ถ้าเธอยังไม่ลืมเขา แล้วเราจะไปต่อได้ยังไง?

ผมกับแฟนรู้จักกันทางเฟซบุคและคบกันมา 5 ปี
เห็นว่าเธอเช่าหออยู่มันมีค่าใช้จ่าย
ผมอยากประหยัดเวลาเดินทาง
ผมจึงชวนเธอมาอยู่ด้วยกันที่บ้าน ซึ่งมีแม่อยู่ด้วย

เธอเคยเล่าให้ฟังว่าก่อนตกลงมาคบผม ก็มีคนจีบเธอมากมาย
หลายคนก็มีลูกเมียแล้ว แต่พอคิดทบทวน ถึงได้ตัดสินใจมาคบกับผม

เธอก็ได้บอกพวกนั้นว่า ตอนนี้เธอคบผมแล้ว
แม้จะเป็นแบบนั้น เธอเล่าให้ฟังคนพวกนั้นก็ยังติดต่อมาเรื่อยๆ
ในฐานะคนรู้จักมานาน และฐานะพี่ๆ ที่จะปรึกษาเรื่องการเรื่องงานได้

ด้วยความที่เธอมาอยู่กรุงเทพ ใช้ชีวิตคนเดียว ช่วยเหลือตัวเอง ปากกัดตีนถีบมาตลอด
แต่พอมาอยู่ด้วยกัน เวลาเธอจะไปไหนมาไหนผมก็เป็นห่วง
แม่ผมก็เป็นคนเปิดเผย (และอยากให้ลูก และแฟนลูก เปิดเผยกับแกด้วย)

ผมเป็นคนชอบเอาใจ ตามใจแฟน เรามีความทรงจำที่ดีมากมาย

แต่เธอเป็นคนรักความเป็นส่วนตัวมาก
บางเวลาที่ผมถามว่าจะไปไหน ไปทำอะไร ลงรายละเอียด
จะได้รู้ว่าจะกลับเมื่อไหร่ ยังไง ส่วนมากเธอจะบอกนะ

แต่บางครั้งที่เธอจะไปบางสถานที่
พอถาม เธอกลับหงุดหงิดใส่ แต่ผมก็โอเค ไม่บอกก็ไม่บอก
แต่บ่อยครั้งเข้า เหตุการณ์เดิม ผมโดนหงุดหงิดใสุ่กครั้ง ก็ยิ่งสงสัย

่ถามไป เธอก็บอกว่า คนเราทุกคนมันก็ต้องมีพื้นที่ส่วนตัวบ้างสิ จะให้บอกหมดทุกเรื่องมันไม่ใช่นะ

...ครับ ผมยอมรับและเข้าใจเรื่องนี้ได้

แต่พอบ่อยครั้งเข้า เธอขี้หงุดหงิดมากขึ้น
ผมเริ่มเห็นว่าวิธีคิด และทัศนคติ ความเชื่อเราต่างกันมาก
ความระแวงและความลับมันมีมากจนผมเริ่มหวั่นกลัว และไม่ไว้ใจ
เราทะเลาะกัน ง้อกันนับครั้งไม่ถ้วน ช่วงหลังๆ ทะเลาะกันจะไม่ได้หลับได้นอน ถึงตีสี่ ตีห้า

ในที่สุดจึงบอกเลิกเธอไป แม้เธอจะร้องห่มร้องไห้ แต่ผมคิดว่า
ความรักที่ไม่สามารถไว้ใจกันได้ มันไม่ยั่งยืน จึงยืนกรานขอแยกทาง

ช่วงนั้นเธอเสียสูญ และต้องออกจากบ้านผม กลับไปหาเช่าคอนโดข้างนอก เพราะตอนนั้นเธอเริ่มทำงานและทีเงินเดือนบ้างแล้ว

แม้เธอจะขอคืนดีหลายครั้งผมก็ใจแข็ง คิดว่ากลับมาก็ภาพเดิม
เพราะต่างคนต่างก็อีโก้แรง

เวลาผ่านไปสองปี
ระหว่างนั้นผมก็มีคนเข้ามา ผมตกลงคบ แต่ก็ยังไม่รู้สึกดีและผูกพันเท่าคนก่อน ไม่นานก็ต้องบอกเลิกไป

ส่วนเธอ ก็เล่าให้ฟังว่า มีพี่คนนึงที่รู้จักและคุยกันตั้งแต่ก่อนที่เธอจะรู้จักกับผม กลับเข้ามาจีบ
เธอบอกว่าใช้เวลาดูใจและทำให้ตัวเองแน่ใจว่าลืมผมปีนึง และตกลงคบกันในที่สุด

เพราะเธอคิดได้ว่า ผมทำให้เธอเสียใจมาก คาดไม่ถึงว่าคนที่บอกว่ารักเธอมากอย่างผม
จะทิ้งเธอลง และเสียหน้าที่ต้องเก็บกระเป๋าย้ายออกจากบ้านผู้ชาย
ทั้งๆที่เมื่อก่อนไม่เคยไว้ใจผู้ชายคนไหนจนยอมย้ายมาอยู่ด้วย

แต่เวลาสองปีผมได้คิดว่า ไม่มีช่วงเวลาไหนที่ผู้รู้สึกดี และไม่มีใครทำให้ผมผูกพันได้เท่าเธอ
ผมจึงขอเธอคืนดี

ก็ถามเธอไปว่า กับผู้ชายคนนั้นเป็นยังไงบ้าง
เธอบอกว่าไม่ค่อยได้เจอกันหรอก พี่เค้างานยุ่ง ไปประชุมต่างประเทศ ต่างจังหวัดตลอด
เพราะทำธุรกิจของทางบ้าน ความรับผิดชอบมหาศาล สองปีที่ผ่านมา เจอตัวกันแค่สองครั้ง
ส่วนมากจะคุยไลน์ ผมก็แอบสงสัยว่าแบบนี้มันคนคบกันแบบไหน

ผมเลยบอกเธอว่า กลับมาคบกันได้มั้ย เพราะไม่เคยลืมความทรงจำดีๆ ที่อยู่ด้วยกันมา 5 ปีเลย
ผมซื้อบ้านใหม่แล้ว เราจะได้อยู่ด้วยกันเป็นส่วนตัว ดีไหม
(ที่ผ่านมา เธอบ่นเรื่องการอยู่กับแม่ผม
ทำให้เธอพูดและทำอะไรได้ไม่สะดวก ตามประสาคนอยู่คนเดียวมานาน)

เธอขอเวลาพิสูจน์ใจผม เพราะเธอไม่อยากเสียใจซ้ำ จึงยังไม่ยอมเจอหน้าผม
นี่ผ่านมาหกเดือนแล้ว ผมทำให้เธอเห็นว่าผมสม่ำเสมอ

จนมาสามเดือนนี้ เธอยอมกลับมาเจอ
และบอกว่าเธอไม่ได้ติดต่อกับผู้ชายคนนั้นแล้ว
เธอไปไหนมาไหนกับผม กลับมาอยู่ด้วยกัน
แต่ขอยังไม่ยอมรับเป็นแฟน และจะยังไม่บอกว่ารักผม
จนกว่าผมจะไปสู่ขอเธอกับที่บ้าน เพื่อให้เธอมั่นใจ
และแต่งงาน เพื่อเป็นหลักประกันว่า ผมจะไม่ทำแบบเดิมอีก

ผมทบทวนและคิดว่า ผมคงขาดเธอไม่ได้
เลยบอกเธอว่า งั้นเรามาวางแผนแต่งงานกันปีหน้าเลยนะ

ระหว่างนี้ที่อยู่ด้วยกันผมก็รู้สึกได้ว่า เธอยังไม่เต็มที่กับผมเหมือนเมื่อก่อน
เหมือนเธอมีอะไรให้คิดอยู่ตลอด
พอถามไป เธอก็ได้แต่บอกว่า
เพราะผมไง ที่ทำให้เธอหมดความเชื่อมั่น
ไปขอ ไปคุยกับบ้านเธอ และแต่งงานก่อน เธอถึงจะยอมกลับมารักผม
ไม่มีข้อแม้อื่นแล้ว

สามเดือนมานี้ ยอมรับว่าปวดใจ แต่เหมือนกับต้องยอมรับสภาพ
และมั่นคงต่อเธอ จนกว่าจะถึงวันแต่งงานกัน

ปกติเธอเป็นคนซีเรียส และหงุดหงิดทุกครั้ง หากผมเห็นหน้าจอมือถือเธอ
และจะวีนทันทีที่เห็นผมหยิบมือถือเธอมาเล่น
แต่เมื่อสัปดาห์ก่อน ผมแอบไปเห็นรหัสผ่านเข้า Line ของเธอ
ผมเลยอดไม่ได้ที่จะแอบ Login เข้าไปอ่านข้อความด้วย Line version PC

เมื่อเข้าไป ผมจึงได้เห็นข้อความที่เธอคุยกับผู้ชายคนนั้น
ผมเห็นข้อความที่เธอบอกรัก และคิดถึงคนนั้น
ผมจึงได้รู้ว่าที่เธอบอกว่าไม่ได้คุยกันแล้วนั้น โกหก

หนำซ้ำ ไม่ไม่กี่วันก่อนเขายังนัดเจอกับเธอที่คอนโด
โดยเขาจะขับรถมาหา และเธอก็ดูจะดีใจ และคิดถึงเขามากๆ
ย้อนกลับไปดูข้อความเก่าๆ และ Notes ที่เธอเขียนไว้ใน Line
ที่เธอส่งไปทักทาย ที่รัก คิดถึง เธอส่งไปหาเขาอยู่ทุกวันจนถึงทุกวันนี้
ก็เป็นข้อความบอกความประทับใจที่เธอมีต่อเขาตลอดมา

และพบว่า เขานั้น มีเมีย และลูกสองคน
แต่เธอก็พูดในลักษณะ ไม่เรียกร้องอะไรจากผู้ชายคนนั้น แค่ขอบคุณสำหรับทุกสิ่ง
ผมไม่รู้หรอกนะว่าผู้ชายคนนั้นทำอะไรให้เธอไว้บ้าง
ถึงต้องขอบคุณอยู่ทุกวัน และยอมเจ็บเพื่อจะได้มีที่ยืนในใจเขา พื่อเรียกเขาว่า ที่รัก และบอกคำคิดถึงทุกวัน
แม้จะคุยกันวันละประโยคสองประโยคก็ตาม
ยอมเกรงใจเขา ไม่เคยแง่งอน ใดๆ กับเขา
ซึ่งต่างกับตลอดเวลาห้าปีที่เธอคบอยู่กับผมอย่างสิ้นเชิง

แต่ผมก็รู้สึกชาไปทั้งตัว แต่ก็บอกเธอไม่ได้ ว่าผมเข้าไปอ่านเจอข้อความพวกนี้

เมื่อสามวันก่อน ผมเลยบอกเธอไปว่าผมเหนื่อยแล้ว พอแล้ว เพราะเธอไม่ให้ใจผมเลย
เธอร้องไห้ และบอกว่าเธอจะเปิดใจรับผมเต็มที่เหมือนเดิมแล้ว ขอให้ผมยังไม่ไปไหน

ผมใจอ่อน คิดว่าถ้าเธอแบบนี้ก็คงกลับไปมีความสุขแบบเดิมได้
เลยตอบตกลง แต่ก็ยังแอบหวั่นๆ เพราะอย่างน้อย เธอก็โกหกว่าไม่ได้คุยกับเขาแล้ว

เมื่อวาน ผมถามเธอเพื่อความมั่นใจ ว่าเธอจะมีผมเพียงคนเดียวมั้ย
เธอดูหงุดหงิด บอกว่า ถ้าไม่มั่นใจแบบนี้ ก็ไม่ต้องกลับมาหรอกนะ
เธอบอกว่ากลัวว่าผมจะอ่อนไหวและโลเล จนทิ้งเธอไปอีก
อืม.. กลายเป็นว่าผมผิดไปอีก.. ผมเลยรับปากว่าจะไม่ถามแบบนี้อีก

พอวันนี้ผมนึกอะไรขึ้นมา เลยลอง login line ของเธอเข้าไป
เพื่อหวังว่าเธอจะบอกเลิกกับคนๆ นั้นอย่างเด็ดขาดแล้ว

ปรากฏว่า.. เธอก็ยังคุย ยังบอกรักเขาคนนั้น เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

ผมพยายามเข้าใจเธอนะ ว่าเธอยังหาจังหวะดีๆ บอกตัดขาดเขาไปไม่ได้
หรือจริงๆ แล้ว เธอใช้ผมเป็นคนแก้เหงาคั่นเวลา ระหว่างที่เขาไม่อยู่กันแน่...
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่