จากวันแรกที่ฉันได้อ่านหนังสือชื่อดาวหางเหนือทางรถไฟ เป็นเวลาไม่ต่ำกว่าสี่หรือห้าปี จนวันนี้ที่ได้ขึ้นรถไฟสายทรานสมองโกเลียเป็นครั้งแรก แม้จะไม่ได้เดินทางเต็มรูปแบบจากปักกิ่งไปมอสโกอย่างในหนังสือ (แอบเสียดายเล็กๆ เมื่อตอนที่กลับมาแล้ว) แต่ก็ได้ภาพและประสบการณ์จริงที่คงไม่มีวันรู้ หากมัวแต่อ่านหนังสือวนไปเป็นรอบที่แปด (ก่อนได้ไป อ่านไปไม่ต่ำกว่าสามรอบ) ถ้ายังมีใครอยากไปเส้นทางนี้ ขอให้ได้ไป มันไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด เวลาอันยาวนานข้ามวัน ข้ามเมือง บนรถไฟก็ไม่ได้น่าเบื่อเลย ออกจะเพลินเพลิน ดื่มด่ำๆ และโยกเยกกล่อมเราให้เคลิบเคลิ้มอยู่ตลอดเวลา ว่าแล้วเราก็จองตั๋วขึ้นรถไฟกันเถอะ ป่ะ...
ออกเดินทางจากกรุงเทพฯ ประมาณเที่ยงคืนโดยสายการบินไทย ถึงปักกิ่งประมาณหกโมงเช้า
Day1 ปักกิ่ง; จตุรัสเทียนอันเหมิน - พระราชวังต้องห้าม - หอบูชาฟ้าเทียนถาน - Wangfujing Street
Day2 ปักกิ่ง; กำแพงเมืองจีน
Day3 ปักกิ่ง; Beijing Railway Station; take K23 train
Day4 Mongolia; Ulaanbaatar
Day5 Mongolia; Gorkhi-Terelj National Park
Day6 Mongolia; Ulaanbaatar to Irkutsk; take train no.005
Day7 Irkutsk (Russia); Lake Baikal
Day8 Irkutsk to BKK
วันแรกออกจากสนามบินปักกิ่ง ต่อรถไฟเข้าเมือง แวะเช็คอินเก็บสัมภาระที่โรงแรม PentaHotel Beijing พัก 2 คืน แล้วก็นั่งรถเมล์และเดินๆๆ เที่ยวในเมือง ที่หมายแรก จตุรัสเทียนอันเหมินและพระราชวังต้องห้าม ความยิ่งใหญ่ กว้างงงงงมากกก
มีประตูอีกหลายด่านที่เราต้องเดินไปให้สุดทางออกด้านหลัง เดินอยู่ในนั้นน่าจะสัก สองสามชั่วโมงได้ล่ะ
หอบูชาฟ้าเทียนถาน
วันที่สอง ออกจากที่พักไปกำแพงเมืองจีนกัน
การไปเที่ยวกำแพงเมืองจีนเท่าที่ทราบมีอยู่ 2 ด่าน พวกเราเลือกไปขึ้นที่ ด่าน Mutianyu ที่ใช้เวลานานกว่า แต่ก็มีนักท่องเที่ยวไปถึงน้อยกว่าเช่นกัน ขึ้นกำแพงเมืองจีน ออมแรงด้วยกระเช้าพาขึ้นไป
ขากลับเราลงด้วยวิธีนี้ สนุกเชียวล่ะ
ขอเล่าย้อนสักนิด ตอนแรกพวกเราแพลนการมา Mutianyu ด้วยบัส แต่พอไปถึงสถานีที่จอดบัส เราก็ต้องเผชิญกับคุณป้าคนหนึ่ง ที่คงกะได้ว่าเราเป็นนักท่องเที่ยวกำลังจะไปต่อแถวขึ้นบัส คุณป้าเข้าชาร์ตเราอย่างทันที ถามเราด้วยภาษาอังกฤษที่เข้าใจง่ายว่า "ไปไหน ไปไหม ไปกับฉันสิ ถูกกว่า บลาๆ" เราก็รีบตอบ "No, thanks" พ้นจากคุณป้ามาไม่นาน เราก็มาต่อแถวเข้าคิวขึ้นบัส ต่อไปต่อมา หันมาอีกทีป้ามาอยู่ข้างหลัง พร้อมยื่นข้อเสนอให้อีก "หารแล้วแพงกว่านิดเดียว ลงบัสแล้วต้องต่อรถอีกนะ เร็วกว่าด้วยนะ ไม่ต้องจ่ายเงินตอนนี้ กลับมาแล้วค่อยจ่าย" พร้อมโชว์รูปรถใหม่เอี่ยม บวกกับรูปนักท่องเที่ยวชาวไทยกลุ่มหนึ่งที่เคยใช้บริการรถป้าให้ดู เราเห็นว่ารถยังไม่มาก็เลยลองคุยกับป้า ย้ำว่าราคานี่แน่นะ ยังไม่ต้องจ่าย จ่ายตอนกลับนะคะ สุดท้ายคำนวณดูแล้วเห็นจริงดังคำป้า เลยตกลงดีลกับป้า(ซะงั้น) จากนั้นก็เดินฝ่าออกจากแถวที่ตอนนี้มีคนมาต่อข้างหลังยาวแล้ว และก็คุยกันว่าลองดู ลองเชื่อป้าดู ให้รู้กันไป ในใจตอนนั้นก็ 50:50 จะโดนอะไรไหม สุดท้ายป้าน่ารักมาก พาเราไปส่งถึงหน้าที่ซื้อตั๋ว และนัดเวลากันตอนขากลับซึ่งป้าก็เป็นคนกะเวลาให้ (เวลาที่ป้ากะให้ดีเลย เหลือๆ) และแล้วป้าพาเรามาส่งที่เดิม สถานีรถบัสที่พบกันเมื่อเช้า จบวันนี้ก็ได้รู้ว่า ในความน่ากลัวนิดๆ ของคนจีน ก็มีป้าที่น่ารักแฝงตัวอยู่คนหนึ่ง
[CR] In Memory of Trans-Mongolian railway
จากวันแรกที่ฉันได้อ่านหนังสือชื่อดาวหางเหนือทางรถไฟ เป็นเวลาไม่ต่ำกว่าสี่หรือห้าปี จนวันนี้ที่ได้ขึ้นรถไฟสายทรานสมองโกเลียเป็นครั้งแรก แม้จะไม่ได้เดินทางเต็มรูปแบบจากปักกิ่งไปมอสโกอย่างในหนังสือ (แอบเสียดายเล็กๆ เมื่อตอนที่กลับมาแล้ว) แต่ก็ได้ภาพและประสบการณ์จริงที่คงไม่มีวันรู้ หากมัวแต่อ่านหนังสือวนไปเป็นรอบที่แปด (ก่อนได้ไป อ่านไปไม่ต่ำกว่าสามรอบ) ถ้ายังมีใครอยากไปเส้นทางนี้ ขอให้ได้ไป มันไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด เวลาอันยาวนานข้ามวัน ข้ามเมือง บนรถไฟก็ไม่ได้น่าเบื่อเลย ออกจะเพลินเพลิน ดื่มด่ำๆ และโยกเยกกล่อมเราให้เคลิบเคลิ้มอยู่ตลอดเวลา ว่าแล้วเราก็จองตั๋วขึ้นรถไฟกันเถอะ ป่ะ...
ออกเดินทางจากกรุงเทพฯ ประมาณเที่ยงคืนโดยสายการบินไทย ถึงปักกิ่งประมาณหกโมงเช้า
Day1 ปักกิ่ง; จตุรัสเทียนอันเหมิน - พระราชวังต้องห้าม - หอบูชาฟ้าเทียนถาน - Wangfujing Street
Day2 ปักกิ่ง; กำแพงเมืองจีน
Day3 ปักกิ่ง; Beijing Railway Station; take K23 train
Day4 Mongolia; Ulaanbaatar
Day5 Mongolia; Gorkhi-Terelj National Park
Day6 Mongolia; Ulaanbaatar to Irkutsk; take train no.005
Day7 Irkutsk (Russia); Lake Baikal
Day8 Irkutsk to BKK
วันแรกออกจากสนามบินปักกิ่ง ต่อรถไฟเข้าเมือง แวะเช็คอินเก็บสัมภาระที่โรงแรม PentaHotel Beijing พัก 2 คืน แล้วก็นั่งรถเมล์และเดินๆๆ เที่ยวในเมือง ที่หมายแรก จตุรัสเทียนอันเหมินและพระราชวังต้องห้าม ความยิ่งใหญ่ กว้างงงงงมากกก
วันที่สอง ออกจากที่พักไปกำแพงเมืองจีนกัน
การไปเที่ยวกำแพงเมืองจีนเท่าที่ทราบมีอยู่ 2 ด่าน พวกเราเลือกไปขึ้นที่ ด่าน Mutianyu ที่ใช้เวลานานกว่า แต่ก็มีนักท่องเที่ยวไปถึงน้อยกว่าเช่นกัน ขึ้นกำแพงเมืองจีน ออมแรงด้วยกระเช้าพาขึ้นไป
ขอเล่าย้อนสักนิด ตอนแรกพวกเราแพลนการมา Mutianyu ด้วยบัส แต่พอไปถึงสถานีที่จอดบัส เราก็ต้องเผชิญกับคุณป้าคนหนึ่ง ที่คงกะได้ว่าเราเป็นนักท่องเที่ยวกำลังจะไปต่อแถวขึ้นบัส คุณป้าเข้าชาร์ตเราอย่างทันที ถามเราด้วยภาษาอังกฤษที่เข้าใจง่ายว่า "ไปไหน ไปไหม ไปกับฉันสิ ถูกกว่า บลาๆ" เราก็รีบตอบ "No, thanks" พ้นจากคุณป้ามาไม่นาน เราก็มาต่อแถวเข้าคิวขึ้นบัส ต่อไปต่อมา หันมาอีกทีป้ามาอยู่ข้างหลัง พร้อมยื่นข้อเสนอให้อีก "หารแล้วแพงกว่านิดเดียว ลงบัสแล้วต้องต่อรถอีกนะ เร็วกว่าด้วยนะ ไม่ต้องจ่ายเงินตอนนี้ กลับมาแล้วค่อยจ่าย" พร้อมโชว์รูปรถใหม่เอี่ยม บวกกับรูปนักท่องเที่ยวชาวไทยกลุ่มหนึ่งที่เคยใช้บริการรถป้าให้ดู เราเห็นว่ารถยังไม่มาก็เลยลองคุยกับป้า ย้ำว่าราคานี่แน่นะ ยังไม่ต้องจ่าย จ่ายตอนกลับนะคะ สุดท้ายคำนวณดูแล้วเห็นจริงดังคำป้า เลยตกลงดีลกับป้า(ซะงั้น) จากนั้นก็เดินฝ่าออกจากแถวที่ตอนนี้มีคนมาต่อข้างหลังยาวแล้ว และก็คุยกันว่าลองดู ลองเชื่อป้าดู ให้รู้กันไป ในใจตอนนั้นก็ 50:50 จะโดนอะไรไหม สุดท้ายป้าน่ารักมาก พาเราไปส่งถึงหน้าที่ซื้อตั๋ว และนัดเวลากันตอนขากลับซึ่งป้าก็เป็นคนกะเวลาให้ (เวลาที่ป้ากะให้ดีเลย เหลือๆ) และแล้วป้าพาเรามาส่งที่เดิม สถานีรถบัสที่พบกันเมื่อเช้า จบวันนี้ก็ได้รู้ว่า ในความน่ากลัวนิดๆ ของคนจีน ก็มีป้าที่น่ารักแฝงตัวอยู่คนหนึ่ง