วันนี้ (6/9/60) เมื่อตอนตีห้า ฟ้ายังไม่สาง ลูกร้องให้เราอุ้มแกว่งข้างนอกบ้าน ปกติตีสามตีสี่เราออกไปแกว่งลูกข้างนอกก็ไม่มีอะไร แต่เมื่อคืนนี้เจออะไรคล้ายๆ เสลนเดอร์แมนที่หลังคาบ้านใกล้กัน รูปร่างคือเป็นคนเงาดำทั้งตัวมองไม่เห็นหน้าแขนยาวผิดมนุษย์ ยงโย่ยงหยกเหมือนจะกระโดด
ความคิดแรกคือตาฝาด พอมองเน้นๆ เห็นชัดเจนก็ยังคิดนะว่ามนุษย์ต่างดาวรึเปล่า แต่ท่าทางเขาไม่ได้เก็บตัวอย่างวิจัยทางวิทยาศาสตร์นะ คือเขาเอาแต่ไกวตัวยงโย่ยงหยก เรากลัวมาก กลัวเขาจะทำร้ายลูก ตัวเราร้อนวาบคิดในใจว่าเป็นตายร้ายดีต้องปกป้องลูกให้ได้
เราก็หลบแบบพิงหลังกับกำแพงบ้านแอบชะโงกดูก็ยังเห็นอยู่ แต่เขาไม่ได้มองตามเรานะ เหมือนเขาหมกมุ่นแต่กับการไกวตัวประมาณว่าจะโดดไม่โดดดีไรงี้ เราก็มีความคิดหนึ่งแวบมาเหมือนกันว่าควรจะแผ่เมตตานะ เขาอาจจะแค่มาขอส่วนบุญ แต่คือความคิดที่จะปกป้องลูกมันแรงกว่า เลยตัดสินใจสวดยันทุน
สวดยันทุนไปสามรอบ ตลอดเวลาที่สวดก็ชะโงกดูเขา คือ เขาอยู่ตรงนั้นตลอดเลย พอสวดยันทุนใกล้ๆ ครบสามรอบ แขนเขาก็ค่อยๆ หุบ ตัวค่อยๆ ย่อ แล้วก็เหมือนเงาที่มันขยุ้มตัวเองรวมกันเป็นก้อนแล้วหายไป
เราพาลูกกลับเข้าบ้าน คิดว่าถ้ามันเป็นก้านมะพร้าวหรืออะไรที่มีตัวตน เช้ามาต้องอยู่ เราเลยรอจนหกโมงเช้า ฟ้าสาง เราออกมาดูอีกทีปรากฏว่าตรงนั้นร้างโล่ง ไม่มีกิ่งมะพพร้าว ไม่มีอะไรเลย
ตามตำนานเล่าว่าสเลนเดอร์แมนเป็นสาวกซาตานจะมาเอาตัวเด็กไป แต่บางคนก็ว่ามันเป็นเรื่องแต่งเกิดจากการตัดแต่งภาพไปประกวดภาพสยองขวัญ เราเองมีอาชีพเป็นนักเขียนค่ะ ส่วนตัวเคยเอาเรื่องสเลนเดอร์แมนไปเขียนเป็นเรื่องยาวลงนิตยสารครั้งหนึ่ง ได้เงินมาแล้วแต่นิตยสารปิดตัวไปก่อนที่เรื่องจะได้ลง กำลังจะเขียนบทความอีกเรื่องส่งนิตยสารอีกที่แต่เหมือนมันยังยั้งๆ อยู่เพราะอะไรก็ไม่ทราบ คือพอจะเขียนก็กลัว ยั้งไว้ก่อน ไรงี้
เราเองอดคิดไม่ได้ว่าเขามาทวงเงินที่เราได้มาจากการเขียนเรื่องเขาแต่ไม่เคยทำบุญให้หรือเปล่า
ครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่เราเห็นอะไรอย่างนี้นะคะ ครั้งแรกมันน่าจะร่วมๆ 10 ปีที่แล้ว ตอนนั้นยังไม่ได้แต่งงาน ไปทำบุญกับพ่อแม่และน้องชายที่วัดแถวอีสาน ขับรถกลางคืนมาทางโค้ง เราเห็นสเลนเดอร์แมนเป็นผู้ชายตัวสูงเท่าต้นไม้ริมทางดำทั้งตัวจนไม่เห็นหน้ายืนอยู่ เราเล่าให้แม่ฟังแม่บอกว่าเป็นเปตรมาขอส่วนบุญเพราะเราเพิ่งทำบุญไป
ถ้าเป็นเปตรมาขอส่วนบุญก็จะโล่งใจพอสมควรเพราะแค่แผ่เมตตาก็จบ แต่ถ้าเป็นสเลนเดอร์แมนจริงๆ เราจะทำไงดี หาทางออกไม่เจอเลยค่ะ ไม่รู้ว่าควรทำไงกับสาวกซาตาน
แม่เราบอกว่าอย่ากลัวให้ยึดพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์เป็นที่ตั้ง เราก็แบบนะ...ก็นะ เข้าใจเราใช่ป่ะคะ ถ้าไม่มีลูกอยู่ด้วย เราคงยืนโต้งๆ ให้เห็นแล้วก็พุทธังสะระนังคัจฉามิ ธัมมังสะระนังคัจฉามิ สังฆงสะระนังคัจฉามิไปแล้ว แต่นี่คือเราต้องเป็นที่พึ่งของลูกเลยต้องขออาณุภาพของพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ทำลายสิ่งนั้นให้วินาศสิ้นไป (จากบทสวดยันทุนช่วงที่บอก พุทธานุภาวะ วินาศะเมนตุ, ธัมมานุภาเวนะ วินาศะเมนตุ, สังฆานุภาะวนะ วินาศะเมนตุ)
สะกดผิดขออภัยนะคะ ไม่สันทัดบาลีสัสกฤตเท่าไหร่ เขียนตามเสียงที่ได้ยินน่ะค่ะ
คิดว่าตัวเองเจอสเลนเดอร์แมนค่ะ
ความคิดแรกคือตาฝาด พอมองเน้นๆ เห็นชัดเจนก็ยังคิดนะว่ามนุษย์ต่างดาวรึเปล่า แต่ท่าทางเขาไม่ได้เก็บตัวอย่างวิจัยทางวิทยาศาสตร์นะ คือเขาเอาแต่ไกวตัวยงโย่ยงหยก เรากลัวมาก กลัวเขาจะทำร้ายลูก ตัวเราร้อนวาบคิดในใจว่าเป็นตายร้ายดีต้องปกป้องลูกให้ได้
เราก็หลบแบบพิงหลังกับกำแพงบ้านแอบชะโงกดูก็ยังเห็นอยู่ แต่เขาไม่ได้มองตามเรานะ เหมือนเขาหมกมุ่นแต่กับการไกวตัวประมาณว่าจะโดดไม่โดดดีไรงี้ เราก็มีความคิดหนึ่งแวบมาเหมือนกันว่าควรจะแผ่เมตตานะ เขาอาจจะแค่มาขอส่วนบุญ แต่คือความคิดที่จะปกป้องลูกมันแรงกว่า เลยตัดสินใจสวดยันทุน
สวดยันทุนไปสามรอบ ตลอดเวลาที่สวดก็ชะโงกดูเขา คือ เขาอยู่ตรงนั้นตลอดเลย พอสวดยันทุนใกล้ๆ ครบสามรอบ แขนเขาก็ค่อยๆ หุบ ตัวค่อยๆ ย่อ แล้วก็เหมือนเงาที่มันขยุ้มตัวเองรวมกันเป็นก้อนแล้วหายไป
เราพาลูกกลับเข้าบ้าน คิดว่าถ้ามันเป็นก้านมะพร้าวหรืออะไรที่มีตัวตน เช้ามาต้องอยู่ เราเลยรอจนหกโมงเช้า ฟ้าสาง เราออกมาดูอีกทีปรากฏว่าตรงนั้นร้างโล่ง ไม่มีกิ่งมะพพร้าว ไม่มีอะไรเลย
ตามตำนานเล่าว่าสเลนเดอร์แมนเป็นสาวกซาตานจะมาเอาตัวเด็กไป แต่บางคนก็ว่ามันเป็นเรื่องแต่งเกิดจากการตัดแต่งภาพไปประกวดภาพสยองขวัญ เราเองมีอาชีพเป็นนักเขียนค่ะ ส่วนตัวเคยเอาเรื่องสเลนเดอร์แมนไปเขียนเป็นเรื่องยาวลงนิตยสารครั้งหนึ่ง ได้เงินมาแล้วแต่นิตยสารปิดตัวไปก่อนที่เรื่องจะได้ลง กำลังจะเขียนบทความอีกเรื่องส่งนิตยสารอีกที่แต่เหมือนมันยังยั้งๆ อยู่เพราะอะไรก็ไม่ทราบ คือพอจะเขียนก็กลัว ยั้งไว้ก่อน ไรงี้
เราเองอดคิดไม่ได้ว่าเขามาทวงเงินที่เราได้มาจากการเขียนเรื่องเขาแต่ไม่เคยทำบุญให้หรือเปล่า
ครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่เราเห็นอะไรอย่างนี้นะคะ ครั้งแรกมันน่าจะร่วมๆ 10 ปีที่แล้ว ตอนนั้นยังไม่ได้แต่งงาน ไปทำบุญกับพ่อแม่และน้องชายที่วัดแถวอีสาน ขับรถกลางคืนมาทางโค้ง เราเห็นสเลนเดอร์แมนเป็นผู้ชายตัวสูงเท่าต้นไม้ริมทางดำทั้งตัวจนไม่เห็นหน้ายืนอยู่ เราเล่าให้แม่ฟังแม่บอกว่าเป็นเปตรมาขอส่วนบุญเพราะเราเพิ่งทำบุญไป
ถ้าเป็นเปตรมาขอส่วนบุญก็จะโล่งใจพอสมควรเพราะแค่แผ่เมตตาก็จบ แต่ถ้าเป็นสเลนเดอร์แมนจริงๆ เราจะทำไงดี หาทางออกไม่เจอเลยค่ะ ไม่รู้ว่าควรทำไงกับสาวกซาตาน
แม่เราบอกว่าอย่ากลัวให้ยึดพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์เป็นที่ตั้ง เราก็แบบนะ...ก็นะ เข้าใจเราใช่ป่ะคะ ถ้าไม่มีลูกอยู่ด้วย เราคงยืนโต้งๆ ให้เห็นแล้วก็พุทธังสะระนังคัจฉามิ ธัมมังสะระนังคัจฉามิ สังฆงสะระนังคัจฉามิไปแล้ว แต่นี่คือเราต้องเป็นที่พึ่งของลูกเลยต้องขออาณุภาพของพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ทำลายสิ่งนั้นให้วินาศสิ้นไป (จากบทสวดยันทุนช่วงที่บอก พุทธานุภาวะ วินาศะเมนตุ, ธัมมานุภาเวนะ วินาศะเมนตุ, สังฆานุภาะวนะ วินาศะเมนตุ)
สะกดผิดขออภัยนะคะ ไม่สันทัดบาลีสัสกฤตเท่าไหร่ เขียนตามเสียงที่ได้ยินน่ะค่ะ