ฮอกไกโดเป็นเกาะตั้งอยู่ทางตอนเหนือสุดของประเทศญี่ปุ่น มีพื้นที่กว้างใหญ่เต็มไปด้วยทัศนียภาพ ภูเขา ป่าไม้ ลำธาร บ่อน้ำแร่ มีทิวทัศน์ที่สวยงามและเหมาะกับการเล่นสกีในฤดูหนาว
การเดินทางไปฮอกไกโด ตั้งใจเลือกสายการบินที่บินตรงจากประเทศไทยไปยังเกาะฮอกไกโด ก็เลยพยายามหาราคาที่ถูกที่สุดของการบินไทย จนได้ราคาที่สองหมื่นต้นๆ 21,xxx ที่ตัดใจยอมจ่ายแพงกับทริปนี้ เพราะช่วงเวลาเดินทางเป็นช่วง snow festival
ตอนที่ 1 Sapporo เมืองแสนหวาน
ที่บอกว่าเป็นเมืองแสนหวานเพราะเมืองซัปโปโรเป็นที่ตั้งของโรงงานช็อคโกแลตและขนมชื่อดังที่เราจะไปชิมกันในทริปนี้
หลังจากผ่านต.ม.รับกระเป๋าเข้ามาที่สนามบินนิวชิโตเสะเรียบร้อย ก็นำกระเป๋าไปฝากที่ตู้เก็บกระเป๋าซึ่งมีอยู่ทั่วสนามบินก่อน เพื่อจะได้เดินเที่ยวในสนามบินได้สะดวก ภายในสนามบินมีอยู่หลายชั้นเป็นร้านค้า ร้านขายของฝาก โรงแรม แถมยังมีเป้าหมายของเราคือ Doraemon Waku Waku Sky Park ซึ่งอยู่ชั้น 3 โซน Smile Road นั่นเอง และระหว่างทางเดินไป Doraemon park ก็เจอแต่ของหวานอย่างตู้จัดแสดงเพ็คเก็จของโกโก้ยี่ห้อดัง พร้อมทั้งโรงงานผลิตช็อกโกแลตที่ให้ดูกระบวนการผลิตแบบเกาะติดขอบกระจกเลยทีเดียว
ในที่สุดหลังจากที่แวะตามจุดต่างๆมาตลอดทาง ก็เดินมาถึง Doraemon Sky park ซึ่งบริเวณนี้แบ่งออกเป็น 7 โซนด้วยกัน
โซนแรกเป็น Park Zone ซึ่งในส่วนนี้จะมีค่าเข้าชมสำหรับบุคคลทั่วไป ราคา 800 เยน
โซนที่สองเป็น Kids Zone เป็นพื้นที่ฟรี มีเครื่องเล่นสำหรับเด็กเล็กเล่น
โซนที่สาม Library เต็มไปด้วยหนังสือการ์ตูนโดราเอมอนหลากหลายภาษา

โซนที่สี่ Work shop สามารถซื้ออุปกรณ์สำหรับประดิษฐ์งานศิลปะด้วยตัวเอง อย่างเช่นระบายสีตุ๊กตาโดราเอม่อน
โซนที่ห้าเป็น Cafe ขายเครื่องดื่ม อาหาร และขนมต่างๆ ในรูปแบบโดราเอม่อน

ดูจากหน้าตาอาหาร คะแนนเต็มร้อย แต่รสชาติแล้วแต่คนชอบนะคะ ส่วนตัวว่าใส่ชีสเยอะมันเลี่ยนไปหน่อย กินของคาวเสร็จแล้วก็ตบด้วยของหวานต่อ
โซนที่หก Gift Shop เป็น official shop ของสินค้าโดราเอม่อน พร้อมทั้งขายสินค้าออริจินอล และขนมรุ่นลิมิเตด

สินค้าน่ารัก น่าซื้อ ใครมาก็คงต้องหมดเงินในร้านนี้กันเยอะทีเดียว
โซนที่เจ็ด Amusement Zone เป็นมุมเล่นเกมส์ อย่างเช่นคีบตุ๊กตา ตู้ตักสินค้า ที่เป็นโดราเอม่อน
ไม่ใช่มีเฉพาะโดราเอมอนนะคะ ร้านค้าในส่วนอื่นก็ขายของน่ารัก อย่างซานริโอ และ โปเกมอนอีกด้วย
หลังจากเดินเล่นในสนามบินจนจุใจแล้ว ก็นั่งรถไฟมุ่งหน้าเข้าพักที่ UNIZO Inn Sapporo การไปมาสะดวก เดินขึ้นจาก Underground walkway ที่ Exit 7 เลี้ยวขวาก็ถึงโรงแรม หรือขึ้นจากทางออกหมายเลข 5 ซึ่งมีลิฟท์ แล้วหันหลังเดินมาข้ามถนนก็เจอโรงแรมเลย
เช็คอินและเข้าห้องเก็บของเรียบร้อยก็เตรียมเดินทางสู่จุดหมายต่อไปคือ Sapporo Bier Garten เพื่อทานเนื้อย่างเจงกิสข่านหวานๆ พร้อมจิบเครื่องดื่มให้ร่างกายอบอุ่น

การเดินทางนั่งรถไฟใต้ดิน สาย Togo Line มาลงที่ Higashi Kuyakusho-Mae Station รถไฟใต้ดินนี้ เจอาร์พาสใช้ไม่ได้นะคะ ภายในสถานีจะมีป้ายทางไป Sapporo Bier Garten ถ้าจำไม่ผิดน่าจะทางออก 4 จากนั้นเดินต่อไปอีกประมาณสี่แยกใหญ่ เดินจนถึงแยกที่จะเห็นป้ายร้าน Docomo อยู่ฝั่งตรงข้าม ให้เลี้ยวซ้ายเดินต่อไปอีกร้อยเมตรจะเห็น Sapporo Bier Garten อยู่ฝั่งตรงข้าม มีทางม้าลายและไฟจราจรให้ข้ามถนนค่ะ
ก่อนอื่นต้องจองโต๊ะ เลือกโซนที่ reception ด้านหน้าก่อนว่าจะกินปิ้งย่าง แบบสั่งเป็นชุด หรือบุฟเฟต์ หรือสเต๊ก smoking หรือ non smoking ค่ะ ทางพนักงานจะให้ใบจองและแจ้งชื่อร้านที่เราจะกินค่ะ
อาหารที่สั่งมีทั้งเนื้อวัว เนื้อหมู และเนื้อแกะของที่นี่นุ่มมาก ปกติไม่กินเนื้อแกะ แต่ลองที่นี่แล้วต้องยอม เพราะเนื้อแกะที่นี่นุ่มและไม่คาวด้วย อยากให้ลองค่ะ

ขอบอกว่าเป็นมื้อที่ลงทุนที่สุดต้องเดินตากหิมะตกหนักขาไป และก็เป็นมื้อที่แพงที่สุด แต่ก็อร่อยที่สุดในทริปนี้ กินเครื่องดื่มรสช็อคโกแลตนี้แล้วร่างกายอบอุ่น แอบร่าเริงขึ้นเล็กน้อยแม้ต้องเดินตากหิมะโปรยปรายขากลับ คืนนี้นอนหลับสนิทเลยทีเดียว
หลังจากที่เมื่อคืนเราหวานกับเนื้อย่างไปแล้วเช้าวันนี้เราจะมาหวานกันต่อกับโรงงานผลิตขนมที่โด่งดังของญี่ปุ่น
Shiroi Koibito

การเดินทางขึ้นรถไฟใต้ดินจากสถานีซัปโปโร สาย Tozai Line และลงที่ Miyanosawa Station เดินออกมาที่ทางออกหมายเลข 5 แล้วหันหลังเดินตามเส้นสีเทาในแผนที่นี้ค่ะ
ภายใน Shiroi Koibito Park จะแบ่งส่วนเป็นแฟคทอรี่ วอล์ค ซึ่งเสียค่าเข้าชม คนละ 600 เยน สามารถเดินชม คอลเลคชั่นถ้วยช็อกโกแลต ฉลากแพ็คเกจ การทดลองทำขนม และร้านคาเฟ่นั่งทานขนม ซึ่งถ้าเข้าชมในส่วนนี้เมื่อจ่ายเงินแล้วจะได้พาสปอร์ตสำหรับผ่านเข้าอาคารพร้อมขนมชิโรอิโคอิบิโตะ อีกหนึ่งชิ้นค่ะ

ป้ายบอกทางเดินมีรูปเท้าแมว น่ารัก น่ารัก ด้วยค่ะ เดินตามรอยเท้าแมวไปเลย
มีการจัดแสดงกรรมวิธีการผลิตช็อคโกแล็ตจากผลโกโก้ และไลน์กระบวนการผลิตชิโรอิโคอิบิโตะ ตั้งแต่การนำช็อคโกแล็ตไปประกบกับคุ้กกี้ที่เพิ่งอบเสร็จ จนไปถึงการบรรจุกล่องเลยทีเดียว

ระหว่างยืนดูเห็นเจ้าหน้าที่คอยคัดขนมที่ไม่ได้มาตรฐานออกทีละชิ้นด้วยค่ะ รู้สึกว่าคนญี่ปุ่นมีความละเอียดในการเช็คคุณภาพของสินค้ามาก ไม่แปลกใจที่สินค้าของญี่ปุ่นจึงมีราคาสูงและครองใจคนทั่วโลกได้
เดินชมกันจนหิวต้องแวะทานของหวานกันที่เลานจ์ช็อคโกแลต ชั้น4 คิวยาวเลยทีเดียว ระหว่างรอก็เดินอยู่หน้าตู้ขนมหน้าตาน่ากินจนเลือกไม่ถูกเลย แต่ละชิ้นทำออกมาได้เป๊ะมาก

เมื่อการรอคอยสิ้นสุด ก็ได้ขนมหน้าตาแบบนี้ แอบผิดหวังเล็กน้อยที่สั่งเป็นเซ็ท เพราะว่าขนมในตู้ดูน่ากินกว่า รู้สึกตะกละมาก อยากกินไปหมดทุกอย่าง รสชาติของขนมก็หอมอร่อยนะคะ ถ้าใครชอบของหวาน ห้ามพลาดเลยทีเดียว
อีกส่วนเป็นฟรีโซนไม่เสียค่าใช้จ่าย คือส่วนขายผลิตภัณฑ์ของโรงงาน ขนม ลูกกวาดหลากสี และซอฟท์ครีม ซึ่งคนเยอะมากๆ อย่างกับของแจก
ภายนอกจัดงานเข้ากับเทศกาลหิมะ มีบ้านต้นไม้ บ้านขนมปัง น่ารัก น่ากินมากค่ะ

ภาพนี้เป็นหอนาฬิกาโบราณคาราคุริ ซัปโปโร ซึ่งทุกๆชั่วโมงจะมีขบวนพาเรดตุ๊กตาออกมาเต้นรำร้องเพลงกันด้วย

เดินไปจนสุดอาคาร จะเห็นตุ๊กตาพ่อครัวกำลังปีนตึกกัน กำลังจะไปทำอะไรกันหนอ
ด้านข้างของ Shiroi Koibito Park ยังเป็นสนามฝึกซ้อมฟุตบอลของทีมคอนซาโดลซัปโปโร แต่ตอนนี้มองไม่เห็นสนามเนื่องจากหิมะตกทับถมกันจนขาวโพลนไปหมด
ขอจบ Sapporo เมืองแสนหวาน เพียงเท่านี้ค่ะ แล้วไปเดินเที่ยวต่อกันที่เมืองโอตารุค่ะ
ติดตามการกินเที่ยวเพิ่มเติมกันได้ที่
https://www.facebook.com/Bear2Travel/
ตอนที่ 1 Sapporo เมืองแสนหวาน
https://pantip.com/topic/36807256
ตอนที่ 2 Otaru เมืองแห่งเวลา(โรแมนติก)
https://pantip.com/topic/36813897
ตอนที่ 3 Hakodate เมืองแห่งแสงสียามค่ำคืน VS ตลาดสดยามเช้า
https://pantip.com/topic/36834512
ตอนที่ 4 Noboribetsu เมืองแห่งหุบเขานรก
https://pantip.com/topic/36867555
ตอนที่ 5 Asahikawa สวนสัตว์สุดน่ารัก กะ เทศกาลหิมะแสนสนุก (จบ)
https://pantip.com/topic/36898142
[CR] Hokkaido Cold Weather, Warm Heart - ตอนที่ 1 Sapporo เมืองแสนหวาน
ฮอกไกโดเป็นเกาะตั้งอยู่ทางตอนเหนือสุดของประเทศญี่ปุ่น มีพื้นที่กว้างใหญ่เต็มไปด้วยทัศนียภาพ ภูเขา ป่าไม้ ลำธาร บ่อน้ำแร่ มีทิวทัศน์ที่สวยงามและเหมาะกับการเล่นสกีในฤดูหนาว
การเดินทางไปฮอกไกโด ตั้งใจเลือกสายการบินที่บินตรงจากประเทศไทยไปยังเกาะฮอกไกโด ก็เลยพยายามหาราคาที่ถูกที่สุดของการบินไทย จนได้ราคาที่สองหมื่นต้นๆ 21,xxx ที่ตัดใจยอมจ่ายแพงกับทริปนี้ เพราะช่วงเวลาเดินทางเป็นช่วง snow festival
ตอนที่ 1 Sapporo เมืองแสนหวาน
ที่บอกว่าเป็นเมืองแสนหวานเพราะเมืองซัปโปโรเป็นที่ตั้งของโรงงานช็อคโกแลตและขนมชื่อดังที่เราจะไปชิมกันในทริปนี้
หลังจากผ่านต.ม.รับกระเป๋าเข้ามาที่สนามบินนิวชิโตเสะเรียบร้อย ก็นำกระเป๋าไปฝากที่ตู้เก็บกระเป๋าซึ่งมีอยู่ทั่วสนามบินก่อน เพื่อจะได้เดินเที่ยวในสนามบินได้สะดวก ภายในสนามบินมีอยู่หลายชั้นเป็นร้านค้า ร้านขายของฝาก โรงแรม แถมยังมีเป้าหมายของเราคือ Doraemon Waku Waku Sky Park ซึ่งอยู่ชั้น 3 โซน Smile Road นั่นเอง และระหว่างทางเดินไป Doraemon park ก็เจอแต่ของหวานอย่างตู้จัดแสดงเพ็คเก็จของโกโก้ยี่ห้อดัง พร้อมทั้งโรงงานผลิตช็อกโกแลตที่ให้ดูกระบวนการผลิตแบบเกาะติดขอบกระจกเลยทีเดียว
ในที่สุดหลังจากที่แวะตามจุดต่างๆมาตลอดทาง ก็เดินมาถึง Doraemon Sky park ซึ่งบริเวณนี้แบ่งออกเป็น 7 โซนด้วยกัน
โซนแรกเป็น Park Zone ซึ่งในส่วนนี้จะมีค่าเข้าชมสำหรับบุคคลทั่วไป ราคา 800 เยน
โซนที่สองเป็น Kids Zone เป็นพื้นที่ฟรี มีเครื่องเล่นสำหรับเด็กเล็กเล่น
โซนที่สาม Library เต็มไปด้วยหนังสือการ์ตูนโดราเอมอนหลากหลายภาษา
โซนที่สี่ Work shop สามารถซื้ออุปกรณ์สำหรับประดิษฐ์งานศิลปะด้วยตัวเอง อย่างเช่นระบายสีตุ๊กตาโดราเอม่อน
โซนที่ห้าเป็น Cafe ขายเครื่องดื่ม อาหาร และขนมต่างๆ ในรูปแบบโดราเอม่อน
ดูจากหน้าตาอาหาร คะแนนเต็มร้อย แต่รสชาติแล้วแต่คนชอบนะคะ ส่วนตัวว่าใส่ชีสเยอะมันเลี่ยนไปหน่อย กินของคาวเสร็จแล้วก็ตบด้วยของหวานต่อ
โซนที่หก Gift Shop เป็น official shop ของสินค้าโดราเอม่อน พร้อมทั้งขายสินค้าออริจินอล และขนมรุ่นลิมิเตด
สินค้าน่ารัก น่าซื้อ ใครมาก็คงต้องหมดเงินในร้านนี้กันเยอะทีเดียว
โซนที่เจ็ด Amusement Zone เป็นมุมเล่นเกมส์ อย่างเช่นคีบตุ๊กตา ตู้ตักสินค้า ที่เป็นโดราเอม่อน
ไม่ใช่มีเฉพาะโดราเอมอนนะคะ ร้านค้าในส่วนอื่นก็ขายของน่ารัก อย่างซานริโอ และ โปเกมอนอีกด้วย
หลังจากเดินเล่นในสนามบินจนจุใจแล้ว ก็นั่งรถไฟมุ่งหน้าเข้าพักที่ UNIZO Inn Sapporo การไปมาสะดวก เดินขึ้นจาก Underground walkway ที่ Exit 7 เลี้ยวขวาก็ถึงโรงแรม หรือขึ้นจากทางออกหมายเลข 5 ซึ่งมีลิฟท์ แล้วหันหลังเดินมาข้ามถนนก็เจอโรงแรมเลย
เช็คอินและเข้าห้องเก็บของเรียบร้อยก็เตรียมเดินทางสู่จุดหมายต่อไปคือ Sapporo Bier Garten เพื่อทานเนื้อย่างเจงกิสข่านหวานๆ พร้อมจิบเครื่องดื่มให้ร่างกายอบอุ่น
การเดินทางนั่งรถไฟใต้ดิน สาย Togo Line มาลงที่ Higashi Kuyakusho-Mae Station รถไฟใต้ดินนี้ เจอาร์พาสใช้ไม่ได้นะคะ ภายในสถานีจะมีป้ายทางไป Sapporo Bier Garten ถ้าจำไม่ผิดน่าจะทางออก 4 จากนั้นเดินต่อไปอีกประมาณสี่แยกใหญ่ เดินจนถึงแยกที่จะเห็นป้ายร้าน Docomo อยู่ฝั่งตรงข้าม ให้เลี้ยวซ้ายเดินต่อไปอีกร้อยเมตรจะเห็น Sapporo Bier Garten อยู่ฝั่งตรงข้าม มีทางม้าลายและไฟจราจรให้ข้ามถนนค่ะ
ก่อนอื่นต้องจองโต๊ะ เลือกโซนที่ reception ด้านหน้าก่อนว่าจะกินปิ้งย่าง แบบสั่งเป็นชุด หรือบุฟเฟต์ หรือสเต๊ก smoking หรือ non smoking ค่ะ ทางพนักงานจะให้ใบจองและแจ้งชื่อร้านที่เราจะกินค่ะ
อาหารที่สั่งมีทั้งเนื้อวัว เนื้อหมู และเนื้อแกะของที่นี่นุ่มมาก ปกติไม่กินเนื้อแกะ แต่ลองที่นี่แล้วต้องยอม เพราะเนื้อแกะที่นี่นุ่มและไม่คาวด้วย อยากให้ลองค่ะ
ขอบอกว่าเป็นมื้อที่ลงทุนที่สุดต้องเดินตากหิมะตกหนักขาไป และก็เป็นมื้อที่แพงที่สุด แต่ก็อร่อยที่สุดในทริปนี้ กินเครื่องดื่มรสช็อคโกแลตนี้แล้วร่างกายอบอุ่น แอบร่าเริงขึ้นเล็กน้อยแม้ต้องเดินตากหิมะโปรยปรายขากลับ คืนนี้นอนหลับสนิทเลยทีเดียว
หลังจากที่เมื่อคืนเราหวานกับเนื้อย่างไปแล้วเช้าวันนี้เราจะมาหวานกันต่อกับโรงงานผลิตขนมที่โด่งดังของญี่ปุ่น Shiroi Koibito
การเดินทางขึ้นรถไฟใต้ดินจากสถานีซัปโปโร สาย Tozai Line และลงที่ Miyanosawa Station เดินออกมาที่ทางออกหมายเลข 5 แล้วหันหลังเดินตามเส้นสีเทาในแผนที่นี้ค่ะ
ภายใน Shiroi Koibito Park จะแบ่งส่วนเป็นแฟคทอรี่ วอล์ค ซึ่งเสียค่าเข้าชม คนละ 600 เยน สามารถเดินชม คอลเลคชั่นถ้วยช็อกโกแลต ฉลากแพ็คเกจ การทดลองทำขนม และร้านคาเฟ่นั่งทานขนม ซึ่งถ้าเข้าชมในส่วนนี้เมื่อจ่ายเงินแล้วจะได้พาสปอร์ตสำหรับผ่านเข้าอาคารพร้อมขนมชิโรอิโคอิบิโตะ อีกหนึ่งชิ้นค่ะ
ป้ายบอกทางเดินมีรูปเท้าแมว น่ารัก น่ารัก ด้วยค่ะ เดินตามรอยเท้าแมวไปเลย
มีการจัดแสดงกรรมวิธีการผลิตช็อคโกแล็ตจากผลโกโก้ และไลน์กระบวนการผลิตชิโรอิโคอิบิโตะ ตั้งแต่การนำช็อคโกแล็ตไปประกบกับคุ้กกี้ที่เพิ่งอบเสร็จ จนไปถึงการบรรจุกล่องเลยทีเดียว
ระหว่างยืนดูเห็นเจ้าหน้าที่คอยคัดขนมที่ไม่ได้มาตรฐานออกทีละชิ้นด้วยค่ะ รู้สึกว่าคนญี่ปุ่นมีความละเอียดในการเช็คคุณภาพของสินค้ามาก ไม่แปลกใจที่สินค้าของญี่ปุ่นจึงมีราคาสูงและครองใจคนทั่วโลกได้
เดินชมกันจนหิวต้องแวะทานของหวานกันที่เลานจ์ช็อคโกแลต ชั้น4 คิวยาวเลยทีเดียว ระหว่างรอก็เดินอยู่หน้าตู้ขนมหน้าตาน่ากินจนเลือกไม่ถูกเลย แต่ละชิ้นทำออกมาได้เป๊ะมาก
เมื่อการรอคอยสิ้นสุด ก็ได้ขนมหน้าตาแบบนี้ แอบผิดหวังเล็กน้อยที่สั่งเป็นเซ็ท เพราะว่าขนมในตู้ดูน่ากินกว่า รู้สึกตะกละมาก อยากกินไปหมดทุกอย่าง รสชาติของขนมก็หอมอร่อยนะคะ ถ้าใครชอบของหวาน ห้ามพลาดเลยทีเดียว
อีกส่วนเป็นฟรีโซนไม่เสียค่าใช้จ่าย คือส่วนขายผลิตภัณฑ์ของโรงงาน ขนม ลูกกวาดหลากสี และซอฟท์ครีม ซึ่งคนเยอะมากๆ อย่างกับของแจก
ภายนอกจัดงานเข้ากับเทศกาลหิมะ มีบ้านต้นไม้ บ้านขนมปัง น่ารัก น่ากินมากค่ะ
เดินไปจนสุดอาคาร จะเห็นตุ๊กตาพ่อครัวกำลังปีนตึกกัน กำลังจะไปทำอะไรกันหนอ
ด้านข้างของ Shiroi Koibito Park ยังเป็นสนามฝึกซ้อมฟุตบอลของทีมคอนซาโดลซัปโปโร แต่ตอนนี้มองไม่เห็นสนามเนื่องจากหิมะตกทับถมกันจนขาวโพลนไปหมด
ขอจบ Sapporo เมืองแสนหวาน เพียงเท่านี้ค่ะ แล้วไปเดินเที่ยวต่อกันที่เมืองโอตารุค่ะ
ติดตามการกินเที่ยวเพิ่มเติมกันได้ที่ https://www.facebook.com/Bear2Travel/
ตอนที่ 1 Sapporo เมืองแสนหวาน https://pantip.com/topic/36807256
ตอนที่ 2 Otaru เมืองแห่งเวลา(โรแมนติก) https://pantip.com/topic/36813897
ตอนที่ 3 Hakodate เมืองแห่งแสงสียามค่ำคืน VS ตลาดสดยามเช้า https://pantip.com/topic/36834512
ตอนที่ 4 Noboribetsu เมืองแห่งหุบเขานรก https://pantip.com/topic/36867555
ตอนที่ 5 Asahikawa สวนสัตว์สุดน่ารัก กะ เทศกาลหิมะแสนสนุก (จบ) https://pantip.com/topic/36898142