักอย่างด้วยน้ำเสียงที่ผมฟังแล้วไม่เป็นมิตรสักเท่าไร ผมก็ตอบไป จำไม่ได้ว่าถามอะไร นำตัวผมไปเอ็กเรย์ และเข็นมาที่เดิม หลังจากนั้นแม่ผมก็ให้ไปติดต่อ รพ เอกชน ว่าจะรับไหม ทาง รพ รัฐติดต่อให้ และแจ้งแม่ผมว่า ทางนั้นรับตัวนะ แต่ไม่มีรถมารับ รพ รัฐไปส่งซึ่งมีรถตู้คันเดียว จากนั้นยกผมเปลี่ยนเตียงขึ้นรถตู้ไป คันขับ ขับอย่างใจเย็นกลัวผมเจ็บ แต่ไปยังไม่ถึง รพ ผมเลือดพุ่งออกมา รถเปิดไซเรน ออกไม ขอทางไปอย่างเร่งรีบ ถึงที่หมาย ผมเห็นรถ รพ เอกชน จอดอยู่ 3 คัน เข็นผมลงจากรถมา ผมเห็น ญาติ หัวหน้างาน พี่ๆที่ร่วมงานมารอ เข็นผมผ่านไปเลือดหยุดตามทางที่เข็น ผมหยุดที่ห้องฉุกเฉิน พร้อมสายวัดตามต่างๆตามตัว ผมโชคดีมีหมอมือ 1 ด้านนี้ที่เคยทำเคสแบบนี้เป็นสิบๆ แม่นำขามาให้หมอดู หมอพูดเลยว่า ไม่สามารถต่อได้ ซึ่งผมทำใจไว้แล้ว ผมได้แต่ร้องไห้ พยักหน้า ที่ผมร้องไห้ไม่ใช่เพราะผมเสียขา แต่ผมร้องไห้เพราะผมทำความรุ้สึกพ่อ แม่ เสียอย่างรุนแรง ไม่นานก็ห้ามเลือดและเข็นไปห้องเอ็กเรย์อีกรอบ เมื่อเสร็จเรียบร้อยมีหมอท่านนึงมา ถามว่า จะดมยา หรือ บล็อตหลัง ผมเลือกดมยา ด้วยเหตุผลที่ผมบอกหมอว่า ผมอยากตื่นมาแล้วอยู่ในห้องพักฟื้นเลย .
ขอพักผ่อนก่อนนะครับ เช้ามาเล่าใหม่ ใครมีกลุ่ม BB ในไลน์คงเห็นแล้ว
เห็นแล้วก็ขอให้แค่นั้นนะครับ ไม่ค้องส่ง หรืออะไรแค่อย่างใด เพราะเหตุ ไม่ใช่เพราะ BB
แต่มันคืออุบัติเฟตุหนึ่งบนท้องถนน ไม่เค้า ก็เรา