(ระบาย) เดี๊ยนเป็นคนขี้อิจฉา ริษยา อาฆาต พยาบาท ทิฐิมานะรุนแรง มาแชร์วิธีการรักษา การเป็นสุข ด้วยการแผ่เมตตาพรหมวิหาร 4

กระทู้คำถาม
เรียบเรียงได้ไม่ดี พูดมั่ว - เรียงสลับบ้าง ขออภัยนะคะ สรุปคือ ข้ามไปอ่านตรงหัวข้อที่ทำอักษรตัวหนา ได้เลยค่ะ

ปัจจัยร่วม
1. เดี๊ยนรักษาโรคจิตเภท + ซึมเศร้า กับแพทย์อยู่ มีการกินยาต้าน
2. คบผู้ชายทางออนไลน์คนนึง เขาพยายามเติมเต็มจนเดี๊ยนไม่รู้สึกขาด แม้จะยังไม่ได้คบกันจริง ๆ
3. เกิดดวงตาเห็นกรรม จากการทำนายทายทัก ว่าชีวิตเราถูกลิขิตมา เราก็แค่เข้าร่วมกิจกรรม

จะพูดถึงมากก็ไม่ได้ กระทู้จะเสียประเด็นหลัก จะไม่พูดเลย ก็ต้องให้เครดิตแก่พวกเขาด้วย

ถ้าเดี๊ยนจำไม่ผิด เรียบเรียงไม่ผิด มันเริ่มมาจากมีการ "ตายหมู่" ของชาวโลก ช่วงปีที่แล้วเยอะมากจนเดี๊ยนสะพรึงกลัว เลยทำให้เดี๊ยนมาขอคำปรึกษาในโต๊ะศาสนา ถึงการทำบุญทำทานหา แต่เราคงจะหว่านให้ทั้งหมดคงไม่ได้ เลยใช้วิธี แผ่เมตตา ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะถึงรึเปล่า เลยมาตั้งกระทู้ถาม ขอคำปรึกษาจากเพื่อนสมาชิก ได้ลิงค์สอนการแผ่เมตตามา (ถ้าจำไม่ผิดนะคะ) เป็นภาษาบาลี + ไทยบ้านเรานี่แหละ แบบที่เราคุ้นเคยกัน

พอไปดูหลักฐานเป็นแท็บในเว็บบราวเซอร์ จริง ๆ เริ่มจากกระทู้สายมูเตลู เดี๊ยนถามถึง "บทสวดชุมนุมเทวดา" แล้วได้ลิงค์เว็บมา แล้วในเว็บยังมีบทสวดอีกหลายบทที่น่าสนใจ น่านำมาใช้ เดี๊ยนก็เริ่มจากการแผ่เมตตาตนเอง และแผ่เมตตาพรหมวิหาร 4

ทีนี้เวลาเจอใครทำให้ไม่สบายใจ เป็นทุกข์เป็นร้อน แทนที่จะผูกพยาบาท ก็แผ่เมตตาให้แทน ก็รู้สึกดีขึ้น ที่ดึงตัวเองออกมาจากความคิดลบ ๆ ตัดวงจรเชื่อมโยงในสมอง

ต่อมาก็ตามลิงค์ไป แผ่เมตตาพรหมวิหาร 4 (เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา) แผ่เมตตาตนเอง เลยใช้ควบคู่กัน 2 ตัวหลัก คือ แผ่เมตตา กับแผ่มุทิตา ปกติเห็นใครได้ดีกว่า เดี๊ยนก็เป็นทุกข์ ภายหลังแผ่มุทิตา ไม่ว่าจะด้วยความรู้สึกยินดีร่วมจริง ๆ หรือด้วยความรู้สึกเหมือนพูดประชด พอจ้องพอเพ่ง แล้วท่องซ้ำ ๆ (สัก 3 รอบ) มันก็ทำให้เดี๊ยนหายจากความอิจฉาริษยานั้น ไม่อารมณ์ขุ่นมัวเหมือนก่อน โดยท่องว่า

"มา ลัทธะสัมปัตติโต วิมุจจันตุ" (จงอย่าได้พรากจาก ปราศจากสมบัติอันตนได้แล้ว เทอญ) (สุดแท้แต่เราจะแปลเป็นภาษาไทย เรียบเรียงคำยังไง)

เหลืออันเดียว ที่เดี๊ยนยังไม่ได้ท่อง ท่องได้ไม่ครบ คือการแผ่อุเบกขา ส่วนการแผ่กรุณา ก็แล้วแต่สถานการณ์ตรงหน้า ตรงการรับรู้ ไม่ค่อยได้ใช้เท่าไหร่

ทีนี้พอหายดี เลยรู้สึกว่า เราน่าจะจริงจังกับพรหมวิหาร 4 นานแล้ว (สมัยก่อนพยายามใช้การแผ่เมตตา แต่ไม่หาย ไม่ได้ท่องอะไรลงลึก และสถานการณ์ชีวิตช่วงนั้นแย่มากด้วยค่ะ เรียกว่ารักษาบาดแผลไม่ทัน) และเดี๊ยนท่องและให้เครดิต มากกว่าบท อะระหัง สัมมา กับบท นะโม ตัสสะ หรือบทอื่น ๆ คาถาอื่น ๆ

แต่ข้อเสียคือ อาจจะทำให้เราขาดความก้าวร้าวที่จำเป็นในการใช้ชีวิต อะดรีนาลีน ไม่หลั่ง อะไรประมาณนั้น

บทแผ่เมตตาตนเอง ก็ต้องรักตัวเองให้มาก ๆ มีความนับถือตัวเอง มีความคาดหวังให้สิ่งดี ๆ เข้าหาตนเอง

เห็นกระทู้บทสวด "ขอนอบน้อมแด่พระสูตรดอกบัว" หรือ "นัมเมียว โฮเร็ง เงเคียว" มันเลยทำให้เดี๊ยนนึกถึงกระทู้ พระสูตรใจ (มหาปรัชญาปารมิตาหฤทัยสูตร) เลยไปหาฟังในยูทิวบ์ เวอร์ชันสันสกฤตก็ฟังออกแต่ขันธ์ 5 และรู้สึกว่าฟังแล้วไม่ผ่อนคลาย เวอร์ชันภาษาธิเบตก็ฟังเอาบุญ ไม่รู้เรื่องเลย

บทสรรเสริญพระสูตรบัว เห็นเพื่อนสมาชิกท่านนึงบอกว่า มีคนใช้สวดทำลายฝ่ายตรงข้ามแล้วเห็นผล เดี๊ยนเลยไม่ค่อยอยากท่องเท่าไหร่ และอยากได้พระสูตรดอกบัว ฉบับเต็มมากกว่า พอเสิร์ชดูในยูทิวบ์ มีภาษาไทย แต่คลิปยาวมาก ยังไม่ได้เปิดฟัง ใจไม่สู้ และเกินจำเป็นค่ะ (ไม่มีข้อ วิริยะเลย)

ส่วนพระสูตรใจ หาอ่านแล้วพบว่า ตรงกับคลิปเพลงสวด ปารมี 10 ทัศ ที่ฟังอยู่ และตรงกับพรหมวิหาร 4 ที่ยึดถือเป็นสรณะ ด้วย คือพูดถึงบารมี 6 ทัศ บางอันก็ตรงกับ 10 ทัศ, 30 ทัศ ฉบับครูบาศรีวิชัย ทำให้เดี๊ยนเกิดสนใจการบำเพ็ญเอาแต่บารมี ขึ้นมา แต่ก็อย่างที่เดี๊ยนป่าวประกาศแหละค่ะ ว่าเดี๊ยนเป็นสายโลกิยะ ไม่ใช่สายโลกุตระ ไม่มุ่งปฏิบัติเพื่อนิพพาน จึงเป็นการเน้นความสบายใจในชาตินี้ ภพนี้

น่าจะพูดครบทุกประเด็นแล้ว ถ้านึกอะไรได้จะมาเพิ่มนะคะ ตอนนี้ขอสรุปสิ่งที่อยากนำเสนอ ตามลำดับ ดังนี้ค่ะ

บทสวดแผ่เมตตาพรหมวิหาร 4
 
แผ่เมตตา
สัพเพ สัตตา
สัตว์ทั้งหลายที่เป็นเพื่อนทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ด้วยกันทั้งสิ้น
อะเวรา โหนตุ
จงเป็นผู้ไม่มีเวรแก่กันและกันเถิด
อัพยาปัชฌา โหนตุ
จงเป็นผู้ไม่เบียดเบียนซึ่งกันและกัน
อะนีฆา โหนตุ
จงเป็นผู้ไม่มีทุกข์กาย ทุกข์ใจเถิด
สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุ
จงเป็นผู้มีสุข พ้นจากทุกข์ภัยทั้งสิ้นเถิด

บทมุทิตา
สัพเพ สัตตา
สัตว์ทั้งหลายที่เป็นเพื่อนทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ด้วยกันทั้งสิ้น
มา ลัทธะสัมปัตติโต วิมุจจันตุ
จงอย่าไปปราศจากสมบัติอันตนได้แล้วเถิด

บทสวดแผ่เมตตาตนเอง
อะหัง สุขิโต โหมิ
ขอให้ข้าพเจ้ามีความสุข
อะหัง นิททุกโข โหมิ
ขอให้ข้าพเจ้าปราศจากความทุกข์
อะหัง อะเวโร โหมิ
ขอให้ข้าพเจ้าปราศจากเวร
อะหัง อัพยาปัชโฌ โหมิ
ขอให้ข้าพเจ้าปราศจากอุปสรรคอันตรายทั้งปวง
สุขี อัตตานัง ปะริหะรามิ
ขอให้ข้าพเจ้าจงมีความสุขกายสุขใจ รักษากายวาจาใจให้พันจากความทุกข์ภัยทั้งปวงเถิด
(เป็นคาถาที่ใช้ในการแผ่เมตตาให้กับตัวเรา เพื่อปราศจากอุปสรรคต่างๆ ให้มีความสุขกาย สุขใจ)

บทอุเบกขา
สัพเพ สัตตา
สัตว์ทั้งหลายที่เป็นเพื่อนทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ทั้งสิ้น
กัมมัสสะกา
เป็นผู้มีกรรมเป็นของของตน
กัมมะทายาทา
เป็นผู้รับผลของกรรม
กัมมะโยนิ
เป็นผู้มีกรรมเป็นกำเนิด
กัมมะพันธุ
เป็นผู้มีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์
กัมมะปะฏิสะระณา
เป็นผู้มีกรรมเป็นที่พึ่งอาศัย
ยัง กัมมัง กะริสสันติ
กระทำกรรมอันใดไว้
กัลยาณัง วา ปาปะกัง วา
ดีหรือชั่ว
ตัสสะ ทายาทา ภะวิสสันติ
จักเป็นผู้รับผลของกรรมนั้น

บทกรุณา
สัพเพ สัตตา
สัตว์ทั้งหลายที่เป็นเพื่อนทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ด้วยกันทั้งสิ้น
สัพพะทุกขา ปะมุจจันตุ
จงพ้นจากทุกข์เถิด

ขอบคุณที่มา
บทสวดแผ่เมตตาพรหมวิหารสี่ - myhora.com
บทสวดแผ่เมตตาตนเอง - myhora.com

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ -- บทสวดฟังสบาย บารมีสิบทัศ 10
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ -- Buddhist Chant - Heart Sutra Complete Version HD
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่