ตามหัวข้อเลย สงสัยมาก กับการเรียนสมัยนี้ คือ เรามีลุก 2 คน คนโตผู้ชายอายุ 7 ขวบ อยู่ชั้น ป.1 คนเล็กเป็นผู้หญิง อายุ 5 ขวบ อยู่ อนุบาล 3
เดิม เรียนอยู่ศูนย์เด็กเล็ก ทีนี้คนพี่ จบ อ.3 จะขึ้น ป.1 เลยต้องหาโรงเรียนให้เขา เราก็จำเป็นต้องย้ายคนน้องมาเรียนที่เดียวกับคนพี่ เพื่อที่จะสะดวกในการับ-ส่ง และลูกสาวเองก็ดีใจและตื่นเต้นที่จะได้ย้ายมาเรียนที่เดียวกับพี่ชาย
ในเรื่องการเรียน คนพี่ไม่ค่อยมีปัญหา เพราะ มาขึ้น ป.1 ในชั้น ก็จะมีแต่เด็กเข้าใหม่ ที่พื้นฐานพอๆ กัน เพราะมาจากหลายหลายที่ แต่คนน้องนี่ ค่อนข้างมีปัญหามาก เพราะมาเรียนกับเด็กเขา ซึ่งพื้นฐานเขาดีกว่า ตอนก่อนเข้าเรียน คุณครูคนที่สัมภาษณ์น้องก็ขอให้พาน้องไปเรียนพิเศษกับคุณครูวันเสาร์(ไม่ใช่ปรับพื้นฐานกับทางโรงเรียนนะ อันนี้เรียนบ้านครู จ่ายเงินให้ครู แต่ เรียนปรับพื้นฐานก็เรียนนะ จันทร์ - ศุกร์) เราก็โอเคนะ เข้าใจ ว่าพื้นฐานลูกเราด้อยกว่านักเรียนเก่าที่นี้ และ ครั้งแรกครูก็บอกชัดเจน ว่า จะเรียนไปจนถึงแค่เปิดเทอม เมื่อ เปิดเทอม เราก็ไม่พาลูกไปเรียนอีก
เปิดเทอมไปสัก 2 อาทิตย์ จึงจะมีประชุมผู้ปกครอง เอาอีกแระ คุณครูประจำชั้น(คนละคนกับที่เรียนครั้งก่อนแต่อยู่ในทีมสอนพิเศษทีมเดียวกัน) บอกว่าทำไมแม่ไม่พาน้องไปส่งเรียนพิเศษค่ะ น้องต้องเรียนนะ ไม่เรียนไม่ได้ เดี๋ยวน้องไม่ทันเพื่อน บราๆ เราก็มีเหตุผลว่าไม่สะดวกที่จะรับ-ส่ง คุณครูก็บอกว่าเดี๋ยวครู รับ-ส่ง ให้ แต่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มอีกนิดหน่อย แต่แม่ก็ไม่พาไปเรียนนะ เพราะแม่รู้สึกว่าครูหาเงิน และเราก็ถามลูกตลอดว่าอยากไปเรียนไม๊ ลูกก็บอกตลอดว่าไม่อยากไป อยากอยู่บ้านกับแม่
จนผ่านไป วันนึง คุณครูประจำชั่นก็โทรมาหาเรา บอกว่า " แม่ค่ะ ตอนนี้คุณครูอยู่กับน้องนะ คุณครูถามน้องว่า น้องอยากเรียนพิเศษไม๊ น้องบอกว่า น้องอยากเรียน แต่แม่ไม่มีตัง" ผ่าง!!!!! คุณครูพูดต่อ "เนี่ยครูให้น้องเขียน น้องทำไม่ได้เลย แม่พาน้องมาเรียนเถอะ ไม่ใช่ว่าครูอยากได้ตังนะ เรื่องตังเดี๋ยวค่อยว่ากัน แม่สะดวกจะจ่ายเท่าไหร่ ก็แล้วแต่แม่ ครูสงสารน้องอยากให้น้องได้" แถมถามน้องให้แม่ได้ยินเสียงในโทรศัพท์ ว่าน้องอยากไปไม๊ เราก็จำเสียงลูกสาวได้แหละ บอกว่าอยากไป เอาไงละที่นี้ แม่รู้สึกผิดเลย T___T
ตอนเย็น แม่เลยบอกกับลูกสาวว่า วันเสาร์นี้ หนูต้องไปเรียนพิเศษกับครูนะคะ ที่นี้แหละเป็นเรื่องเลย ลูกสาวร้องไห้ งอแง บอกไม่ไปๆๆๆ อ่าว เลยต้องคุยกันพักใหญ่ ว่า หนูบอกครูว่าหนูอยากไป หนูก็ต้องรับผิดชอบคำพูดหนูนะคะ เสาร์นี้หนูไปก่อน แล้วถ้าหนูไม่อยากไป หนูก็บอกครูตามจริง ก็พาน้องไปเรียนอยู่ 4 เสาร์ ครูก็ไม่ได้ทวงเงินอะไรเลยนะ เราก็เริ่มรู้สึกดี ว่าครูคงหวังดีกับน้องจริงๆ เราก็ให้เงินครูไปนั่นแหละ เต็มจำนวน (ก็ไม่ใช่ไม่มีตัง แต่ไม่อยากให้เรียน) จนการสอบในโรงเรียนผ่านไป เราก็คิดว่าการเรียนพิเศษ ควรจบได้แล้ว ครูบอกว่า "น้องทำข้อสอบไม่ค่อยได้นะคะ ที่ผ่านมาได้แค่ 70 คะแนน เอง" แม่ก็รู้สึกดีนะ เพราะจากที่ครูบอก นี่กลัวว่าน้องจะตกด้วยซ้ำ แม่ก็บอกว่า "70 คะแนน นี่ก็ดีแล้วนะคะ ถือว่าพัฒนาการดีมากๆ เลย ก็สอบผ่านนี่ค่ะ" ครูตอบมาแบบว่าแม่หน้าซีดเลย "แต่เพื่อนๆ ในห้องเขาได้กัน 90 ขึ้นนะคะ" มีปี๊ดค่ะ แม่ก็ไม่ได้สวนกลับอะไรไป แต่เขียนไปในสมุดพกของน้องว่า "แม่ดีใจที่คุณครุ เคี่ยวเข็ญน้องนะคะ แต่แม่ขอความกรุณา ไม่เอาน้องไปเปรียบเทียบกับเด็กคนอื่นๆ ใจห้อง มันจะทำให้น้องรู้สึกด้อยค่าในดัวเอง เพราะน้องย้ายมาจากต่างโรงเรียน พื้นฐานย่อมด่อยกว่า เพื่อนร่วมห้องอยู๋แล้ว อยากให้คุณครูโฟกัสที่พัฒนาการของน้อง ว่าไปในทิศทางที่ดีขึ้น หากน้องทำดีขอให้คุณครูเอ๋ยปากชมน้องค่ะ แม้ว่าจะเป็นเรื่องเล็กน้อย น้องจะได้ภาคภูมิใจ และมีกำลังใจจะทำต่อ(เคยถามน้องว่าครูชมไหมเวลาหนูทำได้ น้องบอกครุไม่ชม ครูไม่รัก ครูรักแต่เพื่อน) " และเมื่อแม่ไปโรงเรียน ก็เช่นเดิม ขอให้น้องไปเรียนพิเศษอีก จนวันนั้นเรียกได้ว่า เกือบๆ ทะเลาะ
"แม่บอกเลยค่ะ ว่าแม่คิดผิดมากที่พาน้องมาเรียนที่นี้ แม่คิดเสมอ ว่าแม่ยอมเสียเงินค่าเทอมขนาดนี้ มันควรจบแค่ในห้องเรียน ไม่ใช่รบเร้าให้แม่เอาน้องไปเรียนพิเศษอีก ช่วงเวลาวันหยุด น้องควรจะได้อยู่ทำกิจกรรมกับครอบครัว ไม่ใช่อะไรๆ ก็วิชาการ ถ้าคุณครูให้น้องเรียนพิเศษที่เป็น กิจกรรมอื่นๆ ที่ไม่มีในห้องเรียน แม่จะเต็มใจอย่างยิ่ง แต่นี้ ทำไมถึงไม่เต็มที่ในห้องเรียน แทนที่จะมารบเร้าให้พาไปเรียนพิเศษ น้องเพิ่งจะอนุบาล 3 เองนะคะ ขนาดพี่ชายของน้อง ตอนนี้เรียน ป.1 โรงเรียนนี้นี่แหละ ก็เห็นครูยังมาสอน ก-ฮ, สระ บวก เลข 1 หลัก อยู่เลย ทั้งๆ ที่คนพี่ ก็ทำได้เกินว่านั้นไปเยอะแล้ว แต่นี้ น้องคนเล็กเพิ่งอยู่ อ.3 คุณครูจะให้น้องได้ถึงขนาดไหน แม่ไม่ได้เน้นวิชาการ หรือการแข่ง กัน แม่ต้องการแบบบูรณาการ มีกิจกรรมบ้าง น้องจะได้ไม่เครียด ที่แม่เลือก รร.นี้เพราะ เห็นมีกิจกรรมเยอะ เน้นบูรณาการ แต่ทำไม ถึงเป็นแบบนี้"
คุณครูตอบกลับว่า "แม่เข้าใจครูหน่อยนะคะ คือ ถ้าน้องไม่ได้ หรือ สอบตก หัวหน้าสายชั้นก็ต้องมองหน้าครูว่า ครูสอนยังไง น้องถึงตก ครูต้องการให้น้องได้" แม่คิดในใจ ลูกกูก็ไม่ได้สอบตกนี่ ได้ตั้ง 70 คะแนน สรุปคือ ทำเพื่อตัวเอง ไม่ได้ทำเพื่อเด็กจริงๆ ต้องการผลงาน ทั้งๆ ที่เด็ก ก็ผ่านมาตรฐานแล้ว
ครูพูดต่อ "แม่ดูเด็กข้างนอกนะ ป.1 แล้ว ยังนับเลขไม่ได้เลย แต่ลูกแม่นับ 1-50 ได้หมดแล้วแม่อยากให้ลูกแม่เป็นเหมือนเด็กข้างนอกเหรอ" อ้าวไหนบอกว่าลูกกูไม่ได้ "ส่วนเรื่องตังค่าเรียน ครูก็ไม่คิดเลยว่าแม่จะให้ เพราะครูบอกแล้วว่าครูไม่ซีเรียส แต่เห็นแม่ให้มา แม่ก็ไม่ได้บอกทีมสอนว่าคุณครูให้ เวลาเขาถามครูก็จะบอกว่าแม่ไม่ได้ให้หรอก เพราะเดี๋ยวเขาจะมองว่าครูได้เยอะ" พีคคคคคคคคค แสดงว่า ครูคนอื่นๆ ในทีมสอบพิเศษ เขาคิดว่ากูไม่จ่ายค่าเรียน ครูพูดต่อ "ครูจบเอกปฐมวัยมา ที่ครูเรียนมาก็ไม่ค่อยได้ใช้กับเด็กเลย เพราะโรงเรียนเน้นวิชาการ ห้องอื่นๆ เขาเคี่ยวยิ่งกว่านี้อีกค่ะ ยังไง เดี๋ยวสิ้น ก.ย. นี้จะสอบแล้ว แม่พาน้องมาเรียนเถอะค่ะ แค่ก่อนสอบ"
คือแม่ขึ้เกียจจะเถียงแระ เห็นว่าสิ้นเดือน ก.ย. ก็อีกแค่ 2-3 เสาร์ แม่เลยบอกว่า "แม่ให้เรียนถึงแค่ก่อนสอบนี้เท่านั้นนะคะ เพราะน้องเองก็ไม่ได้อยากเรียน ตอนอยู่กับครู น้องบอกอยากเรียน แต่ตอนอยู๋กับแม่ น้องร้องไห้งอแง ไม่ยอมไป การเรียนพิเศษ ต้องมีจุดสิ้นสุดค่ะ ว่าจะให้เรียนแค่ไหน แต่จะให้เรียนตลอดไป มันไม่ใช่ค่ะ อยากที่บอก เวลาขอครอบครัว สำคัญกว่านะคะ ถ้าน้องอยากไป แม่จะไม่ว่าเลย " แล้วแม่ก็กลับ หัวเสียมากกกกกกก
ผ่านไป เย็นวันศุกร์ จู่ๆ ลูกสาวบอกว่า " แม่หนูอยากไปเรียนพิเศษที่บ้านคุณครู" เหวออออออ...ยังไงเนี่ยลูกสาวชั้ล คือพรุ่งนี้วันเสาร์ ต้องไปเรียนไง คุณครูเขากำชับมาหรือป่าว
พอวันเสาร์ มาส่งน้อง เจอหน้ากันปุ๊บ ครูถามว่า "แม่จ่ายค่าเรียนเลยไหมค่ะ" เฮ้ยยยยย ยังไม่ทันได้เรียนเลย เห็นหน้าปุ๊บ จะเก็บเงินเลยเหรอ "ยังค่ะ ไม่ได้เอาเงินมา" ที่จริงเอามา แต่ไม่อยากจ่าย ไรฟร๊ะ เริ่มตะหงิดๆ อีก "ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวค่อยจ่ายตอนมารับน้องก็ได้ค่ะ" บอกเลยตอนนี้กรุ่นมากกกกกกกกกกก
คือตอนนี้บอกเลย โมโหมาก แต่ไม่อยาก ทะเลาะกับครูต่อหน้าลูก อีกอย่าง เราก็กังวลอยู่เหมือนกันเพราะเขาเป็นครูประจำชั้น แล้วลูกเราต้องอยู๋กับเขา ทุกวันจันทร์ - ศุกร์ ถ้าเราไปมีปัญหามากๆ เขาจะปฏิบัติกับลูกเรายังไง
ยาวไปหน่อย เป็นน้ำซะส่วนใหญ่ต้องขออภัย คือเล่าเรื่อง แบบระบายอารมย์ด้วย ส่วนคำถามต้องตามนั้นเลยค่ะ ว่าเรียนพิเศษ นี่จำเป็นต้องเรียนจริงๆ หรือป่าว ส่วนต้วแม่มองว่ามันไม่จำเป็น แล้ว คุณแม่ท่านอื่นๆ คิดยังไงค่ะ
เรียนพิเศษ จำเป็นจริงๆ หรือ ครูแค่หาเงิน
เดิม เรียนอยู่ศูนย์เด็กเล็ก ทีนี้คนพี่ จบ อ.3 จะขึ้น ป.1 เลยต้องหาโรงเรียนให้เขา เราก็จำเป็นต้องย้ายคนน้องมาเรียนที่เดียวกับคนพี่ เพื่อที่จะสะดวกในการับ-ส่ง และลูกสาวเองก็ดีใจและตื่นเต้นที่จะได้ย้ายมาเรียนที่เดียวกับพี่ชาย
ในเรื่องการเรียน คนพี่ไม่ค่อยมีปัญหา เพราะ มาขึ้น ป.1 ในชั้น ก็จะมีแต่เด็กเข้าใหม่ ที่พื้นฐานพอๆ กัน เพราะมาจากหลายหลายที่ แต่คนน้องนี่ ค่อนข้างมีปัญหามาก เพราะมาเรียนกับเด็กเขา ซึ่งพื้นฐานเขาดีกว่า ตอนก่อนเข้าเรียน คุณครูคนที่สัมภาษณ์น้องก็ขอให้พาน้องไปเรียนพิเศษกับคุณครูวันเสาร์(ไม่ใช่ปรับพื้นฐานกับทางโรงเรียนนะ อันนี้เรียนบ้านครู จ่ายเงินให้ครู แต่ เรียนปรับพื้นฐานก็เรียนนะ จันทร์ - ศุกร์) เราก็โอเคนะ เข้าใจ ว่าพื้นฐานลูกเราด้อยกว่านักเรียนเก่าที่นี้ และ ครั้งแรกครูก็บอกชัดเจน ว่า จะเรียนไปจนถึงแค่เปิดเทอม เมื่อ เปิดเทอม เราก็ไม่พาลูกไปเรียนอีก
เปิดเทอมไปสัก 2 อาทิตย์ จึงจะมีประชุมผู้ปกครอง เอาอีกแระ คุณครูประจำชั้น(คนละคนกับที่เรียนครั้งก่อนแต่อยู่ในทีมสอนพิเศษทีมเดียวกัน) บอกว่าทำไมแม่ไม่พาน้องไปส่งเรียนพิเศษค่ะ น้องต้องเรียนนะ ไม่เรียนไม่ได้ เดี๋ยวน้องไม่ทันเพื่อน บราๆ เราก็มีเหตุผลว่าไม่สะดวกที่จะรับ-ส่ง คุณครูก็บอกว่าเดี๋ยวครู รับ-ส่ง ให้ แต่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มอีกนิดหน่อย แต่แม่ก็ไม่พาไปเรียนนะ เพราะแม่รู้สึกว่าครูหาเงิน และเราก็ถามลูกตลอดว่าอยากไปเรียนไม๊ ลูกก็บอกตลอดว่าไม่อยากไป อยากอยู่บ้านกับแม่
จนผ่านไป วันนึง คุณครูประจำชั่นก็โทรมาหาเรา บอกว่า " แม่ค่ะ ตอนนี้คุณครูอยู่กับน้องนะ คุณครูถามน้องว่า น้องอยากเรียนพิเศษไม๊ น้องบอกว่า น้องอยากเรียน แต่แม่ไม่มีตัง" ผ่าง!!!!! คุณครูพูดต่อ "เนี่ยครูให้น้องเขียน น้องทำไม่ได้เลย แม่พาน้องมาเรียนเถอะ ไม่ใช่ว่าครูอยากได้ตังนะ เรื่องตังเดี๋ยวค่อยว่ากัน แม่สะดวกจะจ่ายเท่าไหร่ ก็แล้วแต่แม่ ครูสงสารน้องอยากให้น้องได้" แถมถามน้องให้แม่ได้ยินเสียงในโทรศัพท์ ว่าน้องอยากไปไม๊ เราก็จำเสียงลูกสาวได้แหละ บอกว่าอยากไป เอาไงละที่นี้ แม่รู้สึกผิดเลย T___T
ตอนเย็น แม่เลยบอกกับลูกสาวว่า วันเสาร์นี้ หนูต้องไปเรียนพิเศษกับครูนะคะ ที่นี้แหละเป็นเรื่องเลย ลูกสาวร้องไห้ งอแง บอกไม่ไปๆๆๆ อ่าว เลยต้องคุยกันพักใหญ่ ว่า หนูบอกครูว่าหนูอยากไป หนูก็ต้องรับผิดชอบคำพูดหนูนะคะ เสาร์นี้หนูไปก่อน แล้วถ้าหนูไม่อยากไป หนูก็บอกครูตามจริง ก็พาน้องไปเรียนอยู่ 4 เสาร์ ครูก็ไม่ได้ทวงเงินอะไรเลยนะ เราก็เริ่มรู้สึกดี ว่าครูคงหวังดีกับน้องจริงๆ เราก็ให้เงินครูไปนั่นแหละ เต็มจำนวน (ก็ไม่ใช่ไม่มีตัง แต่ไม่อยากให้เรียน) จนการสอบในโรงเรียนผ่านไป เราก็คิดว่าการเรียนพิเศษ ควรจบได้แล้ว ครูบอกว่า "น้องทำข้อสอบไม่ค่อยได้นะคะ ที่ผ่านมาได้แค่ 70 คะแนน เอง" แม่ก็รู้สึกดีนะ เพราะจากที่ครูบอก นี่กลัวว่าน้องจะตกด้วยซ้ำ แม่ก็บอกว่า "70 คะแนน นี่ก็ดีแล้วนะคะ ถือว่าพัฒนาการดีมากๆ เลย ก็สอบผ่านนี่ค่ะ" ครูตอบมาแบบว่าแม่หน้าซีดเลย "แต่เพื่อนๆ ในห้องเขาได้กัน 90 ขึ้นนะคะ" มีปี๊ดค่ะ แม่ก็ไม่ได้สวนกลับอะไรไป แต่เขียนไปในสมุดพกของน้องว่า "แม่ดีใจที่คุณครุ เคี่ยวเข็ญน้องนะคะ แต่แม่ขอความกรุณา ไม่เอาน้องไปเปรียบเทียบกับเด็กคนอื่นๆ ใจห้อง มันจะทำให้น้องรู้สึกด้อยค่าในดัวเอง เพราะน้องย้ายมาจากต่างโรงเรียน พื้นฐานย่อมด่อยกว่า เพื่อนร่วมห้องอยู๋แล้ว อยากให้คุณครูโฟกัสที่พัฒนาการของน้อง ว่าไปในทิศทางที่ดีขึ้น หากน้องทำดีขอให้คุณครูเอ๋ยปากชมน้องค่ะ แม้ว่าจะเป็นเรื่องเล็กน้อย น้องจะได้ภาคภูมิใจ และมีกำลังใจจะทำต่อ(เคยถามน้องว่าครูชมไหมเวลาหนูทำได้ น้องบอกครุไม่ชม ครูไม่รัก ครูรักแต่เพื่อน) " และเมื่อแม่ไปโรงเรียน ก็เช่นเดิม ขอให้น้องไปเรียนพิเศษอีก จนวันนั้นเรียกได้ว่า เกือบๆ ทะเลาะ
"แม่บอกเลยค่ะ ว่าแม่คิดผิดมากที่พาน้องมาเรียนที่นี้ แม่คิดเสมอ ว่าแม่ยอมเสียเงินค่าเทอมขนาดนี้ มันควรจบแค่ในห้องเรียน ไม่ใช่รบเร้าให้แม่เอาน้องไปเรียนพิเศษอีก ช่วงเวลาวันหยุด น้องควรจะได้อยู่ทำกิจกรรมกับครอบครัว ไม่ใช่อะไรๆ ก็วิชาการ ถ้าคุณครูให้น้องเรียนพิเศษที่เป็น กิจกรรมอื่นๆ ที่ไม่มีในห้องเรียน แม่จะเต็มใจอย่างยิ่ง แต่นี้ ทำไมถึงไม่เต็มที่ในห้องเรียน แทนที่จะมารบเร้าให้พาไปเรียนพิเศษ น้องเพิ่งจะอนุบาล 3 เองนะคะ ขนาดพี่ชายของน้อง ตอนนี้เรียน ป.1 โรงเรียนนี้นี่แหละ ก็เห็นครูยังมาสอน ก-ฮ, สระ บวก เลข 1 หลัก อยู่เลย ทั้งๆ ที่คนพี่ ก็ทำได้เกินว่านั้นไปเยอะแล้ว แต่นี้ น้องคนเล็กเพิ่งอยู่ อ.3 คุณครูจะให้น้องได้ถึงขนาดไหน แม่ไม่ได้เน้นวิชาการ หรือการแข่ง กัน แม่ต้องการแบบบูรณาการ มีกิจกรรมบ้าง น้องจะได้ไม่เครียด ที่แม่เลือก รร.นี้เพราะ เห็นมีกิจกรรมเยอะ เน้นบูรณาการ แต่ทำไม ถึงเป็นแบบนี้"
คุณครูตอบกลับว่า "แม่เข้าใจครูหน่อยนะคะ คือ ถ้าน้องไม่ได้ หรือ สอบตก หัวหน้าสายชั้นก็ต้องมองหน้าครูว่า ครูสอนยังไง น้องถึงตก ครูต้องการให้น้องได้" แม่คิดในใจ ลูกกูก็ไม่ได้สอบตกนี่ ได้ตั้ง 70 คะแนน สรุปคือ ทำเพื่อตัวเอง ไม่ได้ทำเพื่อเด็กจริงๆ ต้องการผลงาน ทั้งๆ ที่เด็ก ก็ผ่านมาตรฐานแล้ว
ครูพูดต่อ "แม่ดูเด็กข้างนอกนะ ป.1 แล้ว ยังนับเลขไม่ได้เลย แต่ลูกแม่นับ 1-50 ได้หมดแล้วแม่อยากให้ลูกแม่เป็นเหมือนเด็กข้างนอกเหรอ" อ้าวไหนบอกว่าลูกกูไม่ได้ "ส่วนเรื่องตังค่าเรียน ครูก็ไม่คิดเลยว่าแม่จะให้ เพราะครูบอกแล้วว่าครูไม่ซีเรียส แต่เห็นแม่ให้มา แม่ก็ไม่ได้บอกทีมสอนว่าคุณครูให้ เวลาเขาถามครูก็จะบอกว่าแม่ไม่ได้ให้หรอก เพราะเดี๋ยวเขาจะมองว่าครูได้เยอะ" พีคคคคคคคคค แสดงว่า ครูคนอื่นๆ ในทีมสอบพิเศษ เขาคิดว่ากูไม่จ่ายค่าเรียน ครูพูดต่อ "ครูจบเอกปฐมวัยมา ที่ครูเรียนมาก็ไม่ค่อยได้ใช้กับเด็กเลย เพราะโรงเรียนเน้นวิชาการ ห้องอื่นๆ เขาเคี่ยวยิ่งกว่านี้อีกค่ะ ยังไง เดี๋ยวสิ้น ก.ย. นี้จะสอบแล้ว แม่พาน้องมาเรียนเถอะค่ะ แค่ก่อนสอบ"
คือแม่ขึ้เกียจจะเถียงแระ เห็นว่าสิ้นเดือน ก.ย. ก็อีกแค่ 2-3 เสาร์ แม่เลยบอกว่า "แม่ให้เรียนถึงแค่ก่อนสอบนี้เท่านั้นนะคะ เพราะน้องเองก็ไม่ได้อยากเรียน ตอนอยู่กับครู น้องบอกอยากเรียน แต่ตอนอยู๋กับแม่ น้องร้องไห้งอแง ไม่ยอมไป การเรียนพิเศษ ต้องมีจุดสิ้นสุดค่ะ ว่าจะให้เรียนแค่ไหน แต่จะให้เรียนตลอดไป มันไม่ใช่ค่ะ อยากที่บอก เวลาขอครอบครัว สำคัญกว่านะคะ ถ้าน้องอยากไป แม่จะไม่ว่าเลย " แล้วแม่ก็กลับ หัวเสียมากกกกกกก
ผ่านไป เย็นวันศุกร์ จู่ๆ ลูกสาวบอกว่า " แม่หนูอยากไปเรียนพิเศษที่บ้านคุณครู" เหวออออออ...ยังไงเนี่ยลูกสาวชั้ล คือพรุ่งนี้วันเสาร์ ต้องไปเรียนไง คุณครูเขากำชับมาหรือป่าว
พอวันเสาร์ มาส่งน้อง เจอหน้ากันปุ๊บ ครูถามว่า "แม่จ่ายค่าเรียนเลยไหมค่ะ" เฮ้ยยยยย ยังไม่ทันได้เรียนเลย เห็นหน้าปุ๊บ จะเก็บเงินเลยเหรอ "ยังค่ะ ไม่ได้เอาเงินมา" ที่จริงเอามา แต่ไม่อยากจ่าย ไรฟร๊ะ เริ่มตะหงิดๆ อีก "ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวค่อยจ่ายตอนมารับน้องก็ได้ค่ะ" บอกเลยตอนนี้กรุ่นมากกกกกกกกกกก
คือตอนนี้บอกเลย โมโหมาก แต่ไม่อยาก ทะเลาะกับครูต่อหน้าลูก อีกอย่าง เราก็กังวลอยู่เหมือนกันเพราะเขาเป็นครูประจำชั้น แล้วลูกเราต้องอยู๋กับเขา ทุกวันจันทร์ - ศุกร์ ถ้าเราไปมีปัญหามากๆ เขาจะปฏิบัติกับลูกเรายังไง
ยาวไปหน่อย เป็นน้ำซะส่วนใหญ่ต้องขออภัย คือเล่าเรื่อง แบบระบายอารมย์ด้วย ส่วนคำถามต้องตามนั้นเลยค่ะ ว่าเรียนพิเศษ นี่จำเป็นต้องเรียนจริงๆ หรือป่าว ส่วนต้วแม่มองว่ามันไม่จำเป็น แล้ว คุณแม่ท่านอื่นๆ คิดยังไงค่ะ