
ตอนที่ 0 สารบัญการเดินทาง
https://pantip.com/topic/36614026
ตอนที่ 1 Rio หนึ่งวันมันก็จะดูรีบๆ หน่อย
https://pantip.com/topic/36616822
ตอนที่ 2 ลั่นล้าท้านละอองน้ำที่ Iguazu Falls (Brazil / Argentina)
https://pantip.com/topic/36623531
ตอนที่ 3 Ushuaia วันแรกลุยฝน วันต่อมาผจญหิมะ
https://pantip.com/topic/36633175
ตอนที่ 4 Glacier Perito Moreno ในวันฟ้าหม่น
https://pantip.com/topic/36639881
ตอนที่ 5 Laguna Torre y Fitz Roy
https://pantip.com/topic/36648556
ตอนที่ 6 Torres Del Paine ในวันที่ฟ้าไม่สดใสแต่ยังคงงดงาม
https://pantip.com/topic/36662049
ตอนที่ 7 วันว่างๆ ที่ Punta Arenas & Santiago
https://pantip.com/topic/36675611
ตอนที่ 8 Atacama ผืนทราย สายลม ชมเดือน เยือนธรรมชาติ
https://pantip.com/topic/36682426
เราเริ่มทริป 3 วัน 2 คืนแต่เช้า โดยรถบัสปรับอากาศจะวนรับลูกทัวร์ในฝั่ง Chile จนครบจากนั้นจะมุ่งหน้าไปยังด่านที่อยู่พรมแดน แต่ตอนที่เราไปถึงด่านยังไม่เปิด คนที่อยากจะซื้อของกินก็สามารถหาได้แถวๆ นั้น ส่วนคนที่ขี้เกียจจะขยับตัว (อย่างเรา) ก็นั่งๆ นอนๆ สวยอยู่อยู่ในรถ จนได้เวลาด่านเปิดทุกคนต้องลงไปยื่นพาสปอร์ตตัวเองเพื่อให้เจ้าหน้าที่ปั๊มออกจากชิลี

จากนั้นเราจะขึ้นรถคันเดิมเพื่อข้ามพรมแดนมายังฝั่งโบลิเวีย พอถึงด่านพรมแดน เจ้าหน้าที่ทัวร์จะจัดอาหารเช้าไว้ให้ เราสามารถเดินไปหยิบแล้วจัดการได้เลย (ขนมปัง + ชา) จากนั้นเราก็เข้าแถวสำหรับยื่นลงตราตรวจเข้าประเทศโบลิเวีย

พอกลับออกมาจากด่านตรวจเราจะนั่งรถจี๊ปโดยรถ 1 คันจะนั่งกันประมาณ 5 คน ตอนนี้คือจุดวัดใจว่าจะไปกับทีมไหนดี
ทีมที่ 1 คู่รักชาวสวิส + คู่รักชาวเยอรมัน (เราจะไปเป็นส่วนเกิน)
ทีมที่ 2 เพื่อรักสาวชาวเยอรมัน 2 คน + หนุ่มเยอรมันเดินทางคนเดียว + ต้องไปหาคนเพิ่มอีก 1 คน
ตอนนั้นคิดว่าทีม 2 น่าจะดี เพราะเป็นวัยรุ่นหมด แต่ถ้าทุกคนพูดภาษาเยอรมันหมด เราจะเบื่อมากกกกกก งั้นไปทีมแรกแล้วกัน เพราะเค้ามาเป็นคู่ๆ ต้องนั่งด้วยกันอยู่แล้ว เราซึ่งมาคนเดียวก็จะได้นั่งด้านหน้าและถ่ายรูปได้ตามต้องการ ซึ่งการเลือกครั้งนี้จะถือว่าเป็นการเลือกที่ผิดครึ่งถูกครึ่งแล้วกัน ที่ว่าถูกคือได้นั่งหน้า ที่ว่าผิดคือคนสวิส 2 คนนี้พูดภาษาเยอรมันเป็นภาษาแม่ ดังนั้นสิ่งที่เกิดขึ้นในทริปคือ คุยภาษาเยอรมันกันอบอวน มีวกมาทักเราบ้างนานๆ ครั้งเพื่อไม่ให้เสียมารยาท การถ่ายรูปที่จับคู่กันไปสี่คน แล้วผลัดกันถ่าย แต่สำหรับเราก็อยู่อย่างโดดเดียวด้วยสายตาร้อนผ่าวของความรักของทั้ง 2 คู่ (เหมือนนางอิจฉา) แล้วหาความสุขให้ตัวเองโดยการ Selfie วนไป
วันนี้ที่ที่เราจะไปได้แก่ Laguna Verde, Laguna Blanca, water pools, Sol de Mañana geysers และจบลงที่ Laguna Colorada ซึ่งเป็น High Light ของวันนี้
ตั้งแต่ล้อรถเหยีบเข้าสู่ประเทศโบลิเวีย เราก็ยังไม่ได้เห็นแสงตะวันอีกเลย อากาศขมุกขมัว ฝนตกโปรยปราย หมอกจับตัวลงต่ำ วันนี้ได้แต่คิดว่าจะมองเห็นวิวอะไรบ้างมั๊ย?

แล้วเราก็มาถึงจุดแรกคือ Laguna Verde ตอนนั้นฝนเริ่มหยุด แต่ฟ้าก็ยังปิดรูปที่ได้มันก็จะออกเบลอๆ อึมครึมๆ ช่างต่างกับรูปใน Google มากมาย


แล้วเราก็ไปต่อกันที่ Laguna Blanca ที่อยู่ไม่ไกลกันมากนัก แต่ตอนที่ไปฝนตก เลยได้ถ่ายรูปอยู่แต่ในรถ


ระหว่างทางจะมีสัตว์ประจำถิ่นโผล่มาให้เห็นบ้าง แต่ส่วนใหญ่จะเป็นภาพของภูเขาที่เต็มไปด้วยสีสรรซะมากกว่า




จากนั้นเราก็เดินทางไปต่อเพื่อไปแช่น้ำพุร้อนที่ water pools ซึ่งตรงนี้เราไม่รู้มาก่อนว่ามีโปรแกรมนี้ (จริงๆ ไม่รู้อะเลย เพราะแทบไม่ได้อ่านโปรแกรม ตอนนั้นคิดแค่ว่าอยากมาดูนกฟามิงโก้ กับทะเลเกลือ อย่างอื่นถือเป็นของแถม ถ้ารู้อย่างงี้จะอ่านรายละเอียดทัวร์และเตรียมตัวให้มากกว่านี้)

ระหว่างที่คนอื่นไปเล่นน้ำเราก็รับอาสาถ่ายรูปให้กับคนที่ลงเล่นน้ำแล้วก็ถ่ายรูปรอบๆ คุยกับคนอื่นๆ ที่ไม่ลงน้ำเหมือนกับเรา


เล่นน้ำเสร็จแล้วเราก็ขึ้นรถเพื่อไปยังจุดหมายต่อไป (ถ้าจำไม่ผิดคิดว่ามีแวะกินข้าวด้วยนะ) ซึ่งตรงนี้เราหลับยาวๆ จนไกด์ประจำรถเราปลุก เรามองไปรอบๆ คือที่นี่ที่ไหน????? มองไปรอบข้างมีแต่หมอกเต็มไปหมด ฝนก็ตกอีกต่างหาก

พอเริ่มเดินเข้าไปใกล้ๆ อ๋อนี่มัน Sol de Mañana geysers นี่เอง ถ้าฝนไม่ตกฟ้าไม่ปิดมันคงจะสวยกว่านี้เยอะแหละเน๊อ


จบจาก Sol de Mañana geysers เราก็จะไป Highlight ของเราในวันนี้คือ Laguna Colorada ที่เป็นทะเลสาบสีชมพูส้มๆเป็นที่อยู่อาศัยของฝูงฟามิโก้ ระหว่างทางก็ชมวิวสวยๆ ที่ถูกกลบด้วยฟ้าหม่นๆ ต่อไป





พอเรามาถึงคือฝนตก ฟ้าก็หม่น สีทะเลสาปมันเลยไม่สวยอย่างใจคิด ตรงทะเลสาบที่นี่จะมีสองฝั่ง ฝั่งนึงจะมีสีชมพูเข้มๆ ขนาดกว้างใหญ่ ส่วนอีกฝั่งก็มีสีชมพูเหมือนกันแต่ขนาดเล็กกว่า เราเดินมาถ่ายฝั่งขนาดใหญ่ก่อน







แล้วค่อยเดินขึ้นมาถ่ายอีกฝั่ง



แต่พอถ่ายไปได้สักพัก เฮ้ย!!! แสงอาทิตย์มาแล้ว ด้วยความเคยชินกำลังจะวิ่ง แต่คนรอบข้างบอกเดินเบาๆ เราก็เออ...อ้าว ต้องเดินช้าๆ เราเลยเดินช้าลง จนข้ามฝั่งไปเห็นทะเลสาบที่มีแสงแดด (รำไร) สาดส่องอีกครั้ง



ถ่ายรูปสักพักคนเริ่มน้อยลง พอเรามองไปที่รถ อ้าว...คนในกรุ๊ปเราเดินไปที่รถกันจะหมดแล้ว ด้วยความขี้เกรงใจกลัวเค้าจะรอนาน เลยรีบวิ่งกลับอย่างไม่คิดชีวิต (และไม่คิดว่าจะเอาชีวิตมาทิ้งเพราะเรื่องนี้) พอเราขึ้นรถรถก็พาเรามาบ้านที่เราจะพักคืนนี้ วันนี้จะไม่มีน้ำให้อาบ มีแต่ห้องสุขาให้ทำธุระเท่านั้น ระหว่างที่รอทานอาหารเราก็รู้สึกมึนหัวอย่างแรงจนทนไม่ไหว ต้องขอตัวเข้าไปนอน นอนได้พักเดียวก็วิ่งพรวกเข้าห้องน้ำพรวดดดดดดอาหารเที่ยงออกมาหมด จุดนี้คือนั่งทรุดเกาะอ่างล้างหน้าอย่างนาน จนเพื่อนในทริปมาดูแล้วพยุงกลับเข้าห้องไป คือโดยสรุปแล้วเราเจอ AMS (Altitude Sickness) เข้าไปแบบไม่รู้ตัว (ในตอนแรก แล้วมารู้ที่หลังว่าเป็นเพราะเราวิ่งบนที่สูง)
กลับไปนอนพักข้าวปลาอาหารวันนั้นก็ไม่ได้กิน เพื่อนในทริปก็รีบหายามาให้ ยกผ้าห่มให้เราหมดทุกคน (เค้ามีถุงนอนกันมาทุกคน) คืนนี้เป็นคืนหนึ่งในชีวิตที่ผ่านไปได้ยากมากๆ มันทรมานแบบบอกไม่ถูก แต่พอตื่นขึ้นมาตอนเช้าอาการแย่ๆ ทั้งหมดก็หายไปหมด
[CR] ลุยเดี่ยวเที่ยวทั่วโลก ฉบับ “25 วันล่าฝันอเมริกาใต้” ตอนที่ 9 เมฆ-หมอก-ลม-ฝน-สายลม-แสงแดด 3วัน 2คืน Salar de Uyuni
ตอนที่ 0 สารบัญการเดินทาง
https://pantip.com/topic/36614026
ตอนที่ 1 Rio หนึ่งวันมันก็จะดูรีบๆ หน่อย
https://pantip.com/topic/36616822
ตอนที่ 2 ลั่นล้าท้านละอองน้ำที่ Iguazu Falls (Brazil / Argentina)
https://pantip.com/topic/36623531
ตอนที่ 3 Ushuaia วันแรกลุยฝน วันต่อมาผจญหิมะ
https://pantip.com/topic/36633175
ตอนที่ 4 Glacier Perito Moreno ในวันฟ้าหม่น
https://pantip.com/topic/36639881
ตอนที่ 5 Laguna Torre y Fitz Roy
https://pantip.com/topic/36648556
ตอนที่ 6 Torres Del Paine ในวันที่ฟ้าไม่สดใสแต่ยังคงงดงาม
https://pantip.com/topic/36662049
ตอนที่ 7 วันว่างๆ ที่ Punta Arenas & Santiago
https://pantip.com/topic/36675611
ตอนที่ 8 Atacama ผืนทราย สายลม ชมเดือน เยือนธรรมชาติ
https://pantip.com/topic/36682426
เราเริ่มทริป 3 วัน 2 คืนแต่เช้า โดยรถบัสปรับอากาศจะวนรับลูกทัวร์ในฝั่ง Chile จนครบจากนั้นจะมุ่งหน้าไปยังด่านที่อยู่พรมแดน แต่ตอนที่เราไปถึงด่านยังไม่เปิด คนที่อยากจะซื้อของกินก็สามารถหาได้แถวๆ นั้น ส่วนคนที่ขี้เกียจจะขยับตัว (อย่างเรา) ก็นั่งๆ นอนๆ สวยอยู่อยู่ในรถ จนได้เวลาด่านเปิดทุกคนต้องลงไปยื่นพาสปอร์ตตัวเองเพื่อให้เจ้าหน้าที่ปั๊มออกจากชิลี
จากนั้นเราจะขึ้นรถคันเดิมเพื่อข้ามพรมแดนมายังฝั่งโบลิเวีย พอถึงด่านพรมแดน เจ้าหน้าที่ทัวร์จะจัดอาหารเช้าไว้ให้ เราสามารถเดินไปหยิบแล้วจัดการได้เลย (ขนมปัง + ชา) จากนั้นเราก็เข้าแถวสำหรับยื่นลงตราตรวจเข้าประเทศโบลิเวีย
พอกลับออกมาจากด่านตรวจเราจะนั่งรถจี๊ปโดยรถ 1 คันจะนั่งกันประมาณ 5 คน ตอนนี้คือจุดวัดใจว่าจะไปกับทีมไหนดี
ทีมที่ 1 คู่รักชาวสวิส + คู่รักชาวเยอรมัน (เราจะไปเป็นส่วนเกิน)
ทีมที่ 2 เพื่อรักสาวชาวเยอรมัน 2 คน + หนุ่มเยอรมันเดินทางคนเดียว + ต้องไปหาคนเพิ่มอีก 1 คน
ตอนนั้นคิดว่าทีม 2 น่าจะดี เพราะเป็นวัยรุ่นหมด แต่ถ้าทุกคนพูดภาษาเยอรมันหมด เราจะเบื่อมากกกกกก งั้นไปทีมแรกแล้วกัน เพราะเค้ามาเป็นคู่ๆ ต้องนั่งด้วยกันอยู่แล้ว เราซึ่งมาคนเดียวก็จะได้นั่งด้านหน้าและถ่ายรูปได้ตามต้องการ ซึ่งการเลือกครั้งนี้จะถือว่าเป็นการเลือกที่ผิดครึ่งถูกครึ่งแล้วกัน ที่ว่าถูกคือได้นั่งหน้า ที่ว่าผิดคือคนสวิส 2 คนนี้พูดภาษาเยอรมันเป็นภาษาแม่ ดังนั้นสิ่งที่เกิดขึ้นในทริปคือ คุยภาษาเยอรมันกันอบอวน มีวกมาทักเราบ้างนานๆ ครั้งเพื่อไม่ให้เสียมารยาท การถ่ายรูปที่จับคู่กันไปสี่คน แล้วผลัดกันถ่าย แต่สำหรับเราก็อยู่อย่างโดดเดียวด้วยสายตาร้อนผ่าวของความรักของทั้ง 2 คู่ (เหมือนนางอิจฉา) แล้วหาความสุขให้ตัวเองโดยการ Selfie วนไป
วันนี้ที่ที่เราจะไปได้แก่ Laguna Verde, Laguna Blanca, water pools, Sol de Mañana geysers และจบลงที่ Laguna Colorada ซึ่งเป็น High Light ของวันนี้
ตั้งแต่ล้อรถเหยีบเข้าสู่ประเทศโบลิเวีย เราก็ยังไม่ได้เห็นแสงตะวันอีกเลย อากาศขมุกขมัว ฝนตกโปรยปราย หมอกจับตัวลงต่ำ วันนี้ได้แต่คิดว่าจะมองเห็นวิวอะไรบ้างมั๊ย?
แล้วเราก็มาถึงจุดแรกคือ Laguna Verde ตอนนั้นฝนเริ่มหยุด แต่ฟ้าก็ยังปิดรูปที่ได้มันก็จะออกเบลอๆ อึมครึมๆ ช่างต่างกับรูปใน Google มากมาย
แล้วเราก็ไปต่อกันที่ Laguna Blanca ที่อยู่ไม่ไกลกันมากนัก แต่ตอนที่ไปฝนตก เลยได้ถ่ายรูปอยู่แต่ในรถ
ระหว่างทางจะมีสัตว์ประจำถิ่นโผล่มาให้เห็นบ้าง แต่ส่วนใหญ่จะเป็นภาพของภูเขาที่เต็มไปด้วยสีสรรซะมากกว่า
จากนั้นเราก็เดินทางไปต่อเพื่อไปแช่น้ำพุร้อนที่ water pools ซึ่งตรงนี้เราไม่รู้มาก่อนว่ามีโปรแกรมนี้ (จริงๆ ไม่รู้อะเลย เพราะแทบไม่ได้อ่านโปรแกรม ตอนนั้นคิดแค่ว่าอยากมาดูนกฟามิงโก้ กับทะเลเกลือ อย่างอื่นถือเป็นของแถม ถ้ารู้อย่างงี้จะอ่านรายละเอียดทัวร์และเตรียมตัวให้มากกว่านี้)
ระหว่างที่คนอื่นไปเล่นน้ำเราก็รับอาสาถ่ายรูปให้กับคนที่ลงเล่นน้ำแล้วก็ถ่ายรูปรอบๆ คุยกับคนอื่นๆ ที่ไม่ลงน้ำเหมือนกับเรา
เล่นน้ำเสร็จแล้วเราก็ขึ้นรถเพื่อไปยังจุดหมายต่อไป (ถ้าจำไม่ผิดคิดว่ามีแวะกินข้าวด้วยนะ) ซึ่งตรงนี้เราหลับยาวๆ จนไกด์ประจำรถเราปลุก เรามองไปรอบๆ คือที่นี่ที่ไหน????? มองไปรอบข้างมีแต่หมอกเต็มไปหมด ฝนก็ตกอีกต่างหาก
พอเริ่มเดินเข้าไปใกล้ๆ อ๋อนี่มัน Sol de Mañana geysers นี่เอง ถ้าฝนไม่ตกฟ้าไม่ปิดมันคงจะสวยกว่านี้เยอะแหละเน๊อ
จบจาก Sol de Mañana geysers เราก็จะไป Highlight ของเราในวันนี้คือ Laguna Colorada ที่เป็นทะเลสาบสีชมพูส้มๆเป็นที่อยู่อาศัยของฝูงฟามิโก้ ระหว่างทางก็ชมวิวสวยๆ ที่ถูกกลบด้วยฟ้าหม่นๆ ต่อไป
พอเรามาถึงคือฝนตก ฟ้าก็หม่น สีทะเลสาปมันเลยไม่สวยอย่างใจคิด ตรงทะเลสาบที่นี่จะมีสองฝั่ง ฝั่งนึงจะมีสีชมพูเข้มๆ ขนาดกว้างใหญ่ ส่วนอีกฝั่งก็มีสีชมพูเหมือนกันแต่ขนาดเล็กกว่า เราเดินมาถ่ายฝั่งขนาดใหญ่ก่อน
แล้วค่อยเดินขึ้นมาถ่ายอีกฝั่ง
แต่พอถ่ายไปได้สักพัก เฮ้ย!!! แสงอาทิตย์มาแล้ว ด้วยความเคยชินกำลังจะวิ่ง แต่คนรอบข้างบอกเดินเบาๆ เราก็เออ...อ้าว ต้องเดินช้าๆ เราเลยเดินช้าลง จนข้ามฝั่งไปเห็นทะเลสาบที่มีแสงแดด (รำไร) สาดส่องอีกครั้ง
ถ่ายรูปสักพักคนเริ่มน้อยลง พอเรามองไปที่รถ อ้าว...คนในกรุ๊ปเราเดินไปที่รถกันจะหมดแล้ว ด้วยความขี้เกรงใจกลัวเค้าจะรอนาน เลยรีบวิ่งกลับอย่างไม่คิดชีวิต (และไม่คิดว่าจะเอาชีวิตมาทิ้งเพราะเรื่องนี้) พอเราขึ้นรถรถก็พาเรามาบ้านที่เราจะพักคืนนี้ วันนี้จะไม่มีน้ำให้อาบ มีแต่ห้องสุขาให้ทำธุระเท่านั้น ระหว่างที่รอทานอาหารเราก็รู้สึกมึนหัวอย่างแรงจนทนไม่ไหว ต้องขอตัวเข้าไปนอน นอนได้พักเดียวก็วิ่งพรวกเข้าห้องน้ำพรวดดดดดดอาหารเที่ยงออกมาหมด จุดนี้คือนั่งทรุดเกาะอ่างล้างหน้าอย่างนาน จนเพื่อนในทริปมาดูแล้วพยุงกลับเข้าห้องไป คือโดยสรุปแล้วเราเจอ AMS (Altitude Sickness) เข้าไปแบบไม่รู้ตัว (ในตอนแรก แล้วมารู้ที่หลังว่าเป็นเพราะเราวิ่งบนที่สูง)
กลับไปนอนพักข้าวปลาอาหารวันนั้นก็ไม่ได้กิน เพื่อนในทริปก็รีบหายามาให้ ยกผ้าห่มให้เราหมดทุกคน (เค้ามีถุงนอนกันมาทุกคน) คืนนี้เป็นคืนหนึ่งในชีวิตที่ผ่านไปได้ยากมากๆ มันทรมานแบบบอกไม่ถูก แต่พอตื่นขึ้นมาตอนเช้าอาการแย่ๆ ทั้งหมดก็หายไปหมด