▼ กำลังโหลดข้อมูล... ▼
แสดงความคิดเห็น
คุณสามารถแสดงความคิดเห็นกับกระทู้นี้ได้ด้วยการเข้าสู่ระบบ
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
บันทึกนักเดินทาง
Backpack
เที่ยวต่างประเทศ
ประเทศโบลิเวีย
ประเทศอาร์เจนตินา
[CR] ลุยเดี่ยวเที่ยวทั่วโลก ฉบับ “25 วันล่าฝันอเมริกาใต้” ตอนที่ 10 จาก Tinawaku สู่ Buenos Aires และโบกมือลา South Africa
ตอนที่ 0 สารบัญการเดินทาง
https://pantip.com/topic/36614026
ตอนที่ 1 Rio หนึ่งวันมันก็จะดูรีบๆ หน่อย
https://pantip.com/topic/36616822
ตอนที่ 2 ลั่นล้าท้านละอองน้ำที่ Iguazu Falls (Brazil / Argentina)
https://pantip.com/topic/36623531
ตอนที่ 3 Ushuaia วันแรกลุยฝน วันต่อมาผจญหิมะ
https://pantip.com/topic/36633175
ตอนที่ 4 Glacier Perito Moreno ในวันฟ้าหม่น
https://pantip.com/topic/36639881
ตอนที่ 5 Laguna Torre y Fitz Roy
https://pantip.com/topic/36648556
ตอนที่ 6 Torres Del Paine ในวันที่ฟ้าไม่สดใสแต่ยังคงงดงาม
https://pantip.com/topic/36662049
ตอนที่ 7 วันว่างๆ ที่ Punta Arenas & Santiago
https://pantip.com/topic/36675611
ตอนที่ 8 Atacama ผืนทราย สายลม ชมเดือน เยือนธรรมชาติ
https://pantip.com/topic/36682426
ตอนที่ 9 เมฆ-หมอก-ลม-ฝน-สายลม-แสงแดด 3วัน 2คืน Salar de Uyuni
https://pantip.com/topic/36715254
รถบัสจาก Uyuni เข้าจอดที่สถานีขนส่งเมือง La Paz ตอนฟ้ายังไม่สว่างดี (ประมาณตีห้ากว่าๆ ) เราตื่นมาพร้อมความง่วงและความสับสนว่าจะเอายังไงต่อดี จะเดินไปหรือนั่งแท๊กซี่ดี แต่พอดูจากสภาพเมืองแล้วเราคิดว่าถ้าเดินไปอาจไม่รอดไปจนถึงที่พักก็ได้ แท๊กซี่มาส่งเราบนถนนสายหนึ่งที่เป็นที่ตั้งของ B&B ที่เราจองไว้ แต่เราหาไม่เจอ!!! เลยต้องโทรไปถามว่ามันอยู่ที่ไหนกันแน่ สุดท้ายคือชื่อที่แปะอยู่หน้าที่พักมันไม่ตรงกับชื่อที่จองใน booking.com
พอขึ้นมาด้านบนทางที่พักบอกว่าให้เรา Check-in ได้เลยเพราะมีห้องว่าง เราเลยจัดการเอาของไปเก็บแล้วต่ออินเตอร์เนทเพื่อคุยกับที่บ้านเพราะไม่คุยมาหลายวันแล้ว แต่ “บรรชา” ของท่านแม่ก็ทำให้เรากุมขมับ และมันก็จะเป็นที่มาของความตื่นเต้นใน Buenos Aires ของเรา คำสั่งของแม่คือ “ฝากซื้อยาทาแก้ปวดเข่าด้วยนะ”
เรา: ยี่ห้ออะไรอ่ะ?
แม่: ยี่ห้อที่มันมีรูปขาอยู่หน้ากล่อง
เรา: (โหว....กี่ยี่ห้อที่มันมีรูปขาหน้ากล่องเนี่ย!!!) ถ่ายรูปแล้วส่งมาให้ดูหน่อยได้ป่าว?
แม่: ถ่ายไม่เป็น ซื้อๆ มาเหอะ
เป็นโจทย์ที่ยากมากๆๆๆๆๆๆๆ ไม่รู้ยี่ห้อ ไม่รู้อะไรเลย รู้แค่ว่ามีขาอยู่หน้ากล่อง 555 แล้วที่สำคัญ คำสั่งที่ได้มาได้ตอนที่อยู่โบลิเวีย ซึ่งเป็นเมืองที่คุณภาพชีวิตต่ำที่สุดในบรรดาทุกประเทศที่เราเที่ยวในทริปนี้ แต่มันคือ “บรรชา” มันคือต้องทำให้ได้สินะ!!!
หลังจากรับคำสั่งมาแล้วเราก็ต้องไปเที่ยวก่อน (ดูไม่ตั้งใจทำเพื่อแม่เท่าไหร่) เราเลยลงมาเพื่อดูด้านล่างว่าเราจะไปเที่ยวไหน ทำอะไรได้บ้าง เราเหลือบไปเห็นโบชัวร์เที่ยว Tiwanaku ซึ่งดูจากราคาแล้วมันก็ไม่ได้แพงมาก แต่ถ้าไปเองน่าจะโอเคกว่า เราเลยตัดสินใจว่าจะไปที่นี่แหละ เราสอบถามวิธีไปจาก B&B ที่เราพัก ได้ความว่าให้เราเดินไปถนนใหญ่หน้าปากซอยแล้วข้ามถนนไป แล้วนั่งรถเมล์จากตรงนั้น (จำสายไม่ได้) เพื่อไปลงยังป้ายรถตู้ที่จะเดินทางไป Tiwanaku
เรามาถึงบนรถไม่มีคนเลย แต่รถตู้ก็ยืนยันว่าคันนี้แหละขึ้นได้ ตอนนั้นคือก็อยากขึ้นไปนั่ง แต่ก็แอบกลัว (กลัวเป็นกับเค้าเหมือนกันนะเรา) เลยทำเป็นยืนเดินไปเดินมาแถวนั้น จนมีฝรั่งคนนึงเดินขึ้นไปเราเลยเดินตามขึ้นไปนั่ง รออีกไม่นานรถก็ออก เราใช้เวลาเดินทางจากตรงนั้นประมาณ 2 ชั่วโมง ระหว่างทางก็จะเห็นสภาพบ้านเรือนและชีวิตของผู้คนในเมืองหลวงของโบลิเวีย
ถึงทางเข้า Tiwanaku จะมีเสา 3 เสาตั้งอยู่แบบนี้
รถจะจอดส่งเราแล้วบอกว่าจะกลับมารับเราอีกทีเมื่อไหร่ เรามีเวลาค่อนข้างเยอะสำหรับที่นี่ แต่ก่อนจะเข้าเราจะต้องไปซื้อตั๋วก่อนสินะ
พอมีตั๋วแล้วเราก็เดินผ่านบูธขายของไปสำรวจบริเวณรอบๆ จะเห็นว่าฝั่งตรงข้ามมีพิพิธภัณฑ์เล่าประวัติของที่นี่ ส่วนของเมืองโบราณนั้นมันค่อนข้างกว้าง แต่สภาพซากเมืองมันเสียหายไปเยอะจนแทบมองไม่เห็นเป็นเมืองเท่าไหร่
เมื่อไม่ค่อยเห็นความเป็นซาก เราเลยเปลี่ยนใจถ่ายรูปวิว รูปสัตว์ รูปดอกไม้แถวนั้นไปเพลินๆ
เราพยายามเดินไปด้านริมของโบราณสถานเพื่อถ่ายรูปบรรยากาศที่อยู่ด้านนอก
แล้วเราก็วกกลับมาเพื่อเก็บสถานที่เหลือภายใน Tinawaku นี้
เราถ่ายรูปจนพอใจแล้วก็กลับออกไปรอรถ แต่เหมือนยังต้องรออีกนานเลยต้องหาอะไรรองท้องซะหน่อย
เสร็จแล้วเราก็นั่งรถเพื่อกลับไปยัง La Paz แต่พอมองออกไปนอกหน้าตา เมฆฝนมันลอยมาแต่ไกล และแน่นอนว่ามันตกหนักมากๆ แต่ถือว่าโชคดีที่มันหยุดตกอีกครั้งตอนที่เราถึง La Paz แล้ว
รถมาถึง La Paz แต่ไม่ได้ลงจุดเดิมที่เราขึ้นรถ เราลงจุดที่สามารถจะนั่ง Cable car เพื่อไปยังลงจุดต่างๆ ของเมืองได้ Cable Car ที่นี่ไม่ได้มีไว้สำหรับนักท่องเที่ยวเหมือนกับที่อื่นๆ แต่เป็นขนส่งสาธารณะอีกรูปแบบของที่นี่ เพราะที่นี่มีสภาพพื้นที่เป็นเขาทั้งหมด การเดินทางด้วย Cable Car จากเขาด้านหนึ่งไปอีกด้านหนึ่งจึงสะดวกมาก แถมราคายังไม่แพงอีกด้วย แต่ก่อนที่เราจะไปถึง Cable Car เราจะต้องเดินทะลุผ่านสุสานซะก่อน
พอเราลงจาก Cable Car เราก้ต้องหารถเมล์ หรือรถตู้เล็กเพื่อนั่งกลับไปยังที่พัก เรายืนรอพักใหญ่ก็ไม่เห็นจะมีรถที่เราจะนั่งเลย ในที่สุดทนไม่ไหวเลยไปถามตำรวจหญิงแถวนั้น ซึ่งบอกเลยว่าเจ้าหน้าที่ที่นี่ใจดีสุดๆ ไม่ใช่แค่ถามให้แต่ยังโบกรถและฝากฝังให้ไปส่งจนถึงหน้าปากซอยที่พักอีกด้วย
เราอาบน้ำให้สบายตัว สักพักฟ้าก็เริ่มมืด ท้องก็เริ่มร้อง เราเลยลอง search หาว่าจะกินอะไรดี ในใจก็คิดว่ามาถึงเมืองขึ้นสเปนก็ต้องลองอาหารสเปน แต่มันไกล๊ไกล จะไปดีหรือไม่ไปดี แต่ปัญหาคือเงินโบลิเวียใกล้หมดแล้ว เราเองก็ไม่อยากที่จะแลกเพิ่มเพราะพรุ่งนี้เช้าก็กลับแล้ว เราเลยอยากกินร้านที่รูดบัตรได้แค่นั้นซึ่งร้านนี้ในรีวิวมันรูดได้เราเลยเลือกร้านนี้แหละ วิธีไปก็นั่งรถเมล์ไปไกลพอควร พอถึงปากซอยยังต้องเดินขึ้นเขาอีกเกือบ 30 นาทีกว่าจะถึงร้านอาหาร พอถึงปรากฎว่า “ไม่รับบัตรเครดิต” น้ำตาจะไหล แต่ยังดีพอมีเงิน US เหลืออยู่บ้างเลยใช้เงินจ่ายไป
รออาหารอยู่นาน แต่พอมาถึงกินได้แค่ 1/5 ขอจานก็รู้สึกทะ
ก่อนเที่ยงคืนเพื่อนชาวไต้หวันที่เคยเจอที่จอร์แดน + อียิปต์มาถึงที่พักพอดี (ก่อนหน้านี้คือเค้าอยู่เปรูแล้วจะเข้าโบลิเวียวันนี้ เราเลยนัดว่าจะกินข้าวเย็นกันวันนี้ แต่พอดีมีปัญหาเรื่องผ่าน ตม. หน่อยเลยมากซะดึก) เราเลยออกไปหาร้านนั่งดื่ม (โกโก้) แล้วคุยแลกเปลี่ยนเรื่องราวกัน คุยสักพักใหญ่เราก็พากันเดินกลับที่พัก เพราะเราต้องตื่นเช้ามืดเพื่อนั่งเครื่องไป Buenos Aires