ตามภาพ
23 ส.ค. 60 สืบเนื่องจากกรณีที่ นายณรงค์ คงคำ โฆษกกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เปิดเผยเมื่อ 22 ส.ค. 2560 ว่า กระทรวง พม. เตรียมยกร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองสวัสดิภาพบุคคลในครอบครัว พ.ศ. ... โดยระบุถึงการกระทำที่อาจกระทบต่อร่างกายหรือจิตใจของคนในครอบครัว ในจำนวนนี้รวมถึงการนอกใจสามีหรือภรรยาด้วย ซึ่งจะมีความผิดและมีบทลงโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน ปรับไม่เกิน 6 พันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่งผลให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากประชาชน มีการส่งต่อกันบนโลกออนไลน์ “รัฐบาลเตรียมออกกฎหมายใหม่ห้ามมีกิ๊ก” นั้น
ล่าสุด นายเลิศปัญญา บูรณบัณฑิต อธิบดีกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว พม. เปิดเผยกับผู้สื่อข่าว “แนวหน้าออนไลน์” ว่า ร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองสวัสดิภาพบุคคลในครอบครัว พ.ศ. ... เป็นการปรับปรุงมาจาก พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ถูกกระทำด้วยความรุนแรงในครอบครัว พ.ศ. 2550 ซึ่งจะควบคุมถึงประเด็นความรุนแรง โดยในส่วนของความรุนแรงทางจิตใจ ก็มีสถิติชี้ให้เห็นว่ามีที่มาจากความหึงหวงและการนอกใจด้วย กฎหมายจึงเปิดช่องให้ผู้ได้รับผลกระทบสามารถร้องทุกข์ได้
ส่วนประเด็นที่มีการแชร์บนโลกออนไลน์ว่ากฎหมายใหม่ห้ามมีกิ๊กมีบ้านเล็กบ้านน้อยนั้น นายเลิศปัญญา ชี้แจงว่า ในกฎหมายใหม่ไม่ได้ระบุไว้ชัดเจนขนาดนั้นเพราะอาจเข้าข่ายละเมิดสิทธิส่วนบุคคล เพียงแต่คำว่าความรุนแรงทางจิตใจเป็นเรื่องที่ต้องมีการตีความ ซึ่งเป็นสิ่งที่สามารถวิเคราะห์ได้ในทางการแพทย์และมีงานวิจัยทางวิชาการรองรับ เช่น คุณอยู่ในครอบครัว ถูกทำร้าย ถูกกระทำความรุนแรง ถูกบังคับขู่เข็ญจนมีภาวะทางจิต จึงเป็นเรื่องที่ต้องเข้าไปดูแล
“ถ้าคุณทำแล้วมันเกิดอันตรายต่อจิตใจของคนในครอบครัวคุณ ก็ถือว่าใช่ เราตีความตามกฎหมายดีกว่า อย่าไปบอกว่าห้ามนั่นห้ามนี่ คือถ้าเข้าตามกฎหมาย มีการร้องทุกข์กล่าวโทษเราก็เข้าไปดูแล เราก็จะต้องนำสามีหรือผู้ที่มีพฤติกรรมไปเข้ารับการบำบัดพฤติกรรม ถ้าคุณไม่ทำตามศาลหรือพนักงานเจ้าหน้าที่สั่งก็มีบทลงโทษ พอคนฟังแบบนี้ก็เอาไปตีความกันไป แต่เจตนากฎหมายคือต้องการดูแลผู้ถูกกระทำ เข้าไปดูแลทุกมิติ เสริมสร้างสถาบันครอบครัวให้เข้มแข็ง มีกระบวนการมีขั้นตอน ไม่ใช่อยู่ดีๆ คุณมีกิ๊กแล้วตำรวจจะไปจับ อันนั้นคงไม่ใช่” นายเลิศปัญญา กล่าว
ที่มา :
http://www.naewna.com/politic/287732
-----------------------------------
อ่านข่าวนี้ดูๆ แล้วผู้แทนกระทรวง พม. ( อธิบดีกรมกิจการสตรีฯ ) จะกั๊กๆ ไม่ฟันธงนะ คือมุมหนึ่งแม้จะบอกว่าไม่ใช่แค่สามีนอกใจภรรยา ( หรือภรรยานอกใจสามี ) แล้วตำรวจจะไปจับมาส่งฟ้องดำเนินคดีทันทีอย่างที่เอาไปพูดไปแชร์กัน แต่อีกมุมก็บอกว่าถ้าคู่สมรสเห็นว่าการนอกใจ "ส่งผลกระทบรุนแรงต่อจิตใจ" ( ซึ่งต้องมีการวิเคราะห์ทางการแพทย์ ) ก็สามารถร้องทุกข์ได้ หากมีมูลศาลสามารถสั่งให้ผู้มีพฤติกรรมนอกใจทำหรือไม่ทำ ถ้าขัดคำสั่งตรงนี้ก็มีโทษอีก
งานนี้คงต้องถามใจหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ทั่วประเทศ ที่ชอบบอกว่า "ผู้ชายไม่เจ้าชู้ก็เหมือนงูไม่มีพิษ" ละครับ ว่าจะเอาอย่างไรดี?
TonyMao_NK51 ( ใช้แทนอมยิ้มที่ถูกแบน )
หนุ่มไทยว่าไง? "ห้ามมีกิ๊ก" นายกฯ ลุงตู่บอกพูดเล่น..แต่ พม. (อาจจะ) เอาจริง?
23 ส.ค. 60 สืบเนื่องจากกรณีที่ นายณรงค์ คงคำ โฆษกกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เปิดเผยเมื่อ 22 ส.ค. 2560 ว่า กระทรวง พม. เตรียมยกร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองสวัสดิภาพบุคคลในครอบครัว พ.ศ. ... โดยระบุถึงการกระทำที่อาจกระทบต่อร่างกายหรือจิตใจของคนในครอบครัว ในจำนวนนี้รวมถึงการนอกใจสามีหรือภรรยาด้วย ซึ่งจะมีความผิดและมีบทลงโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน ปรับไม่เกิน 6 พันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่งผลให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากประชาชน มีการส่งต่อกันบนโลกออนไลน์ “รัฐบาลเตรียมออกกฎหมายใหม่ห้ามมีกิ๊ก” นั้น
ล่าสุด นายเลิศปัญญา บูรณบัณฑิต อธิบดีกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว พม. เปิดเผยกับผู้สื่อข่าว “แนวหน้าออนไลน์” ว่า ร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองสวัสดิภาพบุคคลในครอบครัว พ.ศ. ... เป็นการปรับปรุงมาจาก พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ถูกกระทำด้วยความรุนแรงในครอบครัว พ.ศ. 2550 ซึ่งจะควบคุมถึงประเด็นความรุนแรง โดยในส่วนของความรุนแรงทางจิตใจ ก็มีสถิติชี้ให้เห็นว่ามีที่มาจากความหึงหวงและการนอกใจด้วย กฎหมายจึงเปิดช่องให้ผู้ได้รับผลกระทบสามารถร้องทุกข์ได้
ส่วนประเด็นที่มีการแชร์บนโลกออนไลน์ว่ากฎหมายใหม่ห้ามมีกิ๊กมีบ้านเล็กบ้านน้อยนั้น นายเลิศปัญญา ชี้แจงว่า ในกฎหมายใหม่ไม่ได้ระบุไว้ชัดเจนขนาดนั้นเพราะอาจเข้าข่ายละเมิดสิทธิส่วนบุคคล เพียงแต่คำว่าความรุนแรงทางจิตใจเป็นเรื่องที่ต้องมีการตีความ ซึ่งเป็นสิ่งที่สามารถวิเคราะห์ได้ในทางการแพทย์และมีงานวิจัยทางวิชาการรองรับ เช่น คุณอยู่ในครอบครัว ถูกทำร้าย ถูกกระทำความรุนแรง ถูกบังคับขู่เข็ญจนมีภาวะทางจิต จึงเป็นเรื่องที่ต้องเข้าไปดูแล
“ถ้าคุณทำแล้วมันเกิดอันตรายต่อจิตใจของคนในครอบครัวคุณ ก็ถือว่าใช่ เราตีความตามกฎหมายดีกว่า อย่าไปบอกว่าห้ามนั่นห้ามนี่ คือถ้าเข้าตามกฎหมาย มีการร้องทุกข์กล่าวโทษเราก็เข้าไปดูแล เราก็จะต้องนำสามีหรือผู้ที่มีพฤติกรรมไปเข้ารับการบำบัดพฤติกรรม ถ้าคุณไม่ทำตามศาลหรือพนักงานเจ้าหน้าที่สั่งก็มีบทลงโทษ พอคนฟังแบบนี้ก็เอาไปตีความกันไป แต่เจตนากฎหมายคือต้องการดูแลผู้ถูกกระทำ เข้าไปดูแลทุกมิติ เสริมสร้างสถาบันครอบครัวให้เข้มแข็ง มีกระบวนการมีขั้นตอน ไม่ใช่อยู่ดีๆ คุณมีกิ๊กแล้วตำรวจจะไปจับ อันนั้นคงไม่ใช่” นายเลิศปัญญา กล่าว
ที่มา : http://www.naewna.com/politic/287732
-----------------------------------
อ่านข่าวนี้ดูๆ แล้วผู้แทนกระทรวง พม. ( อธิบดีกรมกิจการสตรีฯ ) จะกั๊กๆ ไม่ฟันธงนะ คือมุมหนึ่งแม้จะบอกว่าไม่ใช่แค่สามีนอกใจภรรยา ( หรือภรรยานอกใจสามี ) แล้วตำรวจจะไปจับมาส่งฟ้องดำเนินคดีทันทีอย่างที่เอาไปพูดไปแชร์กัน แต่อีกมุมก็บอกว่าถ้าคู่สมรสเห็นว่าการนอกใจ "ส่งผลกระทบรุนแรงต่อจิตใจ" ( ซึ่งต้องมีการวิเคราะห์ทางการแพทย์ ) ก็สามารถร้องทุกข์ได้ หากมีมูลศาลสามารถสั่งให้ผู้มีพฤติกรรมนอกใจทำหรือไม่ทำ ถ้าขัดคำสั่งตรงนี้ก็มีโทษอีก
งานนี้คงต้องถามใจหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ทั่วประเทศ ที่ชอบบอกว่า "ผู้ชายไม่เจ้าชู้ก็เหมือนงูไม่มีพิษ" ละครับ ว่าจะเอาอย่างไรดี?
TonyMao_NK51 ( ใช้แทนอมยิ้มที่ถูกแบน )